รองผบช.รุดพื้นที่
ชี้ยากกว่า‘ชมพู่’
รองผบช.ภาค 5 รุดไปเวียงเชียงรุ้ง จี้คดีด.ช. 7 ขวบ ดับปริศนาในป่ากล้วยสภาพเนื้อ
ตัวเขียวช้ำทั้งร่าง ชี้ถูกของแข็งทำร้าย คาดสาเหตุไม่ซับซ้อน แต่อาจยากกว่ากรณีน้องชมพู่ที่ จ.มุกดาหาร ตร.เร่งสอบปากคำพ่อ-แม่เลี้ยง และน้องสาววัย 4 ขวบ หาเบาะแสเพิ่มเติม พร้อมเร่งส่งหลักฐานหาดีเอ็นเอมือฆ่า ผญบ.โต้ข่าวเด็กถูกแก๊งค้ายาฆ่า ยันเป็นหมู่บ้านปลอดยาเสพติด
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. ที่สภ.เวียงเชียงรุ้ง จ.เชียงราย พล.ต.ต.สัณห์ โพธิ์รักษา รองผบช.ภาค 5 ประชุมร่วมกับ พล.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย ตำรวจ สภ.เวียงเชียงรุ้ง บก.สส.ภ.5 ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ติดความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ ด.ช.ธนโชต หรือน้องบ๊อบบี้ แปงเรือน อายุ 7 ขวบ ที่เสียชีวิตด้วยสภาพร่างกายบอบช้ำภายในดงกล้วยเขตหมู่บ้านใหม่มหาวัน ม.12 ต.ดงมหาวัน อ.เวียงเชียงรุ้ง เหตุเกิดวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
จากนั้นไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุที่ดงกล้วยดังกล่าวซึ่งเป็นจุดที่พบศพ จอบ 1 ด้าม รองเท้านักเรียนสีน้ำตาล 1 คู่ ท่อนไม้คล้ายฟืน 2 ท่อน รอยรองเท้านักเรียน 1 รอย เศษรถเด็กเล่น 1 ชิ้น ต้นกล้วยที่มีรอยตัดขาด 1 ต้น นอกจากนี้ห่างจากดงกล้วยประมาณ 50 เมตร เป็นบ่อปลาและโรงนาที่มีช่องเก็บท่อนฟืน จุดเกิดเหตุยังพบรอยเท้าจำนวนมาก จากการตรวจสอบยังพบว่าระยะทางจากบ้านของผู้เสีย ชีวิตเลขที่ 397 บ้านป่าสักงาม (เวียงคำฟ้า) ม.9 ต.ดงมหาวัน ห่างออกไปประมาณ 2.5 กิโลเมตร ต้องผ่านภูเขาลูกเล็กๆ และสวนยางพาราหรือแม้แต่ไปทางถนนก็เป็นเส้นทางลูกรังที่เข้าถึงได้ยาก คาดว่ามีการนำร่างของเด็กชายไปยังจุดดังกล่าวโดยที่เจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจ จะเดินทางไป
ต่อมา พล.ต.ต.สัณห์ไปพบปะกับญาติของผู้ตายที่บ้านป่าสักงามพบว่าญาติตั้งเต็นท์และพากันไปให้กำลังใจ โดยแต่ละคนต่างขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ โดย รองผบช.ภาค 5 ขอให้ทุกคนที่ทราบข้อมูลแจ้งกับตำรวจเพื่อจะได้สืบหาตัวคนร้ายต่อไป
พล.ต.ต.สัณห์กล่าวว่า คดีนี้จำเป็นต้องดูรายละเอียดทั้งหมดอีกรอบเพราะผู้ตายมีอายุเพียงแค่ 7 ขวบ ต้องหาแรงจูงใจ แต่คาดว่าสาเหตุไม่น่าจะซับซ้อน และมีเรื่องที่จะต้องเข้าไปดูรายละเอียดอีก 2-3 อย่าง เบื้องต้นที่บอกได้คือเด็กถูกของแข็งทำร้าย แต่ต้องรอดูผลการชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลนำมาเปรียบเทียบกับช่วงเวลาการเสียชีวิตต่อไป ขณะเดียวกันมีพยานที่เป็นเด็กที่เล่นกับเด็ก ที่เสียชีวิตหลายคน แต่ยังไม่ได้สอบปากคำเพราะต้องมีนักสหวิชาชีพร่วมสอบปากคำด้วย ปัจจุบันจึงอยู่ระหว่างการประสานงาน กระนั้น คาดว่าคดีนี้อาจจะยากกว่ากรณีน้องชมพู่ที่ จ.มุกดาหาร แต่ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตาม เพื่อคลี่คลายคดีอย่างเต็มที่ต่อไป
วันเดียวกันเจ้าหน้าที่เชิญนายทรงวุฒิ แปงเรือน อายุ 30 ปี บิดาของด.ช.ธนโชต พร้อมภรรยาที่เป็นมารดาเลี้ยง แต่เป็นผู้เลี้ยงดู ด.ช.ธนโชตตั้งแต่ยังเล็ก และลูกสาวคนเล็ก วัย 4 ขวบ มาให้ปากคำ ต่อหน้าเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เชียงราย เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติม รวมทั้งได้ส่งหลักฐานไปยังศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 5 จ.ลำปาง ตรวจหาหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะดีเอ็นเอที่คนร้ายอาจจะทิ้งเอาไว้ คาดว่าจะแจ้งผลให้ทราบในอีก 2 วัน
ด้านนายไทธชา แสงเสรีธรรม ผู้ใหญ่บ้านป่าสักงาม เผยว่า เป็นกลุ่มแรกที่เข้าไปตรวจสอบ ศพเด็กในวันที่พบศพ พบรอยเท้าของเด็ก คาดว่าจะมีอย่างน้อย 3 คน อยู่บริเวณไม่ห่างจากศพของ ด.ช.ธนโชต ลักษณะเป็นรอยเท้าที่หันหลังออกจากศพไปพร้อมๆ กัน เหมือนไป พบเจอสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วตกใจกลัวจึงพากัน วิ่งหนี สวนกรณีเรื่องของยาเสพติดที่เด็ก อาจไปพบเห็นนั้น เห็นว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะในหมู่บ้านไม่มีเรื่องของยาเสพติด แต่ประเด็นน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ไปสร้างความรำคาญใจแก่คนใดคนหนึ่งตามประสาเด็ก ทำให้เกิดการพลั้งมือทำร้ายจนเด็กเสียชีวิตมากกว่า อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงต้องรับฟังจากตำรวจต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการเสียชีวิตของ ด.ช.ธนโชต มีขึ้นหลังจากนายทรงวุฒิและภรรยาออกไปรับจ้างกรีดยางพาราที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย จึงขอให้น้องชายของบิดาบุญธรรมเป็นชายวัยรุ่นอายุ 16 ปี ช่วยเลี้ยงดูช่วงที่ต้องไปพักค้างแรมในสวนยางพารา ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 14 ม.ค. กระทั่งวันที่ 16 ม.ค.ได้รับแจ้งว่าบุตรชายหายตัวไปขณะที่ คนเลี้ยงดูออกไปทำธุระนอกบ้าน ทั้งหมด จึงกลับบ้าน พบว่าด.ช.ธนโชตเสียชีวิตใน ดงกล้วยห่างจากบ้านประมาณ 2.5 กิโลเมตร ในสภาพใบหน้าและลำตัวฟกช้ำพร้อมของกลาง ต่างๆ ดังกล่าว
