นศ.บุกค่ายทหาร
ฮือปาไข่-สาดสีใส่

‘บิ๊กตู่’ เข้ม รับมือม็อบชุมนุม ใหญ่เดือนตุลาคม ลั่นอย่าทำผิดกฎหมายชี้ถ้าคนไม่เคารพกฎหมาย แล้ววันหน้าดำเนินการได้สำเร็จ จะบริหารประเทศได้อย่างไร ระบุกลุ่มคนรักสถาบันและประเทศชาติ มีหลายสิบล้าน ทุกจังหวัดมีหมด ต้องระมัดระวังไม่ให้ 2 ฝ่ายเผชิญหน้าปะทะกัน ขณะที่อัยการเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้อง 6 แกนนำจัดชุมนุมแฮร์รี่ พอตเตอร์ เสกคาถา ออกไปเป็นวันที่ 23 พ.ย. ส่วนตร.รวบ 9 ชายฉกรรจ์ บุกบ้าน ‘เอกชัย’ นักกิจกรรมทางการเมือง ขวางไม่ให้ไปปักหมุดคณะราษฎร

เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ ซึ่งคาดเป็นวันที่ 14 ต.ค.ว่า จะดูเหมือนเดิม ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯ จะยอมเปิดให้มีพื้นที่เคลื่อนไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องยอมคงไม่ยอม กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย เราไม่ยอม เขาก็ไม่ยอม เราห้ามเขาก็ฝ่าฝืน บังคับใช้กฎหมาย เขาก็หาว่าไปกดดัน ทั้งที่อยากให้คนทั้งประเทศช่วยกันพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าวัตถุประสงค์คืออะไร แล้วจะช่วยกัน ได้อย่างไร เข้าใจหรือไม่ ถ้าโยนภาระมาที่ เจ้าหน้าที่และรัฐบาลทั้งหมด ถ้าตนสั่งให้มันเต็มที่ไปเลยจะเกิดอะไรขึ้นหรือไม่ ฉะนั้น ต้องดูว่าคนที่ไม่ยอมเคารพกฎหมายเลย ขอถามว่าวันหน้าถ้าคนเหล่านี้ดำเนินการได้สำเร็จ แล้วเขาจะบริหารประเทศได้อย่างไร ไม่เข้าใจเหมือนกัน ความขัดแย้งจะสูงขึ้นเรื่อยๆ ท้ายสุดประเทศชาติอยู่ไม่ได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้ากลุ่มคนรักสถาบันลุกฮือปะทะกับกลุ่มที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง จะวุ่นวายหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าระมัดระวังไม่ให้เกิดการปะทะ วันนี้รัฐบาลทำอย่างเต็มที่ในการเปิดพื้นที่ให้ คำว่าเปิดพื้นที่แต่ต้องเคารพกฎหมาย เข้าใจหรือไม่ วันนี้อาจจะดูว่าเราอ่อนไปหรือเปล่า ต้องดูว่าเงื่อนไขเขาคืออะไร เขาต้องการให้เกิดผลกระทบตรงนี้ขึ้นมา เราจะไปเข้าทางเขาทำไม เราต้องป้องกันทั้ง 2 ฝ่ายไม่ให้เผชิญหน้ากัน เข้าใจหรือไม่

นายกฯ กล่าวต่อว่าคนรักสถาบันและประเทศชาติมีตั้งหลายสิบล้านคน เข้าใจหรือไม่ ทุกจังหวัดมีหมดอยู่แล้ว ขอให้ช่วยกันลดกระแสความกดดันตรงนี้ อะไรที่ไม่ดีอย่าไปขยายความให้เขา ทุกคนรู้ว่าอะไรดีไม่ดีไม่ใช่หรือ การแสดงออกที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ใช่หรือไม่ ดังนั้น อย่าเอามาพันกันทั้งหมด กลายเป็นว่ารัฐบาลอ่อนแอ ไม่เข้มแข็ง เจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน มันทำอยู่แล้ว มีระยะเวลาในการทำงานอยู่ ให้เวลาเขาทำงานหน่อย

“ขอให้ทุกคนช่วยกัน บ้านเมืองอยู่ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด อะไรต่างๆ ที่ไม่ใช่ปัญหา และที่ร้อนฉ่าทุกวันๆ ก็ค่อยๆ แก้กันไป ทำกันไป ผมว่าไปได้หมด ถ้าทุกคนหันมาพูดจาคุยกันภาษาดอกไม้กันบ้าง การใช้ภาษาไม่ไพเราะ บางทีความร่วมมือก็เกิดน้อย คนไทยละเอียดอ่อนตรงนี้ ใช้คำพูดให้เหมาะสมก็แล้วกัน อย่าไปขยายความคำพูดที่ไม่ถูกต้อง หยาบคาย ไม่มีใครรับได้หรอก” พล.อ. ประยุทธ์กล่าว

ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 3 (ดุสิต) พนักงานอัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม สั่งฟ้องนางสุวรรณา ตาลเหล็ก, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว, น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล, นายชาติชาย แกดำ, นายชูเวศ เดชดิษฐรักษ์ และนายณรงค์ ดวงแก้ว ในข้อหาผิดพ.ร.บ.การชุมนุมฯ, พ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียงฯ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีร่วมจัดการชุมนุมเสกคาถาผู้พิทักษ์ปกป้องประชาธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2563 โดยอัยการเลื่อนไปเป็นวันที่ 23 พ.ย. เวลา 09.00 น. เนื่องจากอยู่ระหว่างพิจารณาสำนวน

ขณะเดียวกัน ที่หน้าบ้านนายเอกชัย หงส์กังวาน นักกิจกรรมทางการเมือง มีกลุ่มคนมาล้อมบ้าน เพื่อไม่ให้นายเอกชัยไปจัดกิจกรรมปัดหมุดคณะราษฎรที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยระหว่างนั้นนายเอกชัยโพสต์ เฟซบุ๊กว่ามีสลิ่มรอหน้าบ้าน เป็นชายเสื้อเหลือง 1 คน ชายชุดดำ 8 คน ต่อมาตำรวจสน.ลาดพร้าว มาเชิญกลุ่มคนดังกล่าวไปสน.ลาดพร้าว ขณะที่นายเอกชัยก็แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวด้วยเช่นกัน ก่อนตำรวจแจ้งข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ และเปรียบเทียบปรับคนละ 300 บาท








Advertisement

วางหรีด – กลุ่มประชาคมศิลปากรเพื่อประชาธิปไตย เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึก พร้อมนำพวงหรีดมามอบให้อธิบดีกรมศิลปากร เมื่อวันที่ 28 ก.ย. กรณีไม่สอบสวนตามหาหมุดคณะราษฎร 2475 และอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ บางเขน ที่หายไป

นอกจากนี้ กลุ่มประชาคมศิลปากร เพื่อประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยศิลปากร ทำหนังสือเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมศิลปากร พร้อมมอบพวงหรีดดอกไม้ไว้อาลัยด้วย กรณีไม่สอบสวนตามหาหมุดคณะราษฎร พ.ศ.2475 และการเคลื่อนย้ายอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หรืออนุสาวรีย์ปราบกบฏ วงเวียนหลักสี่ เขตบางเขน กรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นโบราณสถานและโบราณวัตถุ ขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่าใครเป็นผู้เคลื่อนย้าย และนำไปเก็บไว้ที่ไหน

สาดสี – แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ชู 3 นิ้ว หลังสาดสีปาไข่ใส่ป้ายม.พัน.4 รอ. ทวงถามความคืบหน้าการลงโทษทหาร 3 นาย ที่เข้าล็อกประชาชนและบังคับให้ลบภาพถ่ายป้ายหน้าหน่วย เมื่อวันที่ 28 ก.ย.

เย็นวันเดียวกัน ที่หน้าค่ายทหารกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน.4รอ.) นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ ระยอง แกนนำกลุ่มเยาวชนตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย และ น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมด้วยมวลชนจำนวนหนึ่ง จัดกิจกรรม “ตามหานาย” ทวงถามความคืบหน้าจาก ผู้บังคับบัญชาในการลงโทษทหารนอกเครื่องแบบ 3 นาย ที่ล็อกตัวประชาชนที่มาให้กำลังใจกลุ่มโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ยื่นรายชื่อเรียกร้อง แก้ไขรัฐธรรมนูญที่รัฐสภา แล้วบังคับให้ลบภาพถ่ายป้ายหน้าค่ายทหารออกจากโทรศัพท์มือถือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักอยู่หน้า ม.พัน.4 รอ. ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่มีทหารคนใดออกมาพบ ทางกลุ่ม ผู้ชุมนุมไม่พอใจ จึงปาไข่ พร้อมสาดสีใส่ป้ายกองพัน และด้านหน้าค่ายทหารเป็นการประท้วง โดยนายภาณุพงศ์ประกาศว่าหากไม่มีคำตอบว่าจะลงโทษทหาร 3 รายอย่างใดอย่างหนึ่ง จะพามวลชนไปทวงถามกับหัวหน้าใหญ่ที่กองบัญชาการกองทัพบกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน