ยังปักหลักหน้าทำเนียบ
ไม่หวั่นตร.ประกาศจับ

ม็อบจะนะ ขอคุยบิ๊กป้อม คนเดียว พร้อมยื่น 2 ข้อเรียกร้องให้ยกเลิกโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ แต่หากต้องดำเนินโครงการต้องเริ่มต้นกระบวนการศึกษาผลกระทบใหม่หมด ลั่นไม่ยอมย้ายจากหน้าทำเนียบ ขณะที่ แรมโบ้ สุภรณ์ คนสนิทนายกฯ ระบุบิ๊กป้อมมอบให้อนุชา นาคาศัย คุยแทน พร้อมขอให้ม็อบเคลื่อนพ้นเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อจะยกตู้คอนเทนเนอร์ และรั้วลวดหนามออก แต่ม็อบไม่ยอม จ่อใช้กฎหมายคุมม็อบจริงจัง

 

วันที่ 13 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ การปักหลักชุมนุมคัดค้าน “โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ” ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาล ว่านายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรัฐบาลรับข้อเรียกร้องชาวบ้าน และขอให้ย้ายพื้นที่ชุมนุมไปอยู่ริมคลองผดุงกรุงเกษม พร้อมรับปากนำ 2 ข้อเรียกร้อง ไปแจ้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบเพื่อหาทางออกในวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.นี้

โดยนายสุภรณ์ พร้อมด้วย รองเลขาฯศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. และรองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เข้าพูดคุยกับชาวบ้าน อ.จะนะ จังหวัดสงขลา ที่ปักหลักอยู่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันที่สี่ เพื่อเรียกร้องให้ยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

โดยรับข้อเรียกร้อง 2 ข้อ คือ ขอให้ยุติหรือยกเลิกโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และ 2.หากต้องดำเนินการโครงการ ขอให้เริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA จากนายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น

นายสุภรณ์กล่าวว่า ในข้อเรียกร้องที่ 2 สามารถรับได้ เพราะยังเปิดช่องให้มีการศึกษาใหม่ แต่ข้อเรียกร้องที่ 1 ที่ให้ยุติโครงการ ถือว่าต้องผ่านหลายขั้นตอน แต่ก็จะรับไว้ เพื่อเสนอให้ พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบ รับทราบและพิจารณาในวันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.นี้

ทั้งนี้ นายสุภรณ์ขอให้ผู้ชุมนุมย้ายสถานที่พักค้างคืน ไปอยู่บริเวณถนนพระราม 5 ริมคลองผดุงกรุงเกษม ตรงข้ามทำเนียบรัฐบาลแทน เพื่อให้ตำรวจเปิดพื้นที่สัญจรได้ตามปกติ ซึ่งช่วงแรกผลการเจรจาเป็นไปด้วยดี และเป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง โดยตัวแทนชาวบ้าน อ.จะนะ ขอให้ นายสุภรณ์ แสดงความชัดเจนว่าข้อเรียกร้องจะถูกนำเสนอไปยังรัฐบาล และขอให้ทางตำรวจเข้ามาดูแลความปลอดภัย เพราะกังวลเกรงการคุกคาม

ขณะที่ พ.ต.อ.อรรถวิทย์ สายสืบ รักษาการผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 อธิบายเหตุผลและข้อกังวล พร้อมยืนยันว่าหากชาวบ้านเปิดพื้นที่ และไม่มีผู้ชุมนุมกลุ่มอื่นมาเสริม ก็จะสามารถเปิดพื้นที่ได้ตามปกติ พร้อมจะนำกำลังตำรวจมาดูแลความปลอดภัยให้กับผู้ชุมนุม

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า การเจรจาระหว่างรัฐบาลกับแกนนำจะนะ ขอส่งตัวแทนเข้าเจรจากับพล.อ.ประวิตร นั้นส่อเค้าล่ม เนื่องจากพล.อ.ประวิตร มอบหมายให้นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เป็นตัวแทนรัฐบาลพูดคุยก่อน โดยนัดหารือ ในเวลา 13.00 น.วันจันทร์ที่ 14 ธ.ค.แต่ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยินยอม ขอเจรจากับพล.อ.ประวิตร โดยตรง และไม่ยอมที่จะเคลื่อนย้ายสถานที่การชุมนุม และถ้าจำเป็นต้องย้ายก็ขอย้ายไปอยู่ที่บริเวณประตู 1 ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยอม จึงทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมย้ายและปักหลักที่เดิม ทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่สบายใจเพราะต้องการที่จะยกตู้คอนเทนเนอร์ออกเนื่องจากจันทร์นี้เป็นวันเปิดทำการแล้ว หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ยอมย้ายที่ชุมนุม ตำรวจก็อาจใช้กฎหมายเข้ามาดำเนินการ อีกทั้งการเจรจาก็อาจต้องยกเลิก

เมื่อเวลา 17.30 น. ที่แยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชฐ ถนนพิษณุโลก แขวงสวนจิตรลดา เขตดุสิต กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมชาวสงขลา ในนาม “เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น” ยังคงปักหลักชุมนุมกันอย่างต่อเนื่องโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้รัฐบาลหยุดสร้างนิคมอุตสาหกรรม รวมถึงรับฟังข้อเรียกร้องรวม 2 ข้อ ประกอบด้วยรัฐบาลต้องยุติการดำเนินโครงการจะนะเมืองต้นแบบนิคมอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคตทั้งหมด ทั้งการแก้ไขผังเมือง และการศึกษาผลกระทบด้าน สิ่งแวดล้อม (EIA) ในทันที รัฐบาลต้องจัดให้มีการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ (SEA) อย่างรอบคอบ เพื่อสร้างชุดข้อมูลทางวิชาการที่มีคุณภาพประกอบการตัดสินใจต่อแนวทางและโครงการพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ของภาคใต้ภายหลังยื่นหนังสือต่อ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด

สำหรับบรรยากาศทางกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่ระหว่างการจัดเตรียมสถานที่เพื่อรองานเสวนาในหัวข้อ “รวมปัญหาชาวบ้านในรัฐบาลประยุทธ์” ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการรื้อถอนตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่บริเวณกลางสะพานดังกล่าว ส่วนพื้นผิวการจราจรโดยรอบผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถสัญจรได้ตามปกติแต่ไม่สามารถมุ่งตรงไปยังทำเนียบรัฐบาลได้แม้แต่อย่างใด

ด้านนายสมบูรณ์ คำแหง แกนนำกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น กล่าวว่า ในวันนี้ถือเป็นวันที่สี่ของการปักหลักชุมนุมของกลุ่มชาวบ้านผู้เรียกร้องเพื่อหยุดโครงการดังกล่าว โดยในเวลา 18.30 น. ที่จะถึงนี้ ทางกลุ่มจะจัดเสวนาในหัวข้อ “รวมปัญหาชาวบ้านในรัฐบาลประยุทธ์” โดยมีจุดประสงค์เพื่อสื่อให้เห็นว่าในรัฐบาลประยุทธ์ที่อยู่ในอำนาจตั้งแต่ยุคคสช. มาจนถึงปัจจุบันรวม 7 ปี ยังเป็นปัญหากับชาวบ้านที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆ ได้รวมไปถึงประเด็นปัญหาในอ.จะนะ ตนจึงเชิญแกนนำสำคัญทั้ง 4 ภาค มาร่วมกันจัดเสวนาเพื่อให้เห็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านว่าเป็นอย่างไรบ้าง และช่วยกันหาทางออกในอนาคต สำหรับความเคลื่อนไหวหลังจากนี้ตนได้รับการประสานมาจากนายสุภรณ์ ว่าพล.อ.ประวิตร ซึ่งกำกับดูแลและได้มอบหมายให้นายอนุชา เข้ามาเจรจากับกลุ่ม ผู้ชุมนุมในช่วงบ่ายของวันที่ 14 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

“หากในวันพรุ่งนี้ยังไม่บรรลุข้อตกลง กลุ่มผู้เรียกร้องยังพร้อมที่จะปักหลักอยู่ที่นี่ซึ่งพวกเราพร้อมยอมรับสภาพ อีกทั้งในขณะนี้พวกตนยังถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาผิดพ.ร.บ. ชุมนุมในที่สาธารณะ แต่ก็ยังไม่ยอมย่อท้อ ซึ่งขณะนี้กลุ่มแนวร่วมกำลังเดินทางมาสมทบเพื่อมายืนยันว่าพวกเราเดือดร้อนกันจริงๆ” นายสมบูรณ์กล่าว

ทั้งนี้ ในวงเสวนา “ปัญหาชาวบ้านในรัฐบาลประยุทธ์” ผู้ร่วมเสวนายืนยันไม่ยอมย้ายสถานที่ชุมนุมอย่างเด็ดขาด ถ้าจะมีการสลายการชุมนุมก็พร้อมต่อสู้ พร้อมระบุ รัฐบาลที่บริหารงานโดยนายกฯ ประยุทธ์ สมคบคิดกับนายทุน โดยอ้างจะสร้างเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมของไทย แต่ได้ถามคนในพื้นที่แล้วหรือยัง เป็นการคิดแบบนายทุน คิดแบบเผื่อลูกหลาน โคตรเหง้า ให้ต่างชาติครอบครอง 99 ปี ผู้มีอำนาจคิดได้อย่างไร สมคบกันออกแบบกับนายทุนเพียงไม่กี่คน และถ้าประเทศไทยยอมดำเนินโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมจะนะจริง รับรองว่าหายนะแน่นอนและพวกเราจะไม่ยอม พวกคุณจะเป็นรัฐบาลอีกต่อไปไม่ได้ ทำไมต้องมายัดเยียดโครงการเหล่านี้

บรรดาแกนนำต่างเห็นพ้องว่า ถ้านายกฯ หรือพล.อ.ประวิตร บริสุทธิ์ใจจริงต้องเปิดทางให้เราไปพูดคุย กลัวอะไรถึงไม่ยอมลงมาพูดคุยด้วยตนเอง หลายคนมองว่าพวกเราแรง ก้าวร้าว แต่เรามีเหตุผล พวกคนรวยไม่เข้าใจคนจน ที่ผ่านมาสอนวิชาศีลธรรมให้เด็กและพวกเรา แต่ถึงวันนี้คิดว่าไร้ประโยชน์ถ้าจะมีวิชานี้ต่อไป เพราะพวกนักการเมืองหรือผู้นำไม่มีศีลธรรมอะไร

ผู้เสวนาระบุด้วยว่า หากรัฐบาลไม่ฟังเสียงคนจนและพี่น้อง เป็นไปได้หรือไม่ว่าสักวันหนึ่งพวกเราทุกคนที่เดือดร้อนจะขึ้นมาที่กรุงเทพฯ จับมือปิดล้อมเมืองกรุง ซึ่งคิดว่ามีพื้นที่ไม่พอให้พวกเรา เพราะมีคนเดือดร้อนจำนวนมากมายทั้งเรื่องปากท้องและวิถีชีวิต คนเพียงไม่กี่คนมาคิดออกแบบให้คนส่วนใหญ่ได้อย่างไร ขอให้ฟังเสียงคนจนบ้าง วันนี้คุณนั่งอยู่บนตึกไทย น่าละอายต่างชาติมาก เพราะมีทั้งลวดหนาม ตู้คอนเทนเนอร์ปิดล้อมอยู่ คุณสมรู้ร่วมคิดทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจ ที่สำคัญคุณเปลี่ยนสีมาโดยตลอด โดยเฉพาะตัวแทนที่คุณจะส่งให้มาคุยกับพวกเรา ถือว่าเป็นคนที่เปลี่ยนสีมาโดยตลอด ย้ายข้างมาโดยตลอด คุณไม่มีความจริงใจ

ป้อมเท่านั้น – กลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นยังปักหลักชุมนุมคัดค้านโครงการนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ ต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ บริเวณแยกพาณิชยการ สะพานชมัยมรุเชฐ เขตดุสิต กทม. พร้อมเรียกร้องขอเจรจากับพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เท่านั้น เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน