เตือนชาวนา‘โรคหอยคัน’ระบาด – เมื่อวันที่ 12 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมลงรูปภาพเกี่ยวกรณีที่ชาวนาในพื้นที่จำนวนสองร้อยกว่ารายเป็นผื่นคันที่ขาและแขนหลังเสร็จสิ้นการดำนา โดยระบุว่าในเดือนที่ผ่านมา เริ่มมีอุบัติการณ์พบคนไข้มีผื่นคันจำนวนมาก มีตุ่มแดงคันนูนอย่างน่ากลัว คันมากตามแขนขา พบว่ามีผู้ป่วยกระจายในพื้นที่ 7 ตำบล คนไข้ทั้งหมดมีอาการผื่นคันหลังการดำนา โดยส่วนใหญ่คนไข้เริ่มคันหลังดำนาได้ 1-3 วัน ผื่นมีลักษณะจำเพาะ คือเป็นผื่นที่ขาทั้ง 2 ข้างและแขนข้างที่ถนัดที่ใช้ปักดำกล้าเท่านั้น แขนอีกข้างที่ใช้วางต้นกล้าบนแขนซึ่งไม่ได้สัมผัสน้ำจะไม่มีผื่น ไม่มีผื่นบริเวณร่มผ้าหรือ บริเวณอื่นที่ไม่สัมผัสน้ำ พบผู้ป่วยที่มาตรวจรักษามากถึง 233 ราย และมีผู้ป่วยอีกจำนวนหนึ่งที่เป็นไม่มากและไม่ได้มาตรวจ คนไข้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ดำนามาทุกปี ไม่เคยเจอแบบนี้ ผมเป็นหมอที่โรงพยาบาลจะนะมากว่า 20 ปีก็ไม่เคยเจอเช่นกัน

ส่วนสาเหตุระบุว่ามาจากโรคหอยคัน โดยอาการคันๆ หรือผื่นเกิดจากตัวอ่อนของพยาธิได้ไชเข้าไปสู่ผิวหนังของคนไข้ แต่พยาธินี้เป็นพยาธิใบไม้ในเลือดที่เติบโตได้จำเพาะเฉพาะในสัตว์ ไม่สามารถเจริญเติบโตเป็นตัวเต็มวัยในคนได้ เมื่อชอนไชเข้าสู่ร่างกายของคน พยาธิก็จะตายหลังจากไชไประยะเวลาหนึ่งบริเวณผิวหนัง แต่การไชไปตามผิวหนังก็กระตุ้นให้เกิดผื่นและอาการคัน ซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกาย พบว่าคนไข้ส่วนใหญ่อาการจะดีขึ้นได้เองหลังผ่านไป 1-2 อาทิตย์ การใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ทั่วไปก็สามารถช่วยให้ผู้ป่วยหายเร็วขึ้น

นพ.สุภัทรยังแนะนำว่า เพื่อเป็นการป้องกัน ชาวนาจะต้องหาทางให้ร่างกายโดนน้ำ หรือสัมผัสกับน้ำในนาให้น้อยที่สุด เช่น สวมรองเท้าบู๊ต ซึ่งค่อนข้างยากลำบาก และทุลักทุเล เมื่อต้องทำนา เป็นต้น

โรคหอยคัน – ชาวบ้านกว่า 200 คนใน7 ตำบลของ อ.จะนะ จ.สงขลา ป่วยเป็นผดผื่นคันตามแขนขา ต้องเข้ารักษาตัวที่ร.พ. โดยนพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ ระบุเกิดจากตัวอ่อนของพยาธิจากหอยตัวเล็กๆ ที่อยู่ในนาข้าวไชเข้าผิวหนัง เมื่อวันที่ 12 พ.ย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน