ให้รัฐบาลรักษาสัตยาบัน
ครูเอาด้วยโพสต์ชู 3 นิ้ว
‘ศาลายา’คึกนศ.ทวง3ข้อ
ตู่อ้างคนไม่ร่วมถูกบูลลี่
ตร.จ่อหมายม็อบ 18กค.

น.ร.นัดเป่านกหวีดหน้าศธ. ย้อนรอยไล่ ‘ณัฏฐพล’ ขาสั้น ชูนิ้ว-ผูกโบต่อเนื่อง ขณะครูโพสต์โชว์ชู 3 นิ้วด้วย ‘ยูนิเซฟ’ห่วงคุกคามนักเรียน จี้รัฐบาลรักษาสัตยาบันว่าด้วยสิทธิเด็ก ขอโรงเรียนเปิดพื้นที่ให้แสดงออก ‘บิ๊กตู่’ อ้างใครไม่ร่วมถูก ‘บูลลี่’ เพื่อไทยฮึ่มเรียกครูปิดกั้นเด็กแจงกมธ. บช.น.จ่อออกหมายเรียกม็อบ 18 ก.ค.

‘ยูนิเซฟ’ห่วงคุกคามนักเรียน

เมื่อวันที่ 18 ส.ค. องค์การยูนิเซฟออกแถลงการณ์ความว่า รู้สึกกังวลต่ออันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนท่ามกลางการชุมนุมที่เกิดขึ้นในประเทศไทย และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของเด็กและเยาวชน พร้อมร่วมกันปกป้องพวกเขาจากความรุนแรงและการถูกคุกคามทุกรูปแบบ

อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (Convention on the Rights of the Child – CRC) ซึ่งเป็นสนธิสัญญาด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับการรับรองมากที่สุดในโลก ได้รับรองสิทธิในการมีส่วนร่วมของเด็ก เสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งรวมถึงการชุมนุมอย่างสันติ ทั้งนี้ประเทศไทยได้ให้สัตยาบันในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กใน พ.ศ.2532 โดยให้คำมั่นว่าจะดำเนินการเพื่อให้เด็กๆ ได้เข้าถึงสิทธิที่พวกเขาพึงมี รวมถึงสิทธิในการมีส่วนร่วมและการแสดงความคิดเห็นอย่างสันติโดยได้รับการรับฟัง

ไล่เผด็จการ – ครูและนักเรียนหลายจังหวัดทั่วประเทศ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ‘ชู 3 นิ้ว-ผูกโบขาว’ เรียกร้องประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการ ซึ่งเป็น ภาพที่แชร์กันว่อนโลก โซเชี่ยล เมื่อ 18 ส.ค.

 

ยูนิเซฟขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เพื่อประกันความปลอดภัยของเด็กและเยาวชนทุกคนในทุกที่ทุกเวลา และให้พวกเขาสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ ต่อเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยปราศจากความกลัวหรือการถูกคุกคาม

จี้ร.ร.เปิดพื้นที่ให้เด็กแสดงออก

ยูนิเซฟขอย้ำว่า โรงเรียนและสถาบันการศึกษาควรเป็นสถานที่ที่ปลอดภัย สำหรับเด็กในการแสดงความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และมีการรับรู้รับฟัง โรงเรียนและสถาบัน การศึกษาควรจัดให้มีพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและ ร่วมกันอภิปรายอย่างมีสาระ ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆ สามารถสร้างทักษะด้านการสื่อสาร และการต่อรอง อันจะนำไปสู่แนวทางการจัดการอย่างสันติกับข้อท้าทายที่เด็กๆ กำลังเผชิญอยู่

เด็กที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ต้องได้รับการดูแลและช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและทันท่วงที ตามกระบวนการของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเด็กและเยาวชน โดยปราศจากการใช้ความรุนแรง การคุกคาม หรือการข่มขู่ทุกรูปแบบ

ขณะที่โรงเรียนบดินทรเดชา-สิงห์ สิงหเสนี-นนทบุรี ได้ออกประกาศเรื่อง มาตรการควบคุมพื้นที่ “ไม่ใช้สถานที่ราชการในกิจการทางการเมือง” โดยระบุว่า โรงเรียนไม่ส่งเสริมกิจกรรมใดๆ ที่ส่อเจตนาให้เกิดความขัดแย้งกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสังคมประชาธิปไตยในโรงเรียนแห่งรัฐ “ไม่ใช้สถานที่ราชการในกิจการทางการเมือง”

จึงกำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่ภายในและภายนอกรั้วโรงเรียน คือ โรงเรียนไม่อนุญาตและไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่หรือบุคลากร หรือวัสดุอุปกรณ์เพื่อการชุมนุมหรือการแสดงออกใดๆ หรือ แอบอ้างชื่อโรงเรียนเพื่อการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมและไม่ถูกต้องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย

น.ร.-ครูชู 3 นิ้วผูกโบขาวต่อเนื่อง

สำหรับนักเรียนมัธยมทั่วประเทศยังคงเคลื่อนไหวแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้วและผูกโบขาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงสัญลักษณ์การมีสิทธิเสรีภาพในการมีส่วนร่วมของสังคม และแสดงความเห็นไม่เอาเผด็จการ โดยเมื่อช่วงเช้าวันที่ 18 ส.ค. ทวิตเตอร์ ลูกสามเสนไม่เอาเผด็จการ ได้ทวีตข้อความระบุว่า “เช้านี้มีตำรวจจำนวนหนึ่งเข้ามาในโรงเรียนและ ถ่ายภาพนักเรียนที่ติดโบขาวที่กระเป๋า ขอให้ทุกคนช่วยกันระวังเรื่องตัวตนด้วยนะคะ #โบขาวต้านเผด็จการ #ลูกสามเสนไม่เอาเผด็จการ #สามแสนวิท” ขณะที่บรรยากาศภายในโรงเรียนหลังเคารพธงชาติ มีนักเรียน ชูสามนิ้ว เพื่อแสดงออกในการขับไล่เผด็จการ ต่อต้านรัฐบาล โดยมีนักเรียนจำนวนมากได้ติดริบบิ้นขาวเป็นสัญลักษณ์ บนกระเป๋านักเรียนอีกด้วย

ที่จ.เพชรบูรณ์ เด็กนักเรียนในเขตอำเภอหนองไผ่ นัดหมายผ่านโลกโซเชี่ยลเพื่อแสดงออกทางสังคม โดยการแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว เหนือศีรษะ ด้วยข้อความ ขอเชิญชวนพี่น้องชาวชมพูฟ้าแสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้ว ต่อต้านเผด็จการ ในวันอังคารที่ 18 ส.ค. โดยบรรยากาศภายในโรงเรียน ก่อนแยกแถวเข้าชั้นเรียน มีนักเรียนจำนวนหนึ่งชูมือขึ้นเหนือศีรษะพร้อมแสดงสัญลักษณ์ 3 นิ้ว

วันเดียวกันนี้ ในโลกออนไลน์ มีการแชร์ภาพครูจากโรงเรียนรัฐแห่งหนึ่ง พร้อมใจกันชูสามนิ้ว ภายในห้องพักครู เพื่อประกาศจุดยืน ยืนข้างนักเรียนทั่วประเทศ ที่ถูกกระทำ และถูกปิดกั้นการแสดงออกทางการเมือง ซึ่งโพสต์ดังกล่าว ปรากฏอยู่บนแอ๊กเคานต์ ทวิตเตอร์รายหนึ่ง และมีผู้รีทวีตกันเป็นจำนวนมาก

ตร.ฮึ่มเอาผิดน.ร.หาดใหญ่ชูนิ้ว

เวลา 17.00 น. ที่จ.สงขลา มีเด็กนักเรียน ประมาณ 150 คน จากโรงเรียนดังหลายแห่ง ในจ.สงขลา นัดรวมตัวแสดงจุดยืนทางการเมือง ที่หน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกัลยา โดยยืนสงบนิ่งถือกระดาษเปล่าเป็นเวลา 15 นาที เพื่อแสดงจุดยืนต่อต้านเผด็จการ #อุดมการณ์เราต้องรอด โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อยก่อนที่จะสลายตัวไปอย่างสงบตามเวลาที่กำหนดไว้

โดยระหว่างนักเรียนชุมนุมกัน มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ สันติบาล และฝ่ายปกครองมาคอยสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด และตำรวจยังได้แจกใบปลิวประกาศแจ้งเตือนให้นักเรียนชุมนุมอยู่ในกรอบของกฎหมาย ทั้งเรื่องของโควิด ไม่ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เลี่ยงเขียนข้อความหรือแผ่นป้ายที่อาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย หรือหากฝ่าฝืนกฎหมาย จะมีการบันทึกภาพและเสียงไว้และอาจถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในภายหลัง

เพื่อเสรี(ภาพ) – กลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา มหาวิทยาลัยมหิดล จัดแฟลชม็อบ ‘ศาลายา ล่องเรือ เพื่อเสรี(ภาพ)’ โดยมี น.ร.-น.ศ.ร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ที่ม.มหิดล ศาลายา นครปฐม เมื่อ 18 ส.ค.

นัดเป่านกหวีดไล่‘ณัฏฐพล’

ที่โรงเรียนเบตงวีระราษฎร์ประสาน จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังร้องเพลงชาติจบ เด็กนักเรียนประมาณ 500 คน ได้จัดกิจกรรมชู 3 นิ้ว เพื่อร่วมแสดงจุดยืนทางการเมือง และต่อต้านเผด็จการ หลังจากนั้นจึงเข้าห้องเรียนตามปกติ นอกจากนั้นยังติดโบสีขาวต้านเผด็จการ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของการมีสิทธิและเสรีภาพในการมีส่วนร่วมของสังคม โดยเด็กนักเรียนบอกว่า กิจกรรมดังกล่าวไม่มีแกนนำ ไม่มีปราศรัย แต่มีสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์นี้จะมีการแสดงออกเป็นระยะๆ ต่อไป

ด้านนายนพปฎล มุณีรัตน์ ผู้อำนวยการโรงเรียนเบตงวีระราษฎร์ประสาน กล่าวว่า โดยวันนี้ทางโรงเรียนทราบว่ามีการจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองของนักเรียน โดยผ่านการเชิญชวนทางโซเชี่ยลมีเดีย ทางโรงเรียนไม่ได้มีการห้ามปราม เพียงแต่เน้นย้ำให้นักเรียนมีความรู้จักแยกแยะความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ซึ่งนักเรียนมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก แต่ต้องมีขอบเขต และควรระมัดระวังการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดความแตกแยก จึงอยากให้ทุกฝ่ายพิจารณาอย่างเหมาะสม ท่ามกลางการสังเกตการณ์ของ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ซึ่งหลังจากการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แล้วได้เข้าห้องเรียนตามปกติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กเพจ นักเรียนเลว ได้ออกมาเชิญชวนให้นักเรียน ออกมาร่วมแสดงพลังอีกครั้งที่กระทรวงศึกษาธิการ โดยเขียนข้อความระบุว่า ออกมาปกป้องอนาคตของชาติ ออกมาปกป้องนักเรียนของเรา ผูกโบขาวให้กระทรวง ชูสามนิ้วร้องเพลงชาติ และมาเป่านกหวีดไล่ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการไปพร้อม ๆ กัน มาแน่ มาแน่ 19 สิงหาคม 4 โมงเย็น ณ กระทรวงศึกษาธิการ

รมว.ศธ.สั่งดูแลน.ร.ให้เหมาะสม

วันเดียวกัน นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองของนักเรียนและนักศึกษา ว่า นักเรียนในบางโรงเรียนอาจจะมีความคิดเห็นต่าง และอยากจะแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่การแสดงออกในบริบทไหนนั้น โรงเรียนควรรับฟังความคิดเห็นจากนักเรียน โดยผ่านทางคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้อำนวยการโรงเรียน และครู มาหารือร่วมกับนักเรียน เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมในการแสดงสัญลักษณ์ที่อาจทำให้เกิดความแตกแยก และจะเกิดความปั่นป่วนในโรงเรียนหรือไม่ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ตนไม่อยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้อำนวยการโรงเรียนที่จะบริหารจัดการ ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนสามารถบริหารจัดการได้ดี มีการเผยแพร่ในโซเชี่ยลมีเดียบ้าง แต่ยังอยู่ในภาวะที่เราสามารถทำความเข้าใจซึ่งกันและกันได้

นายณัฏฐพลกล่าวอีกว่า การแสดงออก ถึงแม้จะเป็นสิทธิเสรีภาพ แต่เราต้องเข้าใจว่าเรามาเรียนหนังสือเพื่ออะไร ปัญหาการศึกษาที่นักเรียนกังวลอาจจะเกี่ยวข้องกับการเมือง ก็ไม่มีปัญหา ศธ.พร้อมจะรับฟัง เพียงแต่ขอให้เข้าใจบริบทจริงๆ ของปัญหาที่กำลังเรียกร้องอยู่ และการเรียกร้องครั้งนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศอย่างไร

ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างร่างหนังสือแจ้งสถานศึกษาทั่วประเทศ เพื่อให้โรงเรียน ผู้บริหาร และครูได้เข้าใจถึงการแสดงออกทางเสรีภาพของนักเรียน และเปิดช่องทางให้นักเรียนในโรงเรียนได้มีช่องทางพูดคุยร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และครู เพื่อหาทางออกในการแสดงความเห็นของนักเรียน และสร้างความมั่นใจว่าหลังจากมีการรับฟังนักเรียนแล้ว เรื่องเหล่านี้จะมาที่ศธ.โดยตรง เพื่อให้ ศธ.ทำการประเมินต่อไป คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 อาทิตย์ ในการประเมินแต่ถ้าแกนนำสนใจที่จะมาคุย ตนพร้อมที่จะพูดคุย แต่ขอให้รวบรวมปัญหามาด้วย

ไม่ขัดข้องโดนเป่านกหวีดไล่

ผู้สื่อข่าวถามถึงกลุ่มนักเรียนนัดเป่านกหวีดขับไล่รมว.ศธ. ในวันที่ 19 ส.ค. ที่หน้ากระทรวงศธ. นายณัฏฐพล กล่าวว่า ไม่มีปัญหา วันที่ 19 ส.ค.มีธุระ แต่จะพยายามกลับมาที่ ศธ. ถ้าจะเป่านกหวีด ตนก็ไม่มีปัญหา

“ผมยินดี แต่ถ้าถามจริงๆ ก็คงต้องถามว่าแล้วจะไล่ผมเรื่องอะไร เพราะผมไม่มีความสามารถในการบริหาร ผมไม่แก้ปัญหาของ ศธ. หรือไม่ปฏิรูปการศึกษา หรือไม่เข้าใจในระบบหนี้สินครู ผมพยายามลดการบ้าน ลดการสอบ ลดการประเมิน ซึ่งผมพยายามปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันต่อสถานการณ์ มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ใน 2-3 ปี ข้างหน้า หากคิดว่าไม่เหมาะสม ผมไม่มีปัญหา เชิญเป่านกหวีดได้เต็มที่” นายณัฏฐพลกล่าว

วันเดียวกัน นางวัฒนาพร ระงับทุกข์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ออกหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ โดยสรุปว่า ขอให้สพท.ดำเนินการให้โรงเรียนในสังกัด เปิดพื้นที่ให้สถานศึกษาดำเนินกิจกรรมในการแสดงความคิดเห็น ภายใต้หลักการและเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด โดยขอให้ผู้บริหารโรงเรียนคำนึงถึงการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและปลอดภัยของนักเรียนโดยไม่ให้มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมชุมนุม

ชี้แจง – นายประหยัด ไทยเสน รองผอ.โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา จ.สุราษฎร์ธานี ชี้แจงกรณีมีภาพว่อนออนไลน์ขณะห้ามนักเรียนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ภายในโรงเรียน โดยยืนยันไม่ได้ทำร้ายนักเรียน เมื่อวันที่ 18 ส.ค.

‘ตู่’อ้างใครไม่ร่วมถูก‘บูลลี่’

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมครม. ถึงปรากฏการณ์นักเรียนชู 3 นิ้วว่า หลายอย่างได้เกิดขึ้น แต่ไม่อยากให้เป็นประเด็นต่อไป ตนเห็นถึงความบริสุทธิ์ใจของเด็กเหล่านี้ ทั้งนี้สิ่งที่ทราบมาจากการรับฟังความคิดเห็นเด็กหลายคนบอกบางทีในสถาบันศึกษา ไม่ว่าจะเป็นระดับไหน มีการบูลลี่กัน ถ้าใครไม่มาร่วม จะถูกกีดกันไม่ให้เข้าร่วมชมรม เข้ากลุ่ม อะไรแบบนี้ คิดว่านั่นคืออันตราย

“ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างเฉยๆ ที่ได้ฟังจากนักศึกษามา บางคนไม่ได้อยากจะมีส่วนร่วม แต่ถูกบูลลี่ ถูกกีดกัน อะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน ขอให้ทุกคนหารือด้วยเหตุและผลก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีเหตุการณ์อัยการอาวุโสขับรถปาดหน้าและบีบแตรไล่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “ผมไม่ได้ตื่นตระหนก มีบางคนไปเขียนว่าผมตกอก ตกใจ ผมไม่ได้กลัวอะไรทั้งสิ้นอยู่แล้ว คงเป็นเพราะเกิดความไม่เข้าใจอะไรกันบางอย่าง อัยการอาวุโสเขาอาจจะปวดท้อง เพราะเขาบอกว่าปวดท้อง จะรีบไป” ทั้งนี้กรณีนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองและการชุมนุมของนักศึกษา อย่าเอาไปพันกัน ตนมีรปภ.เยอะแยะไปหมด ไม่ต้องกลัวหรอก และไม่ต้องมาห่วงตนมากขนาดนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีวันที่ 17 ส.ค. ขบวนรถของพล.อ.ประยุทธ์ถูกบีบแตรไล่ ล่าสุดมีคำสั่งของผู้บังคับบัญชาให้เจ้าหน้าที่ประจำประตูทุกประตูตรวจสอบการเข้าออกอย่างละเอียด โดยเฉพาะบุคคลที่ไม่มีบัตรแสดงตัวประจำทำเนียบ ต้องแลกบัตรและสอบถามว่ามีวัตถุประสงค์อะไรให้ชัดเจน

พท.ฮึ่มเรียกครูปิดกั้นแจงกมธ.

วันเดียวกัน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในกมธ.การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ฝากถึงคณะครูอาจารย์เจ้าหน้าที่ว่า ขอเปิดให้นักเรียนได้แสดงออกเพราะไม่มีอะไรเกินเลย และคณะทำงานยังได้รับการประสานจากผู้ที่ได้รับหมายเรียก 15 คน ให้ช่วยเหลือ

ซึ่งย้ำว่าพร้อมดูแล และประกันตัวทั้งชั้นสอบสวนและชั้นศาล ส่วนปัญหาข้อร้องเรียนเรื่องของสัญญาณโทรศัพท์ในพื้นที่ชุมนุมไม่สามารถติดต่อกันได้ ทางคณะจะเสนอเรื่องไปยังกมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน เพื่อพิจารณาเชิญผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือมาให้ชี้แจง ว่าเหตุใดจึงเกิดปัญหาดังกล่าว

นายสมคิด ย้ำด้วยว่า หากครูอาจารย์ปิดกั้นการแสดงออกของนักเรียน นักศึกษา พร้อมจะประสานเสนอให้กมธ.การศึกษา สภาผู้แทนราษฎร เชิญมาชี้แจงถึงมาตรการดูแลนักเรียน ส่วนการชุมนุมในต่างจังหวัด หากจะมีการชุมนุมคณะทำงานของส.ส.เพื่อไทยพร้อมลงไปสังเกตการณ์

แกนนำมช.รายงานตัวอัยการ

ที่สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงเชียงใหม่ ศูนย์ราชการ จ.เชียงใหม่ นายวัชรภัทร ธรรมจักร นายธนาธร วิทยเบญจางค์ และนายวิธญา คลังนิล นักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) 3 แกนนำนักศึกษาที่เคลื่อนไหวชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้มารายงานตัวพนักงานอัยการตามหมายนัด เป็นครั้งที่ 3 ในข้อหา คือ ผิดพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) บริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน และพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมโรค

ขณะที่นายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ แกนนำนักศึกษาแจ้งว่าติดภารกิจที่กรุงเทพฯ ไม่ได้เข้ารายงานตัวพร้อมเพื่อน ทางพนักงานอัยการ จึงได้นัดให้ 4 แกนนำนักศึกษามารายงานตัวครั้งที่ 4 ในวันที่ 24 ส.ค.นี้แทน

นายวัชรภัทรกล่าวว่า มารายงานตัวตามนัดหมายของพนักงานอัยการ ซึ่งมองว่าเป็นกลไกกฎหมายที่ไม่เป็นธรรม กลั่นแกล้ง ไม่สามารถใช้ชีวิตตามปกติได้ เพราะต้องเรียนในวันธรรมดา ส่วนฐานความผิดเกี่ยวกับการควบคุมโรค มองว่าไม่ได้เกิดโควิดระบาดมากว่า 80 วันแล้ว ทำไมจึงสั่งฟ้องข้อหาดังกล่าวอีก หลังจากนี้นักศึกษาคงเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบ เพื่อต่อสู้กับความไม่ชอบธรรมกับอำนาจเผด็จการ

จ่อหมายเรียกม็อบ 18 ก.ค.

ที่บช.น. พล.ต.ต.สมประสงค์ เย็นท้วม รองผบช.น.ดูแลงานความมั่นคง เปิดเผยว่า พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เรียกประชุมผู้กำกับการและพนักงานสอบสวน ในพื้นที่กว่า 10 สถานีตำรวจ ที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง เพื่อติดตามสถานการณ์ และตรวจสอบพยานหลักฐานการชุมนุมในพื้นที่ต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา โดยตำรวจเตรียมออกหมายเรียกผู้ร่วมชุมนุมเพิ่มอีกอย่างน้อย 15 คน กรณีชุมนุมในวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ส่วนการชุมนุมในวันที่ 16 ส.ค. พนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

พล.ต.ต.สมประสงค์ กล่าวว่า ส่วนการจัดชุมนุมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทางการเมืองในสถานศึกษานั้น ยังไม่ถือเป็นความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ แต่ยืนยันตำรวจมีอำนาจหน้าที่ในการสืบสวนหาข่าวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความวุ่นวาย หากเชื่อได้ว่าจะมีการกระทำผิด ส่วนกรณีที่นักเรียนชูสามนิ้วช่วงเวลาเคารพธงชาติในสถานศึกษา ถือเป็นการแสดงความคิดเห็นตามสิทธิทางการเมือง ส่วนจะมีความผิดกฎหมายอื่นหรือไม่ ต้องดูเจตนาในการกระทำว่ากระทบสิทธิผู้อื่นด้วยหรือไม่

ก้าวไกลประกันคนบังคับโดรน

ที่สน.ชนะสงคราม นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ และน.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทางมาประกันตัว นายเอกอนันต์ ด่านเพ็ชรดำรง ผู้บังคับโดรนเพื่อเก็บภาพถ่ายการชุมนุมของคณะประชาชนปลดแอก เมื่อวันที่ 16 ส.ค. ที่ผ่านมา ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งมีการอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว มีวงเงินประกัน 65,000 บาท จากนี้นายเอกอนันต์ จะเตรียมต่อสู้คดีในชั้นศาล โดยมีทนายพงศ์เพชร คงหอม เป็นผู้ดูแล และนัดหมายส่งตัวอัยการในวันที่ 18 ก.ย. นี้ต่อไป

กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากนายเอกอนันต์ ได้รับหมายแจ้งจากตำรวจว่า ใช้โดรนถ่ายภาพโดยไม่ได้ขออนุญาตตามมาตรา 24 ตาม พ.ร.บ.การเดินอากาศ พ.ศ. 2497 และความผิดในมาตรา 22 ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ที่ระบุว่า ผู้ใดแจ้งข้อความหรือส่งข่าวสารซึ่งรู้อยู่แล้วว่าเป็นเท็จ และการนั้นเป็นเหตุหรือน่าจะเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยานหรือผู้ที่อยู่ในอากาศยานในระหว่างการบินตื่นตกใจ ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ ถ้าการกระทํานั้นเป็นเหตุให้เกิดอันตรายต่อความปลอดภัยของอากาศยานในระหว่างการบิน ผู้กระทําต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือปรับตั้งแต่ 200,000-600,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ โดยเมื่อวันที่ 16 ส.ค. นายเอกอนันต์ถูกตั้งข้อความผิดในมาตรา 24 ตร. และได้วางเงินสดประกันตนเอง 10,000 บาท ล่าสุดวันนี้นายเอกอนันต์ถูกเรียกตัวอีกครั้งพร้อมถูกตั้งข้อหาหนักขึ้นในมาตรา 22

นับพันชุมนุมที่ศาลายา

เวลา 18.00 น. ที่มหาวิทยาลัยมหิดล กลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา จัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ภายใต้ชื่อ ‘ศาลายา ล่องเรือเพื่อเสรี(ภาพ) #ศาลายาแสกหน้าเผด็จการ เพื่อร่วมต่อต้านเผด็จการ กิจกรรมมีการปราศรัยจากแกนนำสลับการเล่นดนตรีสดจากวงสามัญชน และเคารพธงชาติชูสามนิ้ว ขณะเดียวกันไอลอว์ หรือโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน ได้มาตั้งจุดให้ประชาชนเข้าชื่อร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยมีนักศึกษานับพันคนเข้าร่วมกิจกรรม

ขณะที่ศ.นพ.บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี ม.มหิดล ออกแถลงการณ์ระบุว่า ไม่สนับสนุนให้ใช้พื้นที่ของมหาวิทยาลัยในการจัดกิจกรรมดังกล่าว หากมีการกระทำโดยแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง หรือประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ทางมหาวิทยาลัยมหิดลขอแจ้งว่ามหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือให้การสนับสนุนกิจกรรมดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน