มหาชัยพบอีก35
สธ.ชี้เริ่มทรงตัว

ป่วยโควิดใหม่โผล่อีก กทม. 32 สมุทรสาคร 35 ปทุมฯ 5 นนท์ 1 ขณะที่ระยองเจอ 9 ศบค.แถลงพบเพิ่ม 287 ราย ติดเชื้อในประเทศ 278 ราย คัดกรองเชิงรุก 125 ราย สธ.ชี้การระบาดเริ่มทรงตัว อย.ยันวัคซีนโควิด ต้องขึ้นทะเบียนกับอย.ไทย เพื่อตรวจสอบคุณภาพ โดยมี 2 บริษัทขึ้นทะเบียนแล้ว

ร.พ.สนาม – จังหวัดอุบลราชธานีจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ขนาด 1,000 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ศูนย์การเรียนรู้บ้านยางน้อย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 12 ม.ค.

ไทยติดโควิดเพิ่ม 287 ราย

วันที่ 12 ม.ค. นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์ประจำวันจากบริเวณหน้า ร.พ.สนาม จ.อุบลราชธานี ว่า สถานการณ์โลก 91.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.78 แสนราย เสียชีวิตสะสม 1.95 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.2 พันราย โดยสหรัฐอเมริกา อินเดีย บราซิล รัสเซีย และสหราชอาณาจักร ยังเป็น 5 อันดับแรก ส่วนประเทศไทยอยู่อันดับ 128 ของโลก มีผู้ติดเชื้อใหม่ 287 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 278 ราย (เฝ้าระวัง 153 ราย และคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 125 ราย) และมาจากต่างประเทศ 9 ราย ไม่มีเสียชีวิตเพิ่ม คงที่ 67 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสม 10,834 ราย มีอาการหนัก 28 ราย สถานการณ์รายสัปดาห์กราฟจำนวนผู้ป่วยยังชันขึ้นสูง ขอแรงทุกคนช่วยกันดึงลงมาให้กราฟเป็นแนวราบ ทุกคนต้องช่วยกัน 100%

สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 1. มีประวัติไปสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้า 139 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 51 ราย, กทม. 32 ราย, สมุทรปราการ 10 ราย, ชลบุรี และอ่างทอง จังหวัดละ 8 ราย, ระยอง 7 ราย, ลพบุรี 6 ราย, ปทุมธานี 5 ราย, พระนครศรีอยุธยา 3 ราย, สิงห์บุรี เชียงใหม่ และฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 2 ราย, สุพรรณบุรี ขอนแก่น และร้อยเอ็ด จังหวัดละ 1 ราย และ 2.อยู่ระหว่างสอบสวนโรค 14 ราย ได้แก่ ระยอง 2 ราย, กทม. 1 ราย, ชลบุรี 9 ราย และสมุทรปราการ 2 ราย

3.คัดกรองเชิงรุกในชุมชนที่สมุทรสาคร 125 ราย (ต่างด้าว 121 ราย คนไทย 4 ราย) และ 4.เดินทางมาจากต่างประเทศ 9 ราย ได้แก่ จีน 1 ราย ญี่ปุ่น 1 ราย สหรัฐอเมริกา 2 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 1 ราย สหราชอาณาจักร 2 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และอินเดีย 1 ราย ทั้งหมดเข้ารับการกักกัน

ขบวนสุดท้าย – เจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองเข้มผู้โดยสารรถไฟขบวนรถด่วนที่ 83 กรุงเทพ-ตรัง เข้าสถานีตรังเป็น เที่ยวสุดท้าย ก่อนหยุดเดินรถไปจนถึงวันที่ 28 ก.พ.นี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อวันที่ 12 ม.ค.

ระบาดรอบใหม่อยู่ใน 59 จว.

นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า การระบาดระลอกใหม่มีทั้งหมด 59 จังหวัด โดยพื้นที่สีแดงมี ผู้ป่วยมากกว่า 50 ราย มี 10 จังหวัดได้แก่ สมุทรสาคร ชลบุรี ระยอง กทม. สมุทรปราการ จันทบุรี นนทบุรี นครปฐม อ่างทอง และปทุมธานี โดยขอตั้งข้อสังเกตว่าจะเข้าจังหวัดอื่นๆ อาจถูกเพ่งเล็งขอบัตรขอตรวจขอเหตุผลในการเข้าจังหวัดอื่นๆ ตนมาจากนนทบุรี ตนถามพื้นที่ว่าเข้าได้หรือไม่ ก็บอกว่าเข้าได้ ถ้ามาจากบางบัวทอง บางใหญ่ถึงไม่ให้เข้า เนื่องจากมีการติดเชื้อสูงและต้องกักตัว 14 วัน ตนมาจาก อ.เมืองนนทบุรี บ้านอยู่ปากเกร็ดจึงเข้าพื้นที่ได้ ขอให้รับกติกาของแต่ละจังหวัดที่มีออกมา พื้นที่สีส้มมีผู้ป่วยสะสม 11-50 ราย มี 12 จังหวัด พื้นที่สีเหลือง มีผู้ป่วยสะสม 1-10 ราย มี 37 จังหวัด และ สีขาว ไม่มีผู้ป่วยมาก่อน 18 จังหวัด จังหวัดที่เพิ่งพบผู้ป่วย คือ ร้อยเอ็ด เป็นหญิงไทยอายุ 48 ปี เป็นพนักงานทั่วไปในร้านคาราโอเกะ อ.ศรีราชา และป่วยเข้ารับการตรวจวันที่ 9 ม.ค. ผลออกมาวันที่ 10 ม.ค. โดยกระทรวงสาธารณสุขจะรายงานต่อไป

สธ.ชี้การระบาดเริ่มทรงตัว

ขณะที่ นพ.ทวีทรัพย์ ศิรประภาศิริ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศไทย ว่า แนวโน้มการติดเชื้อระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 2563 มีแนวโน้มสูงขึ้นชัดเจน แต่สัปดาห์นี้เริ่มมีแนวโน้มชะลอตัวลง โดยเหตุการณ์ที่ทำให้ติดเชื้อจำนวนมาก คือ สมุทรสาคร กทม. สมุทรปราการ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี นนทบุรี อ่างทอง และเชียงใหม่ ส่วนจังหวัดอื่นๆ เป็นการติดเชื้อแบบกระจัดกระจายไม่มีการแพร่ระบาดวงกว้าง ทั้งนี้จ.สมุทรสาคร ปัจจุบันจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่ลดลง ในพื้นที่กำลังดำเนินค้นหาเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง จ.นนทบุรี ระบาดจากตลาดสดที่มีแรงงานต่างด้าวทำงาน อาศัยในพื้นที่ และขายสินค้า และแพร่ระบาดในสถานบันเทิง วันนี้ไม่มีผู้ป่วยรายใหม่ แต่ยังค้นหาผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ส่วนระยองและจันทบุรี แนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มคงตัวและลดลง แต่ชลบุรียังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพราะเกี่ยวเนื่องบ่อนพนัน และติดเชื้อต่อเนื่องในอ.ศรีราชา จะค้นหาเชิงรุกกว้างขวางยิ่งขึ้น โดยอีกระยะจะพบผู้ติดเชื้อน้อยลง

นพ.ทวีทรัพย์กล่าวต่อว่า ภาพรวมการระบาดระลอกใหม่เริ่มคงตัวไม่เพิ่มขึ้นแล้ว เนื่องจากค้นหาและควบคุมจุดแพร่ระบาดสำคัญ รวมถึงตรวจติดตามผู้สัมผัสและ ผู้เข้าไปในพื้นที่เสี่ยง

ตรวจบ่อนซ้ำ – ตำรวจภาค 2 เข้าตรวจสอบอาคารชั้นเดียว ด้านหลัง บขส.เก่า อ.เมือง จ.ระยอง หลังแอบอ้างเป็นบ่อนพนันแพร่เชื้อโควิดรอบใหม่ พบมีประตูลับสามารถเปิดทะลุไปอีกฝั่งที่เป็นร้านขายข้าวแกงที่อยู่หลังอาคารดังกล่าวได้ด้วย เมื่อ 12 ม.ค.

กทม.ป่วยใหม่ 32-ระยอง 9

ศบค. รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กทม. พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 32 ราย เป็นการติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อทั้งหมด ประกอบด้วยเพศชาย 12 ราย อายุ 3 เดือน, 21, 22, 26, 30, 35, 41, 45, 48, 58 และ 63 ปี เพศหญิง 20 ราย อายุ 6,7, 15, 20, 22, 23, 24, 28, 31, 35, 41, 46, 48, 57, 61, 65 และ 71 ปี สัญชาติไทยทั้งหมด มีอาการป่วย 21 ราย ไม่มีอาการ 11 ราย รักษาตัวที่โรงพยาบาลราชพิพัฒน์ 1 ราย, โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ 3 ราย, โรงพยาบาลรามาธิบดี 1 ราย, โรงพยาบาลศิริราช 1 ราย และโรงพยาบาลเอกชนใน กทม. 25 ราย และมีอีก 1 รายที่ติดเชื้อแต่อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ทำให้วันที่ 12 ม.ค.64 กทม.มีผู้ติดเชื้อสะสมรวม (15 ธ.ค.63 – 12 ม.ค.64) รวมแล้ว 488 คน เป็นอันดับที่ 4 รองจากจ.สมุทรสาคร ชลบุรี และระยอง

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผวจ.ระยอง พร้อมด้วย นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สสจ. ระยอง ร่วมแถลงความคืบหน้า สถานการณ์โควิด -19 ประจำวันของ จ.ระยอง ว่า วันนี้ยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 9 ราย รวมทั้งหมด 529 คน ที่มายังเชื่อมโยงอยู่กับบ่อนการพนัน สำหรับผู้ที่เข้าไปเที่ยว โรงเบียร์ ทั้งสองแห่งในจ.ชลบุรี ขอความร่วมมือให้รีบมาตรวจหาเชื้อโดยเร็ว สำหรับการลักลอบเล่นการพนันยังพบอยู่ สามารถจับกุมได้หลายราย ขอร้องให้หยุดเถิด เพราะผิดทั้งกฎหมาย และยังเป็นการแพร่เชื้อด้วย สำหรับผู้ได้รับความเดือดร้อน ให้รวมตัวกันตามสาขาอาชีพไปที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อส่งเรื่องต่อมาที่จ.ระยอง

ปลดล็อก – เจ้าหน้าที่รื้อลวดหนามตลาดบางใหญ่ จ.นนทบุรี ซึ่งถูกสั่งปิดเนื่องจากเป็นจุดแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่ ต่อมาผู้ว่าฯนนทบุรีสั่งปลดล็อกคืนพื้นที่ให้ประชาชนหลังจากสถานการณ์ ดีขึ้น เมื่อวันที่ 12 ม.ค.

สมุทรสาครติดโควิดอีก 35

ขณะที่สสจ. สมุทรสาคร รายงานเมื่อเวลา 17.00 น.ของวันเดียวกันนี้ว่า พบผู้ป่วยรายใหม่ 35 ราย พบจากการตรวจค้นหาเชิงรุกรวม 10 ราย เป็นคนไทย 4 ราย และต่างด้าว 6 ราย และพบจากการตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลอีก 25 ราย เป็นคนไทย 24 ราย และต่างด้าว 1 ราย สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดมี 3,552 ราย เป็นคนไทยทั้งจากการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลและการค้นหาเชิงรุกรวม 796 ราย และคนต่างด้าวทั้งจากการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลและการค้นหาเชิงรุกรวม 2,756 ราย

ศูนย์ปฏิบัติการโควิด จ.นนทบุรี รายงานว่า พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 1 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมรอบใหม่ 146 คน ผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมด 262 คน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ตลาดบางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเสาธงหินรื้อรั้วลวดหนาม หลังจากผู้ว่าฯนนทบุรี สั่งปลดล็อก คืนพื้นที่สัญจรให้กับพี่น้องประชาชนได้เข้าออกตลาดบางใหญ่ ได้ตามปกติ

ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสสจ.ปทุมธานี รายงานสถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 5 ราย เป็นรายที่ 89-93 หรือรายที่ 46-50 ของการระบาดรอบใหม่ เป็น เพศชาย อายุ 32 ปี อ.ธัญบุรี ทำงานกับเพื่อนร่วมงานอีก 2 คนร้านขายของในตลาด, เพศชาย อายุ 26 ปี และเพศหญิง อายุ 32 ปี อ.ลำลูกกา, เพศหญิง อายุ 21 ปี อ.คลองหลวง และเพศหญิง อายุ 28 ปี อ.คลองหลวง ทำงานที่ร้านขายขนมปัง

โคราช-หนองคายพบป่วยอีก

ที่จ.นครราชสีมา นพ.นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา กล่าวว่า ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่ 1 ราย รวมยอดสะสม 10 ราย โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นหญิงอายุ 37 ปี อาชีพแม่บ้าน มีประวัติเดินทางมาจากจ.ระยอง โดยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค. เดินทางจากอ.ปากช่อง ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เพียงคนเดียวเพื่อไปหาแฟนที่พักอาศัยอยู่ห้องแถวในต.ทับมา อ.เมือง จ.ระยอง และ เดินทางกลับอ.ปากช่อง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. ต่อมาวันที่ 29 ธ.ค. อสม.มาวัดไข้ที่บ้าน และแจ้งให้กักตัว จนวันที่ 7 ม.ค.เริ่มมีอาการ ปวดศีรษะ ลิ้นไม่รับรส จมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น อสม.แจ้งอาการผู้ป่วยไปที่ร.พ.ปากช่องนานา เจ้าหน้าที่ร.พ.รับผู้ป่วยเข้าพักรักษาให้การรักษาและเก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ วันที่ 10 ม.ค. ผลตรวจผลยืนยันพบเชื้อ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สอบสวนโรคและค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 20 ราย ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 16 ราย และระดมค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยง พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจให้ความรู้ในการดูแลตนเอง

ที่จ.หนองคาย นายประเสริฐ ลือชาธนานนท์ ผวจ.หนองคาย และนพ.ชัชวาล ฤทธิ์ฐิติ สสจ.หนองคาย แถลงพบผู้ป่วยเพิ่มเติมเป็นรายที่สองของจังหวัด โดยผู้ป่วยรายใหม่เป็นหญิง อายุ 40 ปี ชาวบ้านดงนาเทา ต.สระใคร อ.สระใคร ติดเชื้อจากสามีที่เดินทางกลับจากจ.ชลบุรี เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา โดยสามีกลับมาวันที่ 30 ธ.ค.63 และเริ่มมีอาการไข้ในวันที่ 3 ม.ค.64 ต่อมาวันที่ 5 ม.ค.กลับไปทำงานที่จ.ชลบุรี แต่มีไข้ 37 องศา ที่ทำงานให้ไปตรวจร่างกาย ที่ร.พ.แหลมฉบัง และวันที่ 10 ม.ค. ได้รับแจ้งผลตรวจพบเชื้อโควิด-19 ขณะนี้รับการรักษาที่ ร.พ.สมเด็จศรีราชา ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดหนองคายได้ทำงานเชิงรุก ได้ตรวจ ผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งหมด 22 คน ผลตรวจ 21 คน เป็นลบ มีภรรยาของผู้ป่วยเท่านั้นที่ผลตรวจเป็นบวก ขณะนี้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลหนองคายแล้ว และได้นำบุตรชาย 2 คน เข้ากักตัวยังสถานที่กักตัวที่จังหวัดเตรียมไว้ ส่วนสมาชิกในครอบครัวให้กักตัวที่บ้าน ทั้งนี้หญิงที่ป่วยรายนี้ตั้งแต่สามีกลับไปจ.ชลบรี ก็อยู่บ้านไม่ได้เดินทางไปไหน มีเพียงวันที่ 7 ม.ค. และ 8 ม.ค. ไปซื้อของที่ร้านค้าในหมู่บ้านประมาณ 10 นาที และสวมหน้ากากตลอดเวลาที่ออกนอกบ้าน

เชียงใหม่ล่าเพิ่มผับโควิด

ที่จ.เชียงใหม่ สสจ.เชียงใหม่ รายงานสถานการณ์โควิด-19ว่า วันนี้พบผู้ป่วยติด เชื้อรายใหม่ 2 ราย เป็นรายที่ 68 และ 69 ของจังหวัด ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมในการระบาดระลอกใหม่ รวม 23 คน โดยระหว่างที่กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ขณะที่ในส่วนของพนักงานร้านวอร์มอัพ คาเฟ่ 17 คน และครอบครัว อีก 2 คน ซึ่งเป็นผู้สัมผัส เสี่ยงสูงและเข้ารับการกักตัวอยู่ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนจังหวัดเชียงใหม่นั้น ได้รับการตรวจหาเชื้อเป็นรอบที่ 2 แล้ว โดยผลเป็นลบทั้งหมด และต้องกักตัวอยู่จนครบ 14 วัน

นายวีระพันธ์ ดีอ่อน รองผวจ.เชียงใหม่ กล่าวว่า นอกจากดำเนินคดีกับร้านวอร์มอัพ คาเฟ่แล้ว ขณะนี้ทางจังหวัดกำลังเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐานว่าในคืนวันที่ 31 ธ.ค. 63 นั้น มีสถานประกอบการคล้ายสถานบริการหรือสถานบริการแห่งใดอีกหรือไม่ ที่กระทำความผิดฝ่าฝืนกฎหมาย ทั้งกฎหมายสถานบริการ และคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2558 ซึ่งเบื้องต้นจากข้อมูลหลักฐานที่ได้จากการสอบสวนโรคผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 พบว่ามีอีกหลายแห่งและที่ใดบ้างที่น่าจะกระทำความผิด โดยทางเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบให้ข้อเท็จจริงปรากฏชัดเจนทั้งพยานหลักฐาน จากนั้นจะเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งยืนยันว่าหากพบความผิดจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแน่นอน

นายวีระพันธ์กล่าวด้วยว่า วันนี้จ.เชียงใหม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย นับเป็นรายที่ 68 และ 69 ของจังหวัด ซึ่งทั้ง 2 รายนี้เป็น ผู้สัมผัสร่วมบ้านกับผู้ป่วยรายที่ 65 ที่เป็นนักศึกษาผู้หญิงอายุ 18 ปี เบื้องต้นจากการสอบสวนโรคผู้ป่วยยังคงให้ข้อมูลที่สับสนและไม่ชัดเจน จึงไม่สามารถสรุปไทม์ไลน์ได้ เตรียมประสานตำรวจร่วมสอบ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ทั้งนี้ตามรายงานข่าวแจ้งว่าในกิจกรรมร่วมกันของครอบครัวผู้ป่วยทั้ง 3 รายนี้เป็นการเลี้ยงสังสรรค์ร่วมกันของ เครือญาติในคืนวันที่ 31 ธ.ค.63 โดยมีผู้ที่ เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเข้าร่วมด้วย และได้มีการติดตามตัวเพื่อให้เข้ารับการตรวจแล้วอย่างน้อย 5-6 คน และเบื้องต้นพบว่าผลการตรวจเชื้อเป็นลบ

2 วัคซีนขึ้นทะเบียนอย.ไทย

วันเดียวกัน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด 19 ว่า วัคซีน โควิด 19 ที่ผ่านการขึ้นทะเบียน อย.ของต่างประเทศแล้ว ก็ยังต้องมาขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทยอีกครั้ง เพื่อให้ทราบว่าผู้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนโควิด-19 คือใคร ติดตามตรวจสอบได้หากวัคซีนมีปัญหาเชิงคุณภาพหรือความปลอดภัย ผู้รับอนุญาตนำเข้าต้องรับผิดชอบต่อวัคซีนของตน เนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงหลังการฉีดได้ ดังนั้นในการขึ้นทะเบียนผู้รับอนุญาตต้องนำเสนอข้อมูลความปลอดภัย แผนการใช้ และการแก้ปัญหาเมื่อเกิดผลข้างเคียงขึ้น โดยมีเอกสารชี้แจงรายละเอียดมายืนยันพร้อมการขึ้นทะเบียนกับ อย. ซึ่ง อย. จะประเมินความปลอดภัย คุณภาพ และประสิทธิผล โดยผู้เชี่ยวชาญจะคำนึงถึงความเหมาะสมกับคนไทย ตลอดจนแผนการจัดการความเสี่ยงของวัคซีน ส่วนเรื่องราคาวัคซีน อย. ไม่ได้เป็นผู้กำหนด

นพ.ไพศาลกล่าวต่อว่า ปัจจุบันมี 2 บริษัทมายื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 กับ อย. ได้แก่ แอสตราเซนเนกา อยู่ระหว่างพิจารณาประเมินข้อมูล คาดว่าจะอนุมัติทะเบียนได้เร็วๆ นี้ และซิโนแวค ไบโอเทค ซึ่งมีองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เป็นผู้รับอนุญาตในการขึ้นทะเบียน ส่วนวัคซีนอื่นๆ ที่ผ่าน อย.ต่างประเทศแล้ว ยังไม่ได้มายื่นขอขึ้นทะเบียนกับ อย.ไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน