‘ปรีดี-สุพัฒนพงษ์’ ชัวร์แล้ว นั่งคลัง-พลังงาน

บิ๊กตู่เฉไฉไม่ตอบ
ไพรินทร์ถอนตัว
‘จุรินทร์’ยันปชป.
7เก้าอี้ยังคนเดิม

‘บิ๊กตู่’ ส่ายหัวไม่ตอบ ‘ไพรินทร์’ถอนตัว ไม่เข้าร่วมรัฐบาล ‘อนุพงษ์’ ย้ำสัมพันธ์นายกฯ แน่นปึ้ก พร้อมสละเก้าอี้มท.1 ให้ ‘พี่ป้อม’ นั่งแทน ‘สุพัฒนพงษ์’ ยื่นตลาดหุ้น แจ้งลาออกผู้บริหารพีทีทีจีซี เตรียมไปนั่งรมว.พลังงาน ‘ปรีดี’ ก็ลาออกแบงก์กสิกร คาดมานั่งรองนายกฯ ควบเก้าอี้ขุนคลัง ‘จุรินทร์’ เมินเด็กปชป.กดดันเปลี่ยนตัวรัฐมนตรี ยันทั้ง 7 คนอยู่ที่เดิม ‘เรืองไกร’ ยื่นป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สิน 2 ส.ส.เพื่อไทย ‘จุลพันธ์-ยุทธพงศ์’ ขู่ถ้าพบซุกบัญชี ร้องกกต.ยุบพรรคด้วย

‘บิ๊กตู่’ควง‘2 ป’ปลูกป่าเชียงใหม่

เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 ก.ค. ที่ ท่าอากาศยาน 2 กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกฯ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางด้วยเที่ยวบินพิเศษ (เครื่องบิน Embrae) เพื่อเป็นประธานเปิดโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่
เมื่อถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสีในเวลา 09.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ได้เยี่ยมชมนิทรรศการ“โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า” และกล่าวว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความร่วมมือดำเนินโครงการต่างๆ การปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ต้องติดตาม อย่าปล่อยให้ตายแล้วค่อยมาปลูกใหม่ ขอให้ไปดูเรื่องการปลูกไผ่เพิ่มขึ้น ต้องทำให้ครบวงจรโดยเฉพาะอุตสาหกรรมไม้ไผ่ ต้องปลูก แปรรูป จำหน่าย เพื่อสร้างรายได้ให้กับประชาชน เราต้องคำนึงถึงป่าไม้ สิ่งแวดล้อมและประชาชนไปพร้อมกัน อย่าให้ประชาชนเดือดร้อน โดยเฉพาะเรื่องการทำกิน
“ขอให้รณรงค์เพิ่มเติมปลูกไม้มีค่า 58 ชนิด เพื่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน ไม่ใช่ว่าคนอยู่กับป่าไม่ได้ สุดท้ายเกิดปัญหาบุกรุก มีการหาประโยชน์แบบผิดกฎหมาย สุดท้ายเกิดเหตุการณ์คนจนต้องติดคุก เพราะเขาไม่สามารถไปหาประโยชน์จากป่าได้ ขอให้ข้าราชการต้องคิดใหม่ ทำใหม่ อย่าทำในรูปแบบเดิมๆ จะทำอะไรต้องคิดถึงประชาชนเป็นหลัก สอบถามความต้องการของประชาชน เน้นความโปร่งใสให้เกิดการยอมรับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

หยอก‘วราวุธ’ด้วยรอยยิ้ม

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์กล่าวถวายพระพรพระบาทสมด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา และเปิดโครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า ก่อนร่วมปลูกต้นสัก ปลูกกล้วยไม้ (เขากวางอ่อน) และกล่าวระหว่างปลูกป่าว่า วันนี้รอยยิ้มคนไทยเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าเรายิ้มให้โลก โลกก็ยิ้มให้เรา เรายิ้มให้คน คนก็ยิ้มให้เรา การมีรอยยิ้ม การถูกใจหรือพอใจ มีความอารีอารอบ และการพูดจากัน จะลดความขัดแย้งและแก้ปัญหาต่างๆ ได้ คนที่ไม่ชอบเรา เมื่อเรายิ้มให้เขา เขาจะเห็นว่าเรายิ้มแย้มแจ่มใสดี ก็จะลดความไม่ชอบลง อย่างนายกฯ ยิ้มทุกวัน เช้าตื่นมา พระอาทิตย์ก็ยิ้มให้ ตกกลางคืนพระจันทร์ก็ยิ้มให้
เมื่อพูดถึงตรงนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้หัน ไปยิ้มให้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ก่อนกล่าวว่า “แต่ยิ้มวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกันระหว่างท่านวราวุธกับผม เดี๋ยวโดนเอาไปจับเป็นประเด็น เพราะนิดเดียวก็จับเป็นประเด็นได้หมด”

ปลูกป่า – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ โชว์ขุดดินระหว่างนำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ปลูกป่าในอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง- น้ำพุเจ็ดสี จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24 ก.ค.

แตกตื่นงูพิษโผล่กลางงาน

ต่อมาเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประชุมมอบนโยบายแก่ผู้ว่าฯว่า วันนี้หลายเรื่องที่ต้องย้ำ มีทั้งเรื่องป่า การจัดหาแหล่งน้ำเพิ่มเติม เรื่องวิถีชีวิตของประชาชน วิถีชีวิตของข้าราชการ จะต้องปรับปรุง และทำอย่างไรจะแก้ปัญหายาเสพติด การข้ามแดนผิดกฎหมายให้ได้ ทุกคนทุกหน่วยงานจะต้องมีการประสานงานร่วมกัน ทุกคนต้องทราบดีว่าปัญหาอะไรขึ้น เป็นช่วงรอยต่อระหว่างคนรุ่นเก่ากับคนรุ่นใหม่ ต้องหาวิธีการสร้างการรับรู้ให้ได้ จะไปบอกว่าต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ได้ ต้องมีเหตุมีผล ซึ่งคนไทยมีความอยากรู้อยากเห็นเรื่องที่เป็นสาระ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ มอบนโยบายซึ่งอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี ได้มีงูเขียวตัวเขื่องตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้เจ้าหน้าที่ และข้าราชการที่อยู่รอบนอกแตกตื่น ทาง เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ได้รีบเข้าไปกันแล้วไล่ออกจากพื้นที่ โดยระบุว่างูเขียวชนิดดังกล่าวมีพิษ ปกติจะอยู่ในดงไม้หรือต้นไม้ใหญ่ วันนี้มีฝนตกลงมา อีกทั้งอาจตื่นตระหนกจากจำนวนคนที่เข้ามาจำนวนมาก จึงออกมา ให้เห็น

ปัดตอบ‘ไพรินทร์’ไม่ร่วมครม.

เวลา 14.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์เดินทางกลับจากจ.เชียงใหม่ ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีกระแสข่าวนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ขอถอนตัวออกจากการถูกทาบทามเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดยส่ายหัวพร้อมกล่าวว่า “กลับบ้านกันได้แล้ว” ก่อนเดินขึ้นรถกลับออกไปทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายไพรินทร์ เป็นอดีตรมช.คมนาคม และอดีตประธาน เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะเป็นรมว.พลังงาน แต่ล่าสุดมีข่าวว่าได้ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่ง

‘ป๊อก’ย้้ำสัมพันธ์นายกฯ-พี่ป้อม’

ที่เขตจตุจักร กทม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับครม.ในส่วนของรมว.มหาดไทยว่า การปรับครม.อยู่ที่อำนาจของ นายกฯ เป็นผู้พิจารณาตัดสินใจ หากมีการปรับแล้วจะต้องทำงานให้กับประเทศชาติได้ ซึ่งการจะปรับในตำแหน่งใด เป็นความรับผิดชอบที่ขึ้นอยู่กับนายกฯ
ส่วนตัวหากใครที่ทราบประวัติความสัมพันธ์ระหว่างตนกับนายกฯ ที่อยู่ด้วยกันมานาน มีความผูกพันกัน อยู่บ้านหลังเดียวกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน หากจะปรับกันอย่างไร ตนไม่เป็นปัญหา และไม่มีอะไรในใจแม่แต่สักนิด หากนายกฯ เห็นความจำเป็นว่าจะให้บุคคลใดเข้าหรือออกในการปรับ ครม.รวมถึงตนด้วย เพราะนายกฯ ต้องแบกรับการทำงานของรัฐบาลที่ต้องรับผิดชอบต่อประเทศชาติ รวมถึงต้องแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากปรับเอาคนที่มีความสามารถมาทำงานก็เป็นหน้าที่ของนายกฯ
“ส่วนพล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นทั้งผู้บังคับบัญชา และผมเคารพเหมือนพี่ชาย ถ้ามาทำหน้าที่แทนก็ไม่เป็นปัญหา ผมไม่ติดใจและจะสบายใจ ขอให้นายกฯ บริหารประเทศได้” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวว่า พล.อ.ประวิตร จะมาเป็นรมว.มหาดไทย แต่ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า ไม่มีการย้าย

‘สุพัฒนพงษ์-ปรีดี’ทิ้งบ.เอกชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค. บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่า นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ กรรมการและกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการของบริษัท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ก.ค. เป็นต้นไป
ขณะที่ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย แจ้งตลท.ว่า นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการและกรรมการผู้จัดการบมจ.ธนาคารกสิกรไทย ตกลงร่วมกับธนาคารที่จะยุติสัญญาว่าจ้างกรรมการ ผู้จัดการก่อนครบกำหนด และมีหนังสือขอ ลาออกจากตำแหน่งกรรมการ มีผลตั้งแต่ วันที่ 24 ก.ค. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ คาดว่า นายสุพัฒนพงษ์ จะเข้ามารับตำแหน่งรมว.พลังงาน คนใหม่ในรัฐบาลประยุทธ์2/2 ส่วนนายปรีดี เป็นรองนายกรัฐมนตรี ควบรมว.คลัง ซึ่งทั้งสองคนเป็นโควตาของนายกฯ
ขณะที่นายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) คาดว่าจะได้เป็นรมต.ประจำสำนักนายกฯ นายสุชาติ ชมกลิ่น ส.ส.ชลบุรี รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นรมว.แรงงาน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ กรรมการบริหารพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) เป็นรมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และอีก 1 ตำแหน่งต้องจับตาว่านางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนัก นายกฯ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ อาจ ได้เข้ามาเป็นรมช.ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (ทส.)

‘จุรินทร์’ยันปชป.ไม่ปรับครม.

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนตัว คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รมช.ศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ตนได้สอบถามท่านที่ปรากฏเป็นข่าวก็ไม่ได้เป็นไปตามข่าว อย่างน้อยที่สุดปรากฏการณ์งานเลี้ยงอาหารค่ำ ส.ส.ที่คุณหญิงกัลยา เป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ได้สอบถามส.ส.ที่ไม่ได้ไปร่วมงานเพราะอะไร ได้คำตอบว่าติดนัดส่วนตัว ซึ่งนัดหมายมาก่อนหน้าและยกเลิกไม่ได้ ยืนยันไม่มีประเด็นนัยการเมืองอื่น
“เรื่องการปรับครม.ผมเรียนหลายครั้งแล้วและยังต้องถือหลักเดิม เพราะการปรับเปลี่ยน ครม.ต้องเริ่มต้นที่นายกฯและเท่าที่เจอและทำงานร่วมกับนายกฯยังไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้กับพรรคประชาธิปัตย์ ฉะนั้นพรรคประชาธิปัตย์ยังต้องยืนพื้นไปตามนี้ก่อน โดยยังไม่มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีของพรรคทั้ง 7 ตำแหน่ง” นายจุรินทร์กล่าว

‘เฉลิมชัย’ลั่นคุมเกษตรฯอีกนาน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการส่งสัญญาณขอสลับกระทรวงหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดในประเด็นนี้เพียงแต่พูดว่าอยากให้ทุกกระทรวงที่มีภารกิจและความรับผิดชอบได้เร่งสร้างผลงานปรากฏผลและเร่งเรื่องประชาสัมพันธ์ ซึ่งนายกฯได้กำชับในที่ ประชุมครม. 2-3 ครั้งแล้ว เพื่อประชาชนจะได้ทราบว่ารัฐบาลมีผลงานอะไรปรากฏออก ไปบ้าง
ที่โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล ริเวอร์ไซด์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวระหว่างเป็นประธานการประชุมเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ของการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ซึ่งมีคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของกยท.ร่วมงานว่า “นายกฯจะปรับ ครม. ซึ่งคาดว่าประมาณกลางเดือนส.ค.นี้ แต่ตำแหน่งรมว.เกษตรฯ ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้น ผมจะยังทำงานกับพวกท่านอีกนานพอสมควร”
นายเฉลิมชัยให้สัมภาษณ์ถึงนายกฯจะปรับครม.ว่า ไม่ได้รับแจ้งจากนายกฯ เรื่องจะเปลี่ยนรมว.เกษตรฯ ซึ่งในทางการเมืองหากไม่มีการแจ้งจากนายกฯ แสดงว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงใดๆ

‘คุณหญิงกัลยา’หนึบรมช.ศธ.

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสข่าวพรรคจะเปลี่ยนตัวคุณหญิงกัลยา เป็นน.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทนว่า ไม่มีข้อเท็จจริง พรรคไม่มีการปรับครม.ในรอบนี้ และในฐานะเพื่อนสนิท ทราบว่าน.ส.จิตภัสร์ ไม่ต้องการตำแหน่งรัฐมนตรี และไม่ได้คิดเรื่องนี้ เพราะต้องการทำงานในส่วนที่พรรคมอบหมายให้ดูแลสื่อโซเชี่ยลทั้งหมดให้ดี ทันสมัย และน่าติดตาม ตนจึงไม่ทราบว่าข่าวออกมาได้อย่างไร เพราะพรรคไม่มีการเคลื่อนไหวปรับครม.
“ยืนยันว่าสื่อโซเชี่ยลยังคงนิ่ง รัฐมนตรีทั้ง 7 คนของพรรคยังทำงานเต็มที่ตามนโยบายของพรรค ส่วนการประเมินผลงานจะเริ่มประเมินในเดือนส.ค. เพื่อดูว่ารัฐมนตรีคนใดได้คะแนนเท่าไร โดยมีคณะกรรมการพิจารณา ซึ่งไม่ใช่ว่าประเมินแล้วจะปรับตำแหน่งทันที แต่ต้องหารือกันอีกครั้ง” นายชัยชนะ กล่าว

‘พิชัย’ยุว่าที่รมต.คนนอกถอนตัว

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีตรมว.พลังงาน กล่าวว่า การปรับครม.เศรษฐกิจครั้งนี้ จะเป็นโอกาสสุดท้ายที่พล.อ.ประยุทธ์ จะได้แก้ตัว เชื่อว่าจากรายชื่อบุคคลที่ปรากฏออกมา จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะปัญหาได้สะสมมานาน ความมั่นใจในตัวผู้นำไม่เหลือแล้ว ชื่อชั้นของบุคคลที่จะเข้ามาดูแลเศรษฐกิจกลับแย่กว่าบุคคลที่ถูกปรับออกไปเสียอีก ถ้ารัฐมนตรีคนนอกฉลาดพอ ก็ควรถอนตัวก่อนที่จะเสียคนเหมือนที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เสียคน เสียเครดิต เสียชื่อเสียงจนหมดสิ้นไปแล้ว อีกทั้งยังถูกด่าถูกไล่แบบหมดสภาพ ซึ่งการที่นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ถอนตัว ต้องถือว่าฉลาดมาก ตัดสินใจถูกต้องแล้ว
แทนที่พล.อ.ประยุทธ์จะระวังไม่ให้ความนิยมที่แย่อยู่แล้วต้องแย่ลงไปอีก กลับอนุญาตให้กองทัพซื้อเครื่องบินรับรองวีไอพีในราคา 1,348.5 ล้านบาท ขณะที่ประชาชนลำบากกันมาก อีกทั้งยังมีการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไปอีก ถึงแม้จะอ้างว่าไม่ห้ามการชุมนุม แต่ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และครู อาจารย์ เข้าข่มขู่นักศึกษาและครอบครัว เพื่อไม่ให้จัดการชุมนุม เชื่อว่าจะยิ่งทำให้การชุมนุมเพิ่มขึ้นและใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ และยากที่จะหยุดยั้งความคิดและความรู้สึกของนักศึกษาและคนรุ่นใหม่ที่เห็นพล.อ.ประยุทธ์ เป็นตัวถ่วงความเจริญของประเทศ ทางออกที่ดีที่สุดน่าจะเร่งแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่โดยเร็ว ก่อนที่สถานการณ์จะสายเกินแก้ ซึ่งคนส่วนใหญ่ของประเทศคงไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น

‘เรืองไกร’ยื่นปปช.เช็กบัญชี 2 ส.ส.

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตส.ว.และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย ยื่นเรื่องให้ป.ป.ช.ตรวจสอบบัญชี 2 ส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) คือ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ และนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม ที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินไว้แตกต่างกัน เป็นเหตุอันควรสงสัยที่ต้องขอให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป โดยนายจุลพันธ์ เมื่อเปรียบเทียบบัญชีแสดงทรัพย์สินแล้ว พบว่าบัญชีที่ดิน ซึ่งบ้านอยู่ กทม. แต่ตั้งอยู่บนโฉนดที่เชียงใหม่ ตามคำพิพากษาศาลฎีกาฯ การแจ้งบัญชีทรัพย์สิน ไม่แจ้งแบบ ภงด. ก็ผิด แจ้งไม่ถูกต้อง ป.ป.ช.ก็ตรวจสอบ
ส่วนนายยุทธพงศ์ มีการแจ้งบัญชีนาฬิกาฟิลลิปปาเต๊ะ วันที่ได้มากับ พ.ศ.ไม่ตรงกัน จึงมีเหตุอันสงสัย และการที่นายยุทธพงศ์ แต่งงานปี 2555-56 ยื่นบัญชีทรัพย์สินพร้อมคู่สมรส มีทองคำ 100 บาท และทะเบียนสมรส ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือทวง รวมทั้งนายยุทธพงศ์ แจ้งโฉนดที่ดิน แต่ไม่มีบ้าน เคยแจ้งบ้านอยู่ครั้งเดียวในการยื่นบัญชี 7 ครั้ง ทั้งนายยุทธพงศ์และคู่สมรสไม่เคยแจ้งอาคารและโรงเรือน และทั้ง 7 ครั้ง มีถึง 6 ครั้งไม่แจ้งบัญชีเงินสด แต่ล่าสุดวันที่ 25 พ.ค.2562 แจ้งบัญชีเงินสด 1.5 ล้านบาท คู่สมรส 3 แสนบาท

ถ้ามีมูล-ร้องกกต.ยุบพรรคซ้ำ

นายเรืองไกรกล่าวว่า ยืนยันว่าตนทำหน้าที่ตรวจสอบในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ไม่ได้มีเจตนากลั่นแกล้งอย่างที่นายยุทธพงศ์กล่าวหา กรณีนายยุทธพงศ์ ตั้งแต่ข่าวตอนแต่งงานมีทรัพย์สินพุ่งขึ้นมาถึง 56 ล้านบาท ทุกอย่างมีมูลเหตุ ส.ส.และบุคคลสาธารณะ ต้องยอมรับการตรวจสอบ และป.ป.ช.ยังไม่ได้บอกว่าจะรับหรือไม่รับ ใจเย็นๆ อย่ากังวล
ที่สำคัญการบอกว่าการยื่นครั้งนี้ มาจากการที่ไม่ได้เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) งบประมาณปี 2564 คนละเรื่องกัน เพราะเรื่องไม่ได้เป็น กมธ.งบนั้นไม่มาป.ป.ช. แต่ประเด็นนั้นกำลังรวบรวม หากมีข้อมูล จะไปคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อดูเหตุผลว่าเข้าข่ายความผิดพรรคการเมืองหรือไม่ อันนั้นอาจไปร้องยุบพรรค ตรงไปตรงมา ไม่มีปัญหา วันนี้ตนยังมาตรวจดูบัญชีทรัพย์สินของนายชัช ชลวร ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และตุลาการคนอื่นๆ หลังจากได้เคยทำหนังสือสอบถามและป.ป.ช.ได้แจ้งมาว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้แจ้งบัญชีทรัพย์สินมาแล้ว