แม่ร้องปวีณา
พาแจ้งความ
แม่ร้องปวีณา ลูกสาวม.2 โดนเพื่อนชาย 5 คน รุมอนาจารล่วงละเมิดทางเพศในห้องเรียนโรงเรียนย่าน ปิ่นเกล้า เผยเด็กนักเรียนทั้ง 5 รับสารภาพว่าก่อเหตุจริงแต่โรงเรียนเกลี้ยกล่อมให้ยุติเรื่อง ทำบันทึกข้อตกลงไม่ดำเนินคดี เพียงแค่นำพวงมาลัยมา ขอขมา หักคะแนนความประพฤติ ทั้งที่ลูกสาวถูกกระทำอย่างไม่สามารถให้อภัยได้ ตัดสินใจขอพึ่งมูลนิธิปวีณาฯช่วยเหลือ ปวีณาชี้ เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมต้องเร่งแก้ พร้อมประสานกระทรวงศึกษาฯตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. ที่ สน.บางยี่ขัน นาง ปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อเด็กและสตรี พานางมิ่ง และ ด.ญ.มุ่ย (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ลูกสาวนักเรียน ม.2 โรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปิ่นเกล้า เข้าแจ้งความกับ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ สุขสำราญ รอง ผบก.น.7 รักษาการ ผกก.สน.บางยี่ขัน เพื่อดำเนินคดีกับนักเรียนชาย 5 คน ที่เรียนอยู่ห้องเดียวกันหลังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศภายในห้องเรียนคอมพิวเตอร์ของโรงเรียน
นางมิ่งกล่าวว่า เพื่อนทั้ง 5 คน เข้ามาล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวขณะนั่งเรียนวิชาคอมพิว เตอร์อยู่ในห้องเรียนถึง 3 ครั้ง ขณะเกิดเหตุคุณครูไม่อยู่ภายในห้อง ต่อมาลูกสาวกับเพื่อนสนิทอีกคนพากันไปแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้นกับฝ่ายปกครอง ก่อนที่ทางครูจะเรียกนักเรียนชายทั้ง 5 คน มาสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น นักเรียนทั้ง 5 คนรับสารภาพว่าก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศจริง แต่โรงเรียนพยายามเกลี้ยกล่อมให้ตนยอม ยุติเรื่องและไม่ดำเนินคดีกับฝ่ายนักเรียนชายทั้ง 5 คน เนื่องจากเกรงว่าโรงเรียนจะเสื่อมเสีย ชื่อเสียง แต่ทำไมทางโรงเรียนไม่คิดว่าลูกตน ที่เป็นผู้ถูกกระทำบอบช้ำทั้งร่างกายและจิตใจขนาดไหน
นางมิ่งกล่าวต่อว่า ต่อมาทางโรงเรียนนัด ผู้ปกครองทั้ง 2 ฝ่ายไปเจรจากันโดยที่ตนไม่ทราบว่าทางโรงเรียนเตรียมบันทึกข้อตกลงที่มีข้อความระบุว่านักเรียนชายทั้ง 5 คน ให้การรับสารภาพและฝ่ายนักเรียนชายพร้อมผู้ปกครองทั้ง 5 ครอบครัว จะนำพวงมาลัยดอกไม้มากราบขอขมาแม่ เพื่อแลกกับการ ไม่ดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและทางอาญา ส่วนทางโรงเรียนจะหักคะแนนความประพฤติของเด็กนักเรียนชายทั้ง 5 คน คนละ 35 คะแนน พร้อมทำทัณฑ์บน หากกระทำความผิดเพิ่มเติมโรงเรียนจะดำเนินการย้ายสถานศึกษา
“ฉันอยู่ในสภาพเหมือนถูกกดดัน ต้องเซ็นชื่อรับทราบเรื่องดังกล่าว ในบันทึกข้อความ ดังกล่าวมีผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นพยานเซ็นรับทราบข้อความทั้งหมด ฉันสงสารลูกมาก ทุกคนทำเหมือนลูกไม่ใช่คน แค่ดอกไม้มาขอขมาแล้วจบ กลัวว่าจะเสียชื่อเสียงของโรงเรียน ฉันจึงตัดสินใจมาขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วย” นางมิ่งกล่าวด้วยเสียงสะอื้น
ด้าน นางปวีณากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ของสังคมบ้านเราในปัจจุบัน จำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาอย่าง เร่งด่วน โดยทางโรงเรียนจะต้องรายงานไปยังกระทรวงศึกษาธิการเพื่อให้ลงมาแก้ไขปัญหา มิให้เกิดขึ้นซ้ำๆ อีก ในวันนี้ได้ประสานไปยังผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ดร.ชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน สพฐ. เพื่อให้เด็กนักเรียนหญิงที่เสียหายและผู้ปกครองเข้าพบรับทราบเรื่องและตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าวต่อไป
