ขวางตั้ง‘ไบเดน’
4ศพเซ่นมิคสัญญี
ทั่วโลกประณาม

สังเวย 4 ศพ เซ่นม็อบ มะกันคลั่ง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ บุกรัฐสภาคองเกรสขวาง ลงมติรับรอง ‘โจ ไบเดน’ เป็นปธน.คนใหม่ จนต้องประกาศเคอร์ฟิว ‘เฟซบุ๊ก ยูทูบ และทวิตเตอร์’ ระงับบัญชีอดีตปธน.ใช้สื่อสารกับสาวก ตร.จับผู้ก่อเหตุนับ 100 ราย เผยเป็นครั้งแรกในรอบ 207 ปี

เมื่อวันที่ 7 ม.ค. สำนักข่าวเอพีรายงานเหตุการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองสหรัฐอเมริกาที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมตัวบุกอาคารรัฐสภา หรือยูเอส แคปิตอล กลางกรุงวอชิงตัน เพื่อขัดขวางการประชุมของสภาที่จะลงมติรับรองนายโจ ไบเดน ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563

เหตุการณ์เริ่มปะทุตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพุธที่ 6 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐ ไม่นานหลังจากนายทรัมป์ปราศรัยกล่าวหาการเลือกตั้งมีการทุจริตอย่างเลวร้าย ส่งผลให้มวลชนฝ่ายขวาจัดลุกฮือพยายามบุกเข้าอาคารรัฐสภา จนต้องระงับการอภิปราย ขณะที่ตำรวจเร่งอพยพสมาชิกสภาคองเกรสและพนักงานบางส่วนออกจากอาคาร รวมทั้งล็อกดาวน์พื้นที่โดยรอบเพื่อสกัดกั้นกลุ่มผู้ประท้วง ซึ่งบางส่วนใช้กำลังทำลายสิ่งกีดขวาง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ซึ่งยกระดับมาตรการฉีดสเปรย์พริกไทย ยิงแก๊สน้ำตา และระเบิดแสงสลายฝูงชน

ม็อบทรัมป์ – ม็อบสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ บุกอาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขัดขวางการประชุมสภาคองเกรสเพื่อรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ตำรวจต้องยิงปืนและแก๊สน้ำตาสกัดอย่างดุเดือด เมื่อ 7 ม.ค.

นายมูเรียล บาวเซอร์ นายกเทศมนตรี กรุงวอชิงตัน ประกาศบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกเคหสถานตั้งแต่เวลา 18.00 น. จนถึงเวลา 06.00 น. ของวันที่ 7 ม.ค. กระทั่งเวลาราว 14.30 น. ผู้ประท้วงบุกเข้าไปในอาคารยูเอสแคปิตอล ท่ามกลางความหวาดผวาของสมาชิกสภาคองเกรสที่ยังอยู่ในห้องประชุม ระหว่างนั้นมีเสียงเรียกร้องจากส.ส.และส.ว. ทั้งสองพรรคขอให้นายทรัมป์ออกมาปรามม็อบ ซึ่งนายทรัมป์ยอมหลังเหตุการณ์ผ่านไปนาน 2 ชั่วโมง บอกให้ผู้สนับสนุนตนกลับบ้าน แต่ยังชื่นชมม็อบว่าเป็นแนวร่วมสุดพิเศษ

ไม่นานหลังจากนั้นสื่อโซเชี่ยลหลัก ทั้งเฟซบุ๊ก ยูทูบ และทวิตเตอร์ ลบข้อความที่นายทรัมป์สื่อสารกับม็อบกองเชียร์ ทวิตเตอร์ยังประกาศระงับใช้บัญชีของนายทรัมป์เป็นเวลา 12 ชั่วโมง และเฟซบุ๊กแถลงระงับบัญชีของนายทรัมป์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง

ช่วงค่ำทางการระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 4 ราย เป็นหญิง 2 และชาย 2 ส่วนตำรวจบาดเจ็บ 14 นาย 2 นายต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ในจำนวนนี้ 1 นายมีอาการสาหัสหลังถูกม็อบดึงตัวเข้าไปรุมทำร้าย

ด้านสำนักงานตำรวจกรุงวอชิงตันแถลงว่า จับกุมผู้ประท้วงที่ใช้ความรุนแรง 52 คน ขณะที่อีก 47 คนโดนจับฐานละเมิดมาตรการเคอร์ฟิว 1 คนถูกจับข้อหาพกอาวุธโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งจากการตรวจสอบรอบๆ อาคารเจ้าหน้าที่พบระเบิดท่อ และระเบิดขวด

หลังจากผ่านพ้นเหตุโกลาหล 6 ชั่วโมง สภาคองเกรสรับรองชัยชนะของนายไบเดน ด้วยคะแนนคณะผู้เลือกตั้งที่ 306 เสียงต่อ 232 เสียง จากนั้นนายทรัมป์แถลงว่าจะถ่ายโอนอำนาจบริหารให้นายไบเดนอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย

นางจูเลียน เซลิเซอร์ ประธานสมาคมประวัติศาสตร์รัฐสภา กล่าวว่า สภาคองเกรสเคยถูกโจมตีเมื่อปี 2357 หรือ 207 ปีก่อน โดยกองทัพอังกฤษบุกโจมตีและจุดไฟเผาระหว่างสงครามปี 2355 และครั้งล่าสุดนี้ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเกิดสงครามกลางเมืองที่ประธานาธิบดีเป็นคนเปิดสงครามขึ้นเองและเป็นการโจมตีรัฐบาลที่ประธานาธิบดีจุดไฟแห่งความแตกแยกและเรียกร้องให้ประท้วงและลุกลามเป็นเหตุความวุ่นวายซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นในรัฐสภามาก่อน

ด้านผู้นำนานาประเทศต่างแถลงข้อความตกตะลึงกับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมต่อต้านและประณามม็อบว่าทำร้ายระบอบประชาธิปไตย นางแองเกลา แมร์เคิล นายกฯ เยอรมนี กล่าวตำหนินายทรัมป์ว่า มีส่วนให้เกิดเหตุการณ์ไม่สงบนี้ขึ้น ส่วนชาวจีนหลายคนโพสต์ออนไลน์เยาะเย้ยความวุ่นวายสหรัฐกันอย่างกว้างขวาง

ม็อบทรัมป์ – เจ้าหน้าที่อาวุธครบมือจับกุมม็อบสนับสนุนนายโดนัลด์ ทรัมป์ ฮือบุกอาคารรัฐสภา กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขัดขวางการประชุมสภาคองเกรส เพื่อรับรองผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 7 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน