‘ม็อบเฟสต์’คึก
ลั่นสู้ไม่ถอย!
บิ๊กตู่ต้องออก
แห่โลงณัฏฐพล
ฮึ่มแร็พ‘ปฏิรูป’

ม็อบยังไม่แผ่ว คนแห่ร่วมม็อบเฟสต์แน่นอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มนักเรียนเลวแห่โลงไล่รมต.ณัฏฐพล เดินขบวนร่วมม็อบปลดแอก รุ้ง-เพนกวิน ร่วมด้วย เพนกวินปราศรัย ยันไม่ลดเพดาน สู้ต่อจนชนะ ขณะที่ตร.ใช้กำลัง 35 กองร้อย ตรึงแน่น ขนทั้งรถฉีดน้ำ ซ้อมขึงลวดหนาม ฮึ่มเอาผิดแร็พประเทศกูมี ออกเพลง ‘ปฏิรูป’เข้าข่ายละเมิดสิทธิ

★ ตร.ซ้อมขึงลวดหนามรับม็อบ

วันที่ 14 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถาน การณ์การชุมนุมของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา ประชาชน ที่ออกมาขับไล่รัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ตั้งแต่เวลา 00.05 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ นำรถเมล์ประจำทาง 4 คันมาจอดปิดถนนราชดำเนินกลาง ฝั่งขาเข้า พร้อมกับนำรั้วลวดหนามหีบเพลง มาวางเป็นแนวกั้น ส่วนที่บริเวณบนฟุตปาธริมถนนมีแนวกั้นสังกะสีมาวางปิดไว้เช่นกัน ทำให้ประชาชนไม่สามารถเดินผ่านไปได้ โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ดำเนินการอยู่นั้นได้มีประชาชนบางส่วนเข้ามาดูสังเกตการณ์

นอกจากนี้ที่บริเวณเกาะกลางถนน เจ้าหน้าที่ได้นำเอาแผงเหล็กมาวางเป็นแนวยาวระยะทางกว่า 300 เมตร จากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปจนถึงแยกคอกวัว โดยนำลวดสะลิงมาผูกมัดไว้เพื่อสร้างความแข็งแรง

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ว่าการปิดถนนครั้งนี้มีทั้งหมด 2 จุด คือ แยกคอกวัวและบริเวณสะพานผ่านฟ้า โดยใช้รถเมล์ประจำทางสาย 48 จำนวน 8 คัน เข้าปิดถนน ซึ่งแต่ละจุดจะใช้รถเมล์ประจำทาง 4 คัน ตามด้วยรั้วลวดหนาม ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการซักซ้อมเท่านั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงเคลื่อนรถเมล์และเก็บลวดหนามออกพ้นพื้นที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงเปิดการจราจร บริเวณถนนราชดำเนิน ขาเข้า ให้ใช้งานได้ตามปกติ โดยคาดว่าการซักซ้อมวางแนวกั้นดังกล่าว เป็นการเตรียมความพร้อมรับมือกลุ่มผู้ชุมนุม จากกลุ่มนักเรียนเลว จัดกิจกรรมหน้ากระทรวงศึกษาธิการ จากนั้นจะเดินขบวนมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย, กลุ่มผู้หญิงปลดแอก จัดกิจกรรมบริเวณแยกคอกวัว ,และม็อบเฟสต์ จัดกิจกรรมบนทางเท้าหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

★ รถฉีดน้ำชนรถข่าวไฟแตก








Advertisement

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กำชับให้ตำรวจเข้าไปดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยของผู้ชุมนุมและประชาชน และขอให้ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทำกิจกรรมด้วยความสงบเรียบร้อย คำนึงถึงกฎหมาย หากแต่ละกลุ่มแสดงความคิดเห็นที่ไม่ตรงกันขอให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ กำชับเรื่องอื่นเพิ่มเติมหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า เป็นเรื่องการพูดคุย ที่ต้องดูว่าจะทำอย่างไร หากจะเจรจาด้วยกลไกของคณะกรรมการสมานฉันท์ โดยให้ผู้ชุมนุมและทุกกลุ่มที่มีความคิดเห็นแตกต่างเข้ามามีส่วนร่วมในคณะกรรมการ เข้ามาเจรจา และพูดคุยกันเพื่อหาทางออก เมื่อได้ข้อสรุปให้กลไกที่มีอยู่ดำเนินไป ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และเรื่องอื่นๆ ที่จะดำเนินไปพร้อมกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด-19

ต่อมาเมื่อเวลา 12.50 น. ที่บริเวณประตู 5 ทำเนียบรัฐบาล ฝั่งตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าประจำจุดเตรียมพร้อม รวมถึงรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือ จีโน่ หลายคัน เข้ามาในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมรอบทำเนียบและรอบกระทรวงศึกษาธิการ แต่ระหว่างที่จะนำรถฉีดน้ำเข้าจอดก็ได้เฉี่ยวชนเข้ากับรถของสำนักข่าวช่องไอเอ็นเอ็น ที่จอดอยู่บริเวณหน้าประตู 5 ทำเนียบ ทำให้กันชนและไฟหน้าได้รับความเสียหาย ส่วนรถฉีดน้ำแรงดันสูงไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด

นายบรรเทิง สุริวรรณ ผู้ช่วยช่างภาพสำนักข่าวไอเอ็นเอ็น กล่าวว่า ตนจอดอยู่บริเวณ ดังกล่าวนานแล้ว ระหว่างนั้นรถฉีดน้ำคันหนึ่งซึ่งกำลังเคลื่อนมาประจำการ ก็เข้ามาจอดขนานกับรถประมาณ 5 นาที ก่อนจะเลี้ยวเข้าจอดด้านหน้า โดยขณะนั้นนอตล้อหน้าด้านซ้ายของรถน้ำได้เข้ามาเบียดจนทำให้กันชนบริเวณหน้ารถด้านขวาเสียหาย พร้อมไฟหน้าขวาฉีกขาด

ขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้ขับรถน้ำระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากกระจกรถน้ำมีตาข่ายบัง ประกอบกับกระจกเป็นกระจกกันกระสุน ทั้งเป็นจุดอับสายตาทำให้มองไม่เห็นรถคัน ดังกล่าวว่าจอดอยู่ เจ้าหน้าที่ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเพื่อรับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับเจ้าหน้าที่เพื่อรักษาความปลอดภัยบริเวณโดยรอบอย่างเข้มงวด

แห่โลงไล่ – กลุ่มนักเรียนเลวแห่โลงและดอกไม้จันทน์ ขับไล่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ โดยเดินจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการมายังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมม็อบเฟสต์

★ ม็อบ‘นักเรียนเลว’แห่โลงรมต.

เมื่อเวลา 13.00 น. บรรยากาศบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ มวลชนเริ่มทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุมใหญ่ โดยกลุ่มการ์ดเดิน ทางมาถึงก่อนเป็นกลุ่มแรก หลังประกาศ นัดชุมนุมและเดินขบวนในเวลา 14.00 น. จากกระทรวงศึกษาฯ ไปยังอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย เพื่อมาร่วมแสดงเจตจำนงถึงการ ไม่เอาการบริหารงานของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ โดยมีกลุ่มนักเรียนเลว นำภาพนายณัฏฐพล รวมถึงโลงศพและดอกไม้จันทน์ มาวางหน้ากระทรวงเตรียมนำเคลื่อนขบวนด้วย และติดสติ๊กเกอร์หมุดคณะราษฎรที่ป้ายกระทรวงศึกษาธิการ เตรียมรอผู้ชุมนุมก่อนเคลื่อนย้ายไปรับขบวนเสด็จที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ขณะที่การรักษาความปลอดภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางแผงเหล็กกั้นตลอดแนวด้านหน้ากระทรวง และกระจายกำลังโดยรอบตลอดแนวตั้งแต่แยกมิสกวันตลอดเส้นทาง จนถึงบริเวณท้องสนามหลวง โดยใช้กำลังตำรวจควบคุมฝูงชน 34 กองร้อย นอกเหนือจากรถฉีดน้ำแรงดันสูง หรือจีโน จำนวนหลายคัน และรถคุมขัง

นอกจากนี้ยังนำแผงกั้นเหล็กพร้อมสะลิงมายึดรั้วเหล็กเเต่ละอันเข้าด้วยกัน เพิ่มความเเน่นหนา เเข็งเเรง โดยนำมาตั้งวางเรียงรายโดยรอบของกระทรวงศึกษาธิการตั้งแต่บริเวณแยก มิสกวัน ไปจนถึงอีกฝั่งคือบริเวณหัวสะพานมัฆวานรังสรรค์ เป็นระยะทาง 300 เมตร และมีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนมาประจำการทั้งหมด 6 กองร้อยหรือ กว่า 900 นาย คอยผลัดเปลี่ยนกำลัง เพื่อประจำการดูแลความเรียบร้อยและความปลอดภัยให้กับประชาชนและโดยรอบสถานที่ ยืนยันไม่มีการใช้ความรุนแรงเป็นเพียงการดูแลประชาชนตามหน้าที่เท่านั้น

ต่อมาเวลา 14.05 น. ขบวนนักเรียนเลวได้เริ่มเคลื่อนย้ายขบวนออกจากหน้ากระทรวงศึกษาธิการ มุ่งหน้าผ่านถนนราชดำเนินกลาง ไปยังอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

ส่วนที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กลุ่มผู้ชุมนุมทยอยมารอร่วมชุมนุมกับกลุ่มผู้หญิงปลดแอก กลุ่มอาชีวะพิทักษ์ประชาชน กลุ่ม Mob Fest และกลุ่มแดงก้าวหน้า 63 เริ่มชุมนุมตั้งแต่เวลา 13.00 น. พร้อมจัดเวทีรอรับขบวนของกลุ่มนักเรียนเลว และกลุ่มผู้ชุมนุมอื่นๆ

เมื่อเวลา 14.20 น. บรรยากาศการเดินขบวนกลุ่มนักเรียนเลวเป็นไปอย่างสงบ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงควบคุมฝูงชนเดินขนาบข้างขบวน เพื่ออำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ภายในขบวนมีการร้องเพลงประกอบจังหวะ และเคาะโลงศพจำลองของนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สลับกับการร้องไห้คร่ำครวญตลอดเส้นทาง พร้อมการปราศรัยของแกนนำบนรถโมบายเป็นระยะ

★ บช.น.ประกาศข้อห้ามการชุมนุม

เมื่อเวลา 14.50 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตร. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผบช.น. และพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกตร. ร่วมกันแถลงสถานการณ์การชุมนุม 3 กลุ่ม

พล.ต.ต.ยิ่งยศเปิดเผยว่า เวลา 17.00 น. จะมีหมายกำหนดการพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดสถานีรถไฟฟ้าสนามไชย โดยจะใช้เส้นทางจากพระราชวังดุสิต มายังถนนราชดำเนินนอก ถนนราชดำเนินกลาง และเข้าถนนสนามไชย จากนั้นจะประทับรถไฟฟ้าไปยังสถานีรถไฟฟ้าหลักสอง ส่วนเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินกลับ จะใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก เข้าถนนบรมราชชนนี ขึ้นสะพานพระราม 8 กลับมายังพระราชวังดุสิต จึงขอเชิญชวนประชาชนเฝ้าฯ รับเสด็จ ตลอดเส้นทางได้ โดยจะมีตำรวจนครบาลดูแลความปลอดภัยตลอดเส้นทาง

ยังไม่แผ่ว – นักเรียน นักศึกษา ประชาชนยังคงแห่มากันเนืองแน่น ร่วมชุมนุมม็อบเฟสต์ ย้ำ 3 ข้อเรียกร้อง พร้อมนำผ้าที่เขียนข้อความแสดงเจตจำนงไปพันรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และยิงเลเซอร์ข้อความ ‘แก้ได้ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ’ เมื่อค่ำวันที่ 14 พ.ย.

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า วันนี้มีผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม ดังนี้ 1.MOB FEST ได้จัดการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยและพื้นที่โดยรอบ 2.กลุ่มนักเรียนเลว มีจำนวนผู้ชุมนุมประมาณ 100 คน บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ 3.กลุ่มชุมนุมผู้หญิงปลดแอก บริเวณแยกคอกวัว ซึ่งทั้ง 3 กลุ่มได้ยื่นขออนุญาตจัดการชุมนุมต่อเจ้าพนักงานผู้ดูแลการชุมนุมที่สน.ชนะสงคราม เรียบร้อยตามกฎหมาย ทางผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม มีเงื่อนไขแต่ละกลุ่ม ดังนี้ สำหรับกลุ่มผู้ชุมนุม MOB FEST มีเงื่อนไขกำหนดให้ผู้จัดชุมนุมควบคุมคนให้อยู่บนบาทวิถีหน้าแมคโดนัลด์เท่านั้น ห้ามเคลื่อนไปจุดอื่น ในกรณีผู้ชุมนุมเต็มบนทางเท้าแล้วให้สามารถลงมาช่องทางการจราจร ได้ 1 ช่องทางเท่านั้น การตั้งเวทีให้หันหน้าไปทางแยกคอกวัว

สำหรับกรณีกลุ่มนักเรียนเลว ผู้จัดการชุมนุมขอเคลื่อนการชุมนุมจากด้านหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ไปยังอนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย ได้มีเงื่อนไขสำคัญคือให้มีการเคลื่อนให้เสร็จสิ้นก่อนเวลา 15.00 น. ซึ่งกลุ่มนักเรียนเลวได้เคลื่อนตัวแล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการ และกลุ่มสุดท้ายได้มีเงื่อนไขให้ผู้จัดการชุมนุมควบคุมให้ผู้ชุมนุมอยู่ในบริเวณแยกคอกวัวเท่านั้น ห้ามเคลื่อนไปยังจุดอื่นๆ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขอื่นๆ ที่ได้กำหนดให้ทั้ง 3 กลุ่มดำเนินการ ดังนี้ 1.ห้ามใช้ป้ายข้อความหมิ่นประมาท ดูหมิ่น ยุยง ปลุกระดมให้เกิดความวุ่นวาย 2.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมหรือใช้เส้นทางอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้ 3.ห้ามใช้เครื่องเสียงที่มีอัตราเสียงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือที่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามพ.ร.บ. ควบคุมการโฆษณาโดยการใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ.2493 นั้นหมายความว่าเครื่องเสียงที่ใช้ได้จะต้องมีระดับเสียงสูงสุดไม่เกิน 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยในการใช้จะต้องไม่เกิน 70 เดซิเบล 4.การชุมนุมต้องชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ กระทำโดยสุจริตไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดี ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่นเกินสมควร และไม่กระทบกระเทือนสิทธิของผู้อื่นเกินขอบเขตเสรีภาพของกฎหมาย

★ ใช้กำลัง 5,250 นายคุมม็อบ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า สำหรับการใช้ เจ้าหน้าที่ดูแลผู้ชุมนุมในวันนี้ ได้จัดเจ้าหน้าที่แบ่งออกเป็น 3 โซนหลักๆ คือ 1.บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถึงสะพานมัฆวานฯ 2.แยกจปร. แยกผ่านฟ้าฯ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนถึงแยกคอกวัว 3.บริเวณรอบท้องสนามหลวง รวมใช้กำลัง 35 กองร้อย หรือ 5,250 นาย นอกจากนี้มีกำลังชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดอื่นๆ ที่ดูแลพื้นที่และพื้นที่สำคัญรวมทั้งสิ้น 53 กองร้อย

พล.ต.ต.จิรสันต์กล่าวว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุม 3 กลุ่ม โดยมีการเคลื่อนที่เพียงกลุ่มเดียว ใช้ราชดำเนินนอก ได้เคลื่อนขบวนเวลา 14.15 น. ทั้งนี้การเคลื่อนที่ไปเป็นกรณี การย้อนศร จึงมีการปิดการจราจรถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่แยกคอกวัวถึงแยกผ่านฟ้าฯ นอกจากนี้ขอประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงถนน 9 เส้นทาง สะพาน 2 สะพาน ดังนี้ ถนนราชดำเนินใน ถนนราชดำเนินกลาง ถนนราชดำเนินนอก ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนจักรพรรดิพงษ์ ถนนหลานหลวง ถนนดินสอ ถนนตะนาว สะพานพระราม 8 สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยงเส้นทาง

เมื่อถามว่ามีการซ้อมวางลวดหนาม และการปฏิบัติการทางยุทธวิธีของตำรวจควบคุมฝูงชนเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาบริเวณแยกคอกวัว พล.ต.ต.ปิยะเปิดเผยว่า เป็นการซ้อมการปฏิบัติการควบคุมฝูงชนตามปกติ แต่ยืนยันยังไม่มีการใช้เครื่องมือ หรือรถประจำทางมากีดขวางกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งต้องรอการประเมินตามสถานการณ์ ส่วนการชุมนุมของกลุ่ม ผู้หญิงปลดแอกแจ้งสิ้นสุดการชุมนุมถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันที่ 15 พ.ย. ส่วนกลุ่ม MOB FEST ขอเวลาถึง 22.00 น. และหากไม่ยุติการชุมนุมตามเวลาตำรวจก็จะแจ้งให้ยกเลิกชุมนุมตามขั้นตอน

★ จ่อเอาผิดวงแร็พทำเพลง‘ปฏิรูป’

เมื่อถามว่ากรณีที่กลุ่มศิลปิน Rap Against Dictatorship นำเพลงที่ชื่อว่า ปฏิรูป เผยแพร่ในยูทูบ แล้วมีการใช้ถ้อยคำที่พาดพิงบุคคลอื่นนั้น พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวว่า การเผยแพร่เพลงต่างๆ สามารถกระทำได้ แต่ต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ซึ่งขณะนี้ได้ส่งเพลงดังกล่าวให้กับฝ่ายกฎหมาย กองบัญชาการตำรวจนครบาลตรวจสอบแล้ว แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะมีความผิดในข้อหาใดบ้าง แต่ตำรวจยืนยันจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ความผิดที่ตำรวจสามารถแจ้งข้อหากับ ผู้ผลิตเพลง หากตรวจสอบแล้วมีการกระทบสิทธิ์ หรือเข้าข่ายผิดกฎหมายในข้อใดข้อหนึ่ง ส่วนที่สอง คือ หากผู้ที่ฟังแล้วพบว่ากระทบสิทธิ์ของตัวเอง ก็สามารถมาร้องทุกข์ให้ตำรวจดำเนินคดีได้ตามกฎหมาย และหากมี ผู้มาร้องทุกข์ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งหากมีความผิดจริงตำรวจก็จะร้องให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงาน กสทช. สั่งให้นำออกจากระบบคอมพิวเตอร์

สังเกตการณ์ – นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุม และกิจกรรมต่างๆ ของม็อบเฟสต์ #แก้ได้ถ้าแก้รัฐธรรมนูญ มีผู้ชุมนุมมาขอถ่ายรูป ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อ 14 พ.ย.

จากนั้นเวลา 14.20 น. ผู้ชุมนุม MOB FEST ได้นำรถ 10 ล้อ ไปจอดเป็นเวทีอยู่กลางแยก ถนนราชดำเนินกลาง หน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และมวลชนได้เริ่มลงถนน และปิดถนนฝั่งหน้าร้านแมคฯ ยาวไปถึงแยกคอกวัว โดยตัวแทนเริ่มปราศรัยโจมตีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และทวง 3 ข้อเรียกร้อง และขอให้ทุกคนจับตาดูในวันที่ 17 ถึง 18 พ.ย.ที่ประชุมร่วมรัฐสภาจะพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญว่าจะมีการปัดตกร่างของไอลอว์หรือไม่

ต่อมากลุ่มผู้ชุมนุมปูผ้าขาว 30 เมตร ให้ประชาชนได้เขียนระบาย และดีไซน์อนาคตประเทศไทยที่ต้องการ ก่อนนำขึ้นไปคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในช่วงค่ำ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลาเดียวกัน ถนนราชดำเนินฝั่งที่มุ่งหน้าไปสี่แยกคอกวัว บริเวณตรงข้ามกับกลุ่มผู้ชุมนุม MOB FEST ที่เวทีอยู่ ได้มีผู้ชุมนุมสวมเสื้อเหลืองทยอยมารอรับเสด็จในเวลา 17.00 น.

★ บ.ก.ลายจุดจี้‘ตู่’ลาออก

ด้านนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บ.ก.ลายจุด แนวร่วมราษฎร 2563 สวมชุดโจรสลัดพร้อมแว่นกันน้ำขึ้นปราศรัยว่า ตลอด 6 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่มีขีดความสามารถในการบริหารประเทศ ทำให้เศรษฐกิจตกต่ำ เป็นเหตุผลสำคัญให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความชอบธรรมในการดำรงตำแหน่งนายกฯ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากตำแหน่ง ประเทศจะดีขึ้นกว่านี้มาก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นหนึ่งในฟืนที่ติดไฟแล้วและกำลังสร้างบรรยากาศความขัดแย้งในสังคมต่อไป

นายสมบัติกล่าวต่อไปว่า การถอยคนละก้าวต้องเริ่มจาก พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าไม่ถอยจะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ที่บางคนไม่อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป คนเหล่านี้พยายามบอกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีความผิด ถามว่าอยู่โลกไหนกัน นับเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะคนเหล่านั้นมีผลประโยชน์ทางการเมืองจากการที่ได้เกาะ พล.อ.ประยุทธ์ ไว้ หากลงจากอำนาจ พวกลิ่วล้อจะไม่มีที่เกาะ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นพรรคเฉพาะกิจ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ออกจะมีผลให้พรรคพลังประชารัฐหมดสภาพ หายสาบสูญไปจากการเมืองไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าแน่นอน 3 ป.จะไม่มีที่ยืน ล้างอำนาจนอกระบบที่เข้ามาสู่การเมืองไทยที่สืบทอดอำนาจผ่านการเลือกตั้งซึ่งอยู่บนกติกาที่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นประชาธิปไตย

นายสมบัติยังกล่าวถึงการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ว่า พวกเขาอ้างรัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านลงประชามติมาแล้ว แต่ตอนลงประชามติเขาหลอกให้รับไปก่อน ถ้ามีปัญหาค่อยแก้ และขณะนั้นขู่ว่าถ้าไม่รับร่างรัฐธรรมนูญจะใช้อำนาจ คสช. นำรัฐธรรมนูญฉบับไหนก็ได้มาเขียนในแบบที่เขาต้องการและประกาศใช้ทันที ทำให้การลงประชามติไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของประชาชน ในความเป็นจริงไม่มีความชอบธรรม เช่นเดียวกับกฎหมายว่าด้วยเรื่องสัญญาที่ไม่เป็นธรรม

นายสมบัติระบุด้วยว่า รัฐธรรมนูญเป็นสัญญาประชาคมได้ ต่อเมื่อประชาชนยอมรับตกลงจะอยู่ภายใต้หลักการ รัฐธรรมนูญศักดิ์สิทธิ์ได้ต่อเมื่อเป็นอำนาจของประชาชน หากรัฐธรรมนูญไม่เคารพเสียงของประชาชน จะไม่มีความศักดิ์สิทธิ์และไม่สามารถ เป็นฉันทามติของสังคมที่รับรองว่ามีความสำคัญได้

การต่อสู้หลังจากนี้เป็นต้นไป ขอให้พี่น้องพิจารณาวิธีการต่อสู้ระยะยาวได้อย่างไร และต้องแสดงให้เห็นว่าเรามีประชาชนจำนวนมากที่พร้อมจะสลับกันออกมา เพื่อเป็นพลังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการเมืองไทย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ผู้ชุมนุมนำผ้าขาว 30 เมตร ไปคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เกิดเหตุชุลมุนขึ้นเล็กน้อย โดยการ์ดอาชีวะบางส่วน เข้าปะทะกับเจ้าที่ตำรวจ จนทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบาดเจ็บ เพราะเข้าใจผิดว่าตำรวจจะเข้ามากระชับพื้นที่ แต่กลุ่มการ์ดก็พยายามกันคนของตัวเองไม่ให้เข้าไปปะทะ หลังจากสถานการณ์คลี่คลาย การ์ดได้นำตัวแทนอาชีวะเข้าไปขอโทษยอมรับว่าเข้าใจผิดจนทำให้เกิดเหตุชุลมุนขึ้น ทั้งนี้กลุ่มการ์ดขึ้นเวทีประกาศขอโทษเจ้าที่ตำรวจที่อีกครั้งที่ทำให้ได้รับบาดเจ็บ

ต่อมาเวลา 19.00 น. ที่อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร เดินทางมาร่วมชุมนุมด้วย โดยรุ้งกล่าวว่า วันนี้เดินทางมาให้กำลังใจ และเหมือนมาเดินเล่น ไม่ได้ร่วมขึ้นมาปราศรัยด้วย แต่นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จะเป็นผู้ขึ้นปราศรัย

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ขึ้นปราศรัย ระบุว่ามีความพยายามมาพูดคุยกับตนในเรือนจำให้ถอยด้วยการรับปากแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ต้องให้พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ต่อ ซึ่งตนไม่เอาด้วย ยืนยันว่าไม่ลดเพดาน ข้อเรียกร้อง 3 ข้อหลักยังเป็นเรื่องเดิม และจะยืนหยัดต่อสู้กับประชาชนทุกคนต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน