พิษแรง-ผสมหลายสาร
แฉเสพข้ามวันข้ามคืน
จนช็อก‘ตาย-โคม่า’อื้อ

แฉนัดกันเสพ ‘เคนมผง’ ข้ามวันข้ามคืน 24 ช.ม.ต้นเหตุช็อกตายกันเกลื่อน เผยมีอีกสูตร ‘ทะเลทราย’ เพราะมีสีออกน้ำตาล ตร.ส่งฝากขัง 4 ผู้ต้องหาคดีสาวพีอาร์เสพดับที่ย่านพระราม 3 จ่อจับเพิ่มอีก 2 ตร.เร่งสางคดีที่โชคชัย ที่ปาร์ตี้ยาดับสยอง 2 สาหัสอีก 2 ผงะในมือถือคนตายยังมีคลิปข่าวยาสูตรมรณะ แต่ไม่กลัวตั้งวงถุนจนตายอนาถ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 14 ม.ค. พล.ต.ต. พีระพงศ์ วงษ์สมาน รองผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4 ร่วมประชุมที่สน.โชคชัย ติดตามความคืบหน้าคดีมีผู้เสพยาเสพติดเสียชีวิต 2 ศพ และบาดเจ็บสาหัสอีก 1 ราย ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยลาดพร้าววังหิน ซอย 7 แยก 5 แขวงสะพานสอง เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา

พล.ต.ต.พีระพงศ์เผยว่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้ที่แบ่งชุดทำงาน ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบของกลางเป็นถุงซิปยาที่ใช้ไปแล้ว อยู่ในถังขยะ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับยาเคนมผงที่กำลังระบาดในขณะนี้ แต่ยังไม่ได้เชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นที่มีข่าวก่อนหน้านี้ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบหาความเชื่อมโยง ส่วนกลุ่มที่เสพยามีทั้งหมด 5 คน ซึ่งน.ส.ดรีม (นามสมมติ) 1 ใน 5 คนที่อยู่ในกลุ่มเรียกมา สอบปากคำแล้ว พบว่าให้การรู้เรื่องและให้การเป็นประโยชน์ ไม่มีอาการมึนเมา พร้อมให้ข้อมูลว่าไม่ได้เป็นคนที่เสพยาเพียงคนเดียวในกลุ่ม แต่เป็นคนนำเบียร์เข้ามาร่วมวงปาร์ตี้เท่านั้น

สลดรับศพ – แม่และพี่สาวพาหลานมารับศพน.ส.ปรีดาภรณ์ โพธิ์แก้ว อายุ 30 ปี ซึ่งช็อกเสียชีวิตจากเสพ ‘เคนมผง’ ที่สถาบันนิติเวชฯ ร.พ.ตำรวจ โดยน.ส.ปรีดาภรณ์เป็น 1 ใน 2 ผู้เสียชีวิตคาห้องพักในซอยลาดพร้าว-วังหิน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.

นอกจากนี้จากการสอบสวน พบว่าในกลุ่มที่ปาร์ตี้ คือนายพารวย หรือ ไอซ์ ฉวีวรรณ อายุ 27 ปี ผู้เสียชีวิต, น.ส.ปรีดาภรณ์ หรือ กุ้ง โพธิ์แก้ว อายุ 30 ปี ผู้เสียชีวิต, น.ส.สุวรรณี หรือ ฝ้าย อินไทร อายุ 27 ปี อาการสาหัส และนายเต๋า (ยังไม่ทราบชื่อจริง-นามสกุล) แต่ยังไม่ทราบว่าใครเป็นผู้นำยาเสพติดมาร่วมวงปาร์ตี้ แต่ในทางสืบสวนไปได้มากพอสมควรแล้ว ส่วนแหล่งที่มาของยาเบื้องต้นพบเบาะแสอยู่ในพื้นที่โชคชัย ขณะที่อาการของ น.ส.สุวรรณีที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอาการยังสาหัสอยู่

“จากการสอบถามข้อมูลจากหมอที่รักษา ระบุว่า ไม่ว่าจะเป็นการเสพเคเพียงตัวเดียว หรือส่วนผสมอื่นๆ ด้วย แต่เป็นการโอเวอร์โดส ก็ถึงตายได้ จากหลักฐานในที่เกิดเหตุอีกอย่างหนึ่ง สิ่งที่น่าตกใจ คือพบข่าวและคลิปเกี่ยวกับยาเคนมผงในโทรศัพท์ของ 1 ผู้เสียชีวิตที่ส่งหากัน ไม่คิดว่าแม้จะมีการดูข่าวมาแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังมีการเสพกันถึงตาย” รองผบช.น. กล่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สอบสวนจากกลุ่มวัยรุ่นที่เข้าร่วมปาร์ตี้และรอดชีวิต ทราบว่า นายพารวยและน.ส.สุวรรณีเป็นเจ้าของห้อง ส่วนเพื่อนที่เหลือตามมาปาร์ตี้ในห้อง คือน.ส.ปรีดาภรณ์ นายเต๋า และน.ส.ดรีม หลังจากเริมเสพยานายเต๋ามีอาการไม่ดีจึงออกจากห้องที่เกิดเหตุกลับไปบ้านให้แม่พาส่งโรงพยาบาล ซึ่งขณะนั้นอาการสาหัสแพทย์ต้องนำเข้าห้องไอซียู แต่ล่าสุดอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ขณะที่คนอื่นยังเสพกันต่อจนมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นที่บ้านพักของนายเต๋าเพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมว่าเกี่ยวข้องกับเครือข่ายยาเสพติดหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจเลือด และสารยาเสพติด

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. เปิดเผยถึงการระบาดของเค นมผงทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายในขณะนี้ในหลายพื้นที่ว่า พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้รับรายงานจากฝ่ายสืบสวนที่ลงพื้นที่ทำงานตลอด โดยมีพื้นที่หลักๆ 2 ส่วน ส่วนแรกคือส่วนกลางเมืองพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร และทุ่งมหาเมฆ อีกส่วนคือย่านชานเมือง บก.น.2 และ บก.น.3 และจ.นนทบุรี 2 ส่วนนี้เป็นพื้นที่เพ่งเล็งพิเศษ อย่างไรก็ตามพื้นที่ทั่วประเทศ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ บช.ปส. บช.น. และบช.ภาค 1-9 เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดรายใหญ่ให้ได้ “อย่างที่เห็น 2-3 วัน หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ค้าถึงแม้จะเป็นรายย่อย ผู้ค้าคนกลางก็ตาม ทางเราก็ได้ขยายผลไปหาผู้ค้ารายใหญ่ ทั้งนี้อยากเตือนไปยังผู้ค้า-ผู้เสพมันผิดกฎหมาย ผู้เสพต้องระมัดระวังอย่ามองว่าเป็นยาเสพติดชนิดใหม่ราคาถูกแล้วอยากลอง บทเรียนที่เห็นเสียชีวิตซึ่งหน้า 10 กว่าคนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงต้องเร่งดำเนินการให้สังคมรับรู้ถึงโทษภัยของการเสพและการถูกดำเนินการตามกฎหมาย” โฆษก ตร.กล่าว

ส่วนกรณีกระแสข่าวว่า เคนมผงยังมีชื่อเรียกอีกแบบว่า สูตรทะเลทราย เนื่องจากมีสีออกน้ำตาล พล.ต.ต.ยิ่งยศ กล่าวว่า ไม่ว่าจะสูตรไหน จะมียาเคเป็นสารตั้งต้น ก่อนจะนำยาเค ไปผสมทั้งไอซ์ ทั้งยาอีแล้วแต่จะคิดกันที่จะทำลายล้างกันขึ้นมา ซึ่งจะเห็นกันชัดๆ ว่า ผลของการผสมสารเสพติดผู้ที่เสพไปแล้วเกิดผลต่อร่างกายอย่างรวดเร็ว

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร นำตัว นายวิรัฐ หรือป่อง กาเผือก อายุ 26 ปี นายวัชระ หรือโบ้ เชียงฉิน อายุ 22 ปี นายนพเก้า หรือตูมตาม อบถม อายุ 26 ปี นายชาตรี หรือโจ ศรีสมบัติ อายุ 18 ปี 4 เดือน ผู้ต้องหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน, เฮโรอีน และ3,4 -เมทิลลีนไดออกซี่เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย และจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อขายและขายโดยผิดกฎหมาย ไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้

พฤติการณ์คำร้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งว่ามีเหตุผู้เสียชีวิตที่บ้านแห่งหนึ่งในซอยจันทน์ 31 แขวงทุ่งวัดตอน เขตสาทร กรุงเทพฯ ไปตรวจสอบพบศพ น.ส.สุทธิณี หรือมายด์ เมตตาจิตต์ อายุ 24 ปี อาชีพเป็น พีอาร์ร้านเหล้าย่านพระราม 3 และมีผู้ที่ได้รับอันตรายอีกคนหนึ่งคือ น.ส.จันทมาศ หรือพลอย เมืองวัฒนะ อายุ 24 ปี เพื่อนร่วมงานของผู้เสียชีวิต ในสถานที่เกิดเหตุบริเวณห้องนอนในบ้านที่เกิดเหตุมีวัตถุผงสีขาวบรรจุอยู่ในธนบัตรที่พับไว้ 1 ใบ, ถุงพลาสติกใสภายในมีคราบผงสีขาวติดอยู่ 2 ถุง หลอดพลาสติก 2 อัน, วัตถุสามเหลี่ยมแบนสีเหลือง 1 เม็ด บรรจุในถุงพลาสติกใสจึงทำการตรวจยึดเป็นของกลางและส่งไปตรวจสอบปรากฏว่าเป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และเป็นยาเสพติดให้ โทษประเภท 1 ดังนั้นจึงมีเหตุน่าเชื่อว่าที่ น.ส.สุทธิณีเสียชีวิตน่าจะมาจากเหตุที่มีการ เสพยาเสพติดหรือวัตถุออกฤทธิ์

เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลต่อจนกระทั่งทราบว่ายาเสพติดและวัตถุออกฤทธิ์ดังกล่าวนั้น นายวิรัฐ หรือป่อง ผู้ต้องหาที่ 1 และนายวัชระ หรือโบ้ ผู้ต้องหาที่ 2 ไปซื้อมาจากนายนพเก้า หรือตูมตาม ผู้ต้องหาที่ 3 และนายชาตรี หรือโจ ผู้ต้องหาที่ 4 ที่หน้าร้านสะดวกซื้อปากซอยโรงสี (พระราม 3 ซอย 64) มีภาพจากกล้องวงจรปิดจากบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวจับภาพผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ประกอบกับมีพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุและไม่ได้ร่วมเสพด้วยให้การยืนยัน จึงขอศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมด ตามหมายจับที่ จ.10-จ.13/2564 ลงวันที่ 12 ม.ค. 2564

ในชั้นจับกลุ่มและชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูงเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้านจึงอนุญาตให้ฝากขังได้ โดยในวันนี้ไม่มีญาติผู้ต้องหามายื่นขอปล่อยชั่วคราว จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปคุมขังยังเรือนจำต่อไป

วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สน.สายไหม ควบคุมตัวนายรัตนโชค หรือจิ้ม กีรติโชติ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหามียาเคตามีนไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย มายื่นคำร้องฝากที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก โดยเจ้าหน้าที่ชุดปปส.บก.น.2 จับกุมพร้อมยาเคตามีน 20.3 กรัม ในพื้นที่ ถ.วัดเกาะ เขตสายไหม จากขยายผลจับกุมตัวสาวเอเยนต์เคนมผงก่อนหน้านี้ ก่อนส่งให้สน.สายไหมดำเนินคดี ศาลพิจารณาเเล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ ไม่ปรากฏว่ามีญาติ มายื่นประกันตัว พนักงานราชทัณฑ์จะ ควบคุมผู้ต้องหาไปคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร

ที่ สน.วัดพระยาไกร พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น.เดินทางมาติดตามความคืบหน้ากับชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บของเหยื่อวัยรุ่นในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงพร้อมกล่าวในภายหลังว่า วันนี้มาประชุมร่วมกับชุดคลี่คลายคดีทั้งหมดในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร เพื่อไล่เรียงเหตุการณ์แต่ละคดีที่เกิดขึ้นว่ามีความคืบหน้าไปอย่างไร และกำหนดให้ได้ว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหารายใดเพิ่มเติมซึ่ง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับ

พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวอีกว่า ในภาพรวมของพื้นที่นครบาลขณะนี้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นหลายท้องที่ สำหรับ สน.สุทธิสาร กำลังตามตัวผู้จำหน่ายอยู่ 1 ราย และ สน.โชคชัย สามารถตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่จำหน่าย มาแล้ว 2 ราย กำลังสืบหาตัวอยู่เช่นกัน ประเด็นความเชื่อมโยงของคดีที่เกิดขึ้นนั้นยังต้องพิจารณาจากตัวยาของกลางที่ยึดได้ในแต่ละท้องที่ ขณะนี้พบว่ายาที่พบในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร กับ สน.สายไหม มีส่วนผสมที่คล้ายกันคือคีตามีนกับยานอนหลับ ส่วนที่ สน.โชคชัย ยังต้องรอการตรวจสอบ จึงยังไม่สามารถยืนยันได้ว่ามาจากแหล่งเดียวกัน

พล.ต.ต.จิรพัฒน์กล่าวต่อว่า สำหรับกลุ่มบุคคลเครือข่ายที่พัวพันกับยาเคนมผงขณะนี้ที่มีข้อมูล พบว่าฝั่ง สน.วัดพระยาไกร จะเกี่ยวข้องกันเป็นกลุ่มๆ แต่ละกลุ่มเลือกเสพยากันในสถานที่พักส่วนตัวเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ จากการเช็กข้อมูลไทม์ไลน์หลายๆ คดี มีการนัดรวมตัวกันเสพข้ามวันข้ามคืนเกิน 24 ชั่วโมง จึงมีทั้งการเสียชีวิตและบาดเจ็บเกิดขึ้นในสถานที่เกิดเหตุ บางรายไปร่วมเสพกับเพื่อนๆ แล้วเดินทางไปเสียชีวิตที่บ้านตัวเอง ขณะที่หลายรายมีอาการแทรกซ้อนหลังการเสพแล้วเดินทางไปโรงพยาบาลด้วยตนเอง ซึ่งต้องรอการตรวจสอบอีกครั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวันที่ผ่านมาชุดคลี่คลายคดี สน.วัดพระยาไกร และ กก.สส.บก.น.5 ร่วมกันพาพยานบุคคลทั้งชายและหญิงหลายรายที่เกี่ยวข้องกับคดีการจำหน่าย และเสพยาเคนมผง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก มาสลับสับเปลี่ยนกันสอบปากคำ เพื่อขยายผลไปถึงตัวการใหญ่ซึ่งลักลอบจำหน่ายยาเสพติดชนิดดังกล่าว มีรายงานว่า ความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเหยื่อในท้องที่ สน.วัดพระยาไกร ล้วนมีความสัมพันธ์กันกับเหยื่อที่เสียชีวิตในท้องที่ สน.สุทธิสาร กำลังสืบหาพยานหลักฐานที่อาจจะมีความเกี่ยวข้องกันกับคดีที่มีการตายในท้องที่ สน.โชคชัย และคดีจับกุมผู้ค้าในท้องที่ สน.สายไหม

อย่างไรก็ตามในส่วนของการออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมใน 1-2 วันนี้นั้นเชื่อว่าพนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร จะสามารถดำเนินการขออนุมัติจากศาลอาญากรุงเทพใต้ เพิ่มเติมได้อย่างน้อย 2 คน เป็น ผู้ต้องหาทั้งชายและหญิงที่มีส่วนในการนำยาเสพติดมาให้ผู้เสียชีวิตเสพ โดยข้อหาที่ชุดคลี่คลายคดีตั้งไว้นั้นจะเน้นที่การร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดฯ และข้อหาสมคบกันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนข้อหาอื่นๆ อาทิ คดีล่วงละเมิดทางเพศ ที่ผู้ต้องหาอีก 4 คนซึ่งถูกจับกุมและนำตัวไปฝากขังแล้วก่อนหน้านี้นั้น ยังต้องรอผลตรวจพิสูจน์ของแพทย์มายืนยัน ซึ่งต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาลที่จะอนุมัติหมายจับเพิ่มเติมต่อไป

แก๊งเคนมผง – ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร คุมตัว 4 ผู้ต้องหาคดียาเคนมผง ไปฝากขังศาลอาญากรุงเทพใต้ โดยศาลพิจารณาคำร้องแล้วอนุญาต และไม่มีญาติมายื่นขอปล่อยตัวชั่วคราว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำต่อไป เมื่อวันที่ 14 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน