ศบค.ไฟเขียวผ่อนคลายอีก 3 กิจกรรม ให้โรงเรียนทุกแห่งเปิดการเรียนการสอนได้เต็มรูปแบบตามปกติแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม และระบบขนส่งโดยสารสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐาน พร้อมอนุมัติต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 1 เดือนตลอดก.ย.นี้ อ้างต่างประเทศยังติดเชื้อสูง อีกทั้งผ่อนคลายในประเทศมากขึ้นยิ่งเสี่ยงติดเชื้อ กรมควบคุมโรคเผยผลตรวจ 38 คนใกล้ชิดสาวชัยภูมิและเลย พบเป็นลบ ไม่ติดเชื้อ ศบค.พบติดเชื้อเพิ่มอีก 1 ราย เป็นหนุ่มไทยบินกลับจากสิงคโปร์ ด้านสธ.จับมือ ‘ออกซ์ฟอร์ด’ มหาวิทยาลัยดังอังกฤษทดลองวัคซีนโควิด

‘บิ๊กตู่‘นั่งหัวโต๊ะถกศบค.ชุดใหญ่

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ส.ค. ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.)

โดยก่อนเข้าวาระการประชุม นายกฯ กล่าวแนะนำรัฐมนตรีใหม่ และเน้นย้ำเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่กับการดูแลสุขภาพของประชาชน

นายกฯ กล่าวว่า นอกจากศบค.แล้ว ยังมีศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ หรือศบศ.เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย เพื่อช่วยติดตามสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและวางมาตรการ เป็นการทำงานคู่ขนาน เพื่อประชาชนและประเทศ โดยจะดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวัง

ด้านนพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมถึง 2 หญิงไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และผ่านการกักกันตัวของรัฐ แต่พบซากเชื้อโควิด-19 ว่า คนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศกลุ่มเสี่ยง เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อินเดีย มีโอกาสจะติดเชื้อโควิด-19 ได้ บางคนเป็นแล้วหาย แต่เมื่อหายแล้วบางคนยังพบซากเชื้ออยู่ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำในวันนี้คือทุกคนที่เดินทางเข้าประเทศไทยต้องผ่านการกักกันตัวอย่างน้อย 14 วัน และตรวจเชื้อ เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค

“เคสที่เกิดขึ้นล่าสุดพบเชื้อน้อยมาก แต่ก็ดำเนินการตรวจเพาะเชื้ออีกครั้ง ซึ่งจะทราบผลใน 7 วันและตรวจภูมิคุ้มกัน ดังนั้นมั่นใจเคสนี้ไม่ได้เพิ่งเป็น แต่เป็นมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่ติดตามญาติ พี่น้อง คนใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความมั่นใจ นำมาตรวจเชื้อพบว่าทุกคนยังเป็นปกติ อยากให้ ทุกคนมั่นใจ” ปลัดสธ. กล่าว

นพ.สุขุมกล่าวด้วยว่า ในที่ประชุม ศบค.จะรายงานให้นายกฯ ทราบถึงการตรวจเชื้อ และการติดตามในทุกขั้นตอน รวมถึงการรายงานสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะต่างประเทศที่มีการระบาดรอบ 2 และการเตรียมหาวัคซีน อุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับประชาชนด้วย ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ 2 จังหวัดที่พบซากเชื้อโควิดสบายใจได้ เพราะจากการตรวจเชื้อ เบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดยังไม่พบใครติดโควิด-19

สธ.จับมืออังกฤษทดลองวัคซีน

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุมศบค.ชุดใหญ่ว่า ที่ประชุมหารือถึงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ต้องการให้กลับเป็นปกติโดยเร็วที่สุด หลังจากผ่อนคลายกิจกรรมกิจการต่างๆ ไปแล้ว โดยกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้จะไปเกลาถ้อยคำในหนังสือที่เราจะขอร่วมทดลองวัคซีนป้องกันโควิด-19 กับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษให้กระชับและชัดเจนยิ่งขึ้น โดยตัวหนังสืออยู่ที่กรมสนธิสัญญา กระทรวงการต่างประเทศที่พิจารณาเนื้อหาและข้อความตามขั้นตอน ซึ่งนายดอน ปรมัตถ์วินัย รอง นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ก็ไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติม จึงต้องรอหนังสือจากกรมสนธิสัญญา ส่งกลับมาถึงตนเพื่อลงนามในหนังสือก่อนตามขั้นตอนต่อไป

“สำหรับประเด็นอื่นๆ เช่น ข้อเสนอเรื่องขยายเวลาเปิดสถานบันเทิงถึงเวลาตีสอง ข้อเสนอของโรงภาพยนตร์ให้เปิดขายตั๋วทุกที่นั่งเต็ม 100 เปอร์เซ็นต์ หรือการเข้าชมการแข่งขันกีฬาเต็มพื้นที่ ยังไม่ได้หารือกันในวันนี้”

ไทยติดเชื้อเพิ่ม 1 จากสิงคโปร์

เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยว่า มี ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย ในสถานที่กักตัวของรัฐ ทำให้มียอดผู้ป่วยยืนยันสะสม 3,390 ราย ยอดหายป่วยสะสม 3,219 ราย มีผู้ป่วยรักษาในโรงพยาบาล 113 ราย ยอด ผู้เสียชีวิตสะสมคงที่ 58 ราย

ส่วนผู้ป่วยรายใหม่เดินทางมาจากสิงคโปร์ เป็นชายไทย อายุ 56 ปี อาชีพพนัก งานบริษัท/โรงงาน เดินทางถึงไทยวันที่ 7 ส.ค. เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 3 ราย เข้าพักในสถานที่กักตัวของรัฐ จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อในครั้งที่ 2 วันที่ 18 ส.ค. ซึ่งเป็นวันที่ 11 ของการกักตัว ผลพบว่า ติดเชื้อ แต่ไม่มีอาการ

ส่วนสถานการณ์ทั่วโลก ยอดผู้ติดเชื้อรวม 22,859,239 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่ในวันเดียวถึง 278,153 ราย รักษาหายแล้ว 15,513,997 ราย เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 6,007 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 797,009 ราย โดย 3 ประเทศที่ติดเชื้อสูงสุดยังคงเป็นสหรัฐฯ บราซิล และอินเดีย

ศบค.ต่อ‘ฉุกเฉิน’อีก 1 เดือน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ประชุมในช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าถ้ามีการ ติดเชื้อจะทำอย่างไรให้ประชาชนเข้าใจและยอมรับว่าไม่ได้เป็นความผิดอะไรของใคร ทุกอย่างเป็นโรคระบาดสามารถเกิดขึ้นได้ และเราต้องร่วมกันรับผิดชอบ การหาเหตุหรืออะไรที่จะกล่าวโทษกันไม่เป็นการสร้างสรรค์ให้เราเผชิญกับโรค เราต้องร่วมมือกัน ไว้วางใจซึ่งกันและกัน เราจึงต้องเรียนรู้จากต่างประเทศเพื่อมาดูแลคนไทย รวมถึงยังพูดคุยถึงศักยภาพสาธารณสุข โดยมีการรายงานในที่ประชุมศบค.ถึงการพัฒนาการทดลองวัคซีน 4 ระยะของไทย โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อยู่ก่อนระยะทดสอบในมนุษย์ ส่วนของจีน สหรัฐ อเมริกา เยอรมัน รัสเชีย และอังกฤษ อยู่ในระยะที่ 3 เราต้องติดตามกระบวนการ ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขรายงานว่า งบประมาณนำไปพัฒนาวัคซีนในประเทศ ไม่ได้นำไปสั่งซื้อวัคซีน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ยังพิจารณาข้อเสนอครม.ขยายเวลาการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไปอีก 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1-30 ก.ย.นี้ และพิจารณาการผ่อนคลายการบังคับใช้กฎหมายหลังการขยาย ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือโรงเรียนทุกแห่งสามารถเปิดการเรียน การสอนได้ตามปกติ อนุญาตแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม และใช้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งทางบกและทางน้ำมีจำนวนผู้โดยสารได้เต็มตามความจุมาตรฐาน

ให้เข้าชมแข่งกีฬาได้แต่จำกัดคน

“ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่พิจารณาผ่อนคลายกิจกรรมและกิจการเพิ่มเติม 3 กิจกรรม ตามที่ทดลองใช้มาแล้วตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา ทั้งการเปิดเรียนเต็มรูปแบบ การให้ขนส่งสาธารณะมีจำนวนผู้โดยสารเต็มความจุมาตรฐาน การอนุญาตแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม โดยกำหนดประเภทกีฬาให้เป็นสนามกีฬากลางแจ้งชนิดที่มีการตะโกนเชียร์และไม่มีการตะโกนเชียร์ สนามกีฬาในร่ม ชนิดมีการตะโกนเชียร์และไม่มีการตะโกนเชียร์ ซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในระดับ สีเขียว จึงร่างแนวทางจัดการแข่งขันกีฬาแบบมีผู้ชม ให้สนามกีฬากลางแจ้งที่มีการตะโกนเชียร์ให้มีผู้ชมได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม อาทิ ฟุตบอล รักบี้ ส่วนสนามกีฬากลางแจ้งที่ไม่มีการตะโกนเชียร์ ให้มีผู้ชมได้ 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม เช่น เทนนิส ยิงธนู และยิงปืน ขณะที่สนามกีฬาในร่มที่มีการตะโกนเชียร์ ให้มีผู้ชมได้ 15 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม อาทิ บาสเกตบอล วอลเลย์ บอล และมวย ส่วนสนามกีฬาในร่มแบบไม่มีการตะโกนเชียร์ ให้มีผู้ชมได้ 25 เปอร์เซ็นต์ของความจุสนาม เช่น สนุกเกอร์ และหมากรุก” โฆษกศบค.กล่าว

เมื่อถามถึงศบค.ขยายเวลาพ.ร.ก.ฉุกเฉินไปอีก 1 เดือน ตลอดเดือนก.ย. ด้วยเหตุผลใด มีปัจจัยเสี่ยงอย่างไร และฝ่ายความมั่นคงหารือร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขก่อนหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ก่อนจะมีมติออกมาเช่นนี้ มีการประชุมหารือกันหลายครั้ง เป็น การหารือร่วมภายในที่ประชุม ซึ่งประกอบด้วยหลายกระทรวง ทุกกระทรวงต้องมามีส่วนร่วมตัดสินใจและนำเสนอเป็นขั้นตอนขึ้นไปจนกระทั่งถึงที่ประชุมใหญ่ศบค. และวันเดียวกันนี้มีมติให้ขยายเวลาออกไปอีกหนึ่งเดือน เนื่องจากนอกประเทศยังมีการติดเชื้อสูง ขณะที่ในประเทศมีการผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ เหมือนปกติ เท่ากับมีความเสี่ยงติดเชื้อได้ง่าย

โฆษกศบค. กล่าวต่อว่า ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลคือเรื่องของคน เพราะการติดเชื้อนั้นติดโดยผ่านพฤติกรรมของคน และคนที่สามารถควบคุมได้คือภายในประเทศ และที่พยายามจะควบคุมคือคนต่างด้าวที่พยายามจะเข้ามาในประเทศ ขณะเดียวกันก็มีการเดินทางเข้ามาหลายเส้นทาง ทั้งทางบกทางน้ำ จึงจำเป็นต้องมีการบูรณาการงานด้วยกันหลายกฎหมาย ดังนั้นเป็นความละเอียดอ่อนอย่างมาก แต่การมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ได้ทำให้ชีวิตประจำวันของประชาชนเปลี่ยนไปแต่อย่างใด การใช้ชีวิตประจำวันยังคงเดิมอยู่ได้ทุกอย่างไม่มีเคอร์ฟิว กิจการและกิจกรรมยังดำเนินไปได้ทุกอย่าง แต่ต้องอยู่ภายใต้ภาวะนิวนอร์มัล หรือชีวิตวิถีใหม่

‘มวย-สนุ้ก’เฮคนเข้าดูได้

ผู้สื่อข่าวถามถึงการแข่งกีฬาที่อนุญาตให้มีผู้ชมเข้าชมได้นั้นจำกัดจำนวนคนหรือไม่ นอกจากนี้การแข่งขันม้าจะเปิดได้เมื่อใด โฆษกศบค.กล่าวว่า เรื่องการแข่งขันกีฬา มีการหารือหลายรอบเนื่องจากกีฬาเป็นปัจจัยหนึ่งที่เกี่ยวโยงกับชีวิตประจำวันและโยงไปกับเรื่องสุขภาพและเรื่องเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงแบ่งชนิดของกีฬาที่ศบค.พิจารณาในส่วนที่โยงมาถึงด้านสุขภาพ คือกีฬากลางแจ้งและกีฬาในร่ม ซึ่งสถานที่ปิดในร่มนั้นอาจทำให้ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ยังติดได้จากการตะโกนเชียร์กีฬา เช่นที่เกิดขึ้นในสนามมวย ซึ่งกีฬากลางแจ้งก็แบ่งได้ เช่น ฟุตบอล รักบี้ ฮอกกี้ วอลเลย์บอลชายหาด แข่งขันรถยนต์ แข่งขันจักรยาน หรือกีฬากอล์ฟที่แข่งขันโดยไม่มีการตะโกนเชียร์ แต่เป็นเพียงการเชียร์เล็กน้อยเท่านั้น ยิงปืน เปตอง ก็เป็นกีฬากลางแจ้ง แต่ไม่ค่อยมีประเด็น

ส่วนกีฬาในร่มที่มีการตะโกนเชียร์ เช่น บาสเกตบอล วอลเลย์บอล มวย ทำให้ติดเชื้อได้อย่างดี ส่วนกีฬาที่ไม่มีการตะโกนเชียร์ เช่น สนุ้กเกอร์ ที่นานๆ จะส่งเสียงเชียร์สักครั้งหนึ่ง หมากรุก ยิมนาสติกที่ไม่มีการเชียร์ ดังนั้น การดูแลกลุ่มกีฬาเหล่านี้อาจจะให้มีจำนวนนั่งชมได้มากขึ้น ศบค.จึงพิจารณาแบ่งประเภทกีฬาเป็นสีขาว สีเขียว สีส้ม สีแดง แล้วได้ระบุจำนวนเปอร์เซ็นต์ที่นั่งชมเข้าไปว่าแต่ละประเภทเข้าชมได้แค่ไหน โดยต่ำสุด 15% ไปจนถึงสูงสุด 70% เพื่อให้เกี่ยวโยงกับปริมาณการจุของสนามกีฬานั้นๆ เช่น สนามศุภชลาศัย ทั้งนี้รายละเอียดต่างๆ เรานี้มี รายละเอียดอยู่มากและจะได้นำเสนอชุดข้อมูลนี้ไปยัง เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลโควิด-19

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำอย่างไรจะทำให้คนไทยลดความกังวลความกลัวลง โดยเฉพาะการกลัวคนที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือนักธุรกิจที่กำลังเดินทางเข้ามาติดต่อค้าขาย โฆษกศบค.กล่าวว่า โจทย์นี้เป็นโจทย์ที่ ยากมากๆ เพราะขณะนี้นอกจากบริหารสถานการณ์โควิด-19 แล้วเรายังต้องบริหารอารมณ์คนไทยไปพร้อมกันด้วย ศบค.วิเคราะห์แล้วว่าคนไทยในประเทศหลังจากเราปลอดเชื้อภายในประเทศมานาน มีคนสองกลุ่มคือกลุ่มหนึ่งคือคนที่ยังมีความกังวลอยู่ ไม่ว่าจะเป็นคนป่วย ผู้สูงอายุ คนที่มีความสนใจในเรื่องสุขภาพมากๆ จะกังวลถึงมาตรการที่จะออกมาว่ามีความสูงเสี่ยงอย่างไรซึ่งขณะนี้คนกลุ่มนี้มีอยู่จำนวนมาก

“ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือกลุ่มคนที่ได้รับ ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ทำมาหากินไม่ได้ จากโรงแรมหรูที่สุด ถึงพ่อค้าแม่ค้าขายของริมถนน คนที่ต้องทำมาหากินกลุ่มนี้ก็บอกว่าขอให้ผ่อนคลายเร็วๆ ทุกอย่างต้องการให้กลับไปสู่ภาคปกติ ศบค.ต้องบริหารอารมณ์ของคนสองกลุ่มนี้ จะตึงเกินไปหรือหย่อนเกินไปด้านใดด้านหนึ่งก็มีการต่อว่าหรือกระทบกันขึ้นมา จึงต้องบริหารอารมณ์ของคนไทยทั้งสองฝั่งนี้ด้วย เพื่อประคับประคองทั้งการควบคุมโรคและเศรษฐกิจให้ไปด้วยกัน ซึ่ง นายกฯ ในฐานะผอ.ศบค.ก็พูดเรื่องนี้ในที่ ประชุมศบค.ว่าจะทำอย่างไรที่เราจะต้องรักษาสถานการณ์และอารมณ์ โดยนายกฯ เน้นย้ำเรื่องความไว้วางใจ ความไว้เนื้อเชื่อใจกัน สร้างการรับรู้ให้เท่าเทียมกันและให้เข้าใจกัน ฉะนั้นไม่ได้มีใครเป็นฝ่ายถูกฝ่ายผิด ถ้าจะต้องเกิดเหตุการณ์ระบาดขึ้นมา”

โฆษกศบค. กล่าวว่า แน่นอนว่าในโลกของความเป็นจริงไม่สามารถยืนระยะของความเป็นตัวเลข 0 ไปได้ตลอด เพราะฉะนั้นจะต้องเกิดการติดเชื้อขึ้นมา แล้วต้องอยู่กันไปอย่างนี้ เหมือนที่ตนเคยเน้นย้ำเรื่อง ไข้เลือดออก ไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเราก็อยู่กับโรคมาได้ แต่ไม่ว่าเราจะต้องอยู่อย่างนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ วัคซีนจะมีหรือไม่ แต่เกราะป้องกันที่เราพิสูจน์กันมาแล้วคือการสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยที่ต้องพกติดตัวและใช้อยู่ตลอดเวลา และเน้นย้ำ 5 ข้อที่ยังต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์กัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาด ปราศจากความแออัด

คนใกล้ชิดสาวชัยภูมิปลอดเชื้อ

ด้านนพ.วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สาธารณสุขจ.ชัยภูมิ เปิดเผยถึงกรณีตรวจพบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด 2 ราย เป็นผู้หญิงในจ.เลย และจ.ชัยภูมิว่า ใน 1 รายที่จ.ชัยภูมิ ตรวจสอบพบว่าเป็นหญิงอายุ 34 ปี ชาว อ.ภูเขียว เคยไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเมื่อวันที่ 17 ส.ค. เตรียมตัวเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ จึงเข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่ร.พ.รามาธิบดี ผลการตรวจเมื่อวันที่ 18 ส.ค. พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ในปริมาณน้อย และเจาะเลือดตรวจพบภูมิคุ้มกัน ขณะนี้แพทย์รับไว้ดูแลในร.พ. รามาธิบดี

“สรุปได้ว่าเป็นผู้ติดเชื้อรายเดิมที่พบซากเชื้อ และเคยอยู่ในสถานที่กักกันจนครบกำหนดแล้ว ปัจจุบันไม่น่าจะมีเชื้อแล้ว ตอนนี้ยัง ไม่เรียกว่าเป็นผู้ป่วย แต่ตามแนวทางป้องกันโรคที่มีหลายฝ่ายเป็นห่วง ขณะนี้ทางสสจ.ชัยภูมิส่งทีมสอบสวนและควบคุมโรคไปในพื้นที่แล้ว ทีมเคลื่อนที่เร็วลงไปเก็บข้อมูลทั้งหมด ตรวจหาเชื้อกับผู้ใกล้ชิดหญิงวัย 34 ปี ทั้งหมด 5 คน คือแม่ ลูก 2 คน น้องสาวอีกคนหนึ่ง และมีเพื่อนใกล้ชิดที่ไปมาหาสู่ที่บ้านนี้ไปบ่อยๆ คอยขับรถให้ เป็นสุภาพสตรี ก็นำตัวมาตรวจหาเชื้อหมดแล้ว ผลออกมาเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 20 ส.ค. เป็นลบ หมายถึงไม่ติดเชื้อโควิด-19”

นพ.วชิระกล่าวต่อว่า วันนี้นำเพื่อนบ้านที่อยู่รอบข้างบ้านของหญิงอายุ 34 ปี ซึ่งเป็น กลุ่มเสี่ยงน้อยอีก 12 คน มาตรวจหาเชื้อ พี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่ต้องตกอกตกใจ เป็นการดำเนินล่วงหน้าไว้ก่อน ตามมาตรการควบคุมป้องกันโรค ประชาชนยังคงไปมาหาสู่กันได้ตามปกติ เป็นเพียงเรื่องของการ เฝ้าระวังไว้ก่อนเท่านั้น

ผลสอบโรค 38 คนไม่ติดโควิด

วันเดียวกัน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานความคืบหน้าผลการสอบสวนและควบคุมโรคกรณีหญิงไทย 2 รายที่มารับการตรวจสุขภาพก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ พบผลการตรวจโควิด-19 ในปริมาณน้อย และเจาะเลือดพบมีภูมิคุ้มกัน บ่งชี้เคยมีการติดเชื้อมาก่อนนั้นว่า จากการลงพื้นที่สอบสวนโรคเพื่อค้นหาและติดตามตัวผู้ใกล้ชิดในครอบครัวและชุมชน และเก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อก่อโรคโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR พบว่า 1.มีผู้ใกล้ชิดในครอบครัวและเพื่อนบ้านของหญิงรายที่ 1 อายุ 34 ปี ชาวจ.ชัยภูมิ รวม 23 คน ผลการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการพบว่า ทั้งหมดให้ผลเป็นลบ ไม่พบสารพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19

2.มีผู้ใกล้ชิดในครอบครัวและเพื่อนบ้านของหญิงรายที่ 2 ที่อายุ 35 ปี จ.เลย รวม 15 คน ผลการตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการพบว่าทั้งหมดให้ผลเป็นลบเช่นกัน

กรมควบคุมโรคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงดำเนินการตามขั้นตอนการสอบสวนและมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องจนครบกระบวนการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนยังคงดูแลป้องกันตนเอง ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่องเช่นเดิม โดยสวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง ลดแออัด

สั่งทุกจว.เข้มคนกลับจากตปท.

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน สั่งการไปยัง ผู้ว่าฯ ทุกจังหวัดและผู้ว่าฯ กทม. ให้แจ้งอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ติดตามและเฝ้าระวังเพื่อสังเกตอาการผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายหลังพ้นจากการกักตัวแล้ว และเดินทางเข้าพื้นที่หมู่บ้านและในชุมชน

ทั้งนี้หากสงสัยหรือพบอาการป่วยให้ประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อเข้ารับการรักษาและประเมินอาการว่าเข้าข่ายสงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือไม่ หากเข้าข่ายสงสัยว่าจะติดเชื้อ ให้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคที่จังหวัดกำหนด รวมทั้งเน้นย้ำการดำเนินชีวิตแบบวิถีใหม่แก่ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด

บุกร้อง‘บิ๊กตู่’ทบทวนปิดประเทศ

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่บริเวณศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล กลุ่ม Love Is Not Tourism Thailand จำนวน 8 คน นำโดยน.ส.เทพสวรินทรี ตะเพียรทอง เข้ายื่นหนังสือถึงนายกฯ ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เรื่องขอเรียกร้องให้พิจารณา อนุญาตให้ครอบครัว คู่รักสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลกำหนดมาตรการหลายประการ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด หนึ่งในนั้นคือมาตรการห้ามการเดินทางเข้าประเทศโดยสายการบินพาณิชย์ตามปกติอย่างไม่มีกำหนด ทำให้ญาติพี่น้อง หรือคนรักชาวต่างชาติ ที่พำนักอยู่ต่างประเทศ ไม่สามารถพบกันได้เป็นเวลานาน และยังไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุด นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศใช้มาตรการปิดประเทศ

ทางกลุ่มเห็นว่ารัฐบาลควรพิจารณาทบทวนการใช้มาตรการปิดประเทศดังกล่าว เนื่องจากเป็นมาตรการที่จำกัดสิทธิ์ เสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และสร้างภาระเกินสมควรแก่ประชาชน ซึ่งกลุ่มให้ความร่วมมืออย่างดีมาตลอด ขณะนี้ผ่านมา 5 เดือนแล้ว จึงอยากให้รัฐบาลช่วยพิจารณาเพิ่มเติม คือขอให้ออกวีซ่าหรืออนุญาตให้ครอบครัวและคู่รักได้เจอกัน ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรมโดยพิจารณาจากหลักฐาน เช่น พาสปอร์ตที่เธอเดินทางเข้าในประเทศไทย รูปถ่ายข้อความหรือวิดีโอต่างๆ เพื่อยืนยันความเป็นคู่รักและครอบครัว โดยอาจแบ่งโควตาของแรงงานต่างชาติ กลุ่มกองถ่ายจากต่างประเทศที่รัฐบาลอนุญาตให้เข้าไทย แรงงานต่างด้าว, พิจารณาให้มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับคนที่ตกค้างอยู่ต่างประเทศหรือพิจารณาให้มีสายการบินพาณิชย์ตามปกติโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้กลุ่มพร้อมยอมทำตามมาตรการด้านความปลอดภัยทุกอย่างเช่นการกักตัวหรือการตรวจเชื้อโควิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน