เปิดเพิ่ม4เลน
ถนนเข้ากทม.

5 วันปีใหม่ ตายพุ่ง 316 ราย เมาขับพรวด 2,073 คดี ขับเสพ 105 คดีโคราชยังแชมป์เสียชีวิต 16 ราย การรถไฟเพิ่ม 4 ขบวนพิเศษรับคนต่างจังหวัดกลับกรุงเทพฯ คมนาคมแจงยอดคนนั่งสาธารณะ 6.9 ล้านคน ต่ำกว่าประมาณการ 40% สลดเพชรบูรณ์ หนุ่มขับกระบะพาครอบครัวจากหล่มสักไปเยี่ยมญาติฉลองปีใหม่ที่อ.หนองไผ่ ขากลับเกิดวูบ รถพุ่งลงข้างทางชนต้นไม้ แม่-เมีย-หลานสาว 7 ขวบดับคาที่ ‘บิ๊กเด่น’ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจถนนอีสาน-ตะวันออก แก้รถติดมุ่งสู่กรุง ตำรวจโคราช-ทางหลวง เปิด 4 เลนระบายรถเพิ่มเหนือ-อีสานกลับกรุงเทพฯ

5 วันหยุดยาวปีใหม่ดับแล้ว 316

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ม.ค. ที่ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 โดยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานแถลงข่าวกล่าวว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 2 ม.ค.2564 เกิดอุบัติเหตุ 383 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บ 384 คน สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมในช่วง 5 วันของการรณรงค์ตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.2563-2 ม.ค.2564 เกิดอุบัติเหตุรวม 2,748 ครั้ง ผู้เสียชีวิตรวม 316 ราย และบาดเจ็บรวม 2,741 คน

สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุดยังคงเป็น “ดื่มแล้วขับ” ร้อยละ 30.29 ขับรถเร็ว ร้อยละ 28.98 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 79.85 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด เวลา 16.01-20.00 น. ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 50 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,930 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 61,655 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 529,869 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดีรวม 117,106 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 31,305 ราย ไม่มีใบขับขี่ 28,884 ราย

จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 20 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพ มหานคร เชียงราย เชียงใหม่ จังหวัดละ 3 ราย ผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ ร้อยเอ็ด 21 คน ส่วนจังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) ลดลงเหลือ 9 จังหวัด เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 97 ครั้ง มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา 16 ราย และมีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 99 คน

เมาขับ – รถเก๋งมาสด้า 2 สีแดง ทะเบียน 6กธ 5128 กทม. ชนรถคันอื่นอีกหลายคัน บริเวณปากซอยรังสิต-ปทุมธานี 21 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ตรวจคนขับพบปริมาณแอลกอฮอล์เกินกำหนด เมื่อวันที่ 3 ม.ค.

เมาขับพุ่ง 2,073 คดี

นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยถึงสถิติคดีที่เข้าสู่กระบวน การคุมความประพฤติในช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 ว่า เข้าสู่วันที่ห้าของการควบคุมเข้มงวด (2 ม.ค. 2564) แต่กลับมีจำนวนคดีที่เข้าสู่งานคุมประพฤติพุ่งสูงถึง 1,168 คดี เป็นคดีขับรถในขณะเมาสุรา 1,162 คดี ขับเสพ 5 คดี และขับรถประมาท 1 คดี ทำให้ยอดสถิติคดีสะสมรวมจำนวนทั้งสิ้น 2,196 คดี

จำแนกเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 2,073 คดี หรือร้อยละ 94.40 คดีขับเสพ 105 คดี หรือร้อยละ 4.78 คดีขับรถประมาท 18 คดี หรือร้อยละ 0.82 จังหวัดที่มีสถิติคดีขับรถขณะเมาสุราสะสมสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ 1.บุรีรัมย์ 309 คดี 2.จันทบุรี 182 คดี และ 3.นครราชสีมา 153 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่งานคุมประพฤติในวันที่ห้าของช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2563 และ พ.ศ.2564 พบว่า คดีขับรถในขณะเมาสุรา ปีพ.ศ.2563 มี 3,701 คดี และปี พ.ศ.2564 มี 1,162 คดี ลดลง 2,539 คดี

กรมคุมประพฤติได้ติดอุปกรณ์อิเล็ก ทรอนิกส์ติดตามตัว (อีเอ็ม) ในคดีขับรถในขณะเมาสุราเพิ่มอีก 26 ราย ส่วนใหญ่มีเงื่อนไขห้ามออกจากที่พักอาศัยในช่วงเวลาตั้งแต่ 23.00-04.00 น. เป็นระยะเวลา 30 วัน รวมยอดสะสมคดีขับรถในขณะเมาสุราที่ศาลสั่งติด อีเอ็ม 39 ราย จังหวัดที่ศาลสั่งติดอีเอ็มสูงสุดคือ สุโขทัย มีถึง 30 ราย

กลับกรุง – ประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังหมดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ท่ามกลางมาตรการเข้มงวดป้องกันโรคโควิด-19 ที่สถานีขนส่งหมอชิต เมื่อวันที่ 3 ม.ค.

ยอดเดินทาง 6.9 ล้านคน

ด้านกระทรวงคมนาคมรายงานผลการอำนวยความสะดวก ปลอดภัย รองรับการเดินทางของประชาชนในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ 2564 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2563-2 มกราคม 2564 (ข้อมูลวันที่ 3 มกราคม 2564 เวลา 08.30 น.) พบว่ามีประชาชนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ 6,946,426 คน-เที่ยว ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 40.18 โดยมีปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ 9,538,928 คัน ต่ำกว่าประมาณการร้อยละ 24.14 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลจำนวน 9,085,789 คัน หรือร้อยละ 95.25 ของปริมาณการจราจรเข้า-ออกกรุงเทพฯ ทั้งหมด

กลับกรุง – ประชาชนจำนวนมากเดินทางด้วยรถไฟกลับเข้ากรุงเทพฯ หลังหมดวันหยุดยาวช่วงเทศกาลปีใหม่ ท่ามกลางมาตรการ เข้มงวดป้องกันโรคโควิด-19 ที่สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เมื่อ วันที่ 3 ม.ค.

รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า ช่วงวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลขึ้นปีใหม่คาดว่าจะมีประชาชนทยอยเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเริ่มต้นการทำงานตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. การถไฟฯ จึงได้จัดขบวนรถพิเศษช่วยการโดยสารวันนี้จำนวน 4 ขบวน ในเส้นทางศิลาอาสน์-กรุงเทพฯ, อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ, อุดรธานี-กรุงเทพฯ และเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 3,500 คน รวมกับขบวนรถที่มีเดินประจำ จะรองรับ ผู้โดยสารได้ 80,000 คน

ส่วนจำนวนตัวเลขผู้โดยสารที่เดินทางเมื่อวันที่ 2 ม.ค. มีจำนวนทั้งสิ้น 54,197 คน แบ่งเป็นผู้โดยสารขาออก 31,773 คน ขาเข้า 21,767 คน โดยเส้นทางที่มีผู้โดยสารเดินทางหนาแน่นที่สุดคือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ 16,251 คน รองลงมา สายใต้ 15,644 คน สายเหนือ 14,827 คน และสายตะวันออก 7,475 คน ซึ่งประเมินว่าในวันนี้จะมีผู้โดยสารมาใช้บริการตามสถานีต่างๆ ทั่วประเทศลดน้อยลง ต่ำกว่าตัวเลขที่คาดการณ์ไว้คือประมาณ 50,000-60,000 คน

เข้ากรุง – พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ขึ้นฮ.บินตรวจสภาพการจราจร พบว่าถนนวงแหวน อ.วังน้อย จ.พระนคร ศรีอยุธยา ประชาชนเดินทางกลับเข้ากรุง เทพฯอย่างหนาแน่น เมื่อบ่ายวันที่ 3 ม.ค.

‘บิ๊กเด่น’ขึ้นฮ.ตรวจจราจร

เวลา 14.00 น. พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติ ประภัสร์ รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ. สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล. และคณะสื่อมวลชน นั่งเฮลิคอปเตอร์ตรวจการจราจร และจุดคัดกรองตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ด่านหนองเสม็ด อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ตรวจจุดคัดกรอง หนองเสม็ดและจุดบริการประชาชน ถนนสาย 348 อรัญ ประเทศ ตัด อ.นางรอง บ้านหนองเสม็ด ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นด่านสุดท้ายของภาคอีสานเชื่อมออกภาคตะวันออก เป็นทางลงเขาคดเคี้ยวยาว 3 กิโลเมตร ทำให้การจราจรเหลือ 2 ช่องทาง วิ่งสวนไปมาและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เป็นจุดปิด-เปิดช่องทางพิเศษ ก.ม.80 ทางหลวง 348 มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ แขวงการทางหลวงบุรีรัมย์ และ เจ้าหน้าที่คัดกรองประจำจุด โดยพ.ต.อ.ธีรพล ยมนา ผกก.สภ.โนนดินแดง บรรยายสรุป โดยหากรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ มีจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเปิดช่องทางพิเศษเป็นเวลา 30 นาที เพื่อเร่งระบายรถยนต์เพื่อลดการแออัดของการจราจร

‘หล่มสัก’คว่ำดับ-เจ็บยกครัว

ก่อนหน้านี้ เวลา 03.00 น. ร.ต.อ.ภัทรสารน์ คำตื้อ พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวร สภ.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักลงข้างทาง พลิกคว่ำชนกับต้นไม้ มีผู้บาดเจ็บหลายรายติดอยู่ภายในรถ ที่บริเวณถนนสระบุรี-หล่มสัก (ทางหลวงหมายเลข 21) ฝั่งขาขึ้น มุ่งหน้าจ.เพชรบูรณ์ ก่อนถึงโค้งเขาถ้ำโถเล็กน้อย ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ห้วยโป่ง อ.หนองไผ่ รีบรุดไปตรวจสอบ

จุดเกิดเหตุเป็นถนนฝั่งขาขึ้น พบรถกระบะฟอร์ด ทะเบียน 1 ขต-9769 กทม. ชนอัดอยู่กับต้นไม้ข้างทาง สภาพพังยับเยิน มีผู้โดยสาร 4 ราย โดยทั้งหมดติดอยู่ภายในตัวรถ อาสามูลนิธิร่วมกตัญญูได้ใช้เครื่องมือตัดถ่างช่วยเหลือออกมา พบนายจิรพัฒน์ ตรีรัตน์ อายุ 26 ปี คนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส และผู้เสียชีวิต 3 ราย ทราบชื่อ 1.นางลิ้นจี่ สังแอ๊ด อายุ 70 ปี แม่นายจิรพัฒน์ 2.ด.ญ.ปรัชญา ปัญญากุล อายุ 7 ขวบ หลานนายจิรพัฒน์ โดยทั้ง 3 คนอยู่บ้านเลขที่ 72/2 หมู่ 2 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ และ 3.น.ส.แพรวนภา วันสา อายุ 25 ปี ภรรยานายจิรพัฒน์ อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 9 ต.ห้วยไร่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจากอ.หล่มสัก โดยมีนายจิรพัฒน์เป็นคนขับมาเยี่ยมและฉลองปีใหม่กับญาติ ที่ ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ เสร็จแล้วได้เดินทางกลับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนกับต้นไม้ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยเจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บส่งร.พ.หนองไผ่ และนำร่างผู้เสียชีวิตมาเก็บติดต่อญาตินำไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

ต่อมา ร.ต.อ.ภัทรสารน์ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายจิรพัฒน์ คนขับให้การว่าพาแม่ ภรรยา และหลานสาวไปเที่ยวหาญาติๆ ที่ ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จากนั้นได้พูดคุยสังสรรค์กันกระทั่งประมาณตีสองกว่าๆ ภรรยาได้ชวนกลับ แต่ตนเห็นว่าดึกแล้วไม่อยากขับรถกลับ ประกอบกับง่วงนอน แต่ภรรยาก็ดึงดันจะกลับให้ได้ ตนจึงขัดใจไม่ได้เลยฝืนขับมา เมื่อถึงที่เกิดเหตุเกิดอาการวูบหลับในรถจึงเสียหลักตกข้างทางและไปชนกันต้นไม้ จนทำให้แม่ ภรรยา และหลานเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนตนได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก โดยเบื้องต้นยังไม่สามารถให้ ผู้ขับขี่รถยนต์ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์โดยการเป่าได้เนื่องจากมีอาการเจ็บที่หน้าอก จึงได้ร้องขอให้แพทย์นำตัวอย่างเลือดจากผู้บาดเจ็บไปตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดว่าเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรอผล

เมืองคอนตายแล้ว 9

ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายสมพงษ์ มากมณี รองผวจ.นครศรีธรรมราช ได้ประชุมคณะทำงานติดตามสถานการณ์ประจำวันการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ พ.ศ.2564 ร่วมกับหัวหน้า สำนักงานปภ. หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลสะสม 5 วัน (29 ธ.ค.63-2 ม.ค.2564) เกิดอุบัติเหตุจำนวน 73 ครั้ง บาดเจ็บ 73 คน เสียชีวิต 9 คน ประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือรถจักรยานยนต์ เสี่ยงสูงสุดคือไม่สวมหมวกนิรภัย จับกุมดำเนินคดี 5,788 ราย ส่วนอำเภอที่ยังไม่เกิดอุบัติเหตุมี 5 อำเภอ คือ อ.ขนอม ช้างกลาง นาบอน พระพรหม และ อ.พิปูน

วัดพะเยาคึกคักทำบุญตักบาตร

ที่วัดโสมนัสตุ่มท่า ต.ท่าจำปี อ.เมือง จ.พะเยา พุทธศาสนิกชน ชาวบ้าน รวมทั้ง นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างเข้าร่วมพิธีตักบาตรบริเวณขัวบุญ โดยทางวัดได้จัดพื้นที่ทุ่งดอกทานตะวัน รวมทั้งสะพานไม้ ให้เที่ยวชมและทำบุญตักบาตร ท่ามกลางอากาศหนาวเย็น บรรยากาศที่สวยงาม ดอกทานตะวันบานเหลืองอร่ามเต็มท้องทุ่ง โดยพระครูใบฎีกาทศพล ญาณนะเวที หรือ ครูบาหนุ่ย เจ้าอาวาสวัดโสมนัสตุ่มท่า กล่าวว่า หลังจากปรับปรุงที่รกร้างกว่า 2 ไร่บริเวณหลังวัดปลูกผักและทุ่งทานตะวัน ต่อมาได้จัดกิจกรรมการทำบุญตักบาตรทุกวันเสาร์และวันสำคัญทางศาสนา พบว่ามีประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก รวมทั้งได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวและถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก และมีผู้สนใจที่ติดตามทางเฟซบุ๊กของวัด และที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาชมความสวยงาม รวมทั้งถ่ายรูปกัน และเป็นการจูงใจให้ญาติโยมเข้าร่วมทำบุญท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงาม

แห่ลอดอุโมงค์‘ซากุระ’โคราช

ที่ทางปั่นจักรยาน ริมถนนสืบศิริ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีประชาชนและนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างมาเที่ยวชม ถ่ายภาพ และลอดอุโมงค์ต้นซากุระสวยสีชมพูสดใสที่โค้งโน้มเข้าหากันเป็นอุโมงค์ยาวกว่า 300 เมตร ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กใหม่ของเมืองโคราช ท่ามกลางอากาศหน้าหนาวเย็นสบายรับปีใหม่

เปิด 4 เลนระบายมิตรภาพแน่น

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางกลับกรุงเทพฯ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมาแห่งที่ 2 ตั้งแต่ช่วงเช้าวันเดียวกัน ประชาชนยังทยอยเดินทางไปซื้อตั๋วขึ้นรถโดยสารเดินทางเข้ากรุงเทพฯกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่คึกคักเหมือนเช่นทุกปี โดยผู้ประกอบการรถโดยสารทุกรายบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เทศกาลปีใหม่ปีนี้คนเดินทางน้อยลงกว่าปีที่ผ่านมามาก คาดว่าเป็นเพราะคนกลัวโควิด-19 จึงงดการเดินทางโดยใช้รถโดยสารสาธารณะ

ส่วนสภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านจ.นครราชสีมามุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ มีประชาชนเดินทางผ่านกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สภาพการจราจรบนถนนมิตรภาพมีปริมาณรถยนต์หนาแน่นสะสมมาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา จนถึงเวลา 13.30 น. การจราจรชะลอตัวหลายจุด โดยตำรวจทางหลวงต้องเปิดช่องทางพิเศษบนถนนมิตรภาพเป็นระยะเพื่อระบายปริมาณรถที่สะสม โดยได้เปิดช่องทางพิเศษช่วงหลักก.ม.ที่ 208-204 ระยะทาง 4 กิโลเมตร เขตอ.คง, หลักก.ม.ที่ 166-161 เขต อ.เฉลิม พระเกียรติ อ.โนนสูง, หลักก.ม.ที่ 96-94 เขตอ.สีคิ้ว และหลักก.ม.ที่ 36-31 ระยะทาง 5 กิโลเมตร เขตรอยต่อระหว่างต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กับต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยตั้งแต่ขึ้นเนินเขาลำตะคอง ก.ม.91 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ถึงก.ม.55 ขึ้นมอบันไดม้า ผ่านหน้าฟาร์มโชคชัย ก.ม.51-52 ผ่านหน้าศูนย์ข้าวโพดข้าวฟ่างแห่งชาติ (ไร่สุวรรณ) ปริมาณรถหนาแน่น และรถวิ่งได้ช้าลงตลอดเส้นทางลงเนินกลางดง เข้าเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบช.ภ.3 ได้มอบนโยบายให้แก่ ผบก.ภ.จว.ต่างๆ ของภาคอีสานตอนล่าง ในด้านการดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร พื้นที่อีสานตอนล่าง เช่น อำนาจเจริญ อุบลฯ บุรีรัมย์ สุรินทร์ จ.ชัยภูมิ ที่ปริมาณรถมาสะสมรวมกัน บริเวณถนนมิตรภาพ พื้นที่ตัวเมืองนครราชสีมา ปากช่อง เข้าเขตกลางดงนอกจากนี้ได้มอบนโยบายด้านการดูแลความปลอดภัย วินัยการจราจร ด้านอาชญากรรมต่างๆ ในช่วงการเดินทางกลับหลังเทศกาล ปีใหม่

พล.ต.ต.พรชัย นลวชัย ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งจุดบริการ ริมถนนมิตรภาพ สายหลัก ที่มุ่งหน้าจาก จ.นครราชสีมา เข้า จ.สระบุรี กรุงเทพ มหานคร ให้กวดขันด้านวินัยจราจร อำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุ และร่วมปฏิบัติหน้าที่ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงเปิดช่องทางจราจรในจุดที่มีรถติดเพื่อระบายด้านการจราจร และประชา สัมพันธ์ ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโควิด-19

รถชนบนเขาติดยาวเหยียด

พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี (เขาใหญ่) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจออกตั้งจุดบริการเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร ถนนธนะรัชต์ ก.ม.14 เขาใหญ่ ก.ม.20 กุดคล้า เพื่อปฏิบัติหน้าที่ด้านอำนวยความสะดวกการเดินทาง และด้านวินัยจราจร ในช่วงประชาชนเดินทางกลับ เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ตั้งแต่ช่วงเทศกาลปีใหม่ถึงวันนี้ พบเป็นชายผู้ขับขี่เมาแล้วขับ ขี่รถจักรยานยนต์ บริเวณถนนหน้าโรงเรียนบ้านท่าช้าง ตรวจวัดแอลกอฮอล์เกิน 100 มิลลิกรัม ควบคุมตัวขึ้นรถ 20 นำไปที่ สภ.หมูสี ระหว่างนั่งอยู่กระบะหลังได้กระโดดลงจากรถเพื่อหลบหนี จนได้รับบาดเจ็บ และจับกุมผู้กระทำความผิดสะสม เมาแล้วขับในพื้นที่ส่งดำเนินคดี รวม 21 ราย ถือว่ามีผู้กระทำความผิดมากว่าเทศกาลที่ผ่านมาทุกครั้งเพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนสายหลักและสายรอง

ส่วนสภาพการจราจรบนถนนสาย 304 ในพื้นที่จ.ปราจีนบุรี ตั้งแต่เขตรอยต่อ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เข้าอ.นาดี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และต.เขาหินซ้อน อ.พนม สารคาม จ.ฉะเชิงเทรา มีปริมาณรถหนาแน่นเคลื่อนตัวได้ช้า และมีรถติดสะสมยาวเป็น บางช่วง โดยช่วงทางลงเขาศาลปู่โทน ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี มุ่งหน้ามาจากอ.วังน้ำเขียว มีปริมาณรถเพิ่มขึ้นเต็มทั้ง 2 ช่องทางการจราจร ตั้งแต่ ก.ม.221+222 ถึง ก.ม.208 บ้านเขาภูหีบ จนถึงแยกสัญญาณไฟจราจรกบินทร์บุรี มีปริมาณรถหนาแน่นตลอดเส้น ประกอบบางช่วงเกิดอุบัติเหตุ และรถยนต์ชนท้ายกันหลายคัน ส่งผลทำให้มีรถติดสะสมยาวหลายกิโลเมตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน