ครูใหญ่ฟ้องเอ๋
เรียก2.475ล้าน
คดี หมิ่นประมาท

พรรคร่วมฝ่ายค้านระดมกึ๋น 4 ม.ค. สรุปข้อมูลซักฟอก ย้ำเป้าเชือดนอกจาก ‘บิ๊กตู่’ ยังมีรัฐมนตรีไม่โปร่งใส มั่นใจเขย่ารัฐบาลได้ลั่นมีทุจริตทุกโครงการ ท้านายกฯ จัดการคนใกล้ชิดได้ประโยชน์จากโครงการรัฐ สภาผวาโควิด ‘ชวน’ เรียกประชุมเลื่อนเปิดสภา หลังกมธ.กิจการสภายื่นเสนอ อธิบดีป่าไม้ยื่นร้องตำรวจป่าไม้ เอาผิดแม่ ‘ธนาธร’ คดีรุกป่า จ.ราชบุรี เตรียมชงกรมที่ดินเพิกถอนสิทธิ์ นส.3 ก เพิ่มอีก ศาลขอนแก่นรับคดี ‘ครูใหญ่’ ฟ้อง ‘ปารีณา’ หมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 2,475,112 บาท นัดไต่สวน 15 มี.ค.

ฝ่ายค้านนัดถกแผนซักฟอก

วันที่ 30 ธ.ค. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ตอนนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านทุกพรรคต่างเดินหน้าหาข้อมูล เท่าที่ทราบแต่ละพรรคต่างมีข้อมูลเพียงพอในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ โดยหลังเปิดทำการวันที่ 4 ม.ค. พรรคร่วมฝ่ายค้านจะประชุมร่วมกันเพื่อสรุปข้อมูลที่แต่ละพรรคมีในมือว่าพรรคใด ส.ส.คนไหน จะอภิปรายเรื่องใด เพื่อให้เนื้อหาแหลมคมที่สุด เบื้องต้นจะพุ่งเป้าการอภิปรายไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ที่ต้องรับผิดชอบการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมด รวมถึงยังมีรัฐมนตรีอีกหลายคนที่ส่อแววไม่ชอบมาพากลในการบริหาร

การอภิปรายครั้งนี้จะเน้นเนื้อหา ไม่เน้นจำนวนผู้อภิปราย จะให้ผู้อภิปรายได้เวลาในการอภิปรายอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เนื้อหาสาระมากที่สุด เชื่อว่าจะสามารถสั่นคลอนรัฐบาลได้ เพราะแต่ละเรื่องที่จะมีการอภิปรายต่างเป็นโครงการขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่ส่อไปในทางทุจริต เช่น การต่อสัญญารถไฟฟ้าสายมีเขียว รวมถึงการออกนโยบายที่เอื้อประโยชน์ต่อนายทุน เช่นเรื่อง สปก.ที่ให้นายทุนเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ทั้งที่ต้องให้กับเกษตรกรเป็นผู้ใช้ประโยชน์ รวมถึงการบริหารงานที่ล้มเหลวในการแก้ไขปัญหา โควิด-19 ปล่อยให้มีบ่อนการพนันในหลายพื้นที่จนเป็นจุดแพร่กระจายเชื้อ เราจะนำเรื่องเหล่านี้มาตีแผ่ให้ประชาชนรับทราบในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ท้าตู่จัดการคนใกล้ชิดได้ปย.

นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลบริหารประเทศไม่มีประสิทธิภาพ ตั้งงบประมาณบริหารสูงแต่ไม่ดูว่าสามารถเก็บภาษีได้หรือไม่ จึงต้องกู้มาโปะ ยิ่งบริหารแบบนี้ก็ยิ่งต้องกู้เพิ่มขึ้นทุกปี และยังปล่อยให้มีการทุจริตเพิ่มสูงขึ้น หลายโครงการรัฐมีข่าวการทุจริตทุกประเภท ผลที่ออกมาคือประเทศไทยกลายเป็นรัฐล้มเหลวและรัฐบาลบริหารงานล้มเหลว การกู้เงินที่ผ่านมาที่รัฐบาลอ้างว่าต้องมาใช้ฉุกเฉิน โดยเฉพาะการกู้เงินฟื้นฟูประเทศหลังโควิด-19 เมื่อต้นปี 63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ไม่สามารถกู้สถานการณ์ได้ เงินกู้ที่รัฐบาลอ้างนำไปช่วยเอสเอ็มอี มีผู้ประกอบการกี่รายที่เข้าถึงเงินกู้ของรัฐ เพราะหน่วยงานที่รับผิดชอบอ้างติดขัดข้อกฎหมายไม่สามารถอนุมัติเงินเยียวยาได้ และเลือกช่วยเหลือ ผู้ประกอบการรายใดใกล้ชิดรัฐบาลจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ

วิธีการใช้เงินของรัฐบาลไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชน ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่าย งบประมาณรัฐที่จ่ายไหลไปอยู่ในมือของนายทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล ไม่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ การอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะถึงในปี 64 พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องรับศึกหนักแน่ เพราะจะได้รู้ว่าการทุจริตของรัฐบาลมีทุกกระทรวง ทุกโครงการ ที่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าถ้าพบทุจริตให้แจ้งมาพร้อมดำเนินการ ถึงเวลานั้นจะกล้าดำเนินการหรือไม่ หากคนใกล้ชิดตนเองมีผลประโยชน์ในโครงการของรัฐ

กมธ.เสนอเลื่อนเปิดสภา

นายอนันต์ ผลอำนวย ส.สพลังประชารัฐ ประธานกมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า กมธ.กิจการสภาได้ทำหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภา ขอให้เลื่อนการประชุมสภาหลังปีใหม่ในวันที่ 6-8 ม.ค. ออกไป 1 สัปดาห์ เนื่องจากเป็นห่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เร็วมากและกระจายไป 40 กว่าจังหวัด จึงเป็นห่วงพื้นที่อาคารรัฐสภาที่มีส.ส. 500 คน มีผู้ติดตาม 2,000 กว่าคน และแรงงานต่างด้าวที่กำลังก่อสร้างอาคารรัฐสภาที่ส่วนใหญ่เป็นชาวพม่า จึงเสี่ยงสูงที่อาจเกิดการแพร่ระบาดในสภา เพราะมีสภาพไม่ต่างจากสนามมวยและคนมาจากทั่วสารทิศ ได้สอบถามความเห็นของกมธ.กิจการสภาแล้ว ส่วนใหญ่เห็นตรงกันให้เลื่อนการเปิดประชุมสภาหลังปีใหม่ใหม่ออกไปก่อน การเลื่อนไม่ใช่เรื่องเสียหาย แต่ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด

ในวันที่ 6 ม.ค. จะมีการประชุมกมธ.กิจการสภา จะเชิญตัวแทนกรมควบคุมโรค แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคระบาด มาหารือร่วมกับผอ.สำนักบริหารการแพทย์ ผอ.สำนักรักษาความปลอดภัย สภาผู้แทนราษฎร เพื่อวางมาตรการเข้มข้นการป้องกันโควิดในสภา จะมีการยกระดับมาตรการควบคุมตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้าสภา จนก้าวสุดท้ายที่ออกจากสภา ต้องมีความปลอดภัยในทุกขั้นตอน

ชวนเรียกถกเลื่อนไม่เลื่อน

นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร เผยว่า นายชวน รับทราบหนังสือของประธานกมธ.กิจการสภา ที่ขอให้เลื่อนการประชุมสภา 6-8 ม.ค. ออกไป ดังนั้น ประธานสภาจะเรียนเชิญหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รองประธานสภาผู้แทนฯ ทั้ง 2 คน หัวหน้าพรรคทุกพรรค ประธานวิป 3 ฝ่าย คือวิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้าน และวิปวุฒิสภา มาร่วมประชุมพร้อมกันในวันที่ 4 ม.ค. เวลา 15.00 น. ห้อง 409 อาคารรัฐสภา ฝั่งสภาผู้แทนฯ โดยเป็นการปรึกษาหารือเรื่องต่างๆ รวมทั้งเรื่องการประชุมสภาว่าต้องเลื่อนการเปิดประชุมออกไปหรือไม่ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว

กรมป่าไม้ยื่นเอาผิดแม่ธนาธร

เวลา 14.00 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ที่ปรึกษาชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. พร้อมพนักงานสอบสวนบก.ปทส. ให้ดำเนินคดีกับ นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ หลังตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกที่ดิน

นายอดิศรกล่าวว่า สืบเนื่องจาก น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ร้องทุกข์ให้กรมป่าไม้ตรวจสอบที่ดิน 77 แปลง เนื้อที่รวมกว่า 3,098 ไร่เศษ ของนางสมพร มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งกรมป่าไม้ตรวจสอบนานพอสมควร พบว่ามีการนำเอกสารสิทธิที่ดินที่เกี่ยวข้อง 77 แปลง ประกอบด้วย โฉนดที่ดิน 1 แปลง, นส.3 ก 55 แปลง, นส.3 จำนวน 14 แปลง รวมกว่า 3,098 ไร่เศษ ที่ดินทั้งหมดอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าฝั่งซ้าย แม่น้ำภาชี และซ้อนทับกับเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ที่มีการประกาศปี 2554 และไม่มีแผนงานพร้อมงบประมาณที่จะการดำเนินงาน จึงไม่มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนฯ และแปลงที่ดินทั้งหมดซ้อนทับในเขตป่าไม้ถาวร หมายเลขที่ 85 (ปี 2512)

อ้างมีเจตนาถือครองที่ดินผิดกม.

ส่วนที่ดิน นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับ มีการออกโดยไม่มีหลักฐานเดิม (สค.1) เป็นการเดินสำรวจออกเมื่อปี 2521 ก่อนประกาศพื้นที่ ดังกล่าวเป็นป่าสงวนฯ เมื่อปี 2527 แต่พื้นที่ดังกล่าวถูกประกาศเป็นเขตป่าไม้ถาวร หมายเลข 85 เมื่อปี 2512 ก่อนจะมีการออกเอกสาร นส.3 ก ทั้ง 55 ฉบับ ทำให้เป็นเอกสารที่ออกไม่ชอบด้วยกฎหมายในขณะนั้น อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า นางสมพรมีเจตนาครอบครองที่ดิน นส.2 โดยการซื้อเปลี่ยนมือจากบุคคลอื่นแบบผิดกฎหมาย 7 แปลง เนื้อที่ 350 ไร่ แปลงที่ดินดังกล่าวเป็นเอกสาร นส.2 ซึ่งเป็นประเด็นปัญหาซ้อนทับที่ดินในเขตป่าสงวนฯ และมีการร้องเรียนของกลุ่มชาวบ้าน ม.14 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ที่มีแผนงานจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน และมีตัวแทนของนางสมพร ออกมาร่วมตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย มีการยอมรับการครอบครองและแสดงเจตนามอบให้หมู่บ้านจัดตั้งป่าชุมชนของหมู่บ้าน ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาครอบครอง นส.2 แบบผิดกฎหมายของนางสมพร

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่านางสมพรครอบครองที่ดินมือเปล่าแบบผิดกฎหมาย (ภบท.5) อีก 1 แปลง เนื้อที่ 90 ไร่ ในท้องที่ ม.3 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี โดยตรวจสอบพบหลักฐานใบเสร็จรับเงินที่ระบุชื่อนางสมพร จ่ายเงินค่าที่ดินมือเปล่าในเขตป่า สงวนฯ จำนวน 90 ไร่ ช่วงปี 2553-2556 ในส่วนเอกสารโฉนดที่ดิน 1 แปลงและ นส.3 อีก 14 ฉบับ ต้องขยายผลตรวจสอบ

ชงเพิกถอนสิทธิ์อีก 2 พันไร่

นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า จะได้รวบรวมหลักฐานข้อมูลให้ครบถ้วน รัดกุมที่สุด ในการดำเนินการ แจ้งข้อกล่าวหาต่อนางสมพรและผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหาบุกรุกยึดถือครอบครองที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติจำนวน 450 ไร่ (ที่ดิน ภบท.5 และ นส.2 ทั้ง 7 แปลง) และแจ้งความดำเนินคดีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องกับการออกเอกสารสิทธิที่ดิน นส.3 ก จำนวน 55 แปลง และเสนอให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินของนางสมพร นส.3 ก อีกประมาณ 2,000 ไร่ ซึ่งเบื้องต้นนางสมพรเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 54 พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484

ฟ้องปารีณา – ‘ครูใหญ่’ อรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที ยื่นฟ้องน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พลังประชารัฐ ในข้อหาหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 2,475,112 บาท ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.

ศาลนัดไต่สวนครูใหญ่ฟ้องเอ๋

เวลา 10.30 น. ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายอรรถพล บัวพัฒน์ แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที พร้อมทนายความเข้ายื่นฟ้องน.ส. ปารีณา ไกรคุปต์ ข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและละเมิด เรียกค่าเสียค่าสินไหมทดแทนจากกรณีน.ส.ปารีณาโพสต์ภาพขณะเข้าแจ้งความที่ สภ.โพธาราม จ.ราชบุรี พร้อมข้อความว่า “วันนี้มาดำเนินคดีครูใหญ่ หรือนายอรรถพล บัวพัฒน์ ยั่วยุ ปลุกปั่น และอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 112 #ไม่ยกเลิก112 #การอาฆาตมาดร้ายคือผิดกฎหมาย” ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา

นายอรรถพลกล่าวว่า น.ส.ปารีณาโพสต์ตั้งแต่พ.ย.ที่ผ่านมา มีการแชร์เป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกัน น.ส.ปารีณาเป็นคนมีชื่อเสียง ข้อความใดที่มาจากน.ส.ปารีณาย่อมทำให้เกิดความเสียหายและเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง จึงมายื่นฟ้องต่อศาลพร้อมเรียกค่าเสียหาย 2,475,112.75 บาท ซึ่งศาลประทับรับฟ้องและนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 15 มี.ค. เวลา 09.00 น. ซึ่งตรงกับวันเกิดของตนพอดี

หน่อยที่ 1 คนแห่งปีอีสานโพล

อีสานโพล ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ ม.ขอนแก่น เผยผลสำรวจเรื่อง “รางวัลแห่งปีของคนอีสาน ประจำปี 2563” ระหว่างวันที่ 18-20 ก.ย. และ 25-28 ธ.ค. จากกลุ่มตัวอย่าง 2,224 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด โดยให้กลุ่มตัวอย่างเสนอชื่อ บุคคลหรือองค์กรหรือผลงานที่สมควรได้รับรางวัลแห่งปีในสาขาต่างๆ แบบไม่มีตัวเลือกให้ ซึ่งจากการประมวลผลพบว่า คะแนนสูงสุด 3 อันดับแรกแต่ละรางวัล มีดังนี้

นักการเมือง/ผู้บริหารภาครัฐแห่งปี อันดับที่ 1 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 25.1% อันดับ 2. นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 23.9% อันดับ 3 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 12.6%

ผู้บริหารภาคเอกชนแห่งปี ธนินท์ เจียรวนนท์ 19.3 % นายปัญญา นิรันดรกุล 10.1 นายเจริญ สิริวัฒนภักดี 9.4%

สภาจ่อปรับซิโน-ไทยวันละ 12 ล.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมาย นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ ส.ส.ประชาธิปัตย์ นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนฯ นายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภา เข้าตรวจสภาพทั่วไปการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่

นายสาธิต เผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการตรวจการจ้างโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มีมติไม่ขยายสัญญาการก่อสร้าง ครั้งที่ 5 ให้แก่บริษัท ซิโน-ไทย ที่จะสิ้นสุดสัญญาก่อสร้างวันที่ 31 ธ.ค.นี้ หากบริษัทก่อสร้างไม่แล้วเสร็จตามสัญญาจะถูกปรับวันละ 12 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2564 เป็นต้นไป จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ เหตุผลที่ไม่ต่อสัญญาเนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า บริษัทไม่สามารถชี้แจง ขั้นตอนต่อไปจะนำมติการประชุมส่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนฯ พิจารณาจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยยึดข้อมูลเหตุผลของคณะกรรมการประกอบการพิจารณา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน