‘ณัฏฐพล’ซีด-มาพบม็อบ
3พระจอมพรึ่บลาดกระบัง
สั่งจับแล้ว‘6แกนนำมธ.’
ตร.บุกรวบทนายอานนท์
สส.ก้าวไกลรุดยื่นประกัน

ม็อบนักเรียนแห่มากันพรึ่บ บุกหน้ากระทรวงศึกษาฯ ชู 3 นิ้ว ผูกโบขาว เป่านกหวีดไล่ใส่ต่อหน้ารมต. ‘ณัฏฐพล’ เปิดเวทีปราศรัยดุเดือด ตั้งคำถาม ถ้านักเรียนไม่ควรยุ่งการเมือง ทหารก็ไม่ควรยุ่งการเมืองเช่นกัน ควรทำหน้าที่ของตัวเอง ส่วน ‘สามพระจอม’ ก็คึก ชุมนุมที่ลาดกระบัง ขณะที่ ‘บิ๊กตู่’ เชื่อมีคนเจตนาไม่ดี ต้องการให้รุนแรง ใช้เด็กเป็นกันชน ตร.ปทุมฯ ออกหมายจับ 6 แกนนำ ‘ธรรมศาสตร์ จะไม่ทน’ เอาผิด ม.116 พ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.บ.คอมพ์ ‘ทนายอานนท์’ โดนตร.จับ หน้าศาล คุมตัวไปสน.ทันท

พลัง – นักเรียนหลายโรงเรียนชุมนุมหน้ากระทรวงศึกษาฯ เป่านกหวีดไล่รมต. ส่วนภาพขวา นักศึกษาจัดกิจกรรม ลาดกระบังชังเผด็จการ ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าฯ ลาดกระบัง เมื่อวันที่ 19 ส.ค.

สั่งจับ 6 แกนนำ‘มธ.จะไม่ทน’

เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธร จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ชยุต มารยาทตร์ ผบก.ปทุมธานี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัชวาล ปี่ทอง รอง ผบก.ปทุมธานี พ.ต.อ.เศรษฐณัณข์ ทิมวัฒน์ ผกก.สภ.คลองหลวง ร่วมแถลงออกหมายจับ 6 แกนนำจัดการชุมนุมธรรมศาสตร์จะไม่ทน นำโดย 1.น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล 2.นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก 3.นายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 4.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายธนวัฒน์ จันผลึก และ 6.นายสิทธิ์นนท์ ทรงศิริ

พล.ต.ต.ชยุตกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 ส.ค. มีการจัดชุมนุมทางการเมือง โดยนิสิตนักศึกษาและประชาชน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จนกระทั่งวันที่ 14 ส.ค. ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานจนเป็นที่พอฟังได้ว่า ผู้ต้องหาร่วมกันกระทำความผิดจริง จึงยื่นคำร้องขอให้ศาลจังหวัดธัญบุรีอนุมัติออกหมายจับทั้ง 6 คน ในความผิดตามประมวล กฎหมายอาญามาตรา 116 พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่อง ขยายเสียง และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

กมธ.ชี้หมายจับไม่เป็นผลดี

ที่รัฐสภา นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะทำงานเพื่อติดตามการชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าทราบว่าจะมีการชุมนุมในวันที่ 20-21 ส.ค.นี้ อีกหลายแห่ง กมธ.จะประสานส.ส. พรรคเพื่อไทย และคณะทำงาน เพื่อเข้าไปสังเกตการณ์แต่ละพื้นที่ พร้อมขอเรียกร้อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ ต้องกลับมาดูเด็ก อย่าสร้างความแตกแยกอีก ปากบอกอย่าแตกแยก แต่ในทางลับกลับให้เจ้าหน้าที่ไปตามโรงเรียน ทั้งที่นักเรียนไม่ได้ทำอะไร เพียงแค่แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว ขอให้เปิดช่องให้เด็กหายใจบ้างจะดีกว่า








Advertisement

นายสมคิดกล่าวต่อว่า ฝากถึงตำรวจอย่าถึงขนาดออกหมายจับ เพราะไม่เป็นผลดีกับรัฐบาล และรมว.ศึกษาธิการ ในอดีตท่าน ก็เคยใช้สิทธิ์ในยุคการชุมนุมของกปปส. วันนี้ท่านต้องเข้าใจ เพราะท่านก็เคยใช้สิทธิ์เหมือนกัน ซึ่งสมัยก่อนหนักกว่าตอนนี้อีก ในส่วนของกมธ.จะเชิญเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และรมว.ศึกษาธิการ มาชี้แจงในเร็วๆ นี้ หากท่านไม่ดำเนินการใดๆ ก็จะใช้การอภิปราย ไม่ไว้วางใจ เป็นช่องทางของสภาผู้แทนฯ

ไล่รมต. – นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เดินออกจากกระทรวง มานั่งรับฟังนักเรียนจำนวนมาก ที่นัดรวมตัวปราศรัย, ชู 3 นิ้วและเป่านกหวีดขับ ไล่ออกจากตำแหน่ง กระหึ่มหน้ากระทรวงศึกษาฯ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.

‘ก้าวไกล’แฉคุกคามนร.ถึงบ้าน

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชี รายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก และนายธัญญ์วาริน สุขะพิสิษฐ์ ส.ส.บัญชี รายชื่อ ร่วมแถลงถึงการคุกคามนักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชน โดยนายวิโรจน์กล่าวว่า พบว่ามีการคุกคามนักเรียนโดยครูถึงร้อยละ 80 จากข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตำรวจ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ที่บุกเข้าไปสถานศึกษา ไม่เพียงแค่ คุกคามในโรงเรียน แต่ระรานถึงบ้าน เดือดร้อน ไปถึงผู้ปกครอง โดยเฉพาะครูใช้วาจาข่มขู่ จะไล่ออก หนักข้อถึงขั้นลงไม้ลงมือ

โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวว่า ขอบอกว่า การแสดงออกของนักเรียนนักศึกษาในวันนี้ ถือว่าสงบสันติ ปราศจากอาวุธโดยแท้ และชอบธรรม เพราะเป็นการจัดกิจกรรมแสดงออก ทางการเมืองในเชิงสัญลักษณ์ ไม่ได้คุกคาม หรือทำให้ใครเดือดร้อน เมื่อเทียบกับการชุมนุมเมื่อปี 2556-57 ใช้ริบบิ้นลายธงชาติและนกหวีดแล้ว การแสดงออกของนักเรียนนักศึกษาในวันนี้ เช่น ชู 3 นิ้ว ชูกระดาษเปล่า ผูกโบขาวมีความชอบธรรมมากกว่าเสียด้วยซ้ำ

ต้องหนุน‘ปชต.’ในสถานศึกษา

ส่วนนายธัญญ์วารินกล่าวว่า ขอฝากถึง นายกฯ ที่ระบุว่าที่เด็กต้องออกมาพูดเรื่องการเมือง เพราะกลัวจะถูกบูลลี่ แต่ความจริงแล้วเด็กไม่อยากพูด แต่ถูกบังคับให้ต้องแสดงความเห็นทางการเมืองนั้น ตนเห็นว่า นายกฯ ควรพูดถึงเด็กที่ถูกบูลลี่โดยครู และผู้บริหารสถานศึกษาที่กำลังทำอยู่ตอนนี้มากกว่า แต่ท่าน กลับไม่ได้พูดถึงประเด็นนี้เลย ไม่เข้าใจว่าท่าน จะกลัวอะไรกับโบสีขาว กระดาษเปล่า หรือการ ชู 3 นิ้ว ถามว่ามันผิดกฎหมายตรงไหน

ส.ส.พรรคก้าวไกลกล่าวต่อว่า เห็นว่าโรงเรียนควรเป็นสถานที่ที่ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนมีวัฒนธรรมประชาธิปไตยในสถาน ศึกษา ไม่ใช่เรียนรู้จากการโดนทำร้ายจากวัฒนธรรมอำนาจนิยม จึงขอฝากไปถึงนายกฯ ว่าท่านควรเห็นอกเห็นใจ เห็นความเป็นมนุษย์ เห็นความเป็นประชาชนคนหนึ่งของนักเรียนในรั้วโรงเรียนด้วย เพราะการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน เด็กทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องให้ประเทศดี และมีอนาคตสำหรับเขา

ยังต่อเนื่อง – นักเรียนโรงเรียนมัธยมทั่วประเทศยังคงแสดงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว-ผูกโบขาว เรียกร้องสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางประชาธิปไตย ซึ่งเป็นภาพแชร์กระหึ่ม โลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง เมื่อวันที่ 19 ส.ค.

‘ศึกษานารี’ชู 3 นิ้วทั้งโรงเรียน

สำหรับความเคลื่อนไหวของกลุ่มนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ชู 3 นิ้ว ผูกโบขาว ขับไล่เผด็จการ นั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพนักเรียนโรงเรียนศึกษานารี เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ชู 3 นิ้วบนอาคารเรียน แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ไม่เอาเผด็จการ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก กลุ่มนักเรียนพร้อมใจกันชู 3 นิ้ว พร้อมกับติดแฮชแท็กว่า #ศึกษานารี 3 นิ้วพรึบทั้งโรงเรียน #เผด็จการจงพังพินาศประชาธิปไตยจงเจริญ

ขณะที่ จ.ชุมพร ที่โรงเรียนศรียาภัย อ.เมือง ชุมพร เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาประจำจังหวัด มีกลุ่มนักเรียนแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ติดริบบิ้นขาวที่กระเป๋านักเรียน และผูกโบขาว ที่ผม ต่อมาในช่วงเคารพธงชาติ นักเรียนชู 3 นิ้ว ร้องเพลงชาติจนจบ โดยที่ครูไม่ได้ห้ามหรือขัดขวาง จากนั้นนักเรียนก็แยกย้ายกันเข้าห้องเรียนตามปกติ

‘ยุพราช-เชียงใหม่’ก็ชู 3 นิ้ว

ที่โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นักเรียนชั้น ม.5 และ ม.6 จำนวนกว่า 200 คน ชุมนุมแสดงเชิงสัญลักษณ์ชู 3 นิ้ว พร้อมตะโกนว่าเผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ โดยนักเรียนหญิงผูกโบสีขาวที่ผม ส่วนนักเรียนชายติดโบขาวที่แขน หรือกระเป๋า นักเรียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนักเรียนทำกิจกรรม นายฐิตติณัฐ ศักดิ์ธนานนท์ ผอ.โรงเรียน พร้อมผู้บริหารรวม 5 คน มาดูแลความเรียบร้อย พร้อมให้กำลังใจกลุ่มนักเรียนที่ปรบมือ ยกมือไหว้ขอบคุณที่เปิดพื้นที่ให้ชุมนุมในโรงเรียน การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ก่อนนักเรียนพากันเข้าห้องเรียนตามปกติ

‘โคราชจะไม่ทน’นัดชุมนุมใหญ่

ส่วน จ.นครราชสีมา ที่โรงเรียนบุญวัฒนา อ.เมืองนครราชสีมา แม้กลุ่มนักเรียนไม่รวมตัว กันชู 3 นิ้วหน้าเสาธง แต่หลายคนผูกโบขาวที่ข้อมือ และกระเป๋านักเรียน เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนต่อต้านเผด็จการ ขณะเดียวกันกลุ่มแนวร่วมเยาวชน นิสิต นักศึกษาโคราชโพสต์เชิญชวนร่วมกิจกรรม “โคราชจะไม่ทน” ในวัน พฤหัสบดีที่ 20 ส.ค. เวลา 17.00 น. ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา นับเป็นการชุมนุมใหญ่ครั้งที่ 2 ใน จ.นครราชสีมา ต่อจากวันที่ 24 ก.ค. มีกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่มาร่วมกว่า 1,500 คน

ขณะเดียวกัน จ.พิจิตร ที่โรงเรียนตะพานหิน อ.ตะพานหิน มีกลุ่มนักเรียนชั้นม.6 จำนวนกว่า 20 คน ผูกโบขาวและชู 3 นิ้วหน้าเสาธง ในช่วงเคารพธงชาติ ร่วมกันแสดงจุดยืนนักเรียนโรงเรียนตะพานหินไม่ทนต่อเผด็จการ พร้อมทั้งสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนปลดแอก ยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญใหม่

‘บิ๊กตู่’เชื่อใช้เด็กเป็นกันชน

ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่าเรื่องที่ทุกคนอยากทราบคือการดำเนินการกรณีผู้ชุมนุม ซึ่งเป็นหลักการประชาธิปไตยของทุกประเทศ หลายคนมองตนว่ามาอย่างไร เผด็จการอย่างไร แต่วันนี้อย่าลืมว่าเราเข้ามาด้วยกระบวนการประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนูญ ส่วนจะแก้อะไรไปว่ากันในอนาคต แต่อย่าก้าวล่วงส่วนที่เกี่ยวกับสถาบัน ที่กังวลขณะนี้หากเกิดความวุ่นวายมากยิ่งขึ้น อาจมีผู้อยู่เบื้องหลังหรือไม่มีก็ตาม ทุกคนทราบดี อยากให้มองไกลอีกนิดถ้าสถานการณ์บานปลายไปเรื่อยๆ จะกลับไปสู่สถานการณ์เดิมๆ วันนี้อยากให้ทุกคนมองว่าเด็กๆ เหล่านั้น คือพลังที่บริสุทธิ์ อาจมีส่วนหนึ่งที่ไม่เข้าใจ ส่วนหนึ่งถูกชักนำ หัวข้อเรียกร้องมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลายข้อเป็นไปไม่ได้ หลายสิบข้อ ที่ตามมา ยกเลิกการไหว้ครู ไม่เคารพครู พ่อแม่ ก็ไม่ต้องเคารพ

นายกฯ กล่าวว่าขอให้มองอีกมุมหนึ่ง ถ้ามีคนเจตนาไม่บริสุทธิ์ ต้องการให้เกิดความรุนแรง เกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงเวลานั้นเด็กพวกนี้จะเป็นกันชนให้เขาหรือเปล่า ขอให้สำนึกเรื่องเหล่านี้ไว้ด้วย รัฐบาลไม่มีนโยบายใช้ความรุนแรงแก้ปัญหาอยู่แล้ว ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทุกประการ ไม่ห้ามการชุมนุม แต่ขอให้ชุมนุมโดยสันติ คำว่าสันติไม่ใช่เฉพาะการใช้อาวุธ หรือไม่ใช้อาวุธ ใช้ความรุนแรง กล่าวด้วยความอาฆาตมาดร้าย ด่าหยาบคาย

ที่ชุมนุม-แค่น.ร.-น.ศ.ส่วนหนึ่ง

“การรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนราชการ ภาคประชาชน แม้แต่นักเรียนนักศึกษา ผมรับรู้ทุกข้อเรียกร้อง ขอร้องอย่างเดียว ไม่อยากให้มาแตะต้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่าลืมว่าคนไทยมี 67 ล้านคน การมาชุมนุมอาจดูมากหรือน้อย แต่ผมถือว่าประชาชนส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศไม่ได้เห็นด้วยกับการชุมนุมดังกล่าว” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว และว่าไม่ขัดแย้งเรื่องการชุมนุม หากเรียกร้องสิ่งที่ เป็นประโยชน์ สิ่งที่ดำเนินการให้ได้ก็พร้อมปฏิบัติ อย่าเรียกว่านักศึกษาทั้งหมด หรือนักเรียนทั้งหมด มันไม่ใช่ เป็นแค่ส่วนหนึ่ง

นายกฯ กล่าวต่อว่าขอให้เคารพความเป็นอัตลักษณ์ของประเทศไทยด้วย เรามีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อยู่คู่กับแผ่นดินเรามาหลาย 100 ปี ไม่ใช่เพิ่งมีมาเพียง 2-3 วัน สิ่งที่พวกเขาเรียกร้อง บางอย่างทำไม่ได้ ประเทศไทยมีแบบและธรรมเนียมปฏิบัติมาอยู่ วันนี้พยายามสร้างว่าครูเป็นลูกจ้างของเด็ก เป็นลูกจ้างของพ่อแม่ แต่วันนี้ลูกกับพ่อ คิดเห็นไม่ตรงกัน ลูกประกาศตัดพ่อ แล้วเราจะอยู่กันอย่างนี้หรือ สิ่งเหล่านี้จะทำให้ประเทศ ล่มสลาย เกิดจลาจล และสงครามกลางเมืองต่อไป ตนไม่อยากให้ไปถึงจุดนั้น

น.ร.บุกเป่านกหวีดไล่‘รมว.ศธ.’

เวลา 16.00 น. ที่หน้ากระทรวงศึกษาธิการ กลุ่มนักเรียนเลว พร้อมด้วยกลุ่มนักเรียน ชายหญิงจากโรงเรียนต่างๆ จำนวนมากร่วมกัน ชุมนุมขับไล่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ โดยนักเรียนทั้งหมดผูกโบขาว ชู 3 นิ้ว เป่านกหวีด พร้อมทั้งเปิดปราศรัยเกี่ยวกับเมื่อครั้งนายณัฏฐพลร่วมเป็นแกนนำม็อบกปปส.ชุมนุม เมื่อปีพ.ศ.2556-57 ล้มรัฐบาล เลือกตั้ง และได้ดิบได้ดีเป็นรัฐธมนตรี รวมถึง ปราศรัยถึงปัญหาทางการศึกษา ปัญหาทางเพศ การคุกคามนักเรียนในโรงเรียนที่ออกมาจัดกิจกรรมขับไล่เผด็จการ เรียกร้องประชาธิปไตย

โดยหนึ่งในนักเรียนขึ้นกล่าวว่า ทำไมนักเรียนจะยุ่งการเมืองไม่ได้ ทั้งที่เป็นประชาชน เหมือนกัน แล้วถ้านักเรียนไม่ควรยุ่งการเมือง ทหารก็ไม่ควรยุ่ง ควรจะทำหน้าที่ของตัวเอง หรือระบบการศึกษาไทย ที่บอกว่าดี ทำไมชนชั้นนำส่งลูกไปเรียนเมืองนอกได้

ชู 3 นิ้วใส่-ไล่ให้ไปต่อแถว

ต่อมาเวลา 17.10 น. นายณัฏฐพลเดินออกมา จากกระทรวง เพื่อขอพูดคุยกับกลุ่มนักเรียน รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ ทำให้กลุ่มนักเรียนเป่านกหวีดด้วยเสียงดังสนั่นต่อหน้า พร้อมตะโกนขับไล่นายณัฏฐพลให้ออกไป และตะโกนโห่ให้มาต่อแถว หากต้องการมารับฟังข้อเสนอของนักศึกษา

จากนั้นนายณัฏฐพลเดินไปนั่งอยู่ท้ายแถว พยายามเข้าไปพูดคุยกับกลุ่มนักเรียน 5-6 คน ในระหว่างนั้นกลุ่มนักเรียนชู 3 นิ้วใส่ต่อหน้า ขณะที่เวทีด้านหน้าก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยระบุถึงเมื่อครั้งที่นายณัฏฐพลเข้าร่วมการชุมนุมม็อบกปปส. เป่านกหวีดขับไล่รัฐบาลสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกฯ จนตัวเองได้ดิบได้ดีได้เป็นรมว.ศึกษาธิการ

นายณัฏฐพลใช้เวลาพูดคุยกับกลุ่มนักเรียนประมาณ 30 นาที จึงเดินกลับเข้าไปยังกระทรวง ท่ามกลางการคุ้มกันจากตำรวจ เมื่อเดินผ่านกลุ่มนักเรียน ก็ถูกชู 3 นิ้ว และเป่านกหวีดไล่เสียงดัง จนกระทั่งเวลากลุ่มนักเรียนนำโบขาวไปผูกที่ประตูหน้ากระทรวง ศึกษาธิการ และแยกย้ายกลับ

‘สามพระจอม’ชุมนุมคึกคัก

เย็นวันเดียวกัน ที่สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) กรุงเทพฯ กลุ่มนักศึกษาจัดกิจกรรม “#สามพระจอมจะยอมได้ไง” เพื่อขับไล่เผด็จการ และสนับสนุน 3 ข้อเรียกร้อง หยุดคุกคามประชาชน ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และยุบสภา บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ขณะเดียวกัน โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) มาร่วมตั้งโต๊ะล่า 50,000 รายชื่อ เรียกร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ มีกลุ่มนักศึกษา ต่อแถวลงชื่อกันจำนวนมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการปราศรัยแล้ว ยังมีการแสดงดนตรีบรรเลงบทเพลงเสียดสีรัฐบาลและการเมืองไทย ท่ามกลางนักศึกษาเข้าร่วมจำนวนมากเกือบเต็มพื้นที่ อีกทั้งยังมีนักเรียนมัธยมฯ มาร่วมด้วย จนเวลา 19.30 น. เป็นการมอบธงภารกิจจัดชุมนุมเพื่อประชาธิปไตย ให้แก่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ก่อนปิดการชุมนุม

ตร.บุกจับ‘ทนายอานนท์’

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลอาญา ว่า ตลอดทั้งวันนายอานนท์ นำภา ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน เดินทางมาปฏิบัติภารกิจที่ศาล พร้อมทั้งทำหนังสือถึงอธิบดีศาลอาญา ขอให้เพิกถอนหมายจับ หมายค้น หมายยึดคอมพิวเตอร์ รวมถึงขอให้ศาลดูแลความปลอดภัย จนกระทั่งเวลา 18.00 น. นายอานนท์ ลงมาจากศาล แต่ยังไม่ออกไปนอกรั้วอาคารศาล โดยระหว่างนั้นมีตำรวจมาดักเฝ้าติดตามนายอานนท์

จับหน้าศาล – ตำรวจนำหมายศาลจับตัวนายอานนท์ นำภา ทนายความเพื่อประชาธิปไตย หลังจากว่าความที่ศาลอาญา ดำเนินคดีความผิด ม.116 กรณีชุมนุมม็อบแฮร์รี่ พอตเตอร์ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งดำเนินคดีที่สน.ชนะสงคราม เมื่อวันที่ 19 ส.ค.

ต่อมาเวลา 19.00 น. ร.ต.อ.กฤตวัฒน์ ขุนอินทร์ รองสว.กก.สส.1 บก.สส. บช.น นำหมายจับของศาลอาญามาแสดงให้นายอานนท์ดู ก่อนที่นายอานนท์จะออกมาพบ และถูกนำตัวไป สน.ชนะสงคราม โดยนายอานนท์ถูกแจ้งข้อหาร่วมกันกระทําให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน ตามความในมาตรา 116, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกําลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ฯ, เป็นผู้จัดการชุมนุมฯ และความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สืบเนื่องจากขึ้นปราศรัยในกิจกรรมเสกคาถาผู้พิทักษ์ ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 3 ส.ค.

ต่อมาเวลา 19.40 น. ตำรวจควบคุมตัว นายอานนท์มาถึงสน.ชนะสงคราม เมื่อนายอานนท์ลงจากรถก็ชู 3 นิ้ว จากนั้นไม่นาน น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เดินทางมาสน.ชนะสงคราม ก่อนที่ตำรวจจะคุมตัวนายอานนท์ไปควบคุมที่ สน.ห้วยขวาง

จากนั้นกลุ่มส.ส.พรรคก้าวไกล เดินทาง มาสน. จะขอใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัว โดยมีประชาชนจำนวนหนึ่งตามมาให้กำลังใจด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน