ธุรกิจเจ๊ง
เสี่ยลงมือ
เมียแม่พ่อ
ลูก8ขวบ
ยิงตัวตาม

สลดเสี่ยหนุ่มอดีตจ่าทบ.เครียดธุรกิจเจ๊ง คว้า .38 รัวยิงดับพ่อ-แม่-เมีย-ลูกชาย 8 ขวบ ก่อนระเบิดขมับฆ่าตัวตายตามยกครัวสยอง 5 ศพ คาบ้านพักที่เปิดเป็นบริษัทย่านทุ่งครุ เผยเป็นคนอารมณ์ดีไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร แต่พิษเศรษฐกิจร่วงเพราะโควิดทำขาดสภาพคล่องจนไร้ทางออก

เมื่อเวลา 06.20 น. วันที่ 17 ก.ย. ร.ต.อ. ณัฐกฤษณ์ มากจริง รอง สว.(สอบสวน) สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุยิงกันตายยกครัวภายในบ้านเลขที่ 9/34 หมู่บ้านอลิชาเพลส 2 ถนนครุใน ซอย 3 แขวงและเขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ร.พ.ศิริราช และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น เปิดกิจการค้าน้ำยาเคมีและผลิตภัณฑ์ดูแลรักษารถยนต์ ชื่อบริษัท เวล อินดัสเทรียล ซัพพลาย จำกัด

บริเวณประตูกระจกหน้าบ้านชั้นที่ 1 พบศพนางอรสา คล้ายพยัฆ อายุ 65 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด .38 เข้าศีรษะ 1 นัด ลำตัว 3 นัด และเอว 2 นัด รวมทั้งสิ้น 6 นัด ปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกตามทางเดินในห้องโถงชั้นล่างขึ้นไปตามบันไดทางขึ้นชั้น 2 รวม 6 ปลอก ส่วนชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้อง และห้องพระ 1 ห้อง จากการตรวจสอบที่ห้องแรกพบศพ จ.ส.อ.ประวิทย์ คล้ายพยัฆ อายุ 72 ปี อดีตข้าราชการทหารบก สามีของนางอรสาถูกยิงเข้าศีรษะด้านหน้า 1 นัด เลือดนองเต็มพื้น

ถัดไปภายในห้องนอนห้องที่สอง พบศพพ่อแม่ลูก รวม 3 ราย ประกอบด้วย น.ส. วิภางค์ พุ่มไพจิตร อายุ 39 ปี ถูกยิงขมับขวาทะลุซ้าย 1 นัด นอนหงายจมกองเลือดบนเตียงนอน ด้านล่างเตียงฝั่งขวาพบศพด.ช.ภคิน หรือน้องคินจัง คล้ายพยัฆ อายุ 8 ขวบ ลูกชาย นักเรียนชั้น ป.2 โรงเรียนบูรณะศึกษา หลักสูตรอินเตอร์ ถูกยิงศีรษะด้านหลัง 1 นัดนอนคว่ำหน้าอยู่บนพื้นห้อง และจ.ส.อ.อนุวัต หรือเอ็กซ์ คล้ายพยัฆ อายุ 39 ปี สามีน.ส.วิภางค์และพ่อด.ช.ภคินสภาพนั่งพิงเตียงนอนข้างๆ ศพภรรยาและลูก พบบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนธปืนขนาดเดียวกันเข้าขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด ใกล้มือข้างขวาพบอาวุธปืนขนาด .38 ตกอยู่ มีปลอกกระสุนปืนที่ถูกยิงแล้วคารังเพลิง 4 ปลอก

สลด 5 ศพ – จ.ส.อ.อนุวัต คล้ายพยัฆ อดีตจ่าทบ.ที่ผันตัวมาทำธุรกิจ ใช้ปืนยิงพ่อ-แม่-ภรรยา และลูกชายวัย 8 ขวบ แล้วยิงตัวตายรวม 5 ศพ คาบ้านย่านทุ่งครุ กทม. สาเหตุเครียดธุรกิจมีปัญหาจากวิกฤตโควิด เมื่อวันที่ 17 ก.ย.

 

เพื่อนบ้านข้างเคียงให้การว่า จ.ส.อ.อนุวัตเป็นอดีตทหารบกที่ออกจากราชการมาประกอบธุรกิจขายส่งอุปกรณ์สเปรย์ล้างคราบน้ำมัน ห้องเครื่อง และยางมะตอยส่งตามตลาดประดับยนต์ที่บ้านหลังดังกล่าว โดยอยู่อาศัยกันรวม 5 คน คือผู้ตายทั้งหมด ประกอบด้วยตัวจ.ส.อ.อนุวัต พ่อ แม่ เมีย และลูกชาย ที่ผ่านมาครอบครัวดังกล่าวเป็นคนมีอัธยาศัยดีเป็นมิตรกับทุกคนไม่เคยมีปัญหาอะไรกับใคร และไม่เคยแสดงความเครียดหรือมีปัญหาธุรกิจอะไร และทั้งครอบครัวเพิ่งกลับจากไปขอโชคลาภ ที่วัดเจดีย์หรือวัดไอ้ไข่ จ.นครศรีธรรมราช เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่มีเพื่อนบ้านบางคนเคยได้ยินจ.ส.อ.อนุวัตพูดว่า จะนำบ้านหลังที่เกิดเหตุไปรีไฟแนนซ์รอบ 2 เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนในธุรกิจที่ขาดสภาพคล่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19

เวลาประมาณ 06.00 น. ที่ผ่านมา มีคนได้ยินเสียงปืนหลายนัดดังขึ้นในบ้านที่เกิดเหตุและได้ยินเสียงคนในบ้านร้องคล้ายคนเจ็บ และรู้สึกผิดสังเกตที่คนในครอบครัวยังไม่ออกมาส่งด.ช.ภคินไปโรงเรียนจึงเดินไปดูที่บ้านทำให้เห็นร่างนางอรสานอนจมกองเลือดในบ้าน จึงแจ้งรีบตำรวจเข้าตรวจสอบ

ด้านพ.ต.อ.สุนัน อ้นหนองปรง ผกก.(สอบสวน) บก.น.8 เผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้นพบว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุตกอยู่ใกล้จ.ส.อ.อนุวัตมากที่สุด แต่ยังไม่ยืนยันว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุหรือลำดับเหตุการณ์เป็นอย่างไร เบื้องต้นตั้งสมมติฐานไว้แล้ว แต่ยังไม่สามารถสรุปเหตุการณ์ได้ ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานทั้งจากกล้องวงจรปิดในบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บก.น.8 เก็บเซิร์ฟเวอร์ไปตรวจสอบแล้วและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบอีกครั้ง ขณะเดียวกันต้องติดตามญาติผู้ตายซึ่งมีพื้นเพอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา มาถามแรงจูงใจในการก่อเหตุ เนื่องจากไม่พบจดหมายลาตาย และยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่นเข้ามาในบ้าน ประกอบกับประตูหน้าบ้านก็ถูกล็อกจากด้านใน

ต่อมาเวลา 15.30 น. นายณรงค์ โต๊ะงาม อายุ 40 ปี อดีตนักเรียนนายสิบรุ่น 443 ช.พัน 2 รอ. ค่ายศรีโสธร เพื่อนนักเรียนนายสิบร่วมรุ่นเข้าให้ข้อมูลเพิ่มเติมพนักงานสอบสวนสน.ทุ่งครุ โดยระบุว่า ปกติจ.ส.อ.อนุวัตเป็นคนมีอุปนิสัยนิ่งๆ เรียบร้อย ไม่ใช่คนใจร้อน ไม่เคยหาเรื่องผู้ใดและไม่คิดว่าจะเป็นคนที่มีจิตใจรุนแรง หลังจากแต่งงานได้ลาออกจากราชการก่อนมาประกอบอาชีพทำธุรกิจส่งออก และมาเปลี่ยนเป็นธุรกิจรับเหมาก่อสร้างบ้านให้กับเอกชน

“ประมาณเดือนกว่าๆ เขาเคยมาขอ คำปรึกษาปัญหาเรื่องธุรกิจกับผม บอกว่าขาดสภาพคล่องทางการเงิน และหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ลูกน้องไม่ทัน ให้ผมช่วยหาเงินให้ประมาณ 2 แสนบาท เพื่อนำไปหมุน จึงตอบกลับไปว่าขอเวลาประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนหน้านี้ผู้ตายไม่เคยมาปรึกษาเรื่องเงินแม้แต่อย่างใดจนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์สลด ดังกล่าว ไม่ทราบว่าอาวุธปืนที่ตรวจพบนั้นเป็นของผู้ใด โดยหลังจากทำเรื่องขอรับศพจาก ร.พ.ศิริราช จะรีบหาวัดเพื่อนำศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เพราะยังไม่สามารถติดต่อญาติได้ อีกทั้งเพื่อนๆ จะช่วยกันเปิดบัญชีกลางเพื่อรวบรวมเงินจัดงานศพต่อไป” เพื่อนนักเรียนนายสิบ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน