หลังก่อคดียิงแฟนสาว
ตร.ขอหมายอีก4เอเยนต์
บุกจับเอเยนต์ใหญ่ค้าเคนมผง หลังก่อคดี ยิงแฟนสาวที่ร่วมค้ายาด้วยกันสาหัส แล้วเผ่นไปกบดานเพชรบูรณ์ พร้อมเตรียมจ่อหมายจับอีก 4 แก๊งค้า ‘เค’นมผง พื้นที่สน.โชคชัย ยอมรับยังไม่มีหลักฐานโยงถึงแก๊งซิ่ง ‘มิคาโดะ’ แต่สั่งจับตาเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง ขณะที่คืบหน้าพนักงานบาร์น้ำที่เสพยาจนเสียชีวิตย่านเอกชัย เร่งรวบรวมหลักฐาน พร้อมเก็บวัตถุต้องสงสัยสีขาวไปตรวจสอบว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ เร่งหาเอเยนต์ยา แต่ยังไม่แน่เชื่อมโยงถึงกรณีวัดพระยาไกร
เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ตำรวจเตรียมออกหมายจับขบวนการค้ายาเคนมผง ในพื้นที่โชคชัย 4 คน โดยสอบปากคำไปแล้ว 4 ปาก แต่พยานหลักฐานยังไม่เพียงพอเชื่อมโยงกับแก๊งมิคาโดะที่มีส่วนพัวพันเกี่ยวข้องกับการจำหน่ายยาเสพติด จึงยังไม่สามารถออกหมายจับสมาชิกแก๊งได้ในขณะนี้ แต่ตำรวจเฝ้าระวังอยู่
ส่วนความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายธนากร พนักงานบาร์น้ำ อยู่ในผับ ย่านท่าข้าม ที่เสียชีวิตในคอนโดมิเนียม เอกชัย ซอย 32 หลังไปปาร์ตี้เสพยาเค ย่านอ่อนนุช เบื้องต้นสอบปากคำผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แล้ว 4 ปาก ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสิรินธรฯ
จากการสอบปากคำมีความเชื่อมโยงกับผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน ในพื้นที่ สน.บางกอกใหญ่ ซึ่งผู้เสพยากลุ่มนี้มีการนัดเสพกับเป็นระยะๆ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมย่านจรัญสนิทวงศ์ 13 หรือ พื้นที่อื่นๆ โดยเฉพาะพื้นที่เกิดเหตุย่านสุขุมวิท 93 ขณะนี้ให้ตำรวจนครบาล 5 และ สน.พระโขนง ลงพื้นที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นพบวัตถุต้องสงสัยผงสีขาวในคอนโดมิเนียมที่เกิดเหตุ เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์เปรียบเทียบกับผงสีขาวที่แฟนสาวของผู้ตายนำมามอบให้ตำรวจ ว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่ มีองค์ประกอบอย่างไร เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเคนมผงชนิดหนึ่ง ที่รวมยาเสพติดหลายชนิดไว้ด้วยกัน แต่ยังไม่ชี้ชัดว่าเป็นเครือข่ายเดียวกับเคนมผงในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าจากการสอบปากคำพยานที่ร่วมเสพเคนมผงกับผู้ตาย พบว่ามีผู้เสพร่วมกันประมาณ 4-5 คน แต่เมื่อสอบถามถึงแหล่งที่มาของยาพยานซึ่งเป็นเจ้าของห้องเช่าอ้างว่า ไม่ทราบแหล่งที่มาแต่ผู้ตายเป็นผู้นำยามาให้ ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และอยู่ระหว่างเรียกพยานอีก 1 ปากที่อยู่ในที่เกิดเหตุมาสอบปากคำ โดยเบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหากับใครเนื่องจากต้องรอผลชันสูตรพลิกศพจากผู้ตายและผลตรวจสารเสพติดก่อน
ทั้งนี้ในช่วงบ่ายวันนี้ครอบครัวของผู้ตายก็จะไปติดต่อขอรับศพที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช
เมื่อเวลา 19.00 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งการให้พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.กก.สส.บก.น.5 พ.ต.ต.ภัตธนสันต์ เก่งเขตรกิจ สว.กก.สส.บก.น.5 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.5 ร่วมกันจับกุม นายอมรเทพ เฉลิมวัฒน์ ฉายา “อั๋น กีวี่” อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาเครือข่ายค้า “เคนมผง” พร้อมของกลางซองพลาสติกใส และเครื่องชั่งน้ำหนักแบบดิจิตอล โดยสามารถจับกุมได้ห้องพักไม่มีเลขที่ ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านใหม่สุขเจริญ หมู่ที่ 13 ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.50 น. ของวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนสน.วัดพระยาไกร รับแจ้งเหตุหญิงสาวเสียชีวิตในบ้านเช่าเลขที่ 922/29 ซอยเจริษราษฎร์ 7 แยก 4 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพบศพน.ส.พาณิภัค หรือเอมมี่ จันทราวราวรรณ์ อายุ 21 ปี และพบนายทัชชัย หรือดรีม กล่อมใจ อายุ 23 ปี นอนหมดสติ อยู่ภายในห้องเช่าเดียวกัน โดยทั้งคู่เป็นแฟนกัน จากนั้นเมื่อวันที่ 12 ม.ค ที่ผ่านมา รับแจ้งจากแพทย์ว่า นายทัชชัย สามารถให้การได้ จึงได้สอบปากคำจนได้ข้อมูลว่า ในวันที่ 9 ม.ค. ติดต่อซื้อยา “เคนมผง” มาจาก น.ส.กุลนที เอี่ยมลอย ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้และนายอั๋น หรือฉายา “อั๋น กีวี่” ทราบชื่อภายหลัง คือนายอมรเทพ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงเร่งติดตามตัวนายอมรเทพ เพื่อมาสอบถามข้อมูล
กระทั่งพบว่าเมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 10 ม.ค. ที่ผ่านมา นายอมรเทพก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงน.ส.นภิสา ห่องคำ แฟนสาว จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส เหตุเกิดภายในห้องพักไม่มีชื่อ ตั้งอยู่ในซอยรัชดา 36 (ซอยเสือใหญ่) แล้วหลบหนีไป โดยแนวทางการสืบสวนพบว่าชนวนเหตุเกิดจากนายอมรเทพ คิดว่าน.ส.นภิสาขโมยยาเสพติดไปจำหน่ายให้ผู้อื่น
ต่อมาศาลอาญา อนุมัติออกหมายจับที่ 63/2564 ลงวันที่ 15 ม.ค. เพื่อจับกุมนายอมรเทพ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.5 สืบสวนสอบสวนจนทราบว่า นายอมรเทพหลบหนีไปพักอาศัยอยู่กับเพื่อนสนิทที่จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งรู้จักกันตั้งแต่สมัยถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำในปี 48 และถูกปล่อยตัวเมื่อ ม.ค. 60 ในเขตพื้นที่ต.วังพิกุล อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์
ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.จิรกฤต สั่งการให้พ.ต.ต.ภัตธนสันต์ นำกำลังตำรวจ กก.สส.บก.น.5 เดินทางไปยังห้องพักดังกล่าว จนสามารถจับกุมตัวนายอมรเทพได้พร้อมของกลางก่อนคุมตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมที่กก.สส.บก.น.5
นายอมรเทพ ยอมรับสารภาพว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงน.ส.นภิสา แฟนสาวจริง ส่วนเรื่อง “ยาเคนมผง” นั้นตนไม่ได้ผสมเองแต่อย่างใด แต่รับมาจากผู้อื่นอีกทอดหนึ่ง โดยตนได้ร่วมกับน.ส.กุลนที หรือฝน เป็นผู้ขายยาเคนมผงให้ผู้ตายจริง ซึ่งการซื้อขายทุกครั้ง น.ส.กุลนที จะเป็นผู้ติดต่อก่อนนำยาเสพติดไปขายให้ลูกค้า
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “พยายามฆ่า , มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนซึ่งใช้ดินปืนโดยไม่ใช่เหตุ ไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธิน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการต่อไป