พบกลุ่มเสี่ยงสูงอีก18
เร่งหา2แรงงานพม่า
สธ.ลุยสอบต้นตอโรค
ศบค.เข้มฉลองปีใหม่
เว้นห่าง1ตร.ม.ต่อคน

‘มหาชัย’ วุ่น หญิงวัย 67 เจ้าของแพปลา-กุ้งติดโควิดผู้ว่าฯสมุทรสาครแถลงยืนยัน พบกลุ่มเสี่ยงสูงอีก 18 คนเข้าตรวจหาเชื้อ และกักตัวแล้ว เร่งตามหา 2 หนุ่มแรงงานพม่า สั่งปิดตลาด 3 วัน ระดมพ่นยาฆ่าเชื้อ ด้านศบค.ไฟเขียวจัดฉลองเคานต์ดาวน์ปีใหม่ แต่ต้องคุมเข้มมาตรการความปลอดภัยโควิด จำกัดคนไม่เกิน 50% เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 ตร.ม.ต่อคน ลดความแออัด เตรียมลดวันกักตัว จาก 14 วัน เหลือ 10 วัน พร้อมปรับการตรวจจาก 2 ครั้ง เพิ่มเป็น 3 ครั้ง เผยไทยพบติดเชื้อรายใหม่ 20 ราย ทั้งหมดกลับจากต่างประเทศ

ไทยติดโควิดเพิ่ม 20 ราย

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เปิดเผยข้อมูลผ่านศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ว่า วันนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 20 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ากักกันทั้งหมด หายป่วยเพิ่ม 12 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม ผู้ป่วยยืนยันสะสมรวม 4,281 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,463 ราย มาจากต่างประเทศ 1,818 ราย เข้าสถานที่กักกัน 1,287 ราย หายกลับบ้านรวม 3,989 ราย ยังรักษาใน ร.พ. 232 ราย เสียชีวิตรวม 60 ราย

ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากต่างประเทศ ได้แก่ 1.อินเดีย 6 ราย เป็นนักธุรกิจชายอินเดีย อายุ 42 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 28 พ.ย. เข้าพักในสถานที่กักกันทางเลือก หรือ ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 10 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ เที่ยวบินเดียวกันมีผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย ส่วนอีก 5 ราย เป็นชายไทยทั้งหมด โดย 2 รายเป็นพนักงานบริษัท อายุ 33 ปี และ 42 ปี อีก 3 รายเป็นพนักงานขุดเจาะอุโมงค์รถไฟฟ้าใต้ดิน อายุ 38 ปี 41 ปี และ 42 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 9 ธ.ค. เข้าพักในสเตต ควอรันทีน ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 13 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

2.สหราชอาณาจักร 3 ราย เป็นชายอังกฤษ อายุ 60 ปี อาชีพติวเตอร์ เดินทางถึงไทยวันที่ 30 พ.ย. เข้าพักใน ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 12 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ อีก 2 รายเป็นแม่บ้านหญิงไทย อายุ 36 ปี และนักเรียนหญิงอังกฤษ อายุ 17 ปี ต่อเครื่องที่กาตาร์ถึงไทยวันที่ 9 ธ.ค. เข้าพัก ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ธ.ค. และ 14 ธ.ค. ผลพบเชื้อไม่มีอาการ

3.สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 49 ปี พนักงานทำความสะอาดในสปา เดินทางถึงไทยวันที่ 1 ธ.ค. เข้าพักใน สเตต ควอรันทีน ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 13 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

4.สหรัฐอเมริกา 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 54 ปี แม่ครัว ต่อเครื่องที่กาตาร์ถึงไทยวันที่ 2 ธ.ค. เข้าพักใน ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 14 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ 5.สวีเดน 2 ราย เป็นแม่บ้านหญิงไทย อายุ 37 ปี ต่อเครื่องที่ตุรกีถึงไทยวันที่ 4 ธ.ค. เข้าพัก สเตต ควอรันทีน กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ และนักศึกษาหญิงไทย อายุ 20 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 12 ธ.ค. เข้า พักสเตต ควอรันทีน กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ








Advertisement

ทั่วโลกป่วยพุ่ง 74 ล้าน

6.ฝรั่งเศส 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 45 ปี ครูสอนดำน้ำ ต่อเครื่องที่กาตาร์ถึงไทยวันที่ 8 ธ.ค. เข้าพัก ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 14 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ 7.เยอรมนี 1 ราย เป็นชายเยอรมัน อายุ 79 ปี ต่อเครื่องที่กาตาร์ถึงไทยวันที่ 8 ธ.ค. เข้าพักสเตตควอรันทีน ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 13 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ 8.ปากีสถาน 1 ราย เป็นชายปากีสถาน อายุ 30 ปี อาชีพ Animator ต่อเครื่องที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถึงไทยวันที่ 9 ธ.ค. เข้าพัก ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 14 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

9.สวิตเซอร์แลนด์ 3 ราย เป็นแม่บ้านหญิงไทย อายุ 73 ปี และชายเนเธอร์แลนด์ อายุ 75 ปี เกษียณ เดินทางถึงไทยวันที่ 11 ธ.ค. เข้าพักใน ALQ ชลบุรี ตรวจหาเชื้อวันที่ 14 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ และแม่บ้านหญิงไทย อายุ 50 ปี เดินทางถึงไทยวันที่ 12 ธ.ค. เข้าพักใน ASQ กทม. ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

10.คูเวต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 31 ปี พนักงานนวด เดินทางถึงไทยวันที่ 15 ธ.ค. เป็นผู้ป่วย PUI ด่านสุวรรณภูมิ ตรวจหาเชื้อวันที่ 15 ธ.ค. ผลพบเชื้อ ไม่มีอาการ

สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 74,526,806 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 714,908 ราย รักษาหายแล้ว 52,363,010 ราย เสียชีวิต 1,655,044 ราย เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 13,446 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ สหรัฐอเมริกา 17,392,618 ราย เป็นรายใหม่ 246,996 ราย

ส่วนพม่ามีผู้ป่วยรายใหม่ 1,233 ราย สะสม 111,900 ราย และมาเลเซียมีป่วยใหม่ 1,295 ราย สะสมรวม 87,913 ราย

ไฟเขียวจัดปีใหม่แต่คุมเข้ม

วันเดียวกัน ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในฐานะผอ.ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. เป็นประธานการประชุมศบค.

พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมศบค.ว่า การประชุม ศบค.วันนี้มีหลายมาตรการที่ต้องเตรียมไว้ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เพราะเป็นห่วงและกังวล ซึ่งได้สอบถามและนำข้อมูลของทุกหน่วยงานที่ทำงานร่วมกันมาพิจารณาดู ทุกอย่างยังคงเป็นไปด้วยดี ตนกำชับให้ระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะตามแนวชายแดน ขณะนี้ทหาร ตำรวจมีมาตรการเข้มตรวจเฝ้าระวังทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่วงปีใหม่ ต้องมีมาตรการให้เข้มงวดมากขึ้น ที่จะทำอย่างไรให้เกิดความปลอดภัย เพราะช่วงปีใหม่ถือเป็นช่วงที่ทุกคนมีความสุข ตนไม่อยากให้หลังปีใหม่ทุกคนเกิดความทุกข์จากการติดเชื้อโควิด ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกัน หากเราทุกคนช่วยกัน ด้วยการสวมหน้ากาก กินร้อนช้อนกลาง ล้างมือ สถานประกอบการต่างๆ รวมถึงผู้จัดงานก็ต้องมีการใช้แพลตฟอร์มไทยชนะ ขอให้ร่วมมือกัน ไม่เช่นนั้นถึงเวลาเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เขาปิดงาน ก็ต้องถือเป็นหน้าที่ของเขา

“ผมกำชับไปแล้ว ทั้งนี้เพื่อให้ประเทศชาติเกิดความปลอดภัย และเมื่อโควิดมาปุ๊บ เราก็พร้อมฟื้นตัวได้เร็วขึ้น เพราะถ้าเกิดซูเปอร์ สเปรดเดอร์ รอบที่ 2 แล้วใครจะรับผิดชอบ ผมรับผิดชอบอยู่แล้ว แต่คนเดียวคงไม่ไหว ทุกคนต้องช่วยกัน และสื่อต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์ด้วย ช่วงเทศกาลปีใหม่ ผมอยากเห็นภาพทุกคนมีความสุข แต่เวลาลงพื้นที่ก็ยังเห็นบางคนไม่ใส่หน้ากาก ต้องฝากให้ประชาชนคอยเตือนด้วย แต่ขอให้พูดเตือนกันดีๆ อย่าไปทะเลาะกัน บ้านเมืองจะได้สงบไปด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

จำกัดคนไม่เกิน 50% ของพื้นที่

ด้านนพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศบค.แถลงผลการประชุมว่า พล.อ.ประยุทธ์ขอให้ทุกฝ่ายเข้มงวดเรื่องการปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ขณะนี้ใกล้ช่วงปีใหม่ ขอให้เพิ่มความเข้มงวดและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะผู้ที่กระทำความผิดต่างๆ หรือฝ่าฝืน สุ่มเสี่ยงทำให้เกิดโรค จะต้องเข้มงวดเรื่องกฎหมาย และต้องทำความเข้าใจกับภาคประชาชน

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ปลัดสาธารณสุข (สธ.) สรุปมาตรการการดูแลด้านสาธารณสุขตามแนวชายแดน โดยจากกรณีท่าขี้เหล็ก มี ผู้ติดเชื้อสะสม 67 ราย ส่วนกรณีคอนเสิร์ตบิ๊กเมาน์เท่น มีการเสนอข้อจำกัดและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ที่ประชุมรับทราบ โดยมีแนวทางพูดคุยกันว่าในเทศกาลปีใหม่ เราสนับสนุนให้มีการจัดงานรื่นเริงได้ แต่ผู้จัด ผู้ร่วมงานจะต้องปฏิบัติตนอย่างเคร่งครัด โดยเสนอแนะรูปแบบต่างๆ ออกมา เช่น การจำกัดจำนวนผู้ชม ผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 50% ของพื้นที่ กำหนดพื้นที่ต่อจำนวนผู้ร่วมงานไม่น้อยกว่า 1 ตร.ม.ต่อคน และแม้พื้นที่จะกว้างอย่างไรแต่จะให้เกิดความแออัดไม่ได้ ยกตัวอย่างรูปแบบการจัดคอนเสิร์ตที่ประเทศอังกฤษ นำแผงเหล็กมากั้นไว้เป็นล็อกๆ เพื่อให้กลุ่มคนที่มาด้วยกันได้อยู่ในล็อกเดียวกัน เพราะหากมีผู้ติดเชื้อจะควบคุมได้

ปรับตรวจโควิดผู้กักตัว 3 ครั้ง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวด้วยว่า เลขาธิการสภา ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เสนอที่ประชุมทราบว่ามีการปรับวันตรวจหาเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้เข้ารับการกักตัวในสถานกักกันตัวของรัฐ จากเดิมจะตรวจเชื้อ 2 ครั้ง คือ ครั้งแรกวันที่ 3-5 และครั้งที่สอง วันที่ 11-13 แต่เมื่อมีการพูดถึงเรื่องลดเวลากักตัวจาก 14 วันเป็น 10 วัน จึงคิดวิธีตรวจโรคใหม่ โดยปรับเป็น 3 ครั้ง ครั้งที่ 1 คือวันแรก ครั้งที่สอง 9-10 และครั้งที่สาม 13-14 โดยดำเนินการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1-31 ธ.ค. และจะวิเคราะห์ประเมินผลในวันที่ 1-15 ม.ค.64 เพื่อนำข้อมูลตรงนี้มาพิจารณาว่าจะปรับลดการกักตัวเหลือ 10 วันได้หรือไม่ จะได้ไม่ต้องถกเถียงกันอีก เพราะก่อนหน้านี้มีนักวิชาการให้ความเห็นที่หลากหลาย เรื่องนี้เป็นขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข หากมีความพร้อมในเรื่องทิศทางจะเป็นอย่างไรนั้น เดือนหน้าคงจะนำข้อมูลมาเพิ่มเติม ส่วนจะใช้เมื่อไหร่นั้นจะต้องให้ที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่เป็นผู้อนุมัติอีกครั้งหนึ่งว่าจะเหลือ 10 วันตามที่ทดลองหรือไม่

“นายกฯ ในฐานะผู้อำนวยการศบค. อยากให้ปีใหม่นี้เป็นปีใหม่ที่พวกเราได้พบปะพูดคุยกันในบรรยากาศของการรื่นเริงได้อย่างพอประมาณ ในรูปแบบของชีวิตวิถีใหม่ จึงขอฝากทุกคนด้วย เพราะเรายังต้องการปลอดเชื้อในประเทศไทยให้ได้มากที่สุด เพื่อที่อย่างน้อยคนไทย 60 กว่าล้านคนยังไปมาหาสู่กันได้ ยังไม่มีภาพแบบประเทศทางตะวันตก เขาเป็น คือการล็อกดาวน์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ สร้างความอึมครึมบรรยากาศปีใหม่ไป ดังนั้นจากเวลานี้ไปถึงช่วงปีใหม่เราทุกคนดูแลสุขลักษณะของพวกเราเป็นอย่างดี มีการใส่หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า เว้นระยะห่าง “อยู่ห่างไว้ ใส่แมสก์ กัน หมั่นล้างมือ ถือหลักสะอาดปราศจากโควิด ใช้ไทยชนะทุกที”

หายโควิด – นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมปล่อยตัวกลับภูมิลำเนา 28 คนไทยที่ติดเชื้อโควิดจากสถานบันเทิงวันจีวัน เมืองท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา หลังปลอดโรคปลอดเชื้อ เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.

ให้ 28 สาววันจีวันกลับบ้าน

วันเดียวกัน นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าฯ เชียงราย และประธานคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เชียงราย นายวรวิทย์ ชัยสวัสดิ์ รองผู้ว่าฯ เชียงราย นพ.วัชรพงษ์ คำหล้า รองนายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย นพ.สมศักดิ์ อุทัยพิบูลย์ รองผอ.ร.พ.เชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมพิธีปล่อยตัวผู้ที่มาจากจ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ตรงกันข้ามอ.แม่สาย จ.เชียงราย และเข้าอยู่ในสถานกักกันโรคของรัฐ ตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.กลับสู่ภูมิลำเนาจำนวน 28 ราย เป็นชาย 13 คนและหญิง 15 คน ส่วนหนึ่งเป็นหญิงสาวที่ทำงานอยู่ที่โรงแรมวัน จีวัน จ.ท่าขี้เหล็ก ซึ่งเป็นแหล่งพบเชื้อจุดสำคัญ

นายประจญกล่าวว่า ปัจจุบันไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในจังหวัดมานานกว่า 14 วันแล้ว กรมควบคุมโรคจึงประกาศให้เป็นจังหวัดที่ไม่มีเชื้อโควิด-19 ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้านที่ผ่านเข้ามาทางสถานกักกันโรคของรัฐดังกล่าว ซึ่งยังคงประสานขอกลับมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันมี 228 ราย เป็นชาย 89 รายและหญิง 139 ราย แต่ถือว่าควบคุมได้แล้ว

เจ๊แพปลา-กุ้งมหาชัยติดโควิด

วันเดียวกัน เวลา 17.30 น. ที่ห้องประชุมพระนรราชจำนง ร.พ.สมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯสมุทรสาคร พร้อมด้วยนพ.ชาติชาย กิติยานันท์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.สมุทรสาคร นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.ร.พ.สมุทรสาคร และพ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ ชั้นประเสริฐ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร ทีมปฏิบัติการสอบสวนควบคุมโรค สสจ.สมุทรสาคร, ร.พ.สมุทรสาคร ร่วมกันแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อ โควิด-19 ในจ.สมุทรสาคร 1 ราย เป็นหญิงอายุ 67 ปี เจ้าของแพปลาในตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร นอกจากนี้ยังมีแพกุ้งซึ่งอยู่ในความดูแลของลูก โดยอาการป่วยของหญิงคนดังกล่าวเริ่มต้นเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. มีอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น จึงเข้าตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง พบผลเป็นบวก จึงส่งเข้ารับการรักษาต่อที่ร.พ.สมุทรสาคร และมีการสอบสวนโรคอย่างต่อเนื่อง กระทั่งวันที่ 17 ธ.ค. การตรวจ 2 ครั้งจากร.พ.สมุทรสาคร และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่ 5 สมุทรสงคราม พบผลเป็นบวก แพทย์ยืนยันว่าติดเชื้อโควิด-19 ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักกันรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.สมุทร สาคร

สำหรับผู้ใกล้ชิดที่ถูกกักกันตัวไว้เพื่อเฝ้าดูอาการมีทั้งหมด 4 กลุ่ม รวม 18 คน ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 ลูกชายคนที่ 2 อายุ 31 ปี กับเพื่อนของลูกชาย เป็นหญิงวัย 25 ปี ผลไม่พบเชื้อ กักกันที่ร.พ.สมุทรสาคร

กลุ่มที่ 2 มารดา อายุ 95 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง, น้องชายของผู้ป่วย อายุ 57 ปี, น้องสะใภ้ อายุ 57 ปี, พี่สาวคนโต อายุ 73 ปี, แม่บ้านวัย 56 ปี (ไป-กลับ) ทั้งหมดอยู่ระหว่างรอผล และกักตัวที่บ้าน

กลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่สัมผัสกับผู้ป่วยในช่วงขายของ คือลูกชายคนโต อายุ 39 ปี ขณะนี้กักตัวที่โรงพยาบาล, ลูกจ้างพม่า 2 คน ชาย 40 ปี และชายอายุ 48 ปี อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน

ส่วนกลุ่มที่ 4 กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ 8 ราย เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้วไม่พบเชื้อ

ระดมฆ่าเชื้อ-ปิดตลาด 3 วัน

นายวีระศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับต้นตอของเชื้อโควิด – 19 ที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรคว่ารับเชื้อมาจากใคร ขอให้พี่น้องประชาชนชาวจ.สมุทรสาคร รอฟังการแถลงข่าวจากตน หรือบุคลากรที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น อย่าเชื่อข่าวลือโดยยังไม่ผ่านการคัดกรองเด็ดขาด

ส่วนมาตรการการควบคุมโรค ได้แก่ผู้ป่วยได้รับการรักษาและแยกกักในโรงพยาบาล ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 18 ราย (ในครอบครัว, ในสถานประกอบการ, ในสถานพยาบาล) ได้รับการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ และกักกัน เก็บตัวอย่างแล้ว 16 ราย ผลเป็นลบ 10 ราย และรอผล 6 ราย ส่วนอีก 2 รายซึ่งเป็นแรงงานพม่าอยู่ระหว่างติดตามสอบสวนโรค ค้นหา คัดกรอง และเก็บตัวอย่างผู้สัมผัสเพิ่มเติมในตลาดกุ้ง ได้แก่ ผู้ค้า ผู้ซื้อ และแรงงานในตลาดกุ้ง ลูกค้าที่มาซื้อปลาเป็นประจำ และ ผู้ที่ติดต่อกับผู้ป่วย

ทั้งนี้ผู้บริหารตลาดให้ความร่วมมือหยุดให้บริการตลาดกุ้ง 1 วัน ส่วนแพปลาที่พบผู้ป่วยจะหยุดให้บริการจนครบ 3 วัน และทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตลาดกุ้ง แพกุ้ง แพปลา พร้อมสื่อสารประชาสัมพันธ์ เพื่อลดความตระหนกของประชาชน รวมทั้งเน้นย้ำมาตรการป้องกันส่วนบุคคล ได้แก่การสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ เว้นระยะห่างระหว่างบุคคล ทำความสะอาดพื้นผิว โดยเฉพาะที่สาธารณะบ่อยๆ และหลีกเลี่ยงการไปสถานที่ชุมชน, เน้นย้ำสถานพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังผู้ที่มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติไปแพปลา แพกุ้ง ที่เดียวกับผู้ป่วย หรือสถานที่เดียวกับที่ผู้ป่วยเคยไปในช่วง 14 วันที่ผ่านมา

พ.ต.อ.พัฒน์ปกรณ์ กล่าวว่า หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเข้มเรื่องมาตรการจับปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยก่อนออกจากบ้าน โดยใช้มาตรการตามที่จังหวัดสมุทรสาครเคยประกาศใช้ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

นายวีระศักดิ์สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจ.สมุทรสาคร พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฉีดน้ำล้าง พ่นยาฆ่าเชื้อที่ตลาดกุ้ง ต.มหาชัย สถานที่ซื้อขายกุ้งซึ่งมีแพกุ้งกว่า 30 แพแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ไทม์ไลน์เบื้องต้นมีดังนี้ วันที่ 1-13 ธ.ค.63 ผู้ป่วยขายของที่แพปลา เวลา 06.00-11.00 น.ทุกวัน โดยใกล้ชิดกับ 1.ลูกชายคนโต อายุ 39 ปี ซึ่งรอผลกักกันที่ร.พ. 2.ลูกจ้างพม่า 1 เป็นชายอายุ 40 ปี 3.ลูกจ้างพม่า เป็นชายอายุ 48 ปี อยู่ระหว่างติดตามมาเก็บตัวอย่างและกักกัน

จากนั้นวันที่ 13 ธ.ค. เริ่มป่วยด้วยอาการปวดเมื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ต่อมาวันที่ 16 ธ.ค. บุคลากรทางการแพทย์ 8 รายเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ผลไม่พบเชื้อ ล่าสุดเวลา 02.30 น. วันที่ 17 ธ.ค. ผู้ป่วยมาแยกกักกันที่ร.พ.สมุทรสาคร และเวลา 08.00 น. ส่งตรวจยืนยันอีกครั้ง ผลพบเชื้อ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน