‘แต้ว’ผวา ผจก.ดาราสาวติดเชื้อ รุดตรวจโควิด

โล่งผลเป็นลบแต่ต้องกักตัว
ป่วยอีก205-มหาชัยเจอ46
ปราจีนพบ1โยงดีเจ-เสี่ยง40

‘แต้ว-ณฐพร’ผวารีบตรวจโควิดพร้อมแม่ หลังผจก.ส่วนตัวติดเชื้อจากผับเชียงใหม่ ดาราดังและแม่โล่งอกผลตรวจเป็นลบไม่ติดเชื้อ แต่ต้องกักตัว ผู้ว่าฯเผยสาวระยองป่วยโควิดคลอดลูกปลอดภัย ไร้เชื้อ ขณะที่ระยองติดเชื้อเพิ่มอีก 7 ราย จันท์ป่วยอีก 9 ส่วนที่มหาชัยป่วยโควิดอีก 46 ขณะที่ปราจีนฯเจอสาววัย 20 ปีป่วยโควิด เผยโยงดีเจจาก กทม.เข้ามาทำงานในผับที่กบินทร์ ที่เชียงใหม่พบป่วยโควิดอีก 2 จากผับดัง ‘วอร์มอัพ’ ศบค.ระบุพบป่วยรายใหม่ 205 เป็นการติดเชื้อในประเทศ 131 ราย แรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 58 ราย ‘คิง เพาเวอร์’ รางน้ำสั่งปิด 3 วันหลังพบพนักงานติดเชื้อ ขณะที่ช่างกราฟิกช่อง 3 ก็ติดเชื้อ ทำให้รายการข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ต้องย้ายจุดออกอากาศ สธ.เตรียมเปิดลงทะเบียนรับวัคซีนปลายม.ค.นี้

ติดเชื้อเพิ่มอีก 205

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 8 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อว่า วันนี้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 205 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 131 ราย แรงงานต่างด้าวจากการคัดกรองเชิงรุก 58 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศเข้าสถานกักกัน 16 ราย รวมสะสม 9,841 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 7,740 ราย แรงงานต่างด้าว 2,742 ราย รักษาหายแล้ว 5,255 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 67 ราย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายใหม่ แบ่งเป็น 1.ผู้ที่มีประวัติเสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า จำนวน 123 ราย พบใน กทม. 29 ราย สมุทรสาคร 37 ราย สมุทรปราการ 22 ราย ชลบุรี 11 ราย เลย 4 ราย อ่างทอง 4 ราย นครปฐม 4 ราย เชียงใหม่ 4 ราย ปทุมธานี 2 ราย ลพบุรี 1 ราย บุรีรัมย์ 1 ราย ลำพูน 1 ราย สุพรรณบุรี 1 ราย สุราษฎร์ธานี 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย และกระบี่ 1 ราย

2.ผู้ที่อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 8 ราย พบในสมุทรปราการ 3 ราย อ่างทอง 3 ราย และกทม. 1 ราย 3.แรงงานต่างด้าวจาก คัดกรองเชิงรุก 58 ราย พบใน สมุทรสาคร 21 ราย ชลบุรี 21 ราย ระยอง 7 ราย และจันทบุรี 9 ราย และ 4.ต่างประเทศเข้ากักกัน 16 ได้แก่ พม่า 7 ราย สหรัฐอเมริกา 4 ราย และอินเดีย สวีเดน ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และสาธารณรัฐเช็ก ประเทศละ 1 ราย

เผย20จว.ไร้โควิดระลอกใหม่

โฆษกศบค. กล่าวด้วยว่า กราฟตัวเลขผู้ป่วย ยังขึ้นๆ ลงๆ แต่ยังมีความชัน เพราะตัวเลข ก็ยังร้อยกว่ารายต่อวัน ถ้ารวมคัดกรองต่างด้าวด้วยก็เป็น 3 หลัก สำหรับผู้ป่วยระลอกใหม่กระจาย 57 จังหวัด เพิ่มขึ้น 1 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ เกิดจากมีผู้ป่วยจากพัทยากลับไปบุรีรัมย์ อย่างไรก็ตาม ช่วง 3 สัปดาที่ผ่านมา แบ่งกลุ่มจังหวัดออกเป็น 4 กลุ่ม คือ 1.พื้นที่สีเหลือง ยังเจอรายงานผู้ป่วยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มี 37 จังหวัด 2.พื้นที่สีเขียว ไม่มี ผู้ป่วยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา 16 จังหวัด ได้แก่ สระบุรี นครนายก สระแก้ว อุบลราชธานี ชัยภูมิ หนองคาย มหาสารคาม อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ สุโขทัย นครศรีธรรมราช ระนอง สงขลา สตูล ตรัง และนราธิวาส

3.พื้นที่สีฟ้าไม่มีรายงานผู้ป่วยใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา 4 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร อุดรธานี และภูเก็ต และ 4.พื้นที่สีขาว ไม่มีรายงานผู้ป่วยระลอกใหม่มาก่อน 20 จังหวัด คือ ศรีสะเกษ ยโสธร บึงกาฬ หนองบัวลำภู ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร แพร่ พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน อุทัยธานี พิษณุโลก พังงา ชุมพร พัทลุง ปัตตานี และยะลา ต้องขอขอบคุณ และขอให้ตรึงไว้มีตัวเลขอย่างนี้ไปตลอด

สธ.คาดปลายม.ค.ตัวเลขลดลง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทยว่า สถานการณ์ทั่วโลกยังอยู่ในช่วงขาขึ้น ติดเชื้อรวมกว่า 88 ล้านคน เสียชีวิต 1.9 ล้านราย จุดใหญ่ๆ ยังเป็นสหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล เพื่อนบ้านไทยก็เช่นกัน ทั้งพม่า อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น ส่วนประเทศไทยติดเชื้อเพิ่ม 205 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 131 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม แม้ตัวเลขวันนี้น้อยลง แต่กราฟยังเพิ่มขึ้น จึงประมาทไม่ได้ ต้องคงมาตรการป้องกันส่วนบุคคล และสธ.จะค้นหาเชิงรุก จัดตั้งร.พ.สนามรองรับผู้ติดเชื้อต่อไป

“สำหรับการระบาดระลอกใหม่มีผู้ติดเชื้อสะสม 5,604 ราย สมุทรสาครมีผู้ติดเชื้อมากที่สุด 2,981 ราย ตามด้วยภาคตะวันออก และ กทม. เสียชีวิต 7 ราย อัตราการเสียชีวิตต่ำกว่าครั้งแรก แต่จะต้องลดผู้ติดเชื้อให้มากที่สุด ขณะนี้รักษาใน ร.พ. 2,599 ราย มีอาการหนักและใช้เครื่องช่วยหายใจ 8 ราย อยู่ ร.พ.สนาม 1,703 ราย และร.พ.เฉพาะผู้ป่วยอาการน้อย (Hospitel) 81 ราย ทั้งนี้ร.พ.สนามเป็นการแยกผู้ติดเชื้ออาการน้อยหรือไม่มีอาการออกมา เพื่อสังเกตอาการไม่ให้ปะปนกับคนในชุมชน เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคในจังหวัดที่มีการแพร่ระบาด มากๆ เช่น สมุทรสาคร ชลบุรี จันทบุรี ระยอง และตราด ส่วนผู้รักษาหายแล้วมี 1,306 ราย ซึ่งผู้ติดเชื้อไม่มีอาการเมื่อผ่านไป 8-10 วัน จะไม่แพร่เชื้อต่อ ถือว่าหายแล้ว”

นพ.โอภาสกล่าวว่า การระบาดของโควิด 19 ระลอกใหม่ กระจาย 57 จังหวัด แบ่งเป็นพื้นที่สีแดงที่มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 50 ราย มี 8 จังหวัด พื้นที่สีส้มมีผู้ป่วยสะสม 11-50 ราย มี 10 จังหวัด พื้นที่สีเหลืองมีผู้ป่วยสะสม 1-10 ราย มี 19 จังหวัด พื้นที่สีเขียวไม่มีรายงาน ผู้ป่วยในช่วง 7 วันที่ผ่านมา มี 20 จังหวัด และพื้นที่สีขาวไม่มีรายงานผู้ป่วยมาก่อน มี 20 จังหวัด ทั้งนี้ สมุทรสาครเป็นจุดเริ่มต้น ของการระบาดรอบนี้ โดยตลาดกลางกุ้งมีผู้ติดเชื้อเกือบ 40% มีคนตั้งคำถามว่าในโรงงานหรือในชุมชนที่มีแรงงานต่างด้าวทั่วประเทศมีแนวโน้มอย่างไร จากการลงไปเฝ้าระวังในชุมชนต่างด้าวทั่วประเทศ เขตสุขภาพที่ 3 ภาคเหนือตอนล่างตรวจไปกว่า 1.5 พันคน พบติดเชื้อ 3 คน ส่วนภาคใต้ เขตสุขภาพ ที่ 11 และ 12 ตรวจไปเกือบ 5 พันราย พบผู้ติดเชื้อ 1 ราย ดังนั้น แรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ยังอยู่จ.สมุทรสาคร และภาคกลางเป็นหลัก ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคใต้ จากการตรวจกว่า 2 หมื่นราย พบผู้ติดเชื้อน้อยมาก แต่ยังต้องเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจจับการระบาดให้ได้เร็วที่สุด

“ภาพรวมสถานการณ์ยังมีผู้ป่วยเพิ่มเติม หลายจังหวัดควบคุมได้ดี ในการค้นหาผู้ป่วย การติดตามผู้สัมผัส ประชาชนร่วมมือสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง ลดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น และลดการเดินทาง ถ้าเป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ คาดว่าปลายเดือนม.ค.น่าจะเห็นจำนวนผู้ติดเชื้อ ลดลงอย่างชัดเจน” นพ.โอภาสกล่าว

ระยองติดเชื้อเพิ่มอีก 7

เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ห้องอินทรวิชิต ศูนย์ราชการ จ.ระยอง นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ. ระยอง พร้อมด้วย นพ.สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ระยอง ร่วมแถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันของจ.ระยอง

นายชาญนะกล่าวว่า วันนี้ยอดผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ของ จ.ระยอง เพิ่มขึ้น 7 คน รวมทั้งหมดที่ติดเชื้อจำนวน 492 คน รักษาหายกลับบ้านแล้ว 115 ราย รู้สึกดีใจที่ยอดลดลงอย่างต่อเนื่อง หวังว่าจะลดลงไปเรื่อยๆ จนยอด เป็น 0 โดยเร็ว เป็นผลพวงจากการเข้มงวด ในทุกด้าน ขอบคุณชาวระยองที่ให้ความร่วมมือ

สำหรับการขออนุญาตเดินทาง วันนี้ประชาชนที่มาขออนุญาตเริ่มเบาบางลง เพราะสามารถขออนุญาตได้หลายสถานที่ แต่ขอฝากว่าถ้าเดินทางไปยัง 5 จังหวัดที่ยกระดับ สูงสุด ควรให้เจ้าของสถานที่ดังกล่าว เช่นอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ที่ไปเซ็นรับรอง เพื่อเดินทางกลับเข้าสู่จ.ระยอง ไม่เช่นนั้น จะต้องตรวจสอบกันเพิ่มเติม จะทำใหัเสียเวลา

สาวคลอดลูกไม่ติดโควิด

ขณะที่นพ.สุนทรกล่าวว่า ขณะนี้ผู้ป่วย ติดเชื้อทั้งหมด มีเพียง 1 รายที่มีอาการรุนแรง และมีเคสพิเศษเป็นเนื่องที่น่ายินดี คือผู้หญิงท้องแก่ติดเชื้อโควิด-19 ได้คลอดบุตรที่ร.พ.ระยอง เป็นเด็กทารกเพศชาย น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง มีการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางสายสะดือก่อนแล้ว ต่อมาก็ตรวจที่โพรงจมูก ก็ไม่พบเชื้อโควิด-19 ถือเป็นความโชคดี ขณะนี้แยกออกมาดูเฝ้ารอดูอาการอีก 14 วัน แต่เบื้องต้นไม่พบเชื้อ โควิด-19

ด้านนายชาญนะกล่าวเสริมว่า ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ทุกท่านที่เสียสละ ช่วยทำคลอดในภาวะความเสี่ยงสูง จนสำเร็จ สามารถทารกช่วยทำคลอดเด็กออกมาได้สำเร็จ เบื้องต้น ไม่พบเชื้อ ต้องขอขอบคุณ และแสดงความ ดีใจที่จ.ระยองได้ประชากรเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งรายในท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

กรุงเก่าป่วยอีก6โยงบ่อนไก่

นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้รับรายงานจาก ร.พ.บางปะอินตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 อีก 6 ราย มีความเชื่อมโยงจากบ่อนไก่ ประกอบด้วย หญิงไทย อายุ 48 ปี ทำงานโรงงานในอุตสาหกรรมบางปะอิน พักอาศัยที่หมู่ 4 ต.บ้านแป้ง อ.บางปะอิน จ.พระนคร ศรีอยุธยา ซึ่งเป็นร้านขายของชำ วันที่ 5 ม.ค. ตรวจพบเชื้อโควิด ไม่มีอาการ ชายไทย อายุ 39 ปี พักอาศัยที่หมู่ 9 ต.บ้านลน อ.บางปะอิน มีอาชีพเลี้ยงไก่ชน ไปบ่อนไก่ในอ.บางปะอิน วันที่ 5 ม.ค. ตรวจพบเชื้อโควิด ไม่มีอาการ

เด็กชายไทย อายุ 9 ขวบ พักอาศัยอยู่กับครอบครัว เปิดร้านขายของชำ ค้าปลีกและส่ง หมู่ 2 ต.บางกระสั้น อ.บางปะอิน วันที่ 5 ม.ค. ตรวจพบเชื้อ

หญิงไทย อายุ 56 ปี และหญิงไทย อายุ 59 ปี พักอาศัยที่ หมู่ 8 ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน อาชีพรับจ้างทำอาหารในสนามชนไก่ชนเรืองชัย ต.ตลาดเกรียบ อ.บางปะอิน วันที่ 5 ม.ค. ตรวจพบเชื้อโควิด ไม่มีอาการ

และชายไทยอายุ 27 ปี พักอาศัยที่ หมู่ 7 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน งานอดิเรกเลี้ยงไก่ชน ได้รับข่าวประชาสัมพันธ์ของจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยาว่าพบผู้ป่วยติดเชื้อในสนามชนไก่ จึงเข้ารับการตรวจหาซื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ผลการตรวจพบเชื้อโควิด-19

ขณะนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยาประสานผู้เกี่ยวข้องลงพื้นที่ ควบคุมโรคอย่างเร่งด่วน พร้อมค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ค้นหาผู้สัมผัส เพิ่มเติมในชุมชน และสอบสวนไทม์ไลน์ ต่อไป

สำหรับพระนครศรีอยุธยาพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่แล้ว 23 ราย รักษาตัวหาย 4 ราย

กทม.ติดเชื้อเพิ่ม 37

วันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการกทม. พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะผอ.ศบค.กทม. เป็นประธานการประชุมศบค.กทม. ครั้งที่ 6 โดยมีคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้แทนสำนัก ผู้แทน บช.น. ผู้แทน กอ.รมน.กทม. ผู้แทนกลุ่มเขต และผู้แทนส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานครที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุม

ภายหลังการประชุม ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า วันนี้กทม.พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 37 ราย จำนวนนี้เป็นชาว โรฮิงยา 7 ราย นอกจากนี้ยังเป็นผู้ป่วยที่สามารถ ติดตามสอบสวนโรคได้บางส่วน และอยู่ระหว่าง การสอบสวนโรคบางส่วน กลุ่มใหญ่คือกลุ่มจากสถานบันเทิง สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อ ในพื้นที่กรุงเทพฯ เมื่อกระบวนการสอบสวนโรคเสร็จสิ้นกทม.จะเร่งแสดงไทม์ไลน์ให้ประชาชนทราบโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ที่เดินทางไปในพื้นที่ดังกล่าวได้ตรวจสอบตนเอง

อย่างไรก็ตามปัญหาขณะนี้คือผู้ติดเชื้อปกปิด ข้อมูลและข้อมูลที่เป็นเท็จ ซึ่งหากเกิดกรณี ในลักษณะนี้ กทม.จะขอรับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสอบสวนโรคต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบข้อมูล ของศบค.พบว่า เฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.63-8 ม.ค.64 มีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่เป็นทั้งคนต่างจังหวัดพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลกรุงเทพมหานคร และคนอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร แล้ว 363 ราย

จนท.กราฟิกช่อง3ป่วยโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 โดยไก่-ภาษิต และ ไบรท์-พิชญทัฬห์ ต้องออกมานั่งจัดรายการกันที่บริเวณลาน จอดรถ ข้างอาคารมาลีนนท์ สร้างความสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

ล่าสุด ทวิตเตอร์ เรื่องเล่าเช้านี้ @Morning NewsTV3 ออกมาทวีตข้อความชี้แจงเรื่อง ที่เกิดขึ้นว่า “#เรื่องเล่าเช้านี้ ออกมาจัดรายการอยู่บริเวณลานจอดรถถ่ายทอดสด ข้างอาคารมาลีนนท์ 2 เนื่องจากอยู่ระหว่างการทำ ความสะอาดฆ่าเชื้อ หลังพบว่ามีพนักงานชาย ปฏิบัติงานในห้องกราฟิก ชั้น 6 ติดเชื้อ โควิด-19”

ดารา‘แต้ว’ผวา-รีบตรวจเชื้อ

ส่วนกรณีมีข่าวว่า ผู้จัดการดาราดังคนหนึ่งติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นทราบว่าไปเที่ยวผับดังแห่งหนึ่งในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ต่อมาวันที่ 1 ม.ค.2564 ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านดังในจังหวัดดังกล่าว ก่อนกลับกรุงเทพฯ กระทั่งพบว่ามีอาการป่วยและเข้ารับการรักษาตัว ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ คาดว่าน่าจะติดเชื้อโควิด-19 จากผับดังของเชียงใหม่ ขณะนี้รอดูอาการอยู่นั้น

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์ นางเอกชื่อดังโพสต์ข้อความผ่าน ไอจีสตอรี่ taewaew_natapohn ชี้แจงกรณี ดังกล่าวว่า “แต้วกับคุณแม่ และประณัยได้ไป SWAP TEST ทันทีหลังทราบข่าวการติดโควิด ของเฟรม (ผจก.) ในเช้าวันรุ่งขึ้น เราไปตรวจตั้งแต่เช้าวันที่ 7 ม.ค.2564 เวลา 08.30 น. @ร.พ.รามคำแหง แบบ DRIVE THRU ผล PCR ออกเวลา 13.00 น. ว่า “ไม่พบการ ติดเชื้อใดๆ” ซึ่งเป็นการตรวจหลังการพบเฟรมครั้งล่าสุดเมื่อ 12 วันที่แล้ว ตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.2563

อย่างไรก็ตาม พวกเราจะปฏิบัติตาม คำแนะนำในการป้องกันตัวและการแพร่ระบาด ของเชื้อโควิดอย่างเคร่งครัด และระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเองและคนรอบข้าง ขอให้ทุกท่านปลอดภัย และรักษาสุขภาพกันอย่างมีสติและไม่ประมาทนะคะ ด้วยความห่วงใย เป็นอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้ โควิดเข้าใกล้เรามากกว่าที่เราคิดแล้วจริงๆ ค่ะ

แต้วขออนุญาตใช้โอกาสนี้ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้พวกเราและเฟรม รวมถึงกราบขอโทษทุกส่วนที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลและยุ่งยากในการดำเนินการ แต้วเชื่อว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เฟรมเข้ารับการกักตัวและรักษาตามมาตรการของรัฐเรียบร้อย และหวังว่าเฟรมจะปลอดภัยและหายจากโควิด ในเร็วนี้ สู้ๆ ค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆ ท่านเช่นกันนะคะ”

ปราจีนฯติดเชื้อ 1 โยงเคสดีเจ

เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องศูนย์เรียนรู้ (402) ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายวรพันธุ์ สุวัณณุสส์ ผู้ว่าฯปราจีนบุรี พร้อมนพ.โชคชัย สาครพาณิชย์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.ปราจีนบรี , นพ.สมคิด ยืนประโคน ผอ.ร.พ.กบินทร์บุรี ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 8 จ.ปราจีนบุรี

นายวรพันธุ์กล่าวว่า จ.ปราจีนบุรี พบผู้ติดเชื้อ รายใหม่ในระลอก 2 เพิ่มอีก 1 ราย เป็นรายที่ 8 เป็นหญิง อายุ 20 ปี ชาวอ.กบินทร์บุรี ไปเที่ยวผับที่ดีเจซึ่งป่วยโควิด-19 เดินทาง จากกรุงเทพฯ มาเปิดเพลงที่ร้านระรื่น ตั้งอยู่ต.นาแขม อ.กบินทร์บุรี ติดเชื้อจากการพูดคุยใกล้ชิด ใช้อุปกรณ์ร่วมกัน เช่นแก้วดื่มเหล้า สูบบุหรี่ไฟฟ้า การพูดคุยตะโกน-อยู่ในสถานที่ แออัด ทำให้เชื้อแพร่กระจายง่าย

สำหรับไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายใหม่เชื่อมโยง กับเคสดีเจเปิดเพลงร้านระรื่น 1 ม.ค.64 เวลา 21.00-24.00 น. เดินทางไปที่ร้านระรื่น 4 แล้วเดินทางกลับบ้านพัก ที่ม.12 ต.เมืองเก่า

2 ม.ค.64 เวลา 12.00-12.30 น. ไปเดินซื้อของร้านสะดวกซื้อ ที่บขส.กบินทร์บุรีแต่ใส่แมสก์ตลอดเวลา เดินทางกลับบ้านพัก

เวลา 20.00-22.30 น. อยู่บ้านเพื่อนที่หมู่บ้าน เอื้ออาทร

เวลา 23.00-04.00 น. เดินทางไปที่ร้านระรื่น 4 ร้านเลิกจึงเดินทางไปต่อที่บ้านเพื่อนที่หน้าเครือสหพัฒน์ ต.นนทรี

3 ม.ค.64 เวลา 04.00-06.00 น. เดินทางไปบ้านเพื่อนที่หมู่บ้านเอื้ออาทร เวลา 06.00-16.00 น. นอนพักที่บ้านเพื่อนก่อนถึงร.ร.กบินทร์วิทยา เวลา 16.00-16.30 น. เพื่อนมารับไปเดินตลาดนัด บขส. กบินทร์บุรี (ใส่แมสก์ตลอดเวลา) เวลา 16.30 น. กลับบ้าน ที่ ม.12 ต.เมืองเก่า

4 ม.ค.64 อยู่บ้านที่ ม.12 ต.เมืองเก่า เวลา 14.00-15.00 น. ไปทำบุญที่วัดใหม่กรงทอง อ.ศรีมหาโพธิ ถวายสังฆทานกับพระสงฆ์ 1 รูป เวลา 15.30-17.00 น. ไปรับประทานอาหารที่ร้าน Hot Pot อ.ศรีมหาโพธิ ไปร้านวัตสัน 20 นาที แวะเข้าห้องน้ำและเดินทางกลับบ้านพัก

5 ม.ค.64 เวลา 06.00-19.00 น. ไปทำงานที่ บริษัท เดินทางกลับบ้านพัก

6 ม.ค.64 เวลา 10.00-12.00 น. รู้สึกปวดศีรษะไปคลินิกแพทย์จำลอง ที่ตลาดกบินทร์บุรี เวลา 13.00 – 16.00น. ไปบ้านเพื่อนที่บ้านเอื้ออาทร เวลา 16.00 -19.30 น. ไปเดินตลาดนัดตรงข้าม บขส. อ.กบินทร์บุรี (ใส่แมสก์ตลอดเวลา) เวลา 19.30 น. เดินทางกลับบ้านพัก

เร่งค้นหา40ผู้เสี่ยงสูง

7 ม.ค.64 เวลา 13.00-14.30 น. ออกจากบ้าน ไปทานข้าวที่ร้านเพลินพาดี ต.เมืองเก่า เวลา 15.00 น. เดินทางไปเข้ารับการรักษาที่ ร.พ.กบินทร์บุรี เก็บตัวอย่างส่งตรวจหาเชื้อ

8 ม.ค.64 ผลตรวจยืนยันติดเชื้อโควิด-19

โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 40 ราย ขณะนี้กำลังดำเนินการเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ

ด้านนพ.สมคิด ยืนประโคน ผอ.ร.พ. กบินทร์บุรี กล่าวว่า ผู้ป่วยมาพบแพทย์ มีอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ปวดศีรษะ ท้องเสีย ไอ ความดันปกติ ปอดปกติ ไม่หอบ ได้รักษาตามอาการ สภาวะทั่วไปมีปัญหาความกังวล สุขภาพจิต ได้ส่งทีมจิตเวชดูแล”

นพ.โชคชัย สาครพาณิชย์ นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อได้รับรายงาน ได้ร่วมกับฝ่ายปกครอง สสอ.ไปสอบสวน เคสนี้เกิดติดเชื้อจากการพูดคุยใกล้ชิด ไม่ได้ใช้หน้ากากอนามัย การใช้แก้วดื่มกินร่วมกัน ดูดบุหรี่ไฟฟ้าร่วมกัน สถานที่ในผับแออัด ต้องพูดตะโกนด้วยเสียงดังน้ำลายกระจายเป็นสาเหตุติดเชื้อง่าย ประชาชนต้องตระหนักเรื่องการล้างมือ การเว้นระยะห่าง การสวมหน้ากาก การไม่อยู่ที่แออัด”

จันท์ป่วยเพิ่ม 9-ยอดพุ่ง 201

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ร.พ.พระปกเกล้า จ.จันทบุรี นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข พร้อมคณะลงพื้นที่ติดตามการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ของจ.จันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ควบคุม สูงสุดและเข้มงวด พร้อมเดินทางตรวจเยี่ยมบุคลากรทางการแพทย์ที่ทำหน้าที่ดูแลรักษา ผู้ป่วยติดเชื้อที่ร.พ.สนาม ศูนย์จันท์ประชาร่วมใจ ภายในสนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข 16 บ้านจันทเขลม ต.จันทเขลม อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี หลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคยังพบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

สำหรับวันนี้ พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่อีก 9 ราย มาจากสถานที่เสี่ยงสูงและสัมผัสผู้ป่วย ทำให้จ.จันทบุรี มียอดสะสมผู้ป่วยติดเชื้อแล้ว 201 ราย

นนทบุรีเจอโควิดอีก 5

วันเดียวกัน ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จังหวัดนนทบุรี รายงานว่า จ.นนทบุรี พบผู้ป่วย ยืนยันเพิ่ม 5 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอบใหม่ 137 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 253 คน รักษาหาย 142 เสียชีวิตสะสม 2 ราย อยู่ในโรงพยาบาล 109 คน

สำหรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 5 คน สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 2 ราย เกี่ยวกับสถานบันเทิง 2 ราย และอยู่ระหว่างสอบสวนโรค 1 ราย

เชียงใหม่ติดอีก 2 โยงผับ

วันเดียวกัน นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผู้ว่าฯ เชียงใหม่ นพ.จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจ.เชียงใหม่ และดร.ทรงยศ คำชัย หัวหน้ากลุ่มงานควบคุมโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงสถานการณ์โควิด-19

ดร.ทรงยศ คำชัย กล่าวว่า พบผู้ป่วยโควิดเพิ่ม 2 ราย ได้แก่ ผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 58 ของจ.เชียงใหม่ หญิงไทย อายุ 27 ปี ภูมิลำเนา อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ เป็นพนักงานของรัฐ ประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 55, 56 ของเชียงใหม่ เริ่มมีอาการไข้ ไอเล็กน้อย จมูกไม่ได้กลิ่น เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 รับรักษาตัวห้องแยกความดันลบ ร.พ.สันทราย และชายไทย อายุ 42 ปี ภูมิลำเนา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ประกอบธุรกิจส่วนตัว มีประวัติเดินทางไปยังสถานบันเทิงที่พบการระบาด ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2563 ไม่มีอาการใดๆ เข้ารักษาที่ห้องแยกความดันลบ ร.พ.นครพิงค์ ผู้ติดเชื้อทุกรายยังคงเชื่อมโยงกับผู้ป่วยรายก่อนหน้านี้ที่มีประวัติเดินทางไปร้านวอร์มอัพในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 2563

ทางทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุข จ.เชียงใหม่ ยังได้รับข้อมูลการพบผู้ป่วย โควิด-19 ในกรุงเทพฯ ที่มีประวัติเดินทาง มาร้านวอร์มอัพในคืนเดียวกันนี้ เมื่อดูตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยพบว่ามีประวัติสัมผัสกับ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของกทม. เมื่อวันที่ 28 ธ.ค. 2563 ก่อนจะเดินทางเข้ามาในจ.เชียงใหม่ ในคืนวันที่ 31 ธ.ค.2563 สันนิษฐานได้ว่า น่าจะเป็นต้นเหตุของการระบาดครั้งนี้ ทั้งนี้ ยังคงดำเนินการค้นหาและติดตามผู้สัมผัส ในกลุ่มอื่นๆ ต่อไป

ผลการตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้สัมผัสของ ผู้ป่วยโควิด-19 ของจ.เชียงใหม่ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิง พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงทั้งสิ้น 1,010 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 285 ราย และตั้งแต่วันที่ 4-8 ม.ค. 2564 ตรวจหาเชื้อในกลุ่มผู้ที่เดินทางไปในร้านวอร์มอัพแล้ว 830 ราย รอผล 63 ราย ขอให้ผู้ที่เดินทางไปยังสถานที่ตามวัน-เวลาเดียวกับผู้ป่วยโควิด-19 ของจ.เชียงใหม่สังเกตอาการตนเองจนครบ 14 วัน หากพบอาการผิดปกติ ไข้ ไอ เจ็บคอ น้ำมูก หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ให้รีบไปพบแพทย์

‘คิง เพาเวอร์’ปิด3วัน

วันเดียวกัน กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ ประกาศ ว่า คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ พบพนักงานขายร้าน Jurlique (เจอร์ลีค) ติดเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา จึงมีความจำเป็นต้องประกาศปิด คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ ในส่วนร้านค้าและร้านอาหาร ในวันที่ 8-10 ม.ค. เป็นเวลา 3 วัน

นอกจากนี้ยังปิดร้าน Jurlique ที่ตั้งบนชั้น 2 ไม่ต่ำกว่า 3 วัน ให้พนักงานร้าน Jurlique หยุดงานและเฝ้าระวัง 14 วัน และส่งพนักงานที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยไปตรวจหาเชื้อ รวมทั้งทำความสะอาด บิ๊ก คลีนนิ่งพ่นยาฆ่าเชื้อโรคทั่วทุกจุดทั้งห้าง คิง เพาเวอร์ สาขารางน้ำ

มหาชัยเจอป่วยอีก 46

เมื่อเวลา 17.00 น. สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครรายงานว่า มีผู้ป่วยรายใหม่ 46 ราย โดยพบจากการตรวจหาเชื้อใน โรงพยาบาลทั้ง 46 ราย จำแนกเป็นคนไทย 27 ราย และ ต่างด้าว 19 ราย

สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดมี 3,188 ราย เป็นคนไทยรวม 696 ราย และคนต่างด้าว 2,492 ราย ส่วนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาใน โรงพยาบาล มีคนไทยที่อยู่ระหว่างการรักษา 176 ราย ต่างด้าว 142 ราย และมีผู้ที่ต้องเฝ้าสังเกตอาการอีก 1,672 ราย ขณะที่รักษาหายแล้วกลับบ้านได้เป็นคนไทยรวม 297 ราย และต่างด้าว 11 ราย

ปทุมฯติดเชื้ออีก 1-หญิงวัย 73

ศูนย์ปฏิบัติการโควิด-19 จ.ปทุมธานี โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานว่าพบผู้ป่วยโควิดอีก 1 ราย เป็นหญิง อายุ 73 ปี ชาว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เป็นรายที่ 36 ของการระบาดรอบใหม่ ในจ.ปทุมธานี โดยมีไทม์ไลน์ดังนี้ วันที่ 29 ธ.ค.63 เวลา 12.00 น. ลูกสาวและหลานสาวซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อยืนยันจากจ.นนทบุรีมารับไปไหว้พระที่วัดป้อมรามัน จ.พระนครศรีอยุธยา เวลา 16.00-18.00 น. แวะซื้อส้มตำหน้าหมู่บ้านภัทรรารมย์ 2 และนั่งทานอาหารร่วมกับ ลูกสาวและหลานสาว

วันที่ 30 ธ.ค.63 เวลา 08.30-09.00 น. ไปเดินซื้อของที่ตลาดวัดบัวแก้วเกษร เวลา 09.05-09.30 น. ไปกินข้าวหน้าหมู่บ้าน ภัทรรารมย์ 2 วันที่ 31 ธ.ค.63 อยู่บ้าน

วันที่ 1 ม.ค.64 เวลา 07.30-08.30 น. ไปเดินซื้อของที่ตลาดวัดบัวแก้วเกษร วันที่ 2 ม.ค.64 เวลา 08.00-09.00 น. ไปเดินซื้อของที่ตลาดวัดบัวแก้วเกษร เวลา 13.30-18.00 น. มีลูกชาย 2 คนมาหา พร้อมครอบครัว 10 คน และร่วมรับประทานอาหารกัน

วันที่ 3 ม.ค.64 เวลา 16.30-17.20 น. ไปเดินซื้อของที่ตลาดนัดฉัตรไพลิน วันที่ 4 ม.ค.64 อยู่บ้าน วันที่ 5 ม.ค.64 เวลา 09.00 น. ไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาล หลังทราบว่าลูกสาวและหลานสาวติดโควิด และวันที่ 6 ม.ค.64 ทราบผลติดเชื้อโควิด และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล

อ่างทองติดเชื้ออีก 2

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯอ่างทอง โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด19 เพิ่มขึ้น 2 ราย สะสมรวมอยู่ที่ 76 ราย มีผู้รักษา หายกลับบ้านแล้ว 1 ราย จากกราฟจะแสดงให้เห็นว่าการตรวจเชิงรุกของจ.อ่างทองสามารถ ควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อได้ดี หากไม่มีปัจจัยอื่นเข้ามาเชื่อว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์นี้เราอาจได้เห็นยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 0 และหาก ผู้ใดรู้ว่าตนเองไปสนามชนไก่ สนามซ้อม ซุ้มไก่ชนในจ.อ่างทอง ขอให้มาตรวจคัดกรอง

พบคนติดโควิดลามที่ทำงาน

นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อ ทั่วไป ปฏิบัติหน้าที่รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ขณะนี้พบการติดเชื้อของพนักงาน ในสถานประกอบการ เช่นกรณีโรงงานเขตบางขุนเทียน กทม.ที่มีแรงงานพม่าไปงานแต่งงาน จ.สมุทรสาคร วันที่ 13 ธ.ค. จากนั้นเริ่มป่วยวันที่ 17 ธ.ค. แล้วนำมาติดเพื่อน ร่วมงานทั้งต่างด้าวและคนไทยในที่ทำงาน ส่วนใหญ่เป็นชาวพม่าอายุเฉลี่ย 20-30 ปี โดยโรงงานถูกสั่งปิดตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. หรือกรณีสถานบันเทิงย่านปิ่นเกล้า กทม. ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 121 ราย ลูกค้าที่ติดเชื้อ ก็นำไปแพร่เชื้อต่อในสถานที่ทำงานและคนในครอบครัว และกรณีมีคนติดเชื้อจากกรณีตลาดสมุทรสาคร นำเชื้อไปแพร่คนทำงาน ธนาคารในกทม. และแพร่ต่อไปยังพนักงานธนาคารหญิงอายุ 24 ปี และมีการสังสรรค์ ในช่วงวันที่ 25 ธ.ค. ทำให้เกิดการแพร่เชื้อต่อ กิจกรรมปาร์ตี้จึงต้องระมัดระวัง เพราะเป็นกิจกรรมที่มีความเสี่ยง เป็นต้น

“ความปลอดภัยในสถานที่ทำงานจึงเป็นที่สำคัญมากในระยะนี้ ไม่ว่าสถานที่ใดก็ตาม เพราะเราเริ่มพบการติดเชื้อในสถานประกอบการ บริษัทห้างร้าน หรือสถานที่ทำงานที่มีพนักงานหลายคน หากมีคนใดคนหนึ่งติดเชื้อแล้วไม่มีการป้องกันก็จะมีการแพร่เชื้อได้ จึงแนะนำว่าทุกสถานประกอบการ รวมทั้งสถานที่ราชการต้องเข้มเรื่องการตรวจคัดกรอง อาการ สังเกตอาการเจ็บป่วยของพนักงาน หากพบใครเจ็บป่วย ต้องรีบแยกออกจากคนไม่ป่วย ส่วนมาตรการที่ทำอยู่ ทั้งสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างยังต้องทำ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีการกินอาหารร่วมกันเพราะไม่ใส่หน้ากาก ลดกิจกรรมที่เสี่ยงติดเชื้อ และขอให้เร่งรัดนโยบายการทำงาน ที่บ้าน” นพ.โสภณกล่าว

นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีสนามชนไก่ จ.อ่างทอง มีผู้ติดเชื้อสะสม 101 ราย พบผู้ติดเชื้อ ใน 8 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง 70 ราย พระนคร ศรีอยุธยา 13 ราย สิงห์บุรี 6 ราย ลพบุรี 5 ราย สุพรรณบุรี 3 ราย ขอนแก่น 2 ราย สระบุรี 1 ราย และนนทบุรี 1 ราย ดังนั้น ผู้ที่มีกิจกรรมในช่วงปลาย ธ.ค.-ม.ค. โดยไปสนามชนไก่ในพื้นที่ภาคกลางไม่ว่าจะเป็นแห่งใดก็ตาม ถือว่ามีความเสี่ยง เพราะผู้ไปสนามชนไก่มักมีพฤติกรรมไปหลายแห่งเช่นเดียวกับสถานบันเทิง อย่างล่าสุดที่ จ.สุพรรณบุรี เป็นชายอายุ 27 ปี มีประวัติไปสนามชนไก่ จ.พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี และลพบุรี เข้ารับการตรวจคัดกรองที่ร.พ.เจ้าพระยายมราช จึงพบเชื้อและนำเข้าสู่การรักษา ทำให้เห็นว่าแม้จะไม่ได้ไปที่จ.อ่างทอง แต่ก็ไปสนามชนไก่แห่งอื่นและติดเชื้อเกิดขึ้น

เปิดลงทะเบียน‘วัคซีน’ปลายม.ค.

ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กำลังจะมีการฉีดวัคซีนโควิด หลังพิจารณาอย่างเหมาะสมแล้วว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพ และความปลอดภัย โดยหลังการฉีดจะติดตามและเฝ้าระวังผลข้างเคียงด้วย เป้าหมายในการฉีดเพื่อให้คนไทยมีภูมิต้านทานโรค จะตัดการแพร่ระบาดได้ กำหนดฉีดวัคซีน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะแรก 2 ล้านโดส ก.พ.-เม.ย. จำนวน 1.32 ล้านคน ในพื้นที่เสี่ยงสูง 5 จังหวัด

ระยะที่ 2 จำนวน 26 ล้านโดส ฉีดช่วง พ.ค.-มิ.ย. กลุ่มเสี่ยงทั่วประเทศ

ระยะที่ 3 ปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ฉีดประชาชนทั่วไปให้ครอบคลุมมากที่สุด โดยกระจายไปอย่างทั่วถึงทั้งประเทศ

ทั้งนี้ จะเริ่มเปิดลงทะเบียนตรวจสอบ กลุ่มเสี่ยงที่จะฉีดวัคซีนปลายเดือนม.ค.นี้ กับต้นเดือนก.พ. และจะทำความเข้าใจซักซ้อม การฉีดวัคซีน เช่น การขนส่ง การเก็บรักษา และการเฝ้าระวังที่ไม่พึงประสงค์