กรมป่าไม้ลุยแจ้งจับ
จ่อโดนอีกอือ83ราย

รุก ‘ม่อนแจ่ม’ กรมป่าไม้ลุยรื้อถอน 30 รีสอร์ต ดำเนินคดีฐานก่อสร้างอาคารในพื้นที่อ่อนไหวต่อระบบนิเวศ จากเดิมเป็นที่อยู่อาศัย แต่ปรับเปลี่ยนเป็นสถานประกอบการท่องเที่ยว ที่พัก โรงแรมผิดกฎหมาย มีนอมินีเป็นนายทุนต่างชาติ และคนไทย ส่วนอีก 83 ราย กำลังจัดระเบียบที่อยู่อาศัยทำกินใหม่ เพราะเป็นคนพื้นที่ดำเนินการเอง โดยก่อสร้างเกินเลยจากข้อกำหนด

รุกม่อนแจ่ม – เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้ารื้อถอนรีสอร์ต 30 แห่ง รุกป่าม่อนแจ่ม แหล่งท่องเที่ยวดังของเชียงใหม่ หลังเข้าตรวจสอบทั้งหมด 113 แห่ง เตรียมรื้ออีกที่ม่อนม่วน ม่อนจ้อ ม่อนแสนสิริจันทรา ไร่นาย เมื่อ วันที่ 30 ส.ค.

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม (ทส.) ลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาที่ดินในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม โดยมีนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

นายธเนศพลกล่าวว่าได้รับมอบหมายจาก นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส. ให้ติดตามแก้ปัญหาการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ริม หรือม่อนแจ่ม และการฟื้นฟูสภาพดอยม่อนแจ่มในพื้นที่โครงการหลวงที่บุกรุกแผ้วถางก่อสร้างรีสอร์ต โดยที่มีผ่านมากรมป่าไม้ดำเนินคดีและรื้อถอนรีสอร์ตผิดกฎหมายมาอย่างต่อเนื่อง เพราะก่อสร้างอาคารในพื้นที่ที่มีความอ่อนไหวต่อระบบนิเวศ ซึ่งเดิมเป็นที่อยู่อาศัย แต่ปรับเปลี่ยนเป็นสถานประกอบการ ที่พัก รีสอร์ต หรือโรงแรมโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย จำนวนถึง 113 ราย ซึ่งผิดกฎหมายทั้งหมด โดยดำเนินคดี 30 ราย เป็นนายทุนที่มีนอมินีทั้งต่างชาติและคนไทย ส่วนอีก 83 ราย กำลังพิจารณาจัดระเบียบที่อยู่อาศัยทำกิน เพราะเป็นคนพื้นที่ดำเนินการเอง ด้วยการก่อสร้างเกินเลยจากข้อกำหนด

จากนั้นนายธเนศพลพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เดินทางไปยังพื้นที่ม่อนแจ่ม เข้ารื้อถอนรีสอร์ตม่อนดอยลอยฟ้า เป็นจุดแรก เป็นบ้านพักโฮมสเตย์ 8 หลัง บ้านพักอาศัย 2 หลัง และโรงครัว 1 หลัง ข้อหาความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ และ พ.ร.บ.ความคุมอาคาร ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เข้าตรวจยึดพื้นที่แสงอรุณแคมป์ แจ้งความดำเนินคดีนายสมบัติ เมธาอนันต์กุล และตรวจยึดพื้นที่ 1-0-93 ไร่ ข้อหาเปลี่ยนการครอบครอง

ต่อมาเข้าตรวจสอบพื้นที่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ม่อนวิวงาม พบว่าบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิม และก่อสร้างอาคารที่พักบริการนักท่องเที่ยวครอบคลุม เนื้อที่ 22-1-56 ไร่ มีสิ่งปลูกสร้าง 130 รายการ ทั้งยังดำเนินการในลักษณะธุรกิจชัดเจน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังพบทางคอนกรีตขนาดความกว้าง 2 เมตร ยาว 15 เมตร เชื่อมต่อมาจากเส้นทาง ภายในสถานประกอบการมายังบริเวณถังเก็บกักน้ำ จำนวน 4 ถัง ซึ่งถังเก็บกักน้ำต่อระบบประปาไปยังสถานประกอบการ อธิบดีกรมป่าไม้สั่งการให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ และฟ้องเรียกค่าเสียหายของรัฐ จำนวน 1,527,988.45 บาท

นายอรรถพลกล่าวว่า กรมป่าไม้จะรื้อ รีสอร์ตต่อจากรีสอร์ตม่อนดอยลอยฟ้า อีก 4 แห่ง ประกอบด้วยรีสอร์ตม่อนม่วน ดำเนินการโดยบริษัท บ้านเพลินแสงดาว จำกัด บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 11-3-33 ไร่, ไร่นาย บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เนื้อที่ 5-1-82ไร่, รีสอร์ตม่อนจ้อ และม่อนแสนสิริจันทรา

สำหรับรีสอร์ต 30 แห่งที่ถูกดำเนินคดีและรื้อถอน ประกอบด้วย 1.ภูชวนหลง 2.บ้านท่าจัน 3.ม่อนซาน 4.ม่อนแสงระวี 5.ม่อนซากุระ 6.แสงเหนือแคมป์ปิ้ง 7.หลังสวนโฮมสเตย์ 8.ภูเบิกฟ้า 9.ม่อนดาวเรือง 10.ม่อนผาสุข 11.ม่อนอิงดาว 12.บ้านภูหมอก 13.ม่อนเหนือ 1,2 14.ม่อนดูดาว 15.ม่อนจ้อ 16.แสงอรุณ แคมป์ 17.ม่อนวิวงาม 18.เบสท์แลนด์ 19.ม่อนไอดิน 20.ไร่นาย 21.ม่อนดอยลอยฟ้า 22.ม่อนใจ 23.ระเบียงร้อยดาว 24.ม่อนม่วน 25.ม่อนไม่มีชื่อ 26.ม่อนแสนสิริจันทรา 27.ม่อนพอเพียง 28.มายาแคมป์ปิ้ง 29.ม่อนไม่มีชื่อ และ 30.แคมป์ไซอิ๋ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน