แอสตราฯยื่นขอจาก‘อย.’แล้ว
ขอนแก่นวุ่น-คลัสเตอร์ใหม่
กัก1,008นายร้อย-นายสิบตร.
บุคลากรแพทย์ศิริราชก็ป่วย
ไทยจ่อได้วัคซีนโควิดฉีดด่วน ไม่เกินสัปดาห์นี้ หลัง ‘แอสตราเซนเนกา’ ยื่นขอขึ้นทะเบียนกับอย.แล้ว คาดพิจารณาไดใน 1 สัปดาห์ ศบค.เผยไทยติดโควิดอีก 369 พบจากคัดกรองในชุมชน 275 คน ที่สมุทรสาครเยอะสุด 269 ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างชาติ ‘หมอเบิร์ท’ แถลงระบุคัดกรองเชิงรุกยังเจอสูง สะท้อนคนใกล้ตัว คนในครอบครัวอาจติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการ ด้านผู้ว่าฯสมุทรสาครพบปอดติดเชื้อแบคทีเรีย มีเสมหะมาก ต้องให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มอีก 1-2 ตัว ส่วนที่ขอนแก่นสั่งกักตัวนายร้อย-นายสิบตำรวจ 1,008 คนที่ศูนย์ฝึกภาค 4 หลังพบเป็นกลุ่มเสี่ยงสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ด้านบุคลากรแพทย์ศิริราชป่วยโควิด เร่งสอบสวนโรค
‘หมอเบิร์ท’แถลงไทยติดโควิด 369
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 18 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ หรือหมอเบิร์ท ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน เป็นวันแรกว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 95.4 ล้านราย เพิ่มขึ้น 5.32 แสนราย เสียชีวิตสะสม 2.03 ล้านราย เพิ่มขึ้น 9.1 พันราย มาเลเซียยังน่ากังวลเพราะตัวเลขยังสูงขึ้น และติดกับชายแดนไทย จึงต้องเฝ้าระวังไม่ให้ข้ามแดนผิดกฎหมาย ประเทศไทยขยับลงมาอยู่อันดับ 128 ของโลก พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 369 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 357 ราย
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ผู้ป่วยรายใหม่แบ่งเป็น 1.การติดเชื้อในประเทศ สัมผัสสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง ผู้ป่วยรายก่อนหน้า 82 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 51 ราย กทม. 13 ราย อ่างทอง 8 ราย นนทบุรีและสมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย เลย ตรัง ปทุมธานี พระนคร ศรีอยุธยา ชลบุรี และระยอง จังหวัดละ 1 ราย 2.การค้นหาเชิงรุก 275 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 269 ราย ซึ่งเป็นแรงงานต่างด้าวทั้งหมด กทม. 5 ราย และชลบุรี 1 ราย และ 3.เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 12 ราย ได้แก่ มาเลเซีย 5 ราย (เป็นนักโทษชายไทย 4 ราย และหญิงไทยรับจ้าง 1 ราย) สหรัฐอเมริกา 2 ราย โอมาน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี และบาห์เรน ประเทศละ 1 ราย รักษาหายเพิ่ม 191 ราย จำนวนผู้ติดเชื้อสะสม 12,423 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 10,134 ราย เกิดจากการตรวจเชิงรุก 3,982 ราย มาจากต่างประเทศ 2,289 ราย รักษาหายแล้ว 9,206 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 3,147 ราย ไม่มีรายงาน ผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 70 ราย หากนับเฉพาะระลอกใหม่ป่วยสะสม 8,186 ราย หายป่วย 5,266 ราย เสียชีวิตสะสม 10 ราย
พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า การค้นหาเชิงรุกในชุมชนแล้วยังพบการติดเชื้อสูง หมายถึงคนในชุมชนที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อนบ้านหรือคนในครอบครัว อาจไม่มีอาการแสดง หรือไม่รู้ตัวว่าเป็นผู้ติดเชื้อ ดังนั้น เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบสวนโรคขอประชาชนให้ความร่วมมือ ทั้งนี้ตัวเลขรายใหม่ที่จะเป็นศูนย์ตอนนี้ยังเป็นไปไม่ได้ แต่ถือว่าไม่สูงเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา ขณะนี้เป็นสัปดาห์ที่ 3 ของม.ค. เราอยากเห็นจังหวัดที่กลายเป็นสีขาวมากขึ้น ส่วนสีแดงยังเฝ้าระวัง โดยทุกแห่งร่วมกันค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก สอบสวนโรคเข้มข้น เพื่อให้การควบคุมโรคเป็นไปได้มากที่สุด และลดอัตราการตาย ส่วนคนมาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจากประเทศไหนจำนวนเท่าไร แต่อยู่ในสถานที่กักกันทั้งหมด เข้ามาอย่างถูกต้อง เราต้องการสนับสนุนให้เกิดขึ้น เพื่อดูแลอย่างถูกต้องปลอดภัยทั้งผู้เดินทางและคนไทย ย้ำว่าคนเข้ามาผิดกฎหมายตามชายแดนยังน่าเป็นห่วงกว่า
ชี้คัดกรองเชิงรุกเจออื้อ
ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวว่า สำหรับ 10 จังหวัดแรกที่มีการติดเชื้อสูงสุดยังไม่เปลี่ยนแปลง แต่มีความพยายามทำงานอย่างหนัก เพื่อให้ตัวเลขลดลง เปลี่ยนจากสีแดงเป็นเหลืองและเขียวมากขึ้น ส่วนจังหวัดที่มีการติดเชื้อเล็กน้อย 1-3 ราย ยังถือว่าสำคัญ บ่งชี้ว่าทุกจังหวัดยังตั้งการ์ดสูง ออกมาตรการเข้มข้น
“จ.สมุทรสาครตัวเลขการติดเชื้อยังสูง แต่ไม่ต้องตกใจมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดจากคัดกรองเชิงรุก เกิดจากความร่วมมือทั้งภาครัฐที่ออกมาตรการเข้มข้น ทำให้สมุทรสาครอาจกลับมาคึกคักในเร็ววัน อาจเปิดตลาดหรือใช้ชีวิตได้ปกติมากขึ้น นี่เป็นตัวอย่างที่ดี แต่ละจังหวัดต้องศึกษาปัญหาอย่างเข้มข้น ใช้ตัวเลขหลักฐานที่แม่นยำ ความร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งนี้สมุทรสาครยังเตรียมความพร้อมอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะการค้นหาเชิงรุกมีตลอด ถ้าค้นเจอก็จะไม่ตกใจ แต่มีการเตรียมมาตรการรองรับให้พร้อม ทั้งร.พ. บุคลากรดูแลคนติดเชื้อให้ปลอดภัย ทั้งคนไทยหรือเพื่อนบ้าน รวมถึงร.พ.สนาม และ Factory Quarantine” พญ.อภิสมัยกล่าว
‘บิ๊กตู่’โชว์ผลตรวจ-ไม่ติดโควิด
วันเดียวกัน เวลา 10.30 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมผ่านระบบวีดิทัศน์ทางไกล หรือ วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากตึกไทยคู่ฟ้า ไปยังจ.สมุทรสาคร ที่มีนายธีรพัฒน์ คัชรมาตย์ รองผู้ว่าฯสมุทรสาคร นพ.ธรรมวิทย์ เกื้อกูลเกียรติ ผอ.โรงพยาบาลกระทุ่มแบน นพ.อนุกูล ไทยถานันดร์ ผอ.โรงพยาบาลสมุทรสาคร นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร ผอ.โรงพยาบาลบ้านแพ้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
โดยนายกฯกล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ได้คุยกับฝ่ายปฏิบัติ ซึ่งอยู่หน้างาน ตนยอมรับมีความกังวลใจอย่างมาก หลังได้รับรายงานสถิติผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จากการตรวจสอบคัดกรองที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีความเชื่อมั่นว่าการทำงานของภาครัฐที่ทำงานกันอย่างเต็มที่ ทั้งเสียสละและอดทน รวมถึงการดำเนินการตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนดไว้อย่างดี เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างด้าว แรงงานเถื่อน หรือกลุ่มอื่น ต้องไม่ให้มีการแพร่ระบาด ทั้งแสดงความเป็นห่วงอาการป่วยของผู้ว่าฯ สมุทรสาครที่ขอชื่นชมการทำงานและให้กำลังใจมาตลอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ใช้โอกาส ดังกล่าวแสดงผลตรวจโควิด-19 ต่อที่ประชุม พร้อมยืนยันว่าตัวเองพร้อมด้วยรมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมควบคุมโรคยังปลอดภัยอยู่ และขอกำชับให้หน่วยงานผู้ปฏิบัติงาน ผู้ที่คัดกรองต่างๆ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่หน้างานอย่าขาดความระมัดระวัง ตนเป็นห่วงทุกคน ทั้งนี้นายกฯ ยังกำชับให้ตรวจสอบว่ายังมีการลักลอบใช้แรงงานผิดกฎหมายหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้า ก่อนการประชุมวิดีโอ คอนเฟอเรนซ์ นายกฯเข้ารับการตรวจโควิด-19 แบบแอนติเจน Rapid Test หรือ Swap ผลตรวจไม่พบว่าติดเชื้อโควิด-19
ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงทีมพัฒนาแอพพลิเคชั่น “หมอชนะ” ลาออกยกทีมและมอบให้ภาครัฐดูแล ซึ่งคาดว่าอาจจะมีปัญหาในการประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) นั้นว่า ตนไม่ทราบ ให้ไปถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข และนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดีอีเอส
เมื่อถามว่าในฐานะดูแลเรื่องกฎหมาย ได้เข้าไปดูแลเรื่องนี้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยมีใครมาถาม เห็นข่าวก็ยังงง
เมื่อถามว่าข้อสังเกตเรื่องที่การแสดงผลของแอพหมอชนะ ปรากฏสีเขียวหรือความเสี่ยงต่ำกับผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 จะต้องทำความเข้าใจกับประชาชนหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ต้องทำความเข้าใจแน่นอน
ขอนแก่นยกระดับศูนย์ฝึกตร.
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและเจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงตรวจเข้มบุคคลที่ผ่านเข้า-ออกภายในศูนย์ฝึกอบรมตามมาตรการตรวจคัดกรองและมาตรการคุมเข้มจากสถานการณ์โควิด-19 อย่างเข้มงวด หลังพบไทม์ไลน์การสอบสวนของผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ เข้าไปในพื้นที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชรเวลา นายแพทย์สาธารณสุขจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้แนวทางการสอบสวนเส้นทาง รวมถึงการเฝ้าระวังเชิงรุกในภาพรวมทั้งหมดขอนแก่นพบ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน 4 ราย คือผู้ป่วยลำดับที่ 7-10 ขณะนี้เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดและร.พ.ศรีนครินทร์ เร่งคัดกรองกลุ่มเสี่ยงภายในศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 โดยจัดเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจกลุ่มเสี่ยงชุดแรกตรวจคัดกรองเสร็จสิ้นแล้ว 500 ราย จาก 1,008 ราย
“วันนี้จะตรวจให้ครบและทราบผลทั้งหมดภายในวันนี้ จากการสอบสวนโรคเชิงรุกทราบว่ายังมีน้องสาวของผู้ติดเชื้อรายที่ 8 ซึ่งเป็นหญิงอายุ 52 ปีมาพักอาศัย ภายในศูนย์ฝึกฯ ระหว่างวันที่ 2 – 7 ม.ค.2564 และเดินทางไปที่จ.เลย ก่อนตรวจพบว่าผลเป็นบวก จึงสอบสวนตามขั้นตอนและเส้นทางต่างๆ ว่ามีการปฏิสัมพันธ์กับใครบ้าง จนกระทั่งได้ข้อมูลยืนยันชัดเจนว่า ผู้ป่วยรายดังกล่าวเป็นคนปรุงอาหารให้นักเรียนอีกกลุ่มในศูนย์ฝึกฯ ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงขณะนี้ 716 ราย”
นพ.สมชายโชติกล่าวต่อว่า คณะทำงานต้องสอบสวนโรคในภาพรวมทั้งหมดอย่างรัดกุมและรอบคอบ พร้อมทั้งประเมินสถาน การณ์อีกครั้ง หากมีผู้ติดเชื้อจำนวนมากจะปรับเปลี่ยนให้ศูนย์ฝึกฯ เป็นโรงพยาบาลสนามทันที พร้อมทั้งกำหนดพื้นที่ดังกล่าวคุมเข้มตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวดเด็ดขาดทันทีเช่นกัน อย่างไรก็ตามวันนี้ยังคงยืนยันว่าขอนแก่นพบผู้ติดเชื้อ 10 รายรักษาหายขาดแล้ว 5 ราย แล้ว ขอให้ประชาชนชาวขอนแก่นอย่าตื่นตระหนกและขอให้ปฏิบัติตัวตามแนวทางการป้องกันอย่างเข้มงวด
คุมเข้ม – จังหวัดขอนแก่นสั่งควบคุมเข้มศูนย์ฝึก บช.ภ.4 หลังพบว่าสาวผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายหนึ่ง มีความใกล้ชิดกับนักเรียนพลตำรวจ โดยสั่งให้บิ๊กคลีนนิ่ง นำเครื่องนอนมาผึ่งแดดเพื่อฆ่าเชื้อ ตลอดจนคัดกรองแยกกลุ่มเสี่ยง เมื่อวันที่ 18 ม.ค.
กักตัวนายร้อยนายสิบตร.1,008คน
เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมแก่นภูมิ ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ขอนแก่น นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อม นพ.สมชาย โชติปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุข จ.ขอนแก่น แถลงข่าวยืนยันการพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้ขอนแก่นยังคงยืนยันผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ตรวจพบ 10 คน จำนวนนี้ 5 คนรักษาหายขาดและแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ และอยู่ในการรักษาของแพทย์ 5 คน แยกเป็น ร.พ.ขอนแก่น 1 คนและ ร.พ.ศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มข. 4 คน ขณะที่ไทม์ไลน์ของผู้ป่วยยืนยันรายใหม่รายที่ 7-10 พบว่าเป็นครอบครัวและมีพื้นที่กลุ่มเสี่ยงตามไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นคือที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ขณะนี้ทีมสอบสวนโรคและเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรอง ทำประวัติและการแนะนำมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด
“กลุ่มเสี่ยงที่สำคัญที่เราต้องคุมเข้มอย่างเข้มงวดคือตำรวจที่เข้ารับการอบรมที่ ศฝร.4 แยกเป็นนักเรียนนายร้อยอบรมรุ่นที่ 53 จำนวน 779 คน จากการตรวจคัดกรองและเก็บตัวอย่างมาตรวจสอบพบว่าทุกคนไม่มีการติดเชื้อ ทีมสาธารณสุขร่วมกับจังหวัดและตำรวจจึงหารือกันและอนุญาตให้ตำรวจกลุ่มนี้กลับบ้านได้ โดยจะต้องกักตัวที่บ้าน 14 วัน ส่วนนักเรียนนายสิบที่ทำการอบรมอยู่ 716 นาย ขณะนี้ยังไม่อนุญาตให้กลับบ้าน และให้เข้าพักแยกกองร้อยแบบเว้นระยะห่าง 3 กองร้อย 3 อาคาร โดยมีตำรวจครูฝึกและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขติดตามสถานการณ์แบบวันต่อวัน”
นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า หลังจากวันที่ 16 ม.ค. 64 ที่ผ่านมาได้เก็บตัวอย่างกลุ่มนายร้อยรุ่น 53 และผู้ที่เกี่ยวข้องรวมจำนวน 1,008 ราย ขณะนี้ผลตรวจออกมาแล้ว 906 ราย ไม่พบผู้ติดเชื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ในระหว่างการรอผล คาดจะทราบผลในเย็นวันนี้ ขณะนี้ประสานไปยังศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 ให้ตำรวจที่ผ่านมาตรวจให้มีการกักตัวเองเป็นระยะเวลา 14 วัน และห้ามเข้าใกล้ผู้สูงอายุและเด็กเล็ก เพราะเชื้ออาจจะยังไม่แสดงอาการ
และในเมื่อคืนที่ผ่านมานักเรียนนายสิบ 4 นายที่ขอเข้าตรวจที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ หลังมีอาการจมูกไม่ได้รับกลิ่น เข้าตรวจและผลออกมาเป็นลบหรือไม่พบเชื้อ ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีนักเรียนนายสิบ 726 นายเข้าตรวจเบื้องต้นแล้ว ผลออกมาเป็นลบเช่นกัน
แม่ครัวเลยติดโควิดจากขอนแก่น
วันเดียวกัน ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 จ.เลย นายณรงค์ จีนอ่ำ รองผู้ว่าฯ เลย และนพ.ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเลย แถลงพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่จ.เลย 1 ราย
โดยนพ.ปรีดากล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายล่าสุดของจ.เลย เป็นรายที่ 7 นับตั้งแต่การระบาดระลอกใหม่ เมื่อวันที่ 1 ธ.ค.63 ผู้ป่วยรายนี้ เป็นเพศหญิง อายุ 36 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ห้วยส้ม อ.ภูกระดึง จ.เลย มีอาชีพรับจ้างอยู่ที่โรงครัว ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 4 จ.ขอนแก่น ทำหน้าที่ประกอบอาหารและเสิร์ฟอาหาร มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับพี่สาวที่ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายที่ 9 ของจ.ขอนแก่น อยู่ในจ.ขอนแก่นตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 63 เดินทางกลับจ.เลยวันที่ 7 ม.ค. 64 หลังทราบพี่สาวป่วย จึงเข้าตรวจร่างกายที่ร.พ.ศูนย์ขอนแก่น วันที่ 6 ม.ค. 64 แต่ไม่ได้รับการตรวจ เพราะไม่เข้าเกณฑ์การตรวจยืนยัน วันที่ 7 ม.ค. 2564 จึงเดินทางกลับบ้านที่อ.ภูกระดึง รู้ว่ามีความเสี่ยงสูง จึงไม่ได้ออกไปไหน ตลอดเวลาอยู่ที่บ้าน พยายามกักตัวเอง กระทั่งวันที่ 12 ม.ค. 64 เริ่มมีอาการป่วย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รสอาหารไม่ได้
“ต่อมาวันที่ 16 ม.ค.64 เข้าตรวจรักษาที่ร.พ.ภูกระดึง ผลตรวจยืนยันว่าพบเชื้อโควิด-19 ขณะนี้รักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรคของร.พ.ภูกระดึง อาการล่าสุดแพทย์ยังไม่ได้ให้ยาต้านไวรัส รักษาเหมือนเช่นผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ธรรมดา จากการสอบสวนมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 4 ราย ประกอบด้วย สามี ลูกสาว แม่ของสามี และญาติ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 2 ราย คือแม่ค้า และพระสงฆ์ ซึ่งส่งตรวจหาเชื้อทั้งหมดแล้ว คาดว่าผลจะออกในวันพรุ่งนี้” นพ.ปรีดากล่าว
ผู้ว่าฯสมุทรสาครปอดติดเชื้อ
ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสาตร์ ศิริราชพยาบาล กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯสมุทรสาครที่เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียในปอดเพิ่ม หลังจากรักษาการติดเชื้อโควิด-19 จนเกือบถอดเครื่องช่วยหายใจได้แล้ว ว่า การติดเชื้อแบคทีเรียสามารถเกิดขึ้นได้ เพราะในร่างกายคนมีเชื้ออยู่แล้ว หรืออาจมีเชื้อซ่อนอยู่ในห้อง การอยู่ในห้องความดันลบเป็นเพียงการป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ออกมาสู่ภายนอก แต่การที่ผู้ป่วยเคยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาก่อน ทำให้ปอดเกิดรอยโรค ส่งผลต่อการทำงานปอด แต่การติดเชื้อที่เกิดขึ้นนี้เป็นการติดเชื้อแบคทีเรีย จึงเป็นหลักใหญ่ที่ซ้ำเดิม ประกอบกับมีเสมหะมาก จึงต้องค้างท่อช่วยหายใจ และดูดเสมหะ
ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวว่า ทั้งนี้ ผลการเพาะเชื้อใน 24 ชั่วโมง พบว่าตอบสนองกับยา แต่ต้องให้ยาปฏิชีวนะเพิ่มเติ่มอีก 1-2 ตัว เนื่องจากเสมหะค่อนข้างเยอะ การควบคุมการติดเชื้อในปอดทำได้ดีระดับหนึ่ง แต่ยาเดิมที่ให้อยู่ยังไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด จากการเอกซเรย์ปอดดูเหมือนติดเชื้อจะเยอะขึ้น แต่ต้องมีการเอกซเรย์อีกครั้ง ทั้งนี้ทำให้แนวโน้มการถอดเครื่องช่วยหายใจต้องเลื่อนเวลาออกไปก่อน แต่ยังรู้สึกตัวเหมือนเดิม
บุคลากรแพทย์ศิริราชติด’โควิด’
ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีมีข่าวว่า พบบุคลากรทางการแพทย์ของร.พ.ศิริราชติดเชื้อโควิด-19 จนต้องสุ่มตรวจเชื้อเจ้าหน้าที่และบุคลากรเกือบ 100 รายนั้นว่า ล่าสุดรับทราบข้อมูลดังกล่าวแล้ว และวันที่ 19 ม.ค. หลังจากแถลงความคืบหน้าอาการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯสมุทรสาครแล้ว จะแถลงรายละเอียดเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการพบบุคลากรทางการแพทย์ของร.พ.ศิริราชติดเชื้อโควิด-19 จากผู้ป่วย โดยไทม์ไลน์ระบุว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค. มีเจ้าหน้าที่ภาควิชาพยาธิวิทยา ตึกอดุลยเดชวิกรม ชั้น 8 ติดเชื้อโควิด 1 ราย ให้ประวัติว่ามีคนในชุมชนใกล้ๆ ติดเชื้อมากกว่า 1 คน
ต่อมาตรวจผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของผู้ป่วยรายนี้ 16 คน พบว่ามี 4 รายที่มีอาการ URI โดยพบเชื้อ 3 ราย ส่วนอีก 1 รายตรวจไม่พบเชื้อ มีอาการเหนื่อยและออกซิเจนต่ำ จึงจะขอตรวจซ้ำ โดยทั้ง 3 ราย แอดมิตอยู่ที่ร.พ.ศิริราช
ส่วนอีก 12 รายที่ไม่มีอาการ พบเชื้อ 1 ราย กำลังอยู่ในขั้นตอนติดตามตัวเพื่อนำเข้ารักษาในร.พ. ส่วนผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อจะต้องถูกกักตัว 14 วัน และตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง นอกจากนี้สุ่มตรวจเจ้าหน้าที่ในภาควิชาพยาธิวิทยาอีก 60-80 คน
สำหรับผู้ติดเชื้อทุกรายมีประวัติสำคัญคือรับประทานอาหารร่วมกัน หรือพูดคุยกันโดยไม่สวมหน้ากากกับผู้ป่วยรายแรก
อยุธยาพบแม่ค้าผลไม้ติดเชื้อ
นพ.พีระ อารีรัตน์ สาธารณสุข จ.พระนคร ศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก ร.พ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา พบผู้ติดเชื้อโควิดระลอกใหม่ เป็นหญิงไทย อายุ 67 ปี พักอาศัยกับสามีที่บ้านพักของโรงงาน ในม.11 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนคร ศรีอยุธยา อาชีพขายผลไม้และกับข้าว แกงถุง หน้าโรงงาน จึงลงพื้นที่ค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ค้นหาผู้สัมผัสเพิ่มเติมในชุมชน จ.พระนครศรีอยุธยาพบผู้ติดเชื้อระลอกใหม่รวม 39 ราย
กทม.ป่วยโควิดอีก 18
ด้านศบค.รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบมีผู้ติดเชื้อใหม่ 18 ราย แบ่งได้ 2 กลุ่มคือ กลุ่มแรกติดเชื้อภายในประเทศจากการไปพื้นที่เสี่ยง มีอาชีพเสี่ยง หรือสัมผัสกับผู้ติดเชื้อก่อนหน้านี้ 13 ราย ประกอบด้วยเพศชาย 6 ราย อายุ 8-68 ปี เพศหญิง 7 ราย อายุ 6-53 ปี สัญชาติไทย 10 ราย เมียนมา 3 ราย มีอาการป่วย 10 ราย ไม่มีอาการ 3 ราย รักษาตัวที่ร.พ.ศิริราช 6 ราย, ร.พ.จุฬาลงกรณ์ 2 ราย และโรงพยาบาลเอกชนในกทม. 5 ราย
กลุ่มที่ 2 จากการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 5 ราย เป็นสัญชาติเมียนมาทั้งหมด แบ่งเป็นเพศชาย 4 ราย อายุ 20-40 ปี และเพศหญิง 1 ราย อายุ 32 ปี โดยทั้ง 5 ราย ไม่พบอาการป่วย และรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนใน กทม. ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ 18 ธ.ค. 2563 – 18 ม.ค. 2564 รวม 593 ราย ขึ้นมาอยู่อันดับ 3 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองจากจ.สมุทรสาคร และชลบุรี
มหาชัยติดเชื้อรายใหม่ 138
วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจ.สมุทรสาคร รายงานว่า พบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เพิ่ม 138 ราย โดยพบจากการตรวจค้นหาเชิงรุก 120 ราย เป็นคนไทย 14 ราย เป็นคนต่างด้าว 106 ราย และพบจากการตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลอีก 18 ราย จำแนกเป็นคนไทย 4 ราย และต่างด้าว 14 ราย
สำหรับผู้ป่วยยืนยันสะสมทั้งหมดมีจำนวน 4,817 ราย เป็นคนไทย ทั้งจากการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลและการค้นหาเชิงรุก รวม 1,015 ราย และคนต่างด้าว ทั้งจากการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลและการค้นหาเชิงรุก รวม 3,802 ราย
ส่วนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เป็นคนไทยที่อยู่ในระหว่างการรักษา 152 ราย ต่างด้าว 184 ราย และผู้ที่อยู่ระหว่างสังเกตอาการอีก 1,389 ราย เป็นต่างด้าวทั้งหมด ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงที่ 1 ราย
นนท์จับ 22 แรงงานต่างด้าว
เมื่อเวลา 16.00 น. นายชุ้น ณัฐเดช กังสุกุล นายอำเภอบางใหญ่ จ.นนทบุรี พร้อมอส.บางใหญ่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจค้นบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ซอยบางม่วง 3 หมู่ 6 ต.บ้านบางม่วง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี หลังได้รับเเจ้งว่ามีแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้ามาพักอาศัยโดยผิดกฎหมาย 22 คน
โดยบ้านที่แรงงานต่างด้าวพักอาศัยมี 2 หลัง หลังเเรกเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ใกล้กันเป็นห้องเช่าชั้นเดียวแบ่งเป็น 10 ห้อง บนเนื้อที่ประมาณ 70 ตร.ว. ตรวจสอบพบเเรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา 22 คนเข้ามาพักอาศัยตั้งแต่วันเสาร์ที่ 16 ม.ค. เวลา 16.00 น.ซึ่งเเรงงานต่างด้าวมาจากหลายพื้นที่ มีพาสปอร์ต 11 คน ไม่มีพาสปอร์ต 11 คน โดยมีน.ส.ซาลีนา วงศ์สำราญจริง อายุ 41 ปี ตำเเหน่งฝ่ายบุคคลของบริษัทแห่งหนึ่ง รับเป็นผู้ดูแลแรงงานต่างด้าวทั้งหมด
น.ส.ซาลีนากล่าวว่า แรงงานต่างด้าวทั้งหมดมีนายแอม ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง เป็นคนขับรถกระบะมีหลังคาปิดทึบนำเเรงงานต่างด้าวมาส่ง ซึ่งนายแอมขับมาส่ง 2 รอบ รอบละ 11 คน เบื้องต้นทราบว่าแรงงานต่างด้าวมาจากบางกะปิ ปทุมธานี และ กาญจนบุรี ตนไม่ทราบว่ามีเเรงงานต่างด้าวมาจากจ.ชลบุรี ด้วย ซึ่งบริษัทของตนให้บริษัทที่จัดหาแรงงานต่างด้าวนำเข้ามา ไม่ทราบว่าผิดกฎหมายเรื่องการโยกย้ายแรงงาน หลังจากเเรงงานต่างด้าวมาถึง ตนยังไม่ให้ทำงาน จะให้อยู่เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนด บางคนจะมีใบตรวจโควิด-19 มาด้วย ตนจะนำใบตรวจโควิดไปให้ชาวบ้านในละเเวกใกล้เคียงดูว่าแรงงานดังกล่าวได้รับการตรวจเรียบร้อยเเล้ว ส่วนแรงงานที่ยังไม่มีพาสปอร์ต ทางบริษัทจัดหาแรงงานได้แจ้งว่าจะพาไปที่จัดหางานจังหวัดเพื่อขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อนวันที่ 15 ก.พ.นี้
นายชุ้นกล่าวว่า เป็นเเรงงานต่างด้าวมาจากพื้นที่ควบคุมสูงสุด ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของอ.บางใหญ่ เป็นการขนย้ายแรงงานต่างด้าวที่ผิดพ.ร.บ.ควบคุมโรค จึงควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไว้ก่อน พร้อมประสานให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้ามาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 จากนั้นนำตัวไปสอบสวน เเละดำเนินคดีตามกฎหมาย สอบสวนเบื้องต้นพบว่าแรงงานต่างด้าวมีพาสปอร์ต 11 คน และไม่มีพาสปอร์ต 11 คน จากนั้นควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดไปที่วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการเเพทย์และสาธารณสุขกาญจนาภิเษก อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี เพื่อกักตัว 14 วัน และจะออกหมายเรียกเจ้าของบริษัทดังกล่าวเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
‘อนุทิน’ชี้เรื่องปกติแพ้วัคซีน
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงความกังวลเรื่องการฉีดวัคซีนจะไม่ปลอดภัยหลังการฉีดที่นอร์เวย์และจีนนั้นว่า ในส่วนของประเทศไทยการจัดวัคซีนและฉีดให้ประชาชน ยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลประชาชนอยู่แล้วและต้องเป็นวัคซีนที่ได้รับการยืนยันว่าปลอดภัยในภาพรวม ต้องยอมรับว่าหากฉีดคนเป็นล้านคนต้องมีอาการแพ้บ้าง และเป็นเรื่องปกติทางการแพทย์ ทางสธ.ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาบริหารจัดการเรื่องวัคซีนว่าใครเป็นกลุ่มเสี่ยงและได้รับการฉีดก่อน หรือกลุ่มไหนเป็นกลุ่มเฝ้าระวัง ซึ่งเริ่มฏิบัติงานแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา หากมีอะไรจะให้คณะกรรมการชุดนี้ออกมาแถลงอย่างเป็นทางการ พวกเราพร้อมสนับสนุนโดยคำนึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ
ผู้สื่อข่าวถามว่าในประเทศไทยต้องมีกลุ่มตัวอย่างทดลองวัคซีนกลุ่มแรกก่อนหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เวลาขึ้นทะเบียนยา ทะเบียนวัคซีน ต้องใช้ผลการทดลองของประเทศผู้ผลิตมาเป็นองค์ประกอบ เราไม่ทำอะไรที่มันแปลกแยก เพราะจะมีประเด็นอื่นแทรกเข้ามา ทุกอย่างต้องทำด้วยกัน และเวลาก็สำคัญ เพราะหากจะต้องรอปลอดภัย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีอาการแพ้ไม่มีอาการข้างเคียงเลย กลัวว่าเราจะไม่ได้วัคซีนกัน เราต้องยึดถึงหลักทางการแพทย์และองค์การอนามัยโลกยอมรับ เรามีทั้งคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อ มีทั้งแพทยสภาที่ต้องระดมกำลังกันเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับประชาชน
“เรื่องวัคซีนไม่ต้องกังวล กระทรวง สธ.มีอย.ร่วมกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะต้องตรวจสอบเอกสาร แต่ละยี่ห้อส่งเข้ามาเป็นหมื่นหน้า กว่าจะตรวจสอบและอนุมัติได้ ต้องใช้เวลาและการพิสูจน์เยอะแยะไปหมด ถือว่ามีมาตรฐานการพิสูจน์อยู่แล้วและการอนุมัติการใช้วัคซีน เพื่อแก้โควิด-19 ใช้ในมาตรฐานของมาตรการฉุกเฉิน ไม่ได้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนยังไม่สามารถสั่งเข้ามาได้ เพราะการใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลต้องเป็นผู้กำหนดอยู่ในการควบคุมของรัฐบาล” นายอนุทิน กล่าว
เล็งผ่อนปรน 28 จว.สีแดง
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯก่อนหรือไม่ว่าจะเป็นผู้ทดสอบฉีดวัคซีนก่อน นายอนุทิน กล่าวว่า ประเด็นนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เอาเรื่องของความปลอดภัยเป็นที่ตั้งและเวลาที่เราจะได้วัคซีนมาเป็นที่ตั้ง เพราะนโยบายของเราต้องฉีดให้กับประชาชนทั่วไป แต่เราไปบังคับเขาไม่ได้ ซึ่งต้องให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่สุดให้ประชาชนได้พิจรณา เราจะจัดระดับความสำคัญในการฉีด และต้องใช้เวลา เชื่อว่าจะสามารถบริหารจัดการสถาน การณ์ได้ และในประมาณเดือนมิ.ย. วัคซีนที่เราซื้อไปเริ่มให้บริการครอบคลุมกับจำนวนคนส่วนใหญ่ของประเทศได้
เมื่อถามถึงสถานการณ์ของโควิด-19 บรรเทาลง จะมีข่าวดีคลายล็อกในพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัดหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า แน่นอน ถ้าเราได้รับความร่วมมือจากประชาชนที่เฝ้าระวังตัวเอง และควบคุมโรคได้ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องผ่อนคลายการควบคุมโดยอัตโนมัติ ส่วนจะผ่อนคลายช่วงใด ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในแต่ละพื้นที่ ขณะที่รองผู้ว่าฯสมุทรสาครแจ้งว่าตลาดกุ้งกลางสมุุทรสาครจะกลับมาเปิดอีกครั้ง 27 ม.ค.นี้
ได้วัคซีนในสัปดาห์นี้
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ว่า ขณะนี้ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ว่าของบริษัทใดก็ตามมีตัวเลขเพิ่มขึ้นหลักหลายสิบล้านคน บางประเทศมีข่าวผลข้างเคียง บางรายถึงกับเสียชีวิต แต่นโยบายของนายกฯชัดเจนว่า วัคซีนที่มาฉีดให้กับคนไทยจะต้องปลอดภัย มีประสิทธิภาพเป็นที่ยอมรับ ขณะนี้มีบริษัทวัคซีน 1 แห่งยื่นเอกสารให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัย เบื้องต้นคาดว่าจะได้รับการอนุญาตให้นำวัคซีนมาใช้แบบฉุกเฉินในไทยไม่เกินสัปดาห์นี้
นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า หลังจากอย.พิจารณาเอกสารแล้วซึ่งมีเยอะมาก แต่เท่าที่ดูเชื่อว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในระดับที่ยอมรับได้ กระบวนเป็นไปตามแผนว่าจะมีวัคซีนมาฉีดให้คนไทยตั้งแต่ก.พ. เป็นต้นไป และในคณะกรรมการชุดต่างๆ ที่แต่งตั้งมา ขณะนี้เร่งดำเนินการแล้ว ส่วนเรื่องความปลอดภัยของวัคซีนนั้น เมื่อฉีดไปจำนวนมากจะมีระบบติดตามหลังฉีดวัคซีน เพื่อดูอาการอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ดูว่ามีความผิดปกติหรือไม่ เช่น การแพ้ยา อาการไม่พึงประสงค์ หากมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ก็จะมีคณะกรรมการสอบสวนให้ละเอียด นำประวัติรักษาหรือรายที่เสียชีวิตจะต้องมีการชันสูตร เพื่อหาว่าเกี่ยวข้องหรือไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน โดยมีหลักการพิจารณาว่าหากปลอดภัยและให้ฉีดต่อ หรือว่าให้หยุดฉีด ทั้งนี้คณะกรรมการมีความเป็นกลางไม่มีใครแทรกแซง โดยหลักการแล้วการฉีดวัคซีนแบบสมัครใจดีกว่าบังคับ เนื่องจากต้องฉีด 2 เข็ม การบังคับมาฉีดก็เป็นเรื่องยาก ต้องชั่งใจเพราะทุกเรื่องมีข้อดีข้อเสีย
เมื่อถามว่าขณะนี้มีการสำรวจก่อนเปิดลงทะเบียนฉีดหรือไม่ นพ.โอภาสกล่าวว่า สัปดาห์นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการ คงมีมาตรการออกมา อย่างไรก็ตามมีการทำโพลสำรวจ ผ่านแอพพลิเคชั่นหรือเจ้าหน้าที่เป็นผู้สำรวจ แต่จะต้องให้คณะกรรมการเคาะอีกที
“ระยะ 2 เดือนมานี้ ประเทศที่ฉีดกันก็ยังมีไม่ถึงสิบล้านคน ในสหรัฐก็ฉีดในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ และส่วนที่ฉีดแล้วเสียชีวิตนั้นก็จะต้องระวังมากในเรื่องของผลข้างเคียง” นพ.โอภาสกล่าว
แอสตราฯยื่นขอจากอย.แล้ว
ด้านนพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการอย. กล่าวว่า การยื่นขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกาในไทยนั้นเป็นการยื่นขอขึ้นทะเบียนในล็อตการผลิตในต่างประเทศ ขณะนี้ยื่นเอกสารต่างๆ ค่อนข้างครบถ้วนแล้ว อย่างไรก็ตาม อย.ขอให้บริษัทส่งเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของคุณภาพมาตรฐานการผลิตของโรงงานในต่างประเทศ ก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาว่า อนุมัติการขึ้นทะเบียนหรือไม่ หากเอกสารครบจะสามารถพิจารณาได้ภายใน 1 สัปดาห์
“หากวัคซีนตัวนี้ที่เป็นล็อตการผลิตในต่างประเทศได้รับการขึ้นทะเบียน จะส่งผลต่อประเทศไทย คือวัคซีนชนิดนี้ตัวนี้ที่บริษัท สยามไบโอไซเอนฯจะรับถ่ายทอดเทคโนโลยีมาผลิตในประเทศไทย 26 ล้านโดส เมื่อผลิตในประเทศแล้วเสร็จ ก็จะทำให้ขึ้นทะเบียนวัคซีนชนิดเดียวกันแต่ต่างสถานที่ผลิตได้เร็วขึ้น เพราะมีหลักฐานการผลิตเหมือนกับล็อตที่ผลิตในต่างประเทศและที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากอย.แล้ว อย่างไรก็ตาม ภาคเอกชนจะไม่สามารถนำเข้าวัคซีนตัวนี้ได้ เพราะการยื่นขึ้นทะเบียนของบริษัทแอสตราเซนเนการะบุว่าจะขายให้รัฐบาลไทย เพราะเป็นการอนุมัติการขึ้นทะเบียนในภาวะฉุกเฉิน”
หญิงไทยในเวลส์ดับเซ่นโควิด
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของวัดสังฆปทีป เเคว้นเวลส์ สหราชอาณาจักร ระบุว่า มีคนไทยในเวลส์เสียชีวิตด้วยโรคโควิด-19 ชื่อนิรชา
โดยเวลา 17.00 น. พระสงฆ์วัดสังฆปทีป จะสวดพระอภิธรรมเพื่อบำเพ็ญกุศลให้ผู้วายชนม์ โดยมีคนไทยเข้าไปร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก
ร้อง‘บิ๊กตู่’เยียวยา5พัน3เดือน
วันเดียวกัน ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายแรงงานเพื่อสิทธิประชาชนและองค์กรภาคี นำโดยนายเซี๊ย จำปาทอง ตัวแทนเครือข่าย และผู้ได้รับผลกระทบด้านแรงงานจากโควิด-19 เข้าร้องเรียนถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ผ่านนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ โดยทำกิจกรรมปราศรัย พร้อมถือป้ายข้อความ “เงินเยียวยาแรงงานต้องได้ทุกคนอย่างเท่าเทียม เงินภาษีจากประชาชนทำไมต้องลงทะเบียน”
นายเซี๊ยกล่าวว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกที่สองส่งผลต่อการจ้างงานและชีวิตของแรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการออกมาตรการต่างๆ ที่กระทบต่อผู้ประกอบการแรงงานไทยและข้ามชาติ และสถานประกอบการหลายแห่งต้องหยุดดำเนินการ โดยไม่มีงบประมาณชดเชยจากรัฐ ทั้งนี้แม้รัฐบาลจะออกมาตรการเยียวยาต่อผู้ได้รับผลกระทบจำนวนเงิน 3,500 บาท ก็ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิต อีกทั้งยังมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่ยุ่งยาก ทางเครือข่ายจึงขอเสนอให้รัฐบาล จ่ายเงินเยียวยา 5,000 บาท จำนวน 3 เดือนแก่แรงงานทุกประเภทอย่างถ้วนหน้า ทั้งแรงงานในระบบ และแรงงานนอกระบบ นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้ยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินเพื่อเปิดโอกาสชุมนุม เพราะที่ผ่านมาไม่เกิดการแพร่เชื้อจากการชุมนุม แต่มาจากการลักลอบเข้าประเทศผิดกฎหมาย
ชง‘อนุบาล-ประถม’เปิดเรียนก่อน
ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยถึงการจัดการเรียนการสอนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ตามที่ ศธ.ปิดสถานศึกษาในพื้นที่สีแดง 28 จังหวัดนั้น ตนเข้าใจดีว่าการจัดการเรียนการสอนในเวลานี้มีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเกิดขึ้น ตนจึงเซ็นประกาศ ศธ.ไม่นำผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ตในระดับชั้น ป.6 และ ม.3 มาพิจารณาในการสอบเข้า ม.1 และ ม.4 โดยให้นักเรียนเข้าสอบตามความสมัครใจ และเข้าใจดีว่าการเรียนการสอนในช่วงโควิดจะต้องมีความยืดหยุ่น
“ขณะนี้มีข้อเรียกร้องมากว่า เนื่องจากสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ระดับหนึ่งแล้ว สามารถเปิดเรียนเฉพาะเด็กอนุบาล และประถมศึกษาได้หรือไม่ เพราะเด็กกลุ่มนี้มีความจำเป็นต้องเรียนในห้องเรียน เรื่องนี้ต้องร่วมกันตัดสินใจให้หลายๆ ภาคส่วน ผมเตรียมจะเสนอ ศบค.ชุดเล็ก ขณะนี้ยังยืนยันที่จะเปิดเรียนตามกำหนดเดิมคือวันที่ 1 ก.พ. แต่จะต้องประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้านก่อน วันนี้รัฐบาลสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ดีอยู่ เพราะมีการติดเชื้อโควิด-19 วันละ 150-200 รายอยู่ และส่วนใหญ่เป็นการแพร่ระบาดเฉพาะกลุ่ม จึงสามารถสอบสวนโรคได้” นายณัฏฐพลกล่าว
ไม่ติดโควิด – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชว์ผลตรวจโควิด-19 ยืนยันว่าตนพร้อมรมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังปลอดภัยไม่ติดเชื้อ ระหว่างประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ จากทำเนียบ ไปยัง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 ม.ค.
