พูดไม่ดี-ผู้ปกครองโวย
ลูกโร่ออกโรงแจงแทน
ยืนยันรับผิด-ชดใช้เต็มที่

คุรุสภาบุกคุ้ยสารสาสน์ผงะ 4 ทีชเชอร์ห้องจุ๋ม ไร้ใบครู ตร.สอบครูฟิลิปปินส์ อ้างเห็นคนอื่นทำร้ายเด็กประจำเลยคิดว่าเป็นเรื่องปกติของโรงเรียนดัง ศธ.ถกผู้บริหารสารสาสน์เร่งเยียวยา 10 ข้อ พร้อมอำนวยความสะดวกย้ายโรงเรียน-คืนค่าเทอม ลูกผู้ก่อตั้งแจงแทนพ่ออ้างสื่อสารผิดพลาดปมจวกผู้ปกครอง เชียงรายโผล่อีกครูพี่เลี้ยงปิดประตูทับนิ้วด.ช. 3 ขวบขาดกระจุย

ครูปินส์อ้างตีเด็กตามครูจุ๋ม

เมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ห้องประชุมชั้น 2 บก.ภ.จว.นนทบุรี พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1 พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รองผกก.สส.สภ.ชัยพฤกษ์ พ.ต.ท.มหพล มีเสน รอง ผกก.สอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ประชุมความคืบหน้าคดี ล่าสุดชุดสืบสวนที่ติดตามไล่ดูกล้องวงจรปิดชั้นอนุบาล 1 พบการกระทำความผิด 31 ครั้ง ผู้เสียหายที่แจ้งความดำเนินคดีแล้ว 17 คน เจ้าหน้าที่จะติดต่อผู้ปกครองที่ยังไม่ได้แจ้งความให้มาแจ้งความ ส่วนครูนิ ครูสอนศิลปะในห้องเดียวกับครูจุ๋มเตรียมที่จะออกหมายเรียกมารับข้อกล่าวหา

ส่วนที่ สภ.ราชพฤกษ์ ร.ต.อ.อุทิศ อาสานอก รองสว.(สอบสวน) สอบปากคำนายมาร์วิน ลิวานัก โอเลโฮล่า อายุ 25 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ หลังมีภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่นายมาร์วินเป็นครูสอนภาษาเด็กชั้นอนุบาลโรงเรียนดังกล่าวและก่อเหตุ กระชากแขนเด็กนักเรียนลุกออกจากโต๊ะก่อนจะผลักเด็กไปขังไว้ที่ห้องน้ำ จนถูกผู้ปกครองของเด็กนักเรียนเข้าแจ้งความดำเนินคดี จากการสังเกตพบว่านายมาร์วินมีอาการอิดโรยคล้ายคนไม่ได้นอนสีหน้าเศร้าหมองตลอดเวลา

นายมาร์วินให้การว่า ก่อนหน้านี้เห็นครูจุ๋ม หรือน.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง ครูประจำชั้นอนุบาล และครูพี่เลี้ยงเด็กคนอื่นๆ มีพฤติกรรมทำร้ายเด็กมาก่อนหน้านี้แล้วหลายครั้ง เคยสอบถามครูจุ๋มแล้วว่าทำกับเด็กแบบนี้ทำไม แต่ครูจุ๋มกับครูพี่เลี้ยงไม่ได้ตอบ และยังทำรุนแรงกับเด็กนักเรียนเรื่อยมา จึงคิดว่าเป็นเรื่องปกติของโรงเรียน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา ละเว้นการ กระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายและจิตใจของเด็ก ก่อนนำตัวไปส่งผัดฟ้องฝากขังที่ศาลเด็กและเยาวชนนนทบุรี

ต่อมานายอรุณศักดิ์ ขันทอง และนางกัลป์ ณัชยา นวลฉายชัชวงศ์ พ่อแม่ด.ช.นักเรียนชั้นอนุบาล 1 ห้องอี เข้าแจ้งความดำเนินคดีครูจุ๋มเพิ่มเติมเป็นคดีที่ 2 หลังก่อนหน้านี้เคยแจ้งความไปแล้วจากกรณีที่ครูจุ๋มใช้มือหยิกหูและจิกหัวลูกชาย โดยคดีที่แจ้งความเพิ่มเติมเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันที่ 22 ก.ย. ครูจุ๋มใช้มือผลักหัวอย่างแรงถึง 6 ครั้ง จนหัวคะมำไปกับโต๊ะ โดยทั้งคู่ยืนยันว่าเรื่องเงินที่โรงเรียนในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องสำคัญเท่ากับความรับผิดชอบ สภาพจิตใจของลูกชายขณะนี้แย่มาก กลายเป็นเด็กที่นอนผวาก้าวร้าวและกลัวชุดนักเรียนไม่กล้าให้ลูกไปโรงเรียนและเตรียมย้ายโรงเรียนใหม่และต้องพาลูกชายไปพบจิตแพทย์ต่อหลังจากนี้

ศธ.ถกสารสาสน์เยียวยา 10 ข้อ

วันเดียวกันที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ. เป็นประธานในการหารือข้อสรุปถึงแนวทางแก้ไขปัญหาของโรงเรียนสารสาสน์ฯ ระหว่างนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) และคณะกรรมการเครือสารสาสน์

สารสาสน์ – นายพิสุทธิ์ ยงค์กมล ลูกชายนายพิบูลย์ ยงค์กมล ประธานอำนวยการโรงเรียนเครือสารสาสน์ ชี้แจงระบุบิดาฟังไม่ชัดขณะให้สัมภาษณ์สื่อจนเกิดความเข้าใจผิด ยืนยันรับผิดชอบความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ระหว่างเข้าหารือกับนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาฯ เมื่อวันที่ 30 ก.ย.

นางกนกวรรณกล่าวภายหลังการหารือว่า ข้อสรุปวันนี้โรงเรียนสารสาสน์ฯ ทำบันทึกข้อตกลงกับ ศธ. ในการดูแลเยียวยาผู้ปกครองนักเรียนที่ประสงค์จะเรียนต่อในโรงเรียน มีดังนี้ 1.ห้องเรียนที่เกิดเหตุและห้องเรียนที่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก สภ.ชัยพฤกษ์ โรงเรียนพร้อมคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่นปีการศึกษา 2563 ให้นักเรียนทุกคนที่อยู่ในห้องนั้น 2.โรงเรียนจะเร่ง ติดกล้องวงจรปิดมุมต่างๆ ให้ครบถ้วนและให้มีจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ที่ผู้ปกครองนั่งดูได้ที่โรงอาหาร หากห้องเรียนที่ผู้ปกครองตกลงกันได้โรงเรียนจะจัดให้มีระบบออนไลน์

3.โรงเรียนจัดทำป้ายชื่อครู แสดงภาพถ่าย เลขที่ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพของครูทุกคนรูปถ่าย หน้าห้องเรียนทุกห้องและเผยแพร่ในเว็บไซต์ของโรงเรียน 4.โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทางการแพทย์ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ของเด็กที่ถูกกระทำหรือผล กระทบในห้องเรียนที่เกิดเหตุเต็มจำนวนที่จ่ายจริง 5.โรงเรียนจัดให้มีนักจิตวิทยาสำหรับเยียวยานักเรียนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะมีการประเมินและส่งผลการประเมินให้กับ ผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน และได้ทำความร่วมมือกับกรมสุขภาพจิตเพื่อเข้ามาฟื้นฟูและเยียวยาให้กับนักเรียน และครูโดยด่วน

6.โรงเรียนอนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถเข้าไปตรวจสอบสุขอนามัย ห้องเรียน ห้องน้ำ ห้องนอน โดยต้องแสดงตนขออนุญาตต่อ เจ้าหน้าที่ธุรการก่อน ทั้งนี้ต้องไม่เป็นการรบกวนกิจกรรมการเรียนการสอนและการใช้ชีวิตของนักเรียน 7.โรงเรียนจัดอาหารกลางวันให้นักเรียนตามหลักโภชนาการ โดยจะแจ้งรายการอาหารให้ผู้ปกครองทราบล่วงหน้าเป็นรายสัปดาห์ จัดให้มีบริการอาหารอย่างเพียงพอและทั่วถึง พร้อมกับเพิ่มเวลาในการรับประทานอาหารจาก 30 นาทีเป็น 40 นาที 8.โรงเรียนจัดให้มีการคัดกรองด้านสุขภาพจิตให้แก่ครูไทยและครูต่างชาติ

9.โรงเรียนจัดระบบรถรับ-ส่งนักเรียนให้มีที่นั่งเพียงพอ และให้มีการติดตั้งกล้องที่นั่งโดยสารเพื่อดูแลความปลอดภัยและเหตุอัน ไม่สมควรที่จะเกิดระหว่างเดินทาง และรายงานจำนวนเด็กนักเรียนที่ขาด ลา มา สาย ทุกวัน 10.โรงเรียนจัดให้มีการประชุม ผู้ปกครองทุกระดับชั้น ทุกปีการศึกษา ในปีการศึกษา 2563 จัดให้มีการประชุมเริ่มในเดือนตุลาคมนี้

ตั้งคณะกก.เร่งรัด-แก้ปัญหา

กรณีที่ผู้ปกครองประสงค์จะย้ายบุตรหลานไปเรียนต่อที่อื่น ทางโรงเรียนมีมาตรการเยียวยา ดังนี้ 1.โรงเรียนพร้อมอำนวยความสะดวกในการจัดทำเอกสารการส่งตัวให้แก่นักเรียนที่ประสงค์จะขอย้ายให้แล้วเสร็จมอบให้ผู้ปกครองภายใน 1 วัน 2.โรงเรียนคืนค่าธรรมเนียมการศึกษาและค่าธรรมเนียมอื่น ในปีการศึกษา 2563 3.โรงเรียนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในทางการแพทย์ทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ ของนักเรียนที่ถูกกระทำหรือผลกระทบในห้องเรียนที่เกิดเหตุเต็มจำนวนที่จ่ายจริง 4.ส่วนค่าชดเชยหรือค่าทำขวัญ โรงเรียนจะเร่งดำเนินการให้คณะกรรมการบริหารโรงเรียนพิจารณาและจะแจ้งให้ทราบความคืบหน้าโดยด่วน

นางกนกวรรณกล่าวว่า ส่วนการเร่งรัดติดตามตนในฐานะ รมช.ศธ. ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานกับติดตามการแก้ปัญหากรณีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ โดยมีปลัดกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยผู้แทนกรมสุขภาพจิต ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) นิติกรสำนักงานปลัดกระทวง ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนศึกษาธิการจังหวัด เป็นคณะทำงาน

มีอำนาจหน้าที่ 1.ติดตามการแก้ปัญหาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งนักเรียนและ ผู้ปกครองตามบันทึกข้อตกลงระหว่างโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์กับศธ. 2.นำเสนอข้อตกลงและการปฏิบัติที่จำเป็นเพิ่มเติมและข้อเรียกร้องเพิ่มเติม 3.รายงานผลต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่กำกับดูแลสช. 4.ปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย ทั้งนี้ ทางสช.จะนำเสนอข้อตกลงให้ผู้ปกครองรับทราบอีกครั้งหนึ่ง

สื่อสารพลาดปมจวกผู้ปกครอง

ด้านนายสุทธิพงศ์ ยงค์กมล ผู้แทนผู้รับใบอนุญาตเครือสารสาสน์ กล่าวว่า ในนามตัวแทนของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ เสียใจต่อเหตุการณ์เกิดขึ้น เหตุการณ์นี้เกิดจากความผิดพลาดซึ่งเราไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ และการกระทำนี้ผิดจุดประสงค์ ผิดนโยบายของโรงเรียนในเครือสารสาสน์ที่มีนโยบายต่อต้านการบูลลี่ การทำร้ายร่างกาย แต่บางทีอาจจะมีข้อผิดพลาดที่ตัวบุคคล ตนไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบและยอมรับว่าผู้บริหารและครูที่อยู่ในโรงเรียนสารสาสน์ในขณะนั้นตกใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและตกใจต่อปฏิกิริยาที่ผู้ปกครองและไม่มีประสบการณ์ในการจัดการปัญหานี้ ดังนั้นมีความละล้าละลังมีการตัดสินใจถือเป็นข้อบกพร่องของโรงเรียนและในอนาคตจะจัดการแก้ไขต่อไป

นายพิสุทธิ์กล่าวอีกว่า นายพิบูลย์และนางเพ็ญศรี ยงค์กมล ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสารสาสน์ มีเจตนารมณ์ในการสร้างโรงเรียนด้วยความรักในวิชาชีพครู เรามีเจตนาบริสุทธิ์ และเราเป็นครูที่รักเด็ก และตนเองก็มีลูกสาว เมื่อได้ดูคลิปรู้สึกเหมือนผู้ปกครองรู้สึก เรื่องเหล่านี้เราต้องมาแก้ไขและจะไม่แก้ตัว เราจะมาพิจารณาระบบการบริหารจัดการของโรงเรียนเครือสารสาสน์ทุกแห่ง และจะแก้ไขทุกเรื่องที่ผู้ปกครองร้องเรียน โรงเรียนจะไม่ปฏิเสธความรับผิดชอบ

“จากที่นายพิบูลย์ได้ให้สัมภาษณ์ในสื่อหนึ่ง เมื่อวันที่ 29 กันยายนที่ผ่านมา อาจจะมีการสื่อสารจากการโทรศัทพ์ด้วยเสียงที่ไม่ชัด ทำให้นายพิบูลย์พูดและสื่อสารที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดพลาด ซึ่งนายพิบูลย์ไม่มีเจตนาตามที่หลายคนเข้าใจ และนายพิบูลย์ยืนยันว่าจะให้ความช่วยเหลือ ให้ความยุติธรรมกับนักเรียน เพราะนายพิบูลย์เป็นครูมาตลอด 70 ปี ดังนั้นปัญหาทุกอย่างจะได้รับความคลี่คลายและทุกคนจะได้รับความยุติธรรม” นายพิสุทธิ์กล่าว

นายพิสุทธิ์กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ทางโรงเรียนแต่งตั้ง นางวารุณี เผือกเทศ ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์คนใหม่ หากผู้ปกครองมีข้อร้องเรียนสามารถถามนางวารุณีได้โดยตรง ซึ่งนางวารุณีจะดำเนินการแก้ไขปัญหาภายใน 1 วัน และผู้บริหารชุดใหม่ที่ทางเครือสารสาสน์ได้แต่งตั้งจะเร่งแก้ไขปัญหาโรงเรียนให้เร็วที่สุด ส่วนโรงเรียนในเครือนั้น นายพิบูลย์ในฐานะผู้ก่อตั้งโรงเรียนมีนโยบายว่าต่อไปโรงเรียนในเครือทุกแห่งต้องมีการคัดกรองประสิทธิภาพและคัดกรองสุขภาพจิตของครูด้วย โรงเรียนจะทำงานร่วมกับ สช.และกระทรวงสาธารณ สุข (สธ.) ประสานให้กรมสุขภาพจิตมาตรวจสุขภาพจิตของครูในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ

คุรุสภาคุ้ย 5 รายใบครูหมดอายุ

วันเดียวกัน ดร.ดิศกุล เกษมสวัสดิ์ เลขาธิการคุรุสภา ลงพื้นที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ตรวจสอบใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพครูของโรงเรียน เบื้องต้นเจาะจงไปที่ครูต่างชาติ ครูคนไทย ในระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาว่าถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่ หลังใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมง พบว่ามีจำนวนครูทั้งหมด 411 คน เป็นครูชาวไทย 95 คน ครูต่างชาติ 106 คน โรงเรียนนำเอกสารหลักฐานให้ตรวจสอบ 201 คน ส่วนที่เหลือจะทยอยส่งให้ตรวจสอบ

ดร.ดิศกุลเผยว่า ครูที่สอนเด็กอนุบาล 1 ห้องอี ซึ่งเป็นห้องของครูจุ๋มไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทั้ง 4 คน ในกรณีนี้ถ้าไม่เป็นผู้ครูผู้สอน เช่น เป็นวิทยากรหรือพี่เลี้ยงไม่มีความผิด แต่ถ้าเป็นครูผู้สอนจะมีความผิด สำหรับบุคคลที่เป็นครูเบื้องต้นจะต้องมี 1.วุฒิการศึกษา 2.ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู 3.ใบอนุญาตทำการสอน สำหรับห้องอีทุกคนไม่มีใบอนุญาตทั้ง 2 ใบ เบื้องต้นทราบว่าครูที่ทำร้ายเด็กมีทั้งหมด 9 คน เป็นเรื่องคดีอาญา ตำรวจรับผิดชอบดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นต้องรีบดำเนินการแก้ไข คิดว่าจะมีโรงเรียนหลายแห่งที่พบปัญหาแบบเดียวกัน

เชียงรายโผล่อีกทำด.ช.นิ้วขาด

ส่วนที่ สภ.เมืองเชียงราย นางพิมญาดา รุซโซ่ว์ อายุ 37 ปี ชาว อ.เมืองเชียงราย และญาตินำหลักฐานเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.อ. อิทธิพล ฉลาดธัญญกิจ รองสว.(สอบสวน) ว่าลูกชายอายุ 3 ขวบเศษ ถูกครูพี่เลี้ยงในโรงเรียนชื่อดังในพื้นที่ปิดประตูทับนิ้วจนปลายนิ้วขาดถาวรแล้วไม่ยอมรับผิดชอบตามที่ได้ตกลงกันเอาไว้ โดยนำใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งซึ่งแพทย์วินิจฉัยผลการรักษาว่า มีสภาพขาดถาวรโดยเล็บสั้นลง 50% และนิ้วสั้นลงเล็กน้อย มาเป็นหลักฐาน

ครูทำลูก – นางพิมญาดา รุซโซ่ว์ นำหลักฐานเข้าแจ้งค ว า ม ดำ เ นิ น ค ดีโรงเรียนอนุบาลที่ลูกชายเรียนอยู่ กรณีลูกชายอายุ 3 ขวบถูกครูพี่เลี้ยงปิดประตูหนีบนิ้วมือจนขาด ที่สภ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 30 ก.ย.

นางพิมญาดากล่าวว่า ส่งลูกชายเข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าวเพราะเคยมีประวัติดูแลเด็ก ที่ดี กระทั่งลูกชายอยู่ในระดับเตรียมอนุบาลและเมื่อวันที่ 28 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากทางโรงเรียนว่าน้องเอเคประสบอุบัติเหตุที่นิ้วเพราะลมพัดประตูแล้วไปหนีบตรงนิ้ว เบื้องต้นไม่ได้ติดใจอะไรเพราะโรงเรียนส่งรักษาที่โรงพยาบาลและคิดว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุ แต่ผ่านไป 1 วัน ผ้าพันแผลที่แพทย์พันไว้หลุดทำให้เห็นว่าลูกบาดเจ็บมากกว่าที่เข้าใจ เมื่อประสานขอดูภาพวงจรปิด พบว่าขณะลูกชายนำกล่องนมไปทิ้งถังขยะครูพี่เลี้ยงได้ปิดประตูทับนิ้วลูกชายที่ยังเกาะขอบประตูอยู่

หลังทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดทางผู้อำนวยการโรงเรียนจึงขอโทษพร้อมเจรจาค่าเยียวยากับทางโรงเรียนเบื้องต้นจำนวน 400,000 บาท เนื่องจากลูกชายจะเสียโอกาสในการทำงานในอนาคตไปเพราะนิ้วไม่สมบูรณ์ แต่โรงเรียนต่อรองเหลือ 100,000 บาท สุดท้ายตกลงกันที่ 350,000 บาท นัดชำระกันช่วงเที่ยงวันที่ 30 ก.ย. แต่ปรากฏว่าไม่มีการติดต่อใดๆ กลับมา เมื่อสอบถามทางไลน์ไปถึง ผู้อำนวยการโรงเรียนไม่ได้ตอบกลับ

ต่อมาผู้อำนวยการโรงเรียนที่ถูกแจ้งความเผยว่า โรงเรียนเสียใจอย่างยิ่งและเป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิดขึ้น โรงเรียนพร้อมจะรับผิดชอบแต่ในช่วงที่เจรจากับทางผู้ปกครองก็ทราบว่าเขามีคว ามประสงค์จะได้ค่าเสียหายจำนวน 400,000 บาท กำลังจะนำเข้าสู่การประชุมคณะกรรมการโรงเรียน โดยได้แจ้งทางไลน์ไปถึงผู้ปกครองแล้วแต่ไม่มีการตอบกลับ แต่ก็พร้อมจะหารืออยู่เสมอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน