ติดโควิด-รอบ100วัน รายแรก นักโทษในเรือนจำ

เป็นดีเจผับกรุง
เพิ่งเข้ามา26สค.
เร่งสอบสวนโรค
สั่งกักด่วน63คน
‘ผู้ต้องขัง-จนท.’

ไทยพบติดโควิดรายแรกในประเทศ หลังไร้เชื้อมานาน100 วัน เป็นนักโทษใหม่คดียาเสพติด หลังส่งตัวมาเรือนจำทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเมื่อ 26 ส.ค. ประวัติเป็นดีเจผับดังในกรุง ไม่เคยสัมผัสผู้ป่วย และไม่เคยไปต่างประเทศ สั่งกักตัวกลุ่มเสี่ยงสูง 63 คน มีทั้งคนในครอบครัว เพื่อนผู้ต้องขัง เจ้าหน้าที่เรือนจำ รวมทั้งทนายความที่พาไปขึ้นศาล สธ.เร่งสอบสวนโรค เตรียมสั่งปิดผับ 3 วันทำความสะอาด ฆ่าเชื้อ ขณะที่ศบค.เผยพบป่วยโควิดอีก 2 กลับจากต่างประเทศ ‘บิ๊กแดง’ลุยตรวจชายแดนเชียงรายสกัดโควิด ส่วนที่ราชบุรีจับพม่าลักลอบเข้าไทย

กักโควิด – เจ้าหน้าที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กรุงเทพฯ แยกห้องกักตัวดีเจหนุ่ม ผู้ต้องขังคดียาเสพติด หลังตรวจพบติดเชื้อโควิด สอบสวนโรคพบมีผู้สัมผัสใกล้ชิดอยู่ในข่ายเฝ้าระวัง รวม 63 คน เมื่อวันที่ 3 ก.ย.

พบติดโควิดเพิ่ม 2 กลับจากตปท.

เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ เพิ่ม 2 ราย ไม่มีหายป่วย และไม่มีเสียชีวิตเพิ่มเติม ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 3,427 ราย หายกลับบ้านรวม 3,274 ราย ยังรักษาอยู่ในร.พ. 92 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย

ทั้งนี้ ผู้ป่วยรายใหม่มาจากต่างประเทศแล้วเข้าพักในสเตต ควอรันทีน ได้แก่ 1.อินโดนีเซีย 1 ราย เป็นนักศึกษาชายไทย อายุ 22 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 20 ส.ค. เข้ารับการกักตัวใน สเตต ควอรันทีน จ.ชลบุรี ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ โดยมีผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้าจากเที่ยวบินเดียวกัน 2 ราย และ 2. สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทยอายุ 23 ปี อาชีพรับจ้าง เดินทางถึงไทยวันที่ 21 ส.ค. เข้ารับการกักตัวในสเตต ควอรันทีน ในกทม. ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 วันที่ 1 ก.ย. ผลตรวจพบเชื้อ แต่ไม่มีอาการ เข้ารับการรักษาในร.พ.แห่งหนึ่งใน กทม.

ทั่วโลกป่วยทะลุ 26 ล้าน

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มี ผู้ติดเชื้อรวม 26,177,586 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 286,369 ราย อาการรุนแรง 60,617 ราย รักษาหายแล้ว 18,442,235 ราย เสียชีวิต 867,347 ราย

โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,290,737 ราย เป็นรายใหม่ 41,211 ราย 2.บราซิล 4,001,422 ราย เป็นรายใหม่ 48,632 ราย 3.อินเดีย 3,848,968 ราย เป็นรายใหม่ 82,860 ราย 4.รัสเซีย 1,005,000 ราย เป็นรายใหม่ 4,952 ราย 5.เปรู 663,437 ราย เป็นรายใหม่ 6,308 ราย ขณะที่พม่าติดเชื้อเพิ่มขึ้น 76 ราย รวม 995 ราย

พบนักโทษชายติดโควิด

วันเดียวกัน พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ขอรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำ ขณะนี้พบผู้ต้องขังชาย คดีพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ อายุ 37 ปี อยู่ระหว่างพิจารณา ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ซึ่งทางทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เป็นผู้รับตัวไว้ เมื่อวันที่ 26 ส.ค. 2563 และเข้ารับการกักกันตัวในห้องแยกโรคตามนโยบายกรมราชทัณฑ์ในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 2 ก.ย.2563 คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 กลุ่มผู้ต้องขังรับใหม่ภายในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางเป็นประจำทุกประจำสัปดาห์ จึงพบว่ามีผู้ต้องขังเข้าใหม่ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 1 ราย ดังกล่าว จากนั้นกรมราชทัณฑ์ลงพื้นที่เพื่อหาสาเหตุการติดเชื้อในผู้ต้องขังรายนี้เป็นการเร่งด่วนแล้ว และสั่งการให้ย้าย ผู้ติดเชื้อไปเข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ทันที และย้ายผู้ต้องขังที่ได้รับการกักตัวในหอแยกโรคของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลางที่อยู่ในหอนอนเดียวกัน ไปแยกกักกันโรคต่อจนครบ 14 วัน ที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ด้วยเช่นกัน

“วันนี้กรมควบคุมโรคและสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมืองเข้าสอบสวนโรค และส่งตรวจเลือดกลุ่มผู้ต้องขังที่อยู่หอนอนเดียวกัน จำนวน 34 คน โดยผู้ต้องขังที่พบผลบวก 1 ราย ได้เก็บส่งตรวจเพื่อเพาะเลี้ยงเชื้อโควิด- 19 แยกประเภทเชื้อเป็นหรือเชื้อตาย ที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จากการซักประวัติพบว่าผู้ต้องขังรายนี้ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศ ไม่เคยสัมผัสผู้ติดเชื้อก่อนเข้าเรือนจำ ประกอบอาชีพดีเจ ย่านพระราม 3 และพระราม 5 พร้อมนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณ สุข ยังเข้าตรวจกลุ่มเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ต้องขังดังกล่าว อีกด้วย”

เผยเป็นรายแรกรอบ 100 วัน

พ.ต.อ.ณรัชต์กล่าวต่อว่า ผู้ต้องขังรายนี้เป็นผู้ต้องขังรับใหม่เข้ามาอยู่เรือนจำได้เพียง 8 วัน และยังอยู่ระหว่างการแยกกักโรค 14 วัน ตามมาตรการของกรมราชทัณฑ์ มิได้สัมผัสกับ ผู้ต้องขังเก่าในเรือนจำแต่อย่างใด อีกทั้งผลการตรวจดังกล่าวยังไม่สามารถยืนยันว่าผลตรวจหาสารพันธุกรรมเชื้อโควิด-19 ของ ผู้ต้องขังรายนี้ เป็นผลบวกต่อเชื้อที่มีชีวิตหรือผลบวกต่อเศษซากเชื้อที่ตายแล้ว หากผลการตรวจเป็นประการใด กรมราชทัณฑ์จะรายงานและแจ้งให้ประชาชนทราบอีกครั้งหนึ่ง และกรมราชทัณฑ์ยังคงมีมาตรการในการควบคุมและป้องการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ภายในเรือนจำอย่างเคร่งครัดต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ถือเป็นผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรก หลังจากไทยไม่พบผู้ป่วยมานาน 100 วัน

ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือศบค. เปิดเผยว่า มีนักโทษในเรือนจำติดโควิด-19 จำนวน 1 คน โดยผลตรวจครั้งแรกพบเป็นบวก ขณะนี้รอผลตรวจเลือดซ้ำอีกครั้ง โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม รับทราบแล้ว พร้อมกำชับให้กระทรวงสาธารณสุขรวบรวมข้อมูลให้ตรงกันและแจ้งให้ประชาชนรับทราบ

“เบื้องต้นทราบว่าเป็นผู้ต้องขังใหม่ อยู่ในทัณฑสถานบําบัดพิเศษกลาง เข้ามาในเรือนจำเมื่อวันที่ 26 ส.ค. ไม่แสดงอาการใดๆ แต่ตรวจพบว่าติดโควิด-19 เมื่อวันที่ 2 ก.ย. ในห้องมีผู้ต้องขังอื่นร่วมด้วย 30 คน แต่ตรวจแล้วไม่พบว่าติดเชื้อ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แยกทั้ง 30 คนไว้แล้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่อีก 50 คนมากักตัว” โฆษกศบค. กล่าว

เผยเป็นดีเจร้านอาหารในกทม.

เมื่อเวลา 17.00 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงถึงกรณีดังกล่าวว่า การพบผู้ต้องขังชายแรกรับที่มีการติดเชื้อโควิด 19 เป็นช่วงระหว่างกักกัน 14 วัน ก่อนเข้าสู่แดนปกติของทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ถือเป็นการติดเชื้อภายในประเทศหลังจากที่ผ่าน 100 วันที่ไม่มีรายงานการติดเชื้อภายในประเทศ ทั้งนี้ถ้าประชาชนยังปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความคุมโรคอย่างเคร่งครัด ได้แก่สวมหน้ากาก ล้างมือ แยกของใช้ เว้นระยะห่าง แม้จะมีผู้ติดเชื้อที่ส่วนใหญ่ 80% ไม่มีอาการ ก็จะทำให้ลดโอกาสเรื่องการติดเชื้อระหว่างกันลงต่ำมากๆ

“เมื่อไรก็ตาม ถ้าประชาชนสังคมเริ่มผ่อนคลายหรือลดพฤติกรรมป้องกันควบคุมโรค จะมีโอกาสพบผู้ติดเชื้อในประเทศเรามากขึ้นตามลำดับ เพราะตอนนี้เราผ่อนคลายกิจการกิจกรรมทางสังคมต่างๆ โอกาสผู้คนมาพบปะกันจะมากขึ้น ขอให้คงการป้องกันโรคในระดับสูง อย่างสม่ำเสมอ แม้มีกิจกรรมพบปะกันมากขึ้น แออัดมากขึ้น เว้นระยะห่างลดลง ก็สามารถดำรงโอกาสการแพร่เชื้อในประเทศระดับต่ำ” นพ.สุวรรณชัยกล่าว และว่า เราพยายามเน้นเสมอว่า คงไม่อยู่กับตัวเลข 0 ถ้าพบผู้ติดเชื้อ จะตรวจจับให้เร็วที่สุด และตีขอบเขตเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในวงจำกัด และเรื่องเวชภัณฑ์ บุคลากร เตียง เรามีความพร้อมรองรับ ไม่อยากให้ตื่นตระหนก”

ด้านพญ.วลัยรัตน์ ไชยฟู ผอ.กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามปกติเรือนจำจะมีการแยกกักผู้ต้องขังแรกรับ มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามปกติ หากพบความผิดปกติก็จะรายงานมายังกรมควบคุมโรค ซึ่ง ผู้ติดเชื้อรายนี้เรารับทราบข้อมูลเมื่อวันที่ 2 ก.ย. มีการส่งตรวจยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2 แห่ง พบว่าติดเชื้อจริง จึงส่งทีมจากกรมควบคุมโรค สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร และกรมราชทัณฑ์ ลงไปสอบสวน พบว่าผู้ป่วยรายนี้มีอาการวันที่ 29 ส.ค. แต่ไม่ชัดเจน มีแค่เสมหะเท่านั้น ไม่พบเดินทางไปต่างประเทศ

กัก 63 คน-เร่งสอบสวนโรค

จากการซักประวัติย้อนหลัง 14 วัน จากวันที่ 29 ส.ค. พบว่า วันที่ 12 ส.ค. มีการอาศัยกับครอบครัวที่คอนโดฯย่านบางมด มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นคนในครอบครัว 5 คน จะมีการแยกกักต่อไป ส่วนการทำงาน ทำอยู่เป็นดีเจที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง สาขาพระราม 3 วันจันทร์ พฤหัสบดี และเสาร์ และสาขาพระราม 5 วันศุกร์และอาทิตย์ และเป็นดีเจที่ร้านแห่งหนึ่งในถนนข้าวสารในวันที่ 18 ส.ค.

วันที่ 26 ส.ค. ขับรถยนต์ส่วนตัวไปศาลอาญา รัชดา และไปที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง โดยอยู่บริเวณกักกันก่อนเข้าแดนปกติ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 20 คน ได้แก่ทนายความ 1 คน เจ้าหน้าที่เรือนจำ 2 คน นักโทษร่วมตัดสินคดี 2 คน และนักโทษร่วมรถโดยสาร 15 คน จะแยกกักกันต่อไป

วันที่ 26 ส.ค.-2 ก.ย. อยู่บริเวณกักกันก่อนเข้าแดนปกติในเรือนจำ มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 36 คน คือผู้ต้องขังในห้องเดียวกัน 34 คน อาสาสมัครนักโทษ 2 คน และผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 2 คน คือ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์

พญ.วลัยรัตน์กล่าวว่า การสอบสวนโรคจะดูผลการตรวจก่อนว่ามีใครใกล้ชิดที่ป่วยหรือติดเชื้อบ้าง และอาจย้อนขึ้นไปอีก หากไม่เจอใคร โดยต้องดูในชุดแรกก่อน ทั้งนี้คนที่เคยไปร้านที่ผู้ติดเชื้อเป็นดีเจ ถ้าคนในร้านสวมหน้ากาก ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกัน ก็จะไม่ใช่สัมผัสเสี่ยงสูง ดังนั้นขอให้ทบทวนตนเองว่า เคยพูดคุยโดยไม่สวมหน้ากากกับ ผู้ป่วยรายนี้หรือไม่ ถ้าเคยไปคุยเกิน 1 เมตร นานกว่า 5 นาที อาจสัมผัสเสี่ยงสูง หรือสังเกตอาการ ถ้ามีไอ เจ็บคอ น้ำมูก หลังๆ มีหลายรายจมูกไม่ได้กลิ่น ไม่รับรส มีไข้ร่วม ถ้าสงสัยไปตรวจได้ในร.พ.

นพ.วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวว่า ปัจจุบันเรามีผู้ต้องขังที่ดูแล 3 แสนราย รายนี้ถือเป็นรายที่ 2 ที่พบ ซึ่งการพบเกิดจากมาตรการที่เรือนจำกำหนด โดยผู้ต้องขังรายใหม่ทุกรายจะแยกกักไว้ 14 วัน หรือกรณีมีคนมาเข้าใหม่ หรือไปตรวจสุขภาพ ร.พ.ภายนอก หรือไปศาล ก็ต้องเข้ามากักตัว 14 วันเช่นกัน รายนี้ได้รับความร่วมมือจากคณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดลมาช่วยตรวจ พบผลบวก อย่างไรก็ตามยืนยันว่า ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการแพร่เชื้อภายในทั้งเรือนจำ เพราะแบ่งแยกพื้นที่ชัดเจนสำหรับรายใหม่ที่ต้องกักนอกเรือนจำครบ 14 วันก่อน โดยทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง บางเขนมี ผู้ต้องขังประมาณ 8 พันคน ส่วนผู้เกี่ยวข้องสัมผัสเสี่ยงสูงของกรม เรามีรายชื่ออยู่แล้วสามารถติดตามได้

นพ.เมธิพจน์ ชาตะเมธีกุล ผอ.กองควบคุมโรคติดต่อ สำนักอนามัย กทม. กล่าวว่า กทม.ลงสอบสวนโรคที่กรมราชทัณฑ์ บ้านผู้ป่วย และศาล โดยที่บ้านผู้ป่วยพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 7 ราย แต่ติดตามได้ 5 ราย เก็บส่งตรวจเรียบร้อย ยังเหลืออีก 2 รายที่อยู่ในปริมณฑลกำลังจะประสานในการตรวจเช่นกัน นอกจากนี้กำลังตามสถานที่ทำงานผู้ป่วยว่าเป็นที่ไหนบ้าง และดำเนินการปิดเพื่อทำความสะอาด 3 วัน และสอบสวนผู้ใกล้ชิดในที่ทำงานทั้งหมด เพื่อจะแยกคนสัมผัสเสี่ยงสูง เสี่ยงต่ำ ประชาชนที่คิดว่าตนเองสัมผัสผู้ป่วย ไม่มั่นใจว่าอาการผิดปกติหรือไม่ เข้าแอพพลิเคชั่น BKK Covid ของ กทม. เพื่อประเมินเบื้องต้น หากเข้าข่ายจะมี เจ้าหน้าที่โทร.ไปนัดเพื่อดำเนินการตรวจ อย่างไรก็ตาม ร้านที่ผู้ป่วยไปทำงานดีเจ หากเป็นร้านปิดจะมีความเสี่ยงมากกว่า เพราะอากาศจะวนในร้าน แต่หากเป็นดีเจที่ไม่ได้ร้องเพลง ความเสี่ยงก็จะไม่มาก

จับเมียนมาลอบข้ามแดน

วันเดียวกัน เวลา 14.00 น. นายมนตรี โภคานิตย์ ปลัดอำเภอบ้านคา จ.ราชบุรี สนธิกำลังร่วมกับทหารหน่วยเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ เจ้าหน้าที่กอ.รมน.ราชบุรี เจ้าหน้าที่ตม. เข้าตรวจสอบบ้านเลขที่ 4/3 บ้านพุหิน หมู่ 13 ต.บ้านบึง อ.บ้านคา จ.ราชบุรี หลังได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าพบกลุ่มบุคคลแปลกหน้าเข้ามาพักอาศัยภายในหมู่บ้าน

ตรวจสอบพบมีสัญชาติเมียนมา 5 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 1 คน โดยมีนางน้ำค้าง ลายคล้ายดอก อายุ 50 ปี ชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้ให้ที่พักพิง รวมผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน เจ้าหน้าที่ประสานแพทย์ร.พ.บ้านคามาซักประวัติ ตรวจหาสารคัดหลั่ง เพื่อส่งตรวจที่สำนักป้องกันควบคุมโรคที่ 5 ราชบุรี โดยจะทราบผลตรวจวันที่ 4 ก.ย.

นายมนตรี เปิดเผยว่า ผู้ที่ถูกจับกุมลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ เพื่อมาหางานทำเมื่อช่วง 2 วันที่ผ่านมา เป็นชาวเมียนมา อายุ 19 ปี 20 ปี 30 ปี 34 ปี และ 35 ปี ขณะนี้กักและควบคุมตัวไว้ที่ศาลาอเนกประสงค์ของอำเภอ มีเจ้าหน้าที่คอยดูแล เมื่อผลตรวจยืนยันไม่พบเชื้อโควิด -19 ก็จะทำบันทึกจับกุม โดยผู้ต้องหาที่ 1 มีความผิดตามพ.ร.บ.คนเข้าเมือง มาตรา 64 ข้อหาให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ เพื่อให้บุคคลต่างด้าวพ้นจากการจับกุม ส่วนผู้ต้องหา 2-6 ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว (เมียนมา ) เข้ามาและอยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต หากตรวจพบเชื้อโควิด -19 ก็จะนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุขต่อไป

‘บิ๊กแดง’ตรวจชายแดนสกัดโควิด

วันเดียวกัน พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวเปิดเผย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. และคณะ ลงพื้นที่ไปยังด่านแม่สาย จ.เชียงราย เพื่อประเมินสถานการณ์จากกรณีเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 รอบใหม่ในประเทศเมียนมา ซึ่งพบคนต่างด้าว ชาวเมียนมา-ลาว-จีน นับร้อยลักลอบข้ามฝั่งเข้ามาไทยทางช่องทางธรรมชาติต่างๆ ที่มีพรมแดนติดกับประเทศเมียนมา ตลอดแนวในเขต 3 อำเภอคืออ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่จัน และ อ.แม่สาย จ.เชียงราย

โดยทหารกองกำลังผาเมืองยังคงเข้มงวดโดยมีการวางกำลังตั้งจุดตรวจบนถนนสายต่างๆ ปัจจุบันมีการวางกำลังและตั้งจุดตรวจตามถนนสายต่างๆ ตรวจคุมเข้มช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา รวมถึงเพิ่มกำลังไปสนับสนุนหน่วยที่ปฏิบัติอยู่ตลอดแนว

ทั้งนี้ ผบ.ทบ.พบปะพูดคุยพร้อมเน้นย้ำให้ทหารกกล.ผาเมืองตรวจคุมเข้มช่องทางท่าข้ามธรรมชาติตลอดแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้ามาโดยไม่ผ่านการคัดกรองโรคโควิด-19 และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน