ใช้‘ม.112’ขัดหลักปชต.
ตร.ถอนหมายจับนศ.มธ.

สภานิสิตนักศึกษา 3 สถาบัน จุฬาฯ-มหิดล-เกษตรฯ ออกแถลงการณ์ประณามเจ้าหน้าที่รัฐจับกุมนักศึกษาธรรมศาสตร์ 13-14 ม.ค. แจ้งข้อหาผิด ม.112 และพ.ร.บ.คอมพ์ ชี้ขัดหลักการประชาธิปไตยและมนุษยธรรม จับกุมเยาวชนยามวิกาล เรียกร้องให้รัฐยุติการใช้กฎหมายอิงผลการเมือง ด้านเพกวิน-รุ้ง กลุ่มธรรมศาสตร์ฯ จูงแพะบุกสภ.คลองหลวง ปทุมธานี ให้กำลังใจ เดฟ- ชยพล นักศึกษามธ.ปี 2 รับทราบข้อหา ม.112 เจ้าตัวพร้อมทนายความหอบหลักฐานยืนยันวันเกิดเหตุอยู่หาดใหญ่ สุดท้ายตำรวจต้องถอนหมายจับ โฆษกตร.ยันดำเนินคดี ม. 112 – 116 ตามความผิดที่ปรากฏ โต้ลั่นไม่มีใบสั่ง

เมื่อวันที่ 15 ม.ค. สภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภานักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล และสภาผู้แทนนิสิต องค์การนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน ออกแถลงการณ์ เรื่องประณามการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐเมื่อวันที่ 13 – 14 ม.ค.2564 มีใจความว่า ตามที่ได้มีการจับกุมนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการ กระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อคืนวันที่ 13 ม.ค. และเหตุการณ์ได้ต่อเนื่องมายังวันที่ 14 ม.ค. ซึ่งมีการจับกุมตัวนักศึกษาคนดังกล่าวอีกครั้งด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 27

ผู้แทนนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งจึงออกแถลงการณ์เพื่อแสดงจุดยืนของผู้แทนนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่ง ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังต่อไปนี้ โดยขอยืนยันในหลักเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิดเห็นของประชาชนอย่างอิสระ อันเป็นหลักการ พื้นฐานของการปกครองในระบอบประชาธิป ไตย การกล่าวอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมอาจเป็นการดำเนินคดีเพื่อหวังผลการฟ้องร้องเชิงกลยุทธ์ต่อการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งขัดต่อหลักการพื้นฐานของประชาธิปไตยดังที่กล่าวไปข้างต้น

อีกทั้งการเข้าจับกุมตัวนักศึกษามหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ในคืนวันที่ 13 ม.ค. เป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรม ทั้งในด้านของหลักความเสมอภาค หลักความเป็นอิสระ และหลักความเป็นกลาง ซึ่งเป็นหลักสากลในการบังคับใช้กฎหมายในประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย นอกจากนี้การบุกจับกุมตัวเยาวชนในยามวิกาลด้วยคดีทางการเมือง ในช่วงที่ประเทศกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตทางด้านสาธารณสุข อาจแสดงให้เห็นถึงการขาดมนุษยธรรมของเจ้าหน้าที่รัฐ และความบกพร่องในการใช้อำนาจบริหารของรัฐบาลอีกด้วย

ผู้แทนนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่ง จึงขอแสดงความเป็นกังวลต่อท่าทีการใช้อำนาจของเจ้าหน้าที่รัฐ และขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่รัฐ และรัฐบาลยุติการใช้กฎหมายเพื่อหวังผลทางการเมือง โดยให้คำนึงถึงหลัก ธรรมาภิบาล หลักนิติรัฐ หลักนิติธรรม และกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ภายใต้กรอบของสหประชาชาติ ก่อนจะบังคับใช้กฎหมาย หรือกระทำต่อผู้ต้องหาอย่างเกินกว่าเหตุ และขอเรียกร้องให้มีการเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้กับตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุม ตัวแทนสมาชิกรัฐสภา และตัวแทนคณะรัฐมนตรี ในการหารือร่วมกันอย่างสร้างสรรค์เพื่อหาทางออกให้กับประเทศต่อไป

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตร. กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม นายศิริชัย นาถึง หรือ นิว นักศึกษาธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นสมาชิกแนวร่วมธรรม ศาสตร์และการชุมนุม เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ในฐานความผิดมาตรา 112 ซึ่งหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการจับกุมในยามวิกาลว่า กรณีนี้เป็นการจับกุมเป็นไปตามหมายจับและจับกุมในที่สาธารณะ ไม่ได้จับในที่ลับตาคน เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าผู้ต้องหามีถิ่นที่อยู่ไม่ชัดเจน มีแนวโน้มที่จะไม่ปรากฏตัวให้จับโดยง่ายและมีแนวโน้มว่าจะหลบหนี ซึ่งหลังจับกุมตำรวจได้แจ้งสิทธิการเข้าพบทนายแต่เป็นฝ่ายทนายของผู้ต้องหาไม่สะดวกมาพบในขณะนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำผิดกระบวนการจับกุม

พล.ต.ต.ยิ่งยศกล่าวยืนยันว่า การดำเนินคดีในข้อหาความมั่นคงมาตรา 112 และ มาตรา 116 เป็นการดำเนินคดีตามกฎหมายไม่ใช่ตามนโยบาย ซึ่งจะพิจารณาในรูปแบบคณะกรรมการ ผ่านการไตร่ตรองอย่างดีแล้ว และเป็นข้อพิจารณาของศาลในการออกหมายเรียกและหมายจับ ที่ผ่านมามีผู้ถูกดำเนินคดีใน 2 มาตรานี้อย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ขอเปิดเผยจำนวน เนื่องจากอยู่ในกระบวนการสอบสวนของตำรวจและศาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะละเว้นไม่ได้ หากกระทำผิดจริงก็ต้องได้รับผลจากการกระทำ








Advertisement

เวลา 11.00 น. ที่สภ.คลองหลวง ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โดยมีแกนนำ เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ และรุ้ง หรือ น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒน์กุล และนายณัฐชนน ไพโรจน์ พร้อมด้วยกลุ่มการ์ดวีโว่ นำทีมโดยโตโต้ พร้อมรถกระบะ ขนเครื่องขยายเสียงมาจอดที่ริมถนนบางขัน-คลอง หลวง ด้านหน้าเพื่อมาปราศรัย ให้กำลังใจ เดฟ นายชยพล ดโนทัย นักศึกษา มธ.ปี 2 คณะรัฐศาสตร์ หนึ่งในสมาชิกแนวร่วมธรรม ศาสตร์และการชุมนุม ที่ถูกทางตำรวจคลองหลวง แจ้งข้อหา มาตรา 112 ซึ่งเป็นคดีเดียวกันกับ นิว สิริชัย นักศึกษามธ.ปี 1 โดย มีพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง พร้อมฝ่ายสืบสวนและกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนหนึ่งกองร้อยนำแผงเหล็กปิดกันทางเข้าออก

จากนั้นเวลา 11.20 น. กลุ่มมวลชนการ์ดได้ฝ่าแผงกันของเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ามาด้านใน จนเกิดการผลักดันกระทบกระทั่ง แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด ต่อมานายชยพล หรือเดฟ ได้เดินลงจากรถตู้ลงเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาจากพนักงานสอบสวน สภ. คลองหลวง พร้อมปฏิเสธข้อกล่าวหามาตรา 112 และวันที่เกิดเหตุไม่ได้อยู่ในพื้นที่ แต่อยู่ตามภูมิลำเนา ตั้งแต่วันที่ 8-11 ม.ค.

ด้านนายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า วันนี้ตนมีหลักฐานชัดเจนว่าในวันเกิดเหตุ นาย ชยพลอยู่ที่ต่างจังหวัด ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ไม่ได้เกี่ยวข้อง

ด้านพ.ต.อ.เกียรติศักดิ์กล่าวว่า เบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหา หรือตั้งข้อกล่าวหานายชยพล และยังไม่ได้มีหมายจับหรือหมายเรียก

จากนั้นนายชยพล พร้อมทนายความ และนายเพนกวิน ได้ขอไปห้องสอบสวนชั้นสอง นาน 30 นาที ในขณะที่กลุ่มมวลชนก็ได้นำแพะ 2 ตัวใส่เสื้อสีแดง พาจูงเดินเข้ามาในพื้นที่เป็นการแสดงสัญลักษณ์การจับแพะ นอกจากนี้ยังนำธงสัญลักษณ์ การ์ดอุ้มตำรวจมีกุ้งแดงเกาะขา ข้อความว่า ตื่นเถิดตำรวจกล้าปวงประชาจะคุ้มภัย เดินชูเข้ามาจนเกิดการปะทะกันกับตำรวจเล็กน้อย

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายชยพล และทนายนรเศรษฐ์ ได้กล่าวภายหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยยืนยันว่า วันเกิดเหตุอยู่ที่หาดใหญ่

จากนั้น ช่วงเย็นวันเดียวกัน คณะพนักงานสืบสวน สอบสวน ตามคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ที่ 16/2564 ยื่นคำร้องขอยกเลิก หมายจับ เนื่องจากตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมยังไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับนายชยพล โดยศาลมีคำสั่งรับคำร้อง เรียกสอบแล้ว ผู้ร้องแถลงยืนยันตามคำร้อง อนุญาตให้ถอนคำร้อง ยกเลิกหมายจับ

แพะ – ‘เพนกวิน’พริษฐ์-‘รุ้ง’ปนัสยา และกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ พาแพะไปให้กำลังใจ‘เดฟ’ชยพล ดโนทัย น.ศ.ธรรมศาสตร์ ไปรับทราบข้อหา ม.112 สุดท้ายตำรวจขอถอนหมายจับ ที่สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 15 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน