พท.เร่งแก้รัฐธรรมนูญ
จ่อยื่นขอเปิดสภาวิสามัญ
บิ๊กแดงชงก่อนเกษียณ
เล็งตั้งทหารเหล่าไซเบอร์

เพื่อไทยรุกอีก จ่อยื่นเปิดประชุมสภาวิสามัญ เร่งแก้รธน. เตรียมดีลซีกรัฐบาล-ส.ว.ร่วมลงชื่อ เทพไทลั่นโหวตหนุน 3 ญัตติ ปิดสวิตช์ส.ว.- ตั้งส.ส.ร.-รื้อระบบ เลือกตั้ง ด้านส.ว.กลุ่มอิสระย้ำไม่เห็นด้วย ตั้งส.ส.ร. ร่างใหม่ทั้งฉบับส่อขัดรธน. เย้ย เพื่อไทยเดินเกมพลาด ปมยกเลิกมาตรา 279 ยิ่งสร้างความขัดแย้ง ‘บิ๊กตู่’ ซัดโควิด ทำเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า วอนอย่ามองทุกอย่าง แย่ไปหมด ‘บิ๊กแดง’ โชว์ไอเดียก่อนเกษียณ ผุดแผนตั้งทหารเหล่าไซเบอร์ รับมือการรบยุคใหม่ ก้าวไกลซัดเอาเงินภาษี สร้างกะลาครอบประเทศ ‘ปลอดประสพ-ยงยุทธ’ ได้พักโทษ ออกจากคุกวันนี้ สิ้น ‘ณรงค์ วงศ์วรรณ’ อดีตนักการเมืองวัย 94 ปี

 

บิ๊กแดงผุดแผนตั้ง‘เหล่าไซเบอร์’

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) วาระพิเศษระดับผู้การกรม และผู้บังคับกองพันทั่วประเทศ จำนวน 655 นาย ก่อนเข้าสู่วาระ พล.อ.อภิรัชต์ ได้ทำพิธีมอบเป้สนามกองทัพบก แบบ A-1 ให้แก่กองทัพบก จำนวน 800 ใบ

พล.อ.อภิรัชต์กล่าวให้โอวาทกำลังพลว่า การแข่งขันไซเบอร์ ถือเป็นเรื่องสำคัญ ตนได้ให้แนวทางและสนับสนุนเยาวชน รวมถึงกำลังพลที่มีความสามารถ ให้กรมกำลังพล ทบ.ไปขอรายชื่อ โดยเฉพาะนักเรียนที่เป็นเยาวชน ถ้าใครอยากรับราชการทหาร ต้องบรรจุ รับเขามาเป็นนักรบไซเบอร์ของทบ. เพราะการรบในปัจจุบันไม่ได้มีแต่การรบในสนาม แต่ยังมีสงครามไซเบอร์เกิดขึ้น

“ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา มีความหนักหนาสาหัส จนสามารถเปลี่ยนแปลงและสร้างความโกลาหล สร้างความเข้าใจผิดในการโน้มน้าวจิตใจเปลี่ยนพฤติกรรมของมนุษย์ได้ ซึ่งเป็นเรื่องอันตราย กองทัพบกมีโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า โรงเรียนนายสิบทหารบก ถือเป็นต้นน้ำ ต้นทางของทบ. ซึ่งได้ส่งเจ้าหน้าที่ ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ฉะนั้น วันข้างหน้า อาจจะมีเหล่าไซเบอร์” ผบ.ทบ.กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ทหารได้ขอให้ผู้บังคับหน่วยที่เข้าประชุม นำโทรศัพท์มือถือวางไว้ที่โต๊ะหน้าประตูทางเข้าหอประชุมกิตติขจร ตามมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการรักษาความปลอดภัยด้วย

‘บิ๊กตู่’ห่วงโยกย้ายทำแตกแยก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ SMART soldiers strong ARMY เผยแพร่ผลการประชุม นขต.ทบ. วาระพิเศษ โดยพล.อ.อภิรัชต์กล่าวในที่ประชุมช่วงหนึ่งว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ได้ฝากข้อห่วงใยเรื่องการปรับย้ายของกองทัพบก ซึ่งได้เน้นย้ำว่ากองทัพบกต้องเป็นหนึ่งเดียว เป็นเสาหลักในการปกป้องอธิปไตยของชาติ กองทัพบกจะมีการแตกแยกไม่ได้ การปรับย้ายทุกปีย่อมมีคนสมหวังไม่สมหวัง ทั้งนี้ ในการปรับย้ายนายทหารระดับชั้นนายพล ผบ.ทบ.ได้หารือส่วนตัวกับรมว.กลาโหม ให้ท่านได้ตัดสินใจ พิจารณาตำแหน่งต่างๆ ให้เหมาะสม พิจารณาจากขีดความสามารถ มากกว่าการพิจารณาจากอาวุโสรุ่น ขอให้ เชื่อมั่นว่าทุกคนทุกหน่วยจะต้องมีโอกาสเจริญก้าวหน้าที่ทัดเทียม สลับปรับเปลี่ยนหมุนเวียนให้มีการระบายอย่างเหมาะสม

นอกจากนี้ พล.อ.อภิรัชต์ ระบุด้วยว่า ได้รับทราบข้อมูลจากช่องทางสายตรง ผบ.ทบ. เรื่องที่ต้องแก้ไขมากที่สุดอันดับหนึ่งคือ การเลื่อนยศ ตำแหน่ง เบี้ยเลี้ยง เงินเดือน รองลงมาคือ สวัสดิการกำลังพล อันดับสุดท้าย คือการถูกลงโทษโดยไม่ได้รับความเป็นธรรม หลายเรื่องที่ร้องเรียนเข้ามา แทบจะไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้นจริง เรื่องเหล่านี้ แม่ทัพ ผบ.พล. ไม่มีทางทราบ ดังนั้น ผบ.หน่วยทุกระดับ ต้องใส่ใจสวัสดิการ สิทธิ กำลังพลของลูกน้อง ต้องเอาใจเขามาใส่ใจเรา อย่าปล่อยปละละเลยเด็ดขาด แม้หลายกรณีอาจเกิดมาก่อนหน้าที่จะดำรงตำแหน่งก็ตาม ผลลัพธ์ที่จะสะท้อนประสิทธิภาพผู้นำหน่วยได้มากที่สุด คือกำลังพล มีผู้นำที่พึ่งพาได้ เป็นแบบอย่างได้ หน่วยจะดี ได้ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับหน่วย จึงอยากให้ผบ.หน่วย ผู้บังคับบัญชาได้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องนี้ด้วย

ก้าวไกลจวกผบ.ทบ.ล้าหลัง

นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรค ก้าวไกล กล่าวถึงพล.อ.อภิรัชต์ พร้อมสนับสนุน เยาวชนและกำลังพลที่มีขีดความสามารถมาเป็น นักรบไซเบอร์ของกองทัพบก เพื่อรับมือ สงครามโซเชี่ยลที่รุนแรงขึ้นในช่วง 5 ปีหลังว่า จะเอาเงินภาษีประชาชนมาสร้างกะลาครอบประเทศ เพื่อสวนกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ได้ การที่กองทัพบกจะคัดเอาคนเรียนเก่งมาเป็นนักรบไซเบอร์ สะท้อนถึงความคิดล้าหลังที่พยายามจะสวนกระแสโลก เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องทักษะการใช้สื่อโซเชี่ยล แต่มันเป็นเรื่องของความคิด ต่อให้หัวดี แต่ถ้ามีความคิดล้าหลัง ขวางโลก ก็ไปไม่รอด

‘บิ๊กตู่’ยันเศรษฐกิจไม่แย่ทั้งหมด

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่บึงบางซื่อ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบบ้านใหม่ให้ชุมชนบึงบางซื่อ 60 หลังแรก จากทั้งหมด 197 หลัง ตามโครงการสานพลังประชารัฐ โดยมีพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ร่วมงาน

นายกฯ กล่าวว่า เป็นรัฐบาลมา 2 สมัยแล้ว ดูแลทุกคน ทุกฝ่าย ทุกระดับ ทุกอาชีพ อาจมากบ้างน้อยบ้าง ต้องใช้เวลาค่อยๆ เดินและคิดว่าได้วางฐานรากไว้ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยความร่วมมือจากทุกฝ่าย รัฐบาลพยายามทำให้ทุกคนมีความสุข ขอให้ทุกคนเข้าสู่ กฎระเบียบ และไม่ต้องกลัวว่ารัฐบาลจะล้วงความลับ ขอให้ระมัดระวังไอ้ผู้หลอกลวงมากกว่า รัฐบาลหลอกลวงใครไม่ได้ หรือจะพูด บิดเบือนไม่ได้ ไม่เหมือนบางคนที่พูดเพื่อคุ้มครองตัวเอง ทุกช่วงเวลามีการเปลี่ยนแปลง แต่การจะเปลี่ยนแบบรื้อทีเดียว ไม่รู้จะทำได้หรือเปล่า จึงขอให้ช่วยกันทำความเข้าใจ ทำให้ บ้านเมืองสงบสุข หลายอย่างจะเดินหน้า ต่อไปได้ เศรษฐกิจจะค่อยๆ ดีขึ้น

นายกฯ กล่าวว่า วันนี้เศรษฐกิจไม่ได้แย่หรือเลวไปทั้งหมด ไม่ใช่อะไรก็เลวก็แย่ แล้วจะทำให้คนมีกำลังใจได้อย่างไร ข้อเท็จจริง ทุกคนรู้อยู่ว่าสาเหตุหลักเพราะโควิดเข้ามา ถ้าไม่มี ก็อาจจะทำอะไรได้เร็วขึ้นกว่านี้ หลายอย่างตกไปโดยเฉพาะรายได้ของประเทศ รัฐบาลพยายามกู้เงินให้น้อยที่สุด เพราะถ้า กู้มากก็เป็นภาระ และทั้งหมดอยู่ภายใต้กฎหมาย ทุกประการ

ลอยแพ – พนักงาน 140 คน นั่งฟังเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานและประกันสังคม อธิบายสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ หลังถูกนายจ้างปิดบริษัทลอยแพกะทันหันเพราะพิษเศรษฐกิจ ที่โรงงานอริยะการทอ จำกัด จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.

ซัดโควิดทำทุกอย่างหยุดชะงัก

“ผมขอฝากใจไว้กับทุกคน ต่างคนต่างช่วยดูแลกัน วันนี้ขอให้ทุกคนมีความรักสามัคคี ถ้ามัวแต่ขัดแย้ง จะทำให้บ้านเมืองมีปัญหา โควิด-19 แรงพออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นทุกอย่างจะหยุดหมด เดินหน้าต่อไม่ได้ เราต้องเริ่มต้นจากอดีต ปัจจุบัน สู่อนาคต รัฐบาลผมก็เอาอดีตมาแก้ไข ต้องทำวันนี้เพื่อวันหน้า” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สถานการณ์โควิดเราต้องดูแล ไม่เช่นนั้น ปัญหาจะรุมเร้าเข้ามา รัฐบาลต้องมาคอยตอบทุกเรื่อง บางทีมันก็ไม่เป็นเรื่อง แล้วพยายามให้มันเป็นเรื่อง ไอ้ที่ ไม่ควรจะเป็นเรื่อง ก็ทำให้มันเป็นเรื่อง นี่คือปัญหาที่เราเจออยู่ในขณะนี้ ขออย่างเดียว ขอให้ประชาชนมีความสุข บ้านเมืองสงบสุข มีความรักสามัคคี ไม่ละเมิดสิทธิมนุษยชนกัน ไม่ละเมิดทำให้คนอื่นวุ่นวาย

ลั่นมีอำนาจไม่หวังรักษาเก้าอี้

“ใครจะทำอะไรผม ถือเป็นหน้าที่ของ เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการ แต่ผมหวังจากประชาชน จะช่วยทำให้ทุกอย่างเรียบร้อยด้วยวิธีการอย่างสันติ คือพูดจากัน ผมไม่มีอะไรกับใคร ไม่ได้ต้องการรักษาตำแหน่ง ไม่ได้ต้องการอำนาจ หรือผลประโยชน์ใดๆ ทั้งสิ้น ผมต้องการอำนาจเพื่อบริหาร เพื่อทำให้ประชาชน จึงต้องมีกฎหมายตัวนี้และผมต้องเป็นคนรับผิดชอบอยู่ดี ผมทำอะไรผิดไม่ได้” นายกฯ กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ปัญหาของประเทศ มีมาก จึงจำเป็นต้องมีรัฐบาล และหน้าที่ของรัฐบาลต้องดูแลคนทุกกลุ่ม ตนบริหารด้วยระบบการบริหารราชการแผ่นดิน ถ้ามันไม่ดี ก็แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลง แต่ทั้งหมดต้องใช้กฎหมาย ใช้กระบวนการของรัฐสภา นั่นคือระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ได้เปิดกระจกรถโบกมือทักทายชาวบ้าน พร้อมระบุว่าขอให้โชคดี ชาวชุมชนจึงตะโกนถามว่า เลขทะเบียนรถยนต์ 429 ใช่มั้ยงวดนี้ พล.อ.ประยุทธ์หัวเราะก่อนกล่าวเตือนว่า “อย่าไปซื้อเยอะนะ”

ชวนย้ำแก้รธน.วาระแรกจบ24ก.ย.

ที่เมืองทองธานี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกลุ่มไทยภักดี เตรียมรวบรวมรายชื่อประชาชน 50,000 รายชื่อ ยื่นคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การคัดค้านหรือการมีความเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ ซึ่งยื่นเสนอความเห็นมาได้ โดยไม่จำเป็นต้องรวบรวมรายชื่อให้ได้ถึง 50,000 รายชื่อ เพราะไม่ใช่การเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)

ส่วนการพิจารณาญัตติเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ขณะนี้มีหลายประเด็นเพื่อขอแก้ไขนั้น นายชวน กล่าวว่า จะหารือกันอีกครั้ง ว่าจะพิจารณาเรียงตามลำดับวาระแยกกัน หรือจะพิจารณาพร้อมกันในคราวเดียวแล้วค่อยลงมติแยกกัน หรืออาจจะลงคะแนน ในคราวเดียวหลายฉบับก็ได้ ซึ่งวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา ได้หารือถึงวิธีการลงคะแนนกับนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.) แล้ว แต่ยังไม่มีข้อยุติ ดังนั้น ต้องตกลงกันว่าใช้วิธีใด แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ส่วนกรอบเวลาการพิจารณาวาระแรก ทุกคนต้องใช้เวลาอภิปรายให้จบภายในวันที่ 23-24 ก.ย. ซึ่งจะสิ้นสุดสมัยประชุมพอดี

พท.จ่อขอเสียงรบ.-สว.เปิดวิสามัญ

นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พท. ให้สัมภาษณ์ถึงการขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 2 และ 3 ว่า ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนดวันที่จะยื่น แต่ได้ให้สมาชิกได้ลงชื่อเอาไว้แล้ว โดยเราจะยื่นต่อเมื่อการพิจารณาทุกญัตติ ที่เกี่ยวข้องกับการแก้รัฐธรรมนูญ ทั้งญัตติ ขอแก้ไขมาตรา 256 ในส่วนของรัฐบาลและฝ่ายค้าน รวมทั้ง 4 ญัตติที่เรายื่นไปล่าสุด ซึ่งจะพิจารณาญัตติดังกล่าวในวันที่ 23-24 ก.ย. ในวาระ 1 เมื่อวาระ 1 ผ่านแล้ว ตนคิดว่า ต้องขอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) เร่งพิจารณาให้เร็ว เพื่อที่เราจะยื่นเปิดประชุมสมัยวิสามัญต่อเลย อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ยังไม่ได้คุยกับส.ส.ฝั่งรัฐบาล เพราะเราเห็นว่าระยะเวลายังอีกไกล เนื่องจากต้องดูก่อนว่าร่างที่ยื่นไปจะผ่านวาระ 1 หรือไม่ ซึ่งก็ต้องมีเสียงทั้งจากฝั่งรัฐบาลและส.ว.ด้วย

เทพไทยันโหวตปิดสวิตช์สว.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ตนขอประกาศจุดยืนแก้ไขรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ว่า จะใช้สิทธิ์โหวตสนับสนุนญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล และของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ดังนี้ 1.โหวตสนับสนุนญัตติร่างแก้ไขมาตรา 256 และการจัดตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 2.โหวตสนับสนุนญัตติร่างแก้ไขมาตรา 272 และ 3.โหวตสนับสนุนญัตติแก้ไขมาตรา 88, 83, 85, 90, 91 และ 94 ที่เกี่ยวกับระบบการเลือกตั้ง ส่วนมติพรรคจะออกมาอย่างไรนั้น ตนขอฟังเหตุผลของที่ประชุมพรรคก่อน แต่เบื้องต้นขอโหวตให้ 3 ร่างนี้

นายเทพไทกล่าวด้วยว่า ถ้าญัตติทั้ง 3 ฉบับนี้ ผ่านมติที่ประชุมรัฐสภา ด้วยการสนับสนุนจาก ส.ว.ไม่น้อยกว่า 84 คนแล้ว เชื่อว่า จะปลดล็อกการเมืองของประเทศได้ระดับหนึ่ง เพราะหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตัดอำนาจ ส.ว.โหวตเลือกนายกฯ และแก้ระบบเลือกตั้งเป็นบัตร 2 ใบได้ จะเป็นหลักประกันว่า ระหว่างที่ส.ส.ร.จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ถ้าเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองต้องยุบสภา จะทำให้การเลือกตั้งมีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา

สว.ค้านเสียเงินหมื่นล้านตั้งสสร.

นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ส.ว.กลุ่มอิสระ ให้สัมภาษณ์ถึงฝ่ายค้านยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ญัตติว่า ตนขอพิจารณาเหตุผลของแต่ละญัตติก่อน เนื่องจากไม่ทราบว่าแต่ละ มาตรามีเหตุผลอะไรประกอบ ส่วนเนื้อหาของร่างแก้ไขที่เกี่ยวกับส.ว. อาทิ การตัดอำนาจพิจารณาผลงานการปฏิรูปที่รัฐธรรมนูญ กำหนดให้เป็นหน้าที่ส.ว.นั้น ตนมองว่ารัฐธรรมนูญสร้างเงื่อนไขให้ส.ว.ต้องดำเนินการ เช่น ติดตามงานปฏิรูป ซึ่งสอดคล้องกับบทบาท ที่ให้ลงมติเลือกบุคคลเป็นนายกฯ เพื่อสานต่องานปฏิรูปให้สำเร็จ ดังนั้น ข้อเสนอที่เกี่ยวกับส.ว.นั้น ตนมองว่าเป็นไปไม่ได้ที่ส.ว.จะพิจารณา ตัดหน้าที่ของตัวเอง เหมือนกับคนที่เป็น นายอำเภอจะสนับสนุนกฎหมายยกเลิก นายอำเภอไม่ได้ ดังนั้น ส.ว.ต้องทำหน้าที่นั้นเพื่อบ้านเมือง ส่วนกระแสกดดันจากภายนอกนั้น เชื่อว่าไม่มีผลต่อการตัดสินใจ เพราะส.ว. ต้องเป็นหลักของบ้านเมือง

นายดิเรกฤทธิ์กล่าวอีกว่า ตนไม่เห็นด้วยต่อข้อเสนอให้แก้ไขมาตรา 256 เพื่อให้มี ส.ส.ร. ยกร่างใหม่ทั้งฉบับ เพราะเท่ากับเป็น กระบวนการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำหนดบทให้แก้ไขเพิ่มเติมเท่านั้น ไม่ใช่รื้อทั้งฉบับ นอกจากนั้นกลไกของส.ส.ร.ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณระดับหมื่นล้านบาท และใช้เวลานานกว่า 2-3 ปี อีกทั้งหากให้ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่โดยไร้กรอบ อาจทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งได้

วันชัยชี้ฝ่ายค้านวางเกมพลาด

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. กล่าวถึงส.ส. ฝ่ายค้าน ยื่นญัตติขอแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก 4 ญัตติว่า ตนไม่ทราบเจตนาของพรรคฝ่ายค้าน แต่เห็นว่าการกระทำดังกล่าวอาจทำให้เสียพลัง ต่อการลงมติเห็นด้วยต่อเนื้อหาที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ จากการฟังเสียงของส.ว.ส่วนใหญ่ รวมทั้งเห็นด้วยกับการแก้ไขโดยลดอำนาจของส.ว.โหวตนายกฯ ส่วนญัตติตัดอำนาจของส.ว.ว่าด้วยการเสนอแนะ เร่งรัดและติดตามการปฏิรูปนั้น ไม่เห็นข้อดีหรือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างแก้ หรือไม่แก้ และเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนต้องแก้ไขหรือไม่

“แม้ญัตติสามารถแยกลงมติได้ แต่จะทำให้ พลังของการออกเสียง แตกแยกมากยิ่งขึ้น เมื่อเทียบกับการเสนอแก้ไขเป็นญัตติเดียว ผมยืนยันในหลักการเดิม แต่เมื่อมีประเด็นใหม่ เกิดขึ้น เชื่อว่าส.ว.ต้องคุยกันในกลุ่มมากขึ้น ซึ่งต้องคิด วิเคราะห์ให้ดีก่อนจะมีความเห็นในทางใดทางหนึ่ง” นายวันชัยกล่าว

นายวันชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับญัตติแก้ไขมาตรา 279 ว่าด้วยการรับรองความชอบธรรมตามกฎหมายของคำสั่งและประกาศคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) นั้น อาจเป็นประเด็น ขัดแย้ง จนกระทบต่อการแก้รัฐธรรมนูญได้ เพราะการลงมติ ต้องอาศัยเสียงสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลด้วย ดังนั้น การแก้มาตรา 279 เชื่อว่าเป็นการวางยุทธศาสตร์ที่ผิดพลาดของพรรคร่วมฝ่ายค้าน เช่นเดียวกับที่ขอแก้ไขมาตรา 159 ที่กำหนดให้สภาเห็นชอบบุคคลเป็นนายกฯ ตามบัญชีของพรรคการเมือง ซึ่งตนมองว่าต้องกำหนดไว้ เพื่อไม่ให้เกิดวิกฤต

พีระศักดิ์หนุนใช้บัตร 2 ใบ

นายพีระศักดิ์ พอจิต ส.ว. ในฐานะที่ปรึกษา วิปวุฒิฯ กล่าวถึง 6 พรรคฝ่ายค้านเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับว่า สัปดาห์ก่อน จะประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ วันที่ 23-24 ก.ย.นี้ วิปวุฒิสภาจะหารือกัน เพื่อวางกรอบการทำหน้าที่ เอาไว้ เป็นแหล่งข้อมูลเตรียมความพร้อมให้ส.ว. ที่ไม่ได้มาทางสายนักกฎหมายหรือถนัดกฎหมายโดยตรง ได้ทำความเข้าใจเบื้องต้น โดยจะไม่มีการกำหนดว่า ส.ว.จะต้องลงมติในทิศทางไหน ในทางปฏิบัติทุกคนเป็นอิสระ ไม่มีใครบังคับใครได้

นายพีระศักดิ์กล่าวว่า สำหรับร่างแก้ไขของฝ่ายค้าน ตนได้ดูคร่าวๆ เห็นว่า มีบางเรื่องที่เป็นทางออกที่ดี เช่น ร่างในฉบับที่เกี่ยวกับการแก้ไขระบบเลือกตั้งส.ส. ซึ่งนำเเนวคิดของรัฐธรรมนูญปี 2540 มาใช้ คือ เขตเดียวเบอร์เดียว บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะเป็นทางเลือกให้ชาวบ้านได้เลือกคนที่รัก พรรคที่ชอบได้ อีกทางหนึ่งยังทำให้กกต.คำนวนคะเเนนได้ง่ายขึ้นด้วย เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว แก้ปัญหาทั้งความสับสนของประชาชน ในการลงคะแนน และยังแก้ปัญหาการนับคะเเนนของกกต.ที่ล่าช้าในบางกรณี จนถูกสังคมวิจารณ์เรื่องบัตรเขย่ง เพราะมีเงื่อนไขการคำนวณคะเเนนส.ส.บัญชีรายชื่อที่ซับซ้อนมากเกินไป เป็นต้น

วุฒิสารแนะเปิดพื้นที่คุยแก้รธน.

ที่โรงแรมรามาการ์เด้นส์ นายวุฒิสาร ตันไชย เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้มาตรา 256 คือวิธีแก้รัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ในหมวด 15 จำเป็นต้องทำประชามติ ซึ่งต้องใช้เวลา แต่ถ้าแก้รายมาตราที่ไม่เกี่ยวข้องกับหมวด 1 หมวด 2 หรือหมวด 15 สามารถแก้ได้เลยโดยรัฐสภา อย่างไรก็ตาม การแก้รัฐธรรมนูญทุกเรื่องมีผู้เล่น 4 กลุ่มคือ ประชาชน พรรคการเมือง รัฐบาล และส.ว. จึงควรมีพื้นที่ให้พูดคุยและหาทางออก ร่วมกันว่าอะไรที่ทำได้ทันทีในระยะสั้น และอะไรที่ต้องรอในระยะยาว

เมื่อถามว่ายังไม่มีอะไรการันตีว่าส.ว. จะเห็นด้วย อาจจะกลายเป็นจุดเดือดทาง การเมืองอีกครั้ง นายวุฒิสาร กล่าวว่า การใช้ดุลพินิจจะต้องนำสถานการณ์และบรรยากาศมาประกอบ เพราะความเห็นของประชาชนสำคัญมาก ถ้าผู้เล่นกลุ่มนี้มีข้อยุติเห็นตรงกันได้มากขึ้น จะมีส่วนสำคัญช่วยยึดโยงกับส.ว. ฉะนั้นการใช้ดุลพินิจ อย่าเพิ่งไปตัดสินว่าทำไม่ได้ ขึ้นอยู่กับประเด็นส.ว.เห็นว่ามีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน แต่เท่าที่ฟังจากข่าวหลายคนก็มีการแสดงออกที่เห็นด้วยกับการแก้บางประเด็นในรัฐธรรมนูญ

กกต.มั่นใจทำประชามติทัน

นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงรัฐบาลเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ อาจต้องทำประชามติว่า ครม.เพิ่งให้เห็นชอบหลักการร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ ตามที่กกต.เสนอ หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญและทำประชามติ จะได้ปฏิบัติตามร่างกฎหมาย ดังกล่าว โดยครม.ได้ส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกาดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนจะเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป ส่วนถ้ามีการทำประชามติ กกต.ต้องมีเวลาเตรียมตัว 60 วันนั้น ตนยังไม่ได้ศึกษารายละเอียด ขอให้มั่นใจว่ากกต.จะดำเนินการภายในเวลาที่กำหนด ได้อยู่แล้ว

‘ปลอด-ยงยุทธ’ได้รับพักโทษ

ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า กรมคุมประพฤติ จะทยอยติดกำไลอีเอ็มให้กับกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่มที่ได้รับการพักโทษ ซึ่งมี 3,000 คน ทั้งผู้ต้องขังทั่วไปที่ได้รับการพักโทษ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ผู้ถูกคุมประพฤติ และผู้ที่รอตรวจพิสูจน์ ยืนยันว่าการพักโทษจะไม่ใช้ กับผู้ต้องหาในคดีที่ก่อความรุนแรง และเป็นอันตรายต่อสังคม

รายงานข่าวระบุว่า ในวันนี้นายสมศักดิ์ ได้ลงนามในคำสั่งพักการลงโทษ โดยผู้ที่ได้รับ การพักโทษและติดกำลังไลอีเอ็ม ในคดีการเมือง มี 2 คน คือนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ทั้งนี้ นายปลอดประสพ อายุ 75 ปี ถูกศาลสั่งจำคุก 1 ปี 8 เดือน ข้อหาโยกย้ายข้าราชการไม่เป็นธรรม ตั้งแต่วันที่ 5 มี.ค.63 ขณะนี้ได้จำคุกแล้ว 6 เดือน ได้เป็นนักโทษชั้นดีและเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ส่วนนายยงยุทธ อายุ 78 ปี เป็นผู้ต้องขังในคดีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ศาลสั่งจำคุก 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.63 จำคุกมาแล้ว 8 เดือน เข้าเงื่อนไขได้ลดวันต้องโทษ เป็นนักโทษชั้นดีและเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ

สิ้น‘ณรงค์ วงศ์วรรณ’นักการเมืองดัง

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายณรงค์ วงศ์วรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อดีตรมว.มหาดไทยและอดีตรมว.เกษตรและสหกรณ์ อดีตหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ถึงแก่อนิจกรรมอย่างสงบในวัย 94 ปี เมื่อคืนวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่จ.เชียงใหม่ เบื้องต้นครอบครัวจัดพิธีรดน้ำศพที่บ้านพักของนายณรงค์ ในต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เวลา 15.00 น. วันที่ 12 ก.ย. และสวดพระอภิธรรมทุกวันจนถึงวันที่ 18 ก.ย. จากนั้นจะบรรจุร่างไว้ 100 วันเพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไป พร้อมแจ้งของดพวงหรีด

นายณรงค์ วงศ์วรรณ หรือพ่อเลี้ยงณรงค์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง และผู้กว้างขวางในจ.แพร่ เคยเป็นหัวหน้าพรรคสามัคคีธรรม ซึ่งชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 22 มี.ค.2535 ด้วยจำนวน ที่นั่ง ส.ส.มากที่สุด 79 ที่นั่ง ก่อนได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ปรากฏข่าวสหรัฐอเมริกาขึ้นแบล็กลิสต์และปฏิเสธออกวีซ่าให้ แม้นายณรงค์ จะยืนกรานปฏิเสธและเชื่อว่าเป็นสร้างข่าวเพื่อสกัดไม่ให้เป็นนายกฯ

มอบสัญญา – พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน มอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุให้กับราษฎรที่เช่าทำการเกษตร ที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ เมื่อวันที่ 11 ก.ย.

บิ๊กป้อมแจกสัญญาเช่าที่ทำกิน

วันที่ 11 ก.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและคณะ ลงพื้นที่ติดตามแนวทางการพัฒนา และฟื้นฟูแหล่งน้ำธรรมชาติ บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปภาพรวมความก้าวหน้าการดำเนินงาน พร้อมมอบนโยบายขอให้ทุกหน่วยงาน ช่วยกันแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อมายาวนาน ให้บึงบอระเพ็ดกลับมามีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งน้ำจืดธรรมชาติขนาดใหญ่ มีทัศนียภาพที่สวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับชาวนครสวรรค์ เกษตรกรและประชาชนทั่วไป โดยเร็ว สามารถรองรับการกระตุ้นเศรษฐกิจ จ.นครสวรรค์

จากนั้นพล.อ.ประวิตร เป็นประธานพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ตามนโยบายของรัฐบาลที่จะช่วยให้ประชาชน/เกษตรกร ได้มีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินเพื่อลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ต่อมา พล.อ.ประวิตร และคณะ ได้เยี่ยมชมบูธกิจกรรมของ รง.เคลื่อนที่เพื่อประชาชน ในสังกัด รง.ของ จ.นครสวรรค์ จากภาวะเศรษฐกิจและการได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ประกอบด้วย การให้บริการด้านแรงงาน การรับเรื่องราวร้องทุกข์ การจัดนิทรรศการอาชีพ แนะแนวการสมัครงานและการควบคุมอากาศยานไร้คนขับ (Drone) เพื่อการเกษตร ซึ่งเป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับบริษัท แอโร กรุ๊ป (1992) จำกัด เพื่อฝึกอบรมฝีมือแรงงาน กลุ่มนอกระบบในภาคการเกษตร และกลุ่มผู้ว่างงาน โดยมีนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ให้การต้อนรับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน