ไม่หวั่นเสื้อเหลืองมาชุมนุมชน
ตั้งภาคีการ์ด-10หน่วยดูรปภ.
โฆษกรัฐแจงสมช.ส่งซิกผู้ว่าฯ
สกัดมวลชนเข้าร่วมม็อบกทม.

เพนกวินประกาศม็อบ 25 พ.ย. เบิ้มๆ อีก มีเซอร์ไพรส์ด้วย ยันต่อสู้ด้วยสันติวิธี แต่หากมีรัฐประหารจะต่อต้านให้ถึงที่สุด รองโฆษกตร.เผยเตรียมแผนรับมือม็อบ 25 พ.ย.แล้ว ที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ แต่ขออุบไว้ไม่บอกกลัวแผนรั่ว ยันไม่ได้ขอศาลเพิกถอนประกันแกนนำม็อบ เสื้อแดงร่วมชุมนุมม็อบราษฎร ที่ถนนอักษะ แห่โลงรำลึกปราบม็อบปี 53 พร้อมตั้งภาคีการ์ด รวม 10 กลุ่มดูแลความปลอดภัยประชาชน ขณะตร.ขน ตชด.รับมือเพียบ ขณะที่เอกสารหลุดของสมช. สั่งผู้ว่าฯทุกจังหวัดสกัดมาร่วมม็อบกทม. ด้านโฆษกรัฐบาลโต้วุ่น ยันนายกฯไม่ได้สั่งการ

ตร.คุมเข้ม2ม็อบ22พฤศจิกาฯ

วันที่ 22 พ.ย. ที่บช.น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.กล่าวถึงความกังวลต่อการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่แยกวังแดง สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ว่า หากนักข่าวให้ห่วงก็เป็นห่วง ส่วนรายละเอียดต่างๆ ให้รอทีมโฆษกตำรวจนครบาลเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียด อีกครั้ง เช่นเดียวกับการชุมนุมที่ถนนอักษะ จ.นครปฐม ในช่วงบ่ายวันนี้

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.พร้อม พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษก ตร.แถลงแนวทางการดูแลและการจัดจราจรกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมที่นัดรวมตัวทำกิจกรรมนิทรรศการงานเฟสติวัล รวมพลังประชาธิปไตย บริเวณถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า วันนี้มีแจ้งการชุมนุม 2 กลุ่ม คือ 1.ภาคีนักศึกษาศาลายา แจ้งการชุมนุมกับสน.ธรรมศาลา เพื่อจัดการชุมนุมที่ถนนอักษะถึงถนนอุทยานซอย 13 เริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น.เป็นต้นไป โดยตำรวจกำหนดเงื่อนไขการชุมนุมดังนี้คือ 1.ให้ควบคุม ผู้ชุมนุมให้อยู่ในพื้นที่แจ้งชุมนุมเท่านั้น 2.ห้ามเคลื่อนย้ายพื้นที่ชุมนุมเด็ดขาด 3.ห้ามใช้ป้ายข้อความดูหมิ่นปลุกระดมยุยง 4.ห้ามเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมไปจุดอื่นที่ไม่ได้แจ้งไว้ 5.ห้ามใช้เครื่องเสียงตามที่กฎหมายกำหนดค่าสูงสุด 115 เดซิเบล และค่าเฉลี่ยตลอดการชุมนุมไม่เกิน 70 เดซิเบล และ 6.ให้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ไม่กระทบต่อความเรียบร้อยของบ้านเมืองและศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งนี้ การชุมนุมที่ถนนอักษะ ห้ามชุมนุมเกินระยะ 150 เมตรจากเขตพระราชฐานเด็ดขาด

กลุ่มต่อมา คือกลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตยแจ้งการชุมนุมกับ สน.พระราชวัง ตั้งแต่เวลา 12.00-19.00 น.โดยพบปะพูดคุยการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องชาวบ้าน ที่หน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนเดินไปแยกคอกวัว โดยกำหนดเงื่อนไขดังนี้คือ ให้อยู่บนทางเท้าร้านแมคและเดินไปแยกคอกวัวบนทางเท้าโดย ไม่ให้ลงผิวจราจรเด็ดขาด นอกนั้นเงื่อนไขเดียวกับกลุ่มแรก

พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า การชุมนุมที่ถนนอักษะ ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวตั้งแต่เวลา 14.00 น. เส้นทางที่จะได้รับผลกระทบคือ แยกถนนอักษะตัดถนนพุทธมณฑลสาย 4 แยกถนนอักษะตัดถนนเลียบคลองทวีวัฒนา และถนนเลียบคลองทวีฯ ไปจนถึงแยกบรมราชชนนี จึงขอให้ใช้ถนนพุทธมณฑลสาย 3,4,5 และถนนบรมราชชนนี ส่วนแยกตัดถนนอักษะกับเพชรเกษมยังคงใช้ได้ตามปกติ อีกจุดที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คาดการณ์ว่า การเดินเท้าไปแยกคอกวัวอาจเกิดผลกระทบด้านจราจร ฉะนั้นขอให้เลี่ยงไปใช้สะพานสมเด็จพระ ปิ่นเกล้า หรือไปตามถนนเจ้าฟ้าทางขวา และถนนอัษฎางค์ทางซ้าย

พร้อมรับม็อบสนง.ทรัพย์สิน

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า สำหรับการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรที่แยกวังแดง สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ได้ประชุมเตรียมการเรียบร้อยแล้ว แต่ยัง ไม่สามารถระบุรายละเอียดได้ ทั้งนี้ตำรวจ ยังไม่ขอศาลเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว ต่อแกนนำผู้ชุมนุมบางส่วน

ส่วนการแจ้งข้อหาผิด ม.112 ยังต้องดูตามพฤติการณ์และบริบทของผู้ชุมนุมหากเข้าข่ายก็ต้องแจ้งข้อกล่าวหาตามนั้น ยืนยันว่าตำรวจต้องให้ความเป็นธรรม และการแจ้งข้อกล่าวหานี้จะต้องพิจารณาระดับกองบัญชาการเท่านั้น ส่วนการเตรียมออกหมายเรียกผู้ชุมนุมที่รัฐสภา แยกเกียกกาย และหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น สน.บางโพ สน.เตาปูน และ สน. ปทุมวัน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล จะมีคนผิดมากกว่า 30 รายหรือไม่ ตัวเลขไม่สำคัญ สำคัญที่คนกระทำผิด เชื่อว่าจะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า เบื้องต้นความผิดแบ่งเป็นหลายส่วน สำหรับผู้ชุมนุม เข้าข่ายผิดฐานจัดการชุมนุมโดยมิชอบ บางส่วนสมคบกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อย ส่วนการปราศรัยที่พาดพิงผิดฐานหมิ่นประมาท อีกส่วนที่ทำลายสิ่งของและกล้องวงจรปิด ฐานทำให้เกิดความเสียหายซึ่งทรัพย์สินเอกชน ทรัพย์สินราชการ และทรัพย์สินสาธารณะ

เมื่อถามความคืบหน้าการที่มีชายเสื้อฝนชมพูรายหนึ่งออกมาแสดงตัวว่าไม่ใช่คนที่ทำท่าเล็งปืนตามในข่าว พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า หากมั่นใจว่าตัวเองไม่ใช่คนผิด ก็ให้ไปพบตำรวจสน.เตาปูนเพื่อเป็นพยานในคดี เพราะในม็อบมีคนชุดชมพูเยอะ จึงต้องพิสูจน์ทราบว่าเป็นคนเดียวกันจริงหรือไม่ เรื่องการตามตัวตอนนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว อีกทั้ง พฐ.ยังตรวจพบปลอกกระสุนในที่เกิดเหตุหลายชนิด จุดแรกตรงรถบัส ตชด.ใกล้แยกเกียกกาย อีกจุดที่พบมาก อยู่เลยทางเข้าวัดใหม่ทองเสน ห่างจากจุดเกิดเหตุไม่เกิน 400 เมตร

เตรียมแจงสารเคมีฉีดประชาชน

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า แม้แจ้งการชุมนุมแล้วแต่หากมีการกระทำใดเข้าข่ายความผิดอื่นๆ ตำรวจยังคงต้องพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเช่นทุกครั้ง จึงขอให้ผู้ชุมนุมปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีมีแกนนำผู้ชุมนุมแจ้งว่าถูกเจ้าหน้าที่ติดเครื่องจีพีเอสไว้ใต้ท้องรถนั้นยังไม่ได้รับรายงาน เพราะรถส่วนใหญ่ก็ติดอยู่แล้ว ตำรวจไม่จำเป็นต้องตามขนาดนั้น เรามีวิธีการอยู่แล้ว สำหรับสารเคมีในการฉีดน้ำนั้น สัปดาห์หน้าจะมีการชี้แจงจากผู้จัดซื้อจัดหาและผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่าขั้นตอนทั้งหมดมีวัตถุประสงค์เพื่อระงับยับยั้งไม่ให้ผู้ชุมนุมเข้าเขตแนวที่ห้ามไว้ แต่ยอมรับว่าสารเคมีนั้นมีผลกระทบแน่นอน แต่จะเป็นผลข้างเคียงอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับบุคคล สำหรับอาการบาดเจ็บก็ต้องไปดูในส่วนที่เกี่ยวข้องว่าจะรับผิดชอบอย่างไร หากผู้ชุมนุมจะฟ้องร้องเราก็ไม่ตัดสิทธิ์ เพราะที่ผ่านมายังมีการฟ้องร้องในส่วนอื่นๆ ด้วย อีกทั้งก่อนการใช้ก็ฝึกซ้อมจนชำนาญ ตำรวจทำตามขั้นตอนแน่นอน

แจงวุ่นสมช.สั่งผู้ว่าฯสกัดม็อบ

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีมีการเผยแพร่เอกสารที่ลงนามโดยพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้กระทรวงมหาดไทยเตรียมแนวทางป้องกันการระดมมวลชนในพื้นที่เพื่อเข้ามาชุมนุมในส่วนกลาง รวมทั้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ดำรงการจัดกิจกรรมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติ ระหว่างวันที่ 23-27 พ.ย.ว่า ยังไม่ทราบข้อมูลและยังไม่เห็นหนังสือดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่านายกฯได้สั่งการบ้างหรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า นายกฯไม่มีการให้นโยบายเรื่องดังกล่าว และไม่มีการสั่งการอย่างเป็นทางการ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีการเผยแพร่เอกสารที่ลงนามโดยพล.อ.ณัฐพล ที่มีคำสั่งไปถึงกระทรวงมหาดไทยให้ดำเนินการดังนี้ “สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้เตรียมแนวทางป้องกันการระดมมวลชนในพื้นที่มาร่วมการชุมนุมใหญ่ในพื้นที่ส่วนกลาง และให้เตรียมมาตรการในการดูแลความปลอดภัยการจัดชุมนุมคู่ขนานในพื้นที่ส่วนภูมิภาคช่วงวันที่ 23 ถึง 27 พ.ย. 2563 เพื่อให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ (ในทางลับ) เพื่อดำรงการจัดกิจกรรมแสดงความจงรักภักดีต่อสถาบันหลักของชาติในพื้นที่ส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงวันที่ 23 ถึง 27 พ.ย.”

สุวิทย์ขอพรให้สถาบันกษัตริย์

ที่อุทยานประวัติศาสตร์เขาพนมรุ้ง ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ พร้อมด้วย นายอานนท์ แสนน่าน ผู้ก่อตั้งหมู่บ้านเสื้อแดง และอดีตประธานหมู่บ้านเสื้อแดงแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายหมู่บ้านวิสาหกิจชุมชนท้องถิ่นเรารักประเทศไทย พร้อมส่วนราชการ อดีตกลุ่มคนเสื้อแดง และผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) เก่า รวมถึงภาคประชาชนรวมกว่า 300 คน ร่วมกันประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้สถาบันพระมหากษัตริย์ มีความสุข และแคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง รวมถึงเพื่อขอพรให้เกิดความสงบสุข ประชาชนรู้รักสามัคคีกัน และร่วมกันปกป้องสถาบันหลักสำคัญของประเทศ คือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ พร้อมได้พูดคุยทำความเข้าใจกับอดีตคน เสื้อแดง และประชาชนทั่วไป ได้เข้าใจ รู้รัก หวงแหน และเทิดทูนสถาบันกษัตริย์ไว้ เหนือเกล้า

พุทธะอิสระ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มา บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยปกปักรักษาแผ่นดินสยาม ประชาชนคนไทย และราชบัลลังก์แห่งราชวงศ์จักรี ซึ่งตนจะเดินสายบวงสรวงศาลหลักเมือง และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละจังหวัด นอกจากนี้ในการเดินทางไปบวงสรวงแต่ละครั้ง จะมีการจัดกิจกรรม “รวมลานบ้าน ชวนกินข้าว ฟังเรื่องเล่าพระเจ้าอยู่หัว” ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้าไปตามหมู่บ้านคนเสื้อแดง เพื่อพูดคุยกับคนเสื้อแดงให้หันมาร่วมกันดูแลปกปักรักษาบ้านเมือง รู้รักสามัคคี และสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อร่วมกันนำพาบ้านเมืองให้ไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกลุ่มคนเสื้อแดงเป็นอย่างดี โดยตั้งใจจะเดินสายทำกิจกรรมให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 5 ธ.ค. 63

พร้อมกันนี้อดีตพระพุทธะอิสระ ยังกล่าวเชิญชวนพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า พร้อมใจกันสวมใส่เสื้อเหลืองในวันที่ 5 ธันวาคมที่จะถึงนี้ เพื่อแสดงออกถึงพลังแห่งความจงรักภักดี ร่วมกันให้เต็มทั้งพื้นที่สนามหลวง และถนนราชดำเนิน ให้สีเหลืองเรืองอร่ามเหมือนดั่งทองทาทั้งแผ่นดิน

ม็อบวิพากษ์นโยบายรบ.

เมื่อเวลา 12.30 น. กลุ่มเลือกข้างประชา ธิปไตย โดยนายภัทรพล ธนเดชพรเลิศ หรือ ไก่ บิ๊กแมน พร้อมมวลชน ประมาณ 10 คน เริ่มทำกิจกรรมผลัดเปลี่ยนกันพูดโจมตีเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล และวิพากษ์วิจารณ์ผลงานของนายกรัฐมนตรี โดยกลุ่มดังกล่าวยื่นแจ้งการชุมนุมกับสน.พระราชวังว่าจะร่วมชุมนุมกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยบริเวณทางเท้าหน้าร้านแมคโดนัลด์ ก่อนที่จะนัดเคลื่อนตัวเดินไปยังแยกคอกวัวโดยใช้ทางเท้า ก่อนจะแยกย้ายไปในช่วง 19:00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มดังกล่าวรวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์และอาศัยในประเด็นต่างๆ โดยมีผู้ชุมนุมมาติดตามฟังอยู่บางตา อย่างไรก็ตาม มีเจ้าหน้าที่สายตรวจสน.ชนะสงคราม และสน.สำราญ ราษฎร์ มาตรวจตราเพื่ออำนวยความเรียบร้อยและสังเกตการณ์ปราศรัยอยู่รอบนอกเวทีการชุมนุม นอกจากนี้มีรถพยาบาลของศูนย์นเรนทรมาประจำหากมีผู้ชุมนุมรายใดมีอาการเจ็บป่วยหรือต้องรับการรักษาอย่างเร่งด่วน บรรยากาศทั้งหมดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีการลงมากีดขวางการจราจร ถนนราชดำเนินทุกช่องทางสามารถใช้การได้ตามปกติไม่เกิดผลกระทบแต่ อย่างใด

แดงพรึบ – ประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดงและกลุ่มภาคีศาลายาจำนวนมากร่วมชุมนุมกันแน่น ถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นคร ปฐม เมื่อวันที่ 22 พ.ย. โดยมีการจัดกิจกรรมรำลึกเหตุการณ์ปี 53 และการสลายชุมนุมเสื้อแดงปี 57

อักษะคึก-เสื้อแดงร่วมชุมนุม

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ถนนอักษะ พุทธมณฑลสาย 4 การจราจรเริ่มมีการปิดบริเวณหัวถนนอุทยาน หลังกลุ่มที่ใช้ชื่อว่า “คนเสื้อแดงก้าวหน้า” ร่วมกับกลุ่มภาคีนักศึกษาศาลายา นัดชุมนุม โดยมวลชนทยอยเดินทางมา มีอุปกรณ์ส่วนประกอบ ชิงช้าสวรรค์ อยู่บริเวณเกาะกลาง หน้าซอยอุทยาน 13 ตามที่กลุ่ม แจ้งว่า การชุมนุมวันนี้ จะมีเวทีปราศรัย นิทรรศการ และงานเฟสติวัล

เวลา 15.10 น.รถบัสของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจำนวน 3 คัน นำกำลังพล 200 กองร้อย เข้าพื้นที่ โดยวิ่งเข้ามาจากถนนเลียบคลองทวีวัฒนาเพื่อมุ่งหน้ามายังบริเวณที่กลุ่มผู้ชุมนุม ที่มวลชนเริ่มทยอยมาปักหลักบริเวณหัวถนนอุทยานเพื่อร่วมชุมนุม โดยทันทีที่มาถึงมวลชนปรบมือและโห่ไล่ ก่อนจะประชดชันว่า ยินดีต้อนรับ เดี๋ยว เจ้าคงจะได้พาไปดูรถไฟฟ้า

เมื่อเวลา 15.55 น. ที่ถนนอักษะ มวลชนเริ่มทยอยเข้าสู่พื้นที่การชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงก้าวหน้า 63 ภาคีนักศึกษาศาลายาและกลุ่มเยาวชนปลดแอก ที่ถนนอุทยาน-อักษะ ขณะที่พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผกก.สน.ธรรมศาลา ได้เข้าเจรจากับแกนนำเพื่อให้ขยับเวทีจากซอยอุทยาน 13 มาที่ซอยอุทยาน 11 แต่ผู้ชุมนุมพยายามขอใช้จุดเดิม ที่สุดได้ข้อสรุปว่าให้ตั้งอยู่ระหว่างซอยอุทยาน 11 และอุทยาน 13 โดยผู้ชุมนุมเกรงว่าจะทำให้ตั้งเวทีล่าช้า ทั้งสองฝ่ายจึงเจรจากันสำเร็จ

พ.ต.อ.สมศักดิ์กล่าวว่า ผู้ชุมนุมแจ้งว่าจะชุมนุมตั้งแต่เวลา 16.00 น. จนถึงเวลา 03.00 น. ขณะนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพราะผู้ชุมนุมยอมปฏิบัติตามที่ได้มีการพูดคุยและตกลงกันไว้ ขณะที่เจ้าหน้าที่จะดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุมจนกว่าผู้ชุมนุมจะยุติการชุมนุม

พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตร.นครบาล 7 กล่าวว่า ได้แจ้งให้ผู้ชุมนุมจัดชุมนุมให้ห่างเขตพระราชฐานมากกว่า 150 ม.

ด้านแกนนำผู้ชุมนุมระบุว่า เบื้องต้นการชุมนุมวันนี้จะยุติในเวลา 01.00 น และจะคืนพื้นที่ในเวลา 03.00 น.

ประจันหน้า – เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแถวกั้นประจันหน้ากับการ์ดมวลชน ระหว่างการชุมนุมกลุ่มภาคีศาลายา และคนเสื้อแดง ที่ถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อ วันที่ 22 พ.ย.

ตชด.ตั้งแนว-มวลชนโห่ไล่

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ถนนอุทยาน จนท.ตำรวจเข้ามาเจรจากับกลุ่มการ์ดและกลุ่มนักศึกษาผู้จัดการชุมนุม เนื่องจากพื้นที่ที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้ตั้งเวทีนั้นเกินกว่าระยะที่แจ้งจัดการชุมนุมไว้ จากเดิมแจ้งไว้ที่ ถนนอุทยานซอย 13 แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต้องการตั้งเวทีบริเวณใกล้ถนนอุทยานซอย 11 โดยใช้เวลาในการเจรจาประมาณ 20 นาที

พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 กล่าวว่า ได้ให้ผู้ชุมนุมตั้งเวทีใกล้บริเวณถนนอุทยานซอย 11 แต่ได้กำชับว่าจะต้องเว้นระยะห่างออกจากเขตพระราชฐานเพิ่มขึ้นจากที่กฎหมายกำหนด และไม่ให้เข้าไปใกล้โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ได้เตรียมกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนไว้ประมาณ 300-400 นาย เพื่อมาดูแลความสงบเรียบร้อยและดูแลความปลอดภัยด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ด้านของกลุ่มผู้ชุมนุมและการ์ดเริ่มทยอยเข้าพื้นที่เพื่อประจำจุดในการชุมนุม มีการแบ่งการ์ดออกเป็นกลุ่มๆ เพื่อแยกประจำตามจุด เพื่อดูแลความปลอดภัยของกลุ่มผู้ชุมนุม

เวลา 16.25 น. ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเจรจากับแกนนำผู้ชุมนุมเรื่องการตั้งเวทีสำเร็จ ปรากฏว่า มีรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถบัสของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนจำนวนหลายคันเข้ามาจอดใกล้จุดที่จะผู้ชุมนุมจะตั้งเวที พร้อมกับมีตำรวจตระเวนชายแดนมาตั้งแถวเรียงกระดานป้องกันไม่ให้ผู้ชุมนุมขยับไปใกล้ตรงบริเวณคอสะพานยกระดับถนนอุทยาน-อักษะ ทำให้ผู้ชุมนุมไม่พอใจ และตะโกนต่อว่า เพราะอยู่ใกล้กับเวทีชุมนุมมากเกินไป และเหมือนการบีบพื้นที่ผู้ชุมนุมจนสุดท้ายตำรวจตชด.ก็ยอมถอยแนวออกไป

แห่โลงรำลึกสลายเสื้อแดง

เมื่อเวลา 16.30 น. กลุ่มผู้ชุมนุม เริ่มตั้งเวที โดยด้านหน้าเวที ตั้งโลงศพ ไว้ 3 โลง เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ในการปกป้องประชาธิปไตยว่าไม่ใช่เฉพาะทหารตำรวจเท่านั้นที่ตายแล้วจะได้รับการคลุมธงชาติแต่คนที่ปกป้องประชาธิปไตยก็ต้องได้รับการคุ้มครองชาติเหมือนกัน โดยมีการแบกโลงไปไว้หน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจที่รักษาความปลอดภัย จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำพิธีวางเดินวน 3 รอบพร้อมดอกไม้จันทน์บนโลงด้วย โดยระบุว่าถนนอักษะเป็นพื้นที่ถูกสลายชุมนุมคนเสื้อแดง จนมีคนเจ็บและคนตาย พร้อมชู 3 นิ้ว แล้วกล่าวคำว่าเพื่อเผด็จการจงพินาศ ประชาราษฎร์ จงเจริญ และจากนี้ไปทุกเดือนจะจัดกิจกรรมไล่ทรราชออกไป และไล่พล.อ.ประยุทธ์ ออกไป

จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้แห่โลงศพทั้ง 3 โลง กลับมายังด้านหน้าเวที เพื่อทำพิธีฌาปนกิจ และวางดอกไม้จันทน์” นักสู้ธุลีดิน” และวางรูปพล.อ.ประยุทธ์ พร้อมพวงหรีดคำว่า “รำลึกคนเสื้อแดง” และพวงหรีด นโยบายประชารัฐ ไว้หน้าโลกทั้ง 3 โลงนอกจากนี้ยังได้มีการอัดเสียงของพลังประชารัฐมีรูป พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ ทั้งข้อความยืมนาฬิกาเพื่อน โคเคนเสรีถูกกฎหมาย เป็นต้น

ทั้งนี้บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปอย่างคึกคัก มีการนำชิงช้าสวรรค์ ผลงานศิลปะเรือดำน้ำ มาจัดแสดง โดยได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก

เวลา 17.50 น. กลุ่มอาชีวะเพาะช่างได้แสดงศิลปะเรือที่ใช้เศษวัสดุจากงานศิลปะนำมาใช้อีกครั้งเพื่อหาว่าสามารถทำมาให้ประโยชน์ได้ ถือเป็นต้นกำเนิดความคิดสร้างสร้างสรรค์งานอาชีวะเพาะช่าง เปรียบเทียบเหมือนเรามีเรือดำน้ำแต่ถูกทอดทิ้ง ปล่อยให้ชุมชนริมน้ำ ไม่ได้รับการพัฒนา แล้วเราจะมีเรือดำน้ำทำไม ทำไมไม่เอางบประมาณมาพัฒนาชุมชนที่ยังเดือดร้อนก่อน เรามีงบจำกัด แต่กลับเอางบที่มีอยู่ไปผลาญ แล้วหลอกว่าจะมีพัฒนาชุมชน มีที่อยู่อาศัย แต่กลับปิดบังอำพราง ทำแค่ที่เดียว แล้วถ่ายรูป แต่ยังมีคนอีกจำนวนมาก และมีอีกหลายชุมชนไม่ได้รับการพัฒนา

“งานศิลปะนี้เป็นของที่เหลือจากสร้างศิลปะ เพื่อให้เห็นมีประโยชน์ สื่อความไม่เท่าเทียม กดขี่ข่มเหง เอื้อนายทุนแต่ไม่ได้เอื้อชุมชน ส่งฝากถึงรัฐบาลว่านโยบายที่ทำไป ล้วนแต่ไม่ส่งถึงชุมชนที่แท้จริง เด็กๆ ถูก ทอดทิ้ง”

จากนั้นเป็นการแสดงศิลปะพ่นสีลงบน ตัวคน

แดงพรึบ – ประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง และกลุ่มภาคีศาลายา ร่วมชุมนุมกันแน่นถนนอักษะ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 22 พ.ย. โดยจัดรำลึกเหตุ การณ์ปี 53 และการสลาย ชุมนุมเสื้อแดงปี 57

ตั้งการ์ดภาคีเพื่อประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตัวแทนการ์ดภาคี เพื่อประชาชน 10 กลุ่ม ร่วมแถลงเปิดตัวกลุ่มการ์ดภาคีเพื่อประชาชน ยืนยันต่อสู้เคียงข้างประชาชน โดยระบุว่า จากสถานการณ์ทาง การเมืองในปัจจุบันกลุ่มคณะราษฎร ได้เรียกร้องประชาธิปไตย โดยให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยในระยะเวลาผ่านมาหลายเดือนได้มีการต่อสู้อย่างสันติวิธี มีกิจกรรมการชุมนุมทางการเมืองเพื่อกดดันรัฐบาลทำตามข้อเรียกร้อง และเพื่อให้การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อยปลอดภัย จึงได้เกิดทีมการ์ดหลายทีมที่ร่วมปกป้องมวลชนที่เข้าร่วมชุมนุม ในโอกาสนี้ทางกลุ่มการ์ดจึงได้จัดตั้งกลุ่ม “การ์ดภาคีเพื่อประชาชน” ประกอบด้วย

1.ทีมการ์ดปลดแอก จัดตั้งเพื่อปกป้องมวลชน สนับสนุนเพื่อนร่วมอุดมการณ์โดยไม่ยึดติดแกนนำ มุ่งเน้นให้ทีมงานปลอดภัย 2.ทีมการ์ดมวลชน จัดตั้งจากกลุ่มมวลชนอาสาเพื่อปกป้องประชาชน สนับสนุนอุดมการณ์ของมวลชน 3.ทีมการ์ดราษฎร จัดตั้งเพื่อปกป้องราษฎร ที่เข้าร่วมชุมนุมและสนับสนุนกิจกรรมทางการเมือง 4.ทีมราษฎรฝั่งธน เป็นกลุ่มการ์ดอาชีวะ จัดตั้งเพื่อสนับสนุนอุดมการณ์ในข้อเรียกร้อง 3 ข้อตามที่แกนนำได้เสนอ พร้อมปกป้องและดูแลประชาชน

5.ทีมการ์ดเฉพาะกิจ จัดตั้งเพื่อสนับสนุนในอุดมการณ์และข้อเรียกร้อง เกิดจากการรวมกลุ่มของผู้ที่ต้องการปกป้องประชาชนแบบเฉพาะกิจ 6.ทีมการ์ดอากิระพลังมวลชน เกิดจากกลุ่มนักเพาะกาย จัดตั้งเพื่อสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยและข้อเรียกร้องของประชาชน 7.ทีมองค์กรบอดี้การ์ด สเป เชี่ยล ฟอร์ส เป็นทีมจากครูพลาม ซึ่งเป็นอดีตหน่วยซีล ต้องการที่จะทำร่วมกลุ่มการ์ดและพร้อมที่จะปกป้องประชาชนเพื่อสนับสนุนอุดมการณ์ทางการเมืองของมวลชน

8.ทีมนกพิราบขาว เพื่อปกป้องมวลชนให้ได้รับความปลอดภัยในการเข้าร่วมชุมนุมที่ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพในการชุมนุมอย่างถูกต้องตามรัฐธรรมนูญไทย เพื่อให้ได้รับความสะดวกรวมถึงสวัสดิภาพในการชุมนุม และเฝ้าระวังบุคคลที่ไม่หวังดีต่อกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยทุกคน โดยยึดหลักการรักษาสันติทุกวิถีทาง 9.ทีมการ์ดฟันฟืองประชาธิปไตย เกิดจากกลุ่มพี่น้องอาชีวะร่วมกันปกป้องพี่น้องประชาชน ที่เข้าร่วมการชุมนุมพร้อมสนับสนุนในข้อเรียกร้องต่างๆ ของเพื่อนร่วมอุดมการณ์ และ10. ทีมอาชีวะพิทักษ์ประชาชน เป็นการ์ดกลุ่มใหม่ ที่พี่น้องอาชีวะก่อตั้งขึ้นมาและเปิดตัวในวันนี้ พร้อมปกป้องและดูแลประชาชน และสนับสนุนในข้อเรียกร้องของประชาชน

แย้มบิ๊กเซอร์ไพรส์ 25 พ.ย.

เมื่อเวลา 18.40 น. นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ เดอะบอตทอมบูลส์ มาปรากฏตัวอยู่หลังเวทีและเดินพูดคุยกับทีมงานด้วย

นายพริษฐ ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมการชุมนุมในวันที่ 25 พ.ย. ที่จะไปชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ว่า จะใช้จุดแข็งที่สุดของขบวนการคือหลักการสันติวิธีไม่ใช้ความรุนแรงจะแสดงให้โลกเห็น ความหวังและความฝันว่าจะมีอนาคตที่ดีเป็นของพวกเราทุกคน ที่จะกำหนดโชคชะตาชีวิตของตนเองได้ แสดงให้โลกเห็นว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้มากน้อยเพียงใด ดังนั้นขอให้ติดตามการชุมนุมวันที่ 25 พ.ย. ซึ่งจะมีบิ๊กเซอร์ไพรส์ ซึ่งครั้งนี้ผู้ชุมนุมให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย และพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะไม่ต้องการให้เกิดความรุนแรง เพราะเราเป็นขบวนการสันติวิธี หากความรุนแรงเกิดขึ้นขอให้เป็นที่ทราบกันว่าไม่ได้เกิดจากผู้ชุมนุม เพราะที่ผ่านมาความรุนแรงเกิดจากภาครัฐทั้งสิ้น ขนาดคนที่ยิงเพื่อนเรา เมื่อยิงเสร็จแล้วก็เข้าไปอยู่ภายในค่ายทหารอยากถามกองทัพบกว่าเหตุใดจึงเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้น รัฐบาลรู้เห็นกับความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี้หรือไม่ แม้นายกฯ จะประกาศใช้มาตรา 112 แต่การชุมนุมก็จะปรับให้ร้อนแรงและเข้มข้นขึ้น และขณะนี้ยอมรับว่าโดนแล้ว ซึ่งตนยินดี จะตั้งข้อหาก็ตั้งมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นคู่ขัดแย้ง

นายพริษฐ์กล่าวว่า วันนี้ รถยนต์ของรุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ได้ถูกงัดล้อ วันนี้ถูกงัดล้อแต่พรุ่งนี้ไม่รู้ว่าจะถูกอะไร ขอเตือนว่ายิ่งใช้ความรุนแรงใช้วิธีการนอกกฎหมายยิ่งจะทำให้กระแสเรียกร้องการปฏิรูปสถาบันรุนแรงขึ้น เมื่อถามว่าหากโดนข้อหามาตรา 112 จะขอลี้ภัยหรือไม่ นายเพนกวินกล่าวว่า ไม่ จะขออยู่กับพี่น้องทุกคนที่นี่และสู้ที่นี่

เวลา 19.30 น.“แหม่ม” ตัวแทนสลัม 4 ภาค ในฐานะคนจนเมือง เป็นตัวแทนปราศรัยบนเวที ถนนอักษะ ว่า ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำของคนมีอยู่ แต่พอพล.อ. ประยุทธ์ เข้ามา ทำลายสถิติโลกทำให้ประเทศจนติดอันดับ 1 ของโลก

วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ต้องออกไป หาบเร่แผงลอย เป็นคนจน ชนชั้นล่าง วันหนึ่งบอกให้เราหยุดขายของ แค่ขายยังไม่พอกินยังจะให้หยุดอีก เข้ามาบริหารไม่เคยทำอะไรให้กับคนจน แต่เอื้อประโยชน์ให้นายทุน ถ้าไม่เรียกว่าขายชาติ จะเรียกอะไร วันนี้ทุกคนต้องอยู่ใต้รัฐธรรมนูญ จึงขอให้ร่วมมือต่อสู้กับความอยุติธรรม เปลี่ยนแปลงให้อำนาจมาอยู่กับประชาชน พร้อมบอกกับมวลชนว่ามีเวทีที่ไหนขอให้ทุกคนไปร่วม ถ้าไม่ไปขอให้ไม่ถูกหวย

เมื่อเวลา 20.00 น. นายพริษฐ์ขึ้นปราศรัย ย้ำการเดินทางไปชุมนุมที่สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ จะใช้แนวทางสันติวิธี และให้มวลชนระวังการยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เพื่อเป็นเงื่อนไขการรัฐประหาร แต่เรายืนยันไม่ตกหลุมพราง อย่างไรก็ตามหากมีการรัฐประหารขอให้ทุกคนในทุกจังหวัดออกมาต่อต้านให้ถึงที่สุด

เมื่อเวลา 20.45 น. นายพริษฐ์ให้สัมภาษณ์หลังลงจากเวที ว่า ตนยอมรับว่าโดนเพิ่มคดีมาตรา 112 เพราะตำรวจโทรศัพท์มาให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งตนยินดีหากจะตั้งข้อหาก็ตั้งมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหมยังเป็นคู่ขัดแย้ง ทั้งนี้ ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาอื่นเพิ่มเติมส่วนจะค้างคืนหรือไม่นั้น ขอให้รอดูบิ๊กเซอร์ไพรส์

เมื่อถามว่ากลุ่มคนเสื้อเหลืองประกาศนัดชุมนุมในวันที่ 24 พ.ย.และจะค้างคืนไปจนถึงวันที่ 25 พ.ย. กังวลหรือไม่ว่าจะเกิดการปะทะ นายพริษฐ์กล่าวว่า ขอเสื้อเหลืองชุมนุมอย่างสันติ อย่าใช้ความรุนแรง เพราะพวกตนก็ชุมนุมอย่างสันติไม่ใช้ความรุนแรง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน