ฟิตเนส-กีฬาห้ามคนดู
‘ร้านเกม-สปา’เปิดได้
จับตาเคส‘ดีเจมะตูม’
ผวาระบาดคนบันเทิง
‘มหาชัย’ติดเชื้ออีก261

 

กทม.สั่งปลดล็อก 13 กิจกรรม ทั่วกรุง ให้เปิดร้านเกมร้านเน็ต ฟิตเนส สปา ส่วนกีฬาแข่งขันได้ แต่ห้ามคนดู ขณะที่ผับ บาร์ สนามมวย สนามม้า อาบอบนวด ยังต้องรอไปก่อน ศบค.จับตาเคส ‘ดีเจมะตูม’ ติดโควิด ผวาลามสู่คนบันเทิง หวั่นเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ ดารา-นักร้องที่ใกล้ชิด ดีเจคนดังแห่ตรวจหาเชื้อ ‘ดีเจพีเค’ ตรวจ 2 รอบไม่พบเชื้อ ด้านผู้ว่าฯสมุทรสาคร ยังมีอาการปอดอักเสบ เชื้อไม่กระจายเพิ่ม เตรียมประเมินเนื้อปอดเหลือเพียงพอหายใจเองหรือไม่ ‘มหาชัย’ เจอติดเชื้ออีก 261 ส่วนที่กาญจน์ ด.ช.8 ขวบติดเชื้อ จนท.สาธารณสุขไปช่วยงาน ร.พ.สมุทรสาครก็ป่วย ราชบุรีพบอีก 3 รายเป็นคนงานไปทำงานที่มหาชัย อย.อนุมัติวัคซีน แอสตร้า เซนเนก้า กลุ่มแรงงานลูกจ้างประกันสังคมตามมาตรา 33 บุกคลังจี้เยียวยาด้วยเงิน 7 พัน โวยเสียภาษีตลอด แต่ไม่เคยช่วยอะไรเลย

 

ป่วยโควิดอีก 142 ราย

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 142 ราย แบ่งเป็นติดเชื้อในประเทศ 125 ราย มาจากระบบเฝ้าระวัง 88 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 1.ผู้สัมผัสสถานที่เสี่ยง อาชีพเสี่ยง สัมผัสผู้ป่วยก่อนหน้า 88 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 63 ราย กทม. 14 ราย อ่างทอง 4 นนทบุรี 2 ราย เชียงราย ปทุมธานี ระยอง ชลบุรี และจันทบุรี จังหวัดละ 1 ราย

2.ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 37 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 29 ราย ปทุมธานี และจันทบุรี จังหวัด 3 ราย และ กทม. 2 ราย และ 3.เดินทางมาจากต่างประเทศ 17 ราย ได้แก่ ตุรกี อินเดีย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ประเทศละ 3 พม่า 2 ราย สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน และญี่ปุ่น 1 ราย

ทำให้มียอดติดเชื้อสะสม 12,795 ราย หายป่วยสะสม 9,842 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 2,882 ราย มีผู้ป่วยอาการหนัก ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 71 ราย หากนับเฉพาะระลอกใหม่ ติดเชื้อสะสม 8,558 ราย หายป่วยเพิ่ม 21 ราย หายป่วยสะสม 5,902 ราย ยังรักษาอยู่ 2,645 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 11 ราย เสียชีวิตสะสม 11 ราย

เชียงรายไข่แตก-เจอติดเชื้อ 1

ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายไปใน 63 จังหวัด ล่าสุดคือ จ.เชียงราย อย่างไรก็ตาม ตัวเลขเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ลดลงไป ยังไว้วางใจไม่ได้ เพราะวันนี้ตัวเลขเพิ่มขึ้นมาอีก ดังนั้นมัน ขึ้นๆ ลงๆ แต่เราต้องควบคุมโรคให้ได้ ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 97,306,536 ราย เสียชีวิต 2,083,257 ราย

“สำหรับการตรวจเชิงรุกโรงงานใน จ.สมุทร สาคร ยังต้องทำต่อเนื่อง ตรวจวันละ 2-3 พันราย หรือประมาณ 50 คนต่อโรงงาน ให้ได้ 60 โรงงานต่อวัน ขณะนี้เจอแรงงานจังหวัดข้างๆ เช่น ราชบุรีติดเชื้อ เนื่องจากมาทำงานสมุทรสาครกลับไปกลับมาแล้วมีการติดเชื้อ แม้คุมเข้มการเดินทางแต่ก็ไม่ได้ 100% ดังนั้น ระบบการตรวจหาเจอให้เร็วจึงสำคัญ ใครที่มีอาการต่างๆ ต้องรีบมาตรวจ หรือไม่มีอาการหรืออาการเล็กน้อย แต่สงสัยก็ต้องรีบมาตรวจ” นพ.ทวีศิลป์กล่าว

เมื่อถามถึงนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือ ดีเจมะตูมติดเชื้อโควิด-19 จะถือว่า กทม.กำลังมีการแพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้าง และจำเป็นต้องล็อกดาวน์แล้วให้มีการค้นหาเชิงรุกหรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า กรณีของดีเจมะตูมเพิ่งทราบผลเมื่อคืนวันที่ 20 ม.ค. จึงยังไม่ได้นับรวมกับผู้ติดเชื้อรายใหม่ของวันนี้ ส่วนที่ถามว่า กทม.เป็นแหล่งกระจายเชื้อหรือไม่นั้น ต้องยอมรับว่า กทม.เป็นศูนย์กลางประเทศที่เดินทางได้ง่าย จึงไม่แปลกที่จะมีการกระจายเชื้อไปทั่ว ส่วนการค้นหาเชิงรุกนั้น กทม.ดำเนินการมาตั้งแต่กลาง ธ.ค.63 ถึงปัจจุบัน มียอดค้นหาเชิงรุกสะสม 41,508 ราย พบผู้ติดเชื้อ 60 ราย วันนี้ผู้ติดเชื้อใน กทม.ถือว่ากระจายไปหลายรุ่น ไม่ใช่แค่มาจาก จ.สมุทรสาคร สถานบันเทิง หรือบ่อนการพนัน จึงต้องให้ความสำคัญเรื่องสุขลักษณะส่วนตัว

ชี้เร็วไปสรุปดีเจมะตูมซูเปอร์สเปรด

เมื่อถามว่าดีเจมะตูมจะเป็นซูเปอร์สเปรด เดอร์หรือไม่ นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า เร็วไปที่จะสรุป แต่ต้องขอชื่นชมที่ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์อย่างละเอียดตั้งแต่วันที่ 7 ม.ค. ถึงปัจจุบัน เชื่อมโยงกับหลายๆ ที่ ทั้งสถานที่ทำงาน พฤติกรรมส่วนตัว แต่ถือว่าเก่งที่จำได้ และเมื่อเห็นไทม์ไลน์ของดีเจมะตูมออกมาแล้ว อยากให้คนที่ใกล้ชิดได้แยกแยะความเสี่ยง ถ้าใกล้ชิดมากให้กักตัวเอง ถือเป็นความรับผิดชอบส่วนบุคคล หากใครติดใจสงสัยก็ไปตรวจคัดกรองโรคได้ อย่างไรก็ตาม สุขลักษณะของผู้ที่ทำงานในห้องส่ง สำคัญที่สุดคือการเว้นระยะห่าง

นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่า ส่วนที่มีหลายคนตั้งคำถามว่าเฟซชีลด์ที่เห็นในหลายรายการนิยมใช้กันเพียงพอต่อการป้องกันหรือไม่นั้น ขอบอกว่าไม่เพียงพอ การใช้เฟซชีลด์ในการจัดรายการไม่ได้ช่วยป้องกัน ขนาดหน้ากากผ้ายังกันละอองฝอยได้บางส่วน เฟซชีลด์เป็นแค่ฉากกันหน้า เวลาพูดละอองฝอยสามารถหลุดลอยออกมาได้ ถ้านั่งใกล้ๆ กันไม่ช่วยแน่นอน จะมีโอกาสรับละอองฝอยเต็มๆ หรือแม้แต่ใส่หน้ากากผ้า ถ้านั่งใกล้ชิดในห้องที่ปิดเป็นเวลานานก็ยังถือว่ามีความเสี่ยง ดังนั้น การเว้นระยะห่างจึงมีความสำคัญ

ลุ้น 31 ม.ค. เคาะผ่อนคลาย

นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ในกรุงเทพฯ ที่พบ 16 ราย ขณะที่ประชากรเป็น 10 ล้านคน ถือว่าไม่มาก และแสดงว่าพวกเราช่วยกันอยู่แต่ความเข้มข้นนั้นจะต้องต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือนม.ค. ซึ่งชุดข้อมูลต่างๆ เหล่านี้จะนำมาสู่การออกแบบ พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เสี่ยง เพื่อวางแผนกันใหม่อีกรอบหนึ่ง โดยกระทรวงสาธารณสุข กับ ศบค.ชุดเล็ก จะต้องแลกเปลี่ยนข้อมูลกันแล้ววางแผน เพื่อจะให้เกิดภาพว่าจะผ่อนคลาย หรือเข้มข้นดี ก็อยู่ที่ช่วงเวลาถึงวันที่ 31 ม.ค. ซึ่ง ผอ.ศบค.จะประชุมก่อนสิ้นเดือนม.ค. เพื่อวางแผนใหม่ จึงขอฝากทุกคนว่าขอให้เข้มข้นกันตอนนี้ เพื่อที่เดือนหน้าเราจะได้สบาย ขอให้ช่วยกันทุกคน ภาพตอนนี้ยังทรงๆ ไม่ได้ว่าจะวางใจ ขอให้เข้มการป้องกันโรคถึง 31 ม.ค.นี้

ป่วยโควิด – ‘ดีเจมะตูม’ เตชินท์ พลอยเพชร โพสต์ภาพและข้อความลงไอจี ยืนยันติดโควิดกำลังรักษาตัวอยู่ในร.พ. ขณะที่ศบค.จับตาหวั่นเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ในวงการบันเทิง ล่าสุดดาราหลายคนที่ใกล้ชิดแห่ไปตรวจหาเชื้อ เมื่อวันที่ 21 ม.ค.

‘ดีเจมะตูม’เปิดไทม์ไลน์ติดโควิด

ส่วนกรณี “ดีเจมะตูม” นายเตชินท์ พลอยเพชร ดีเจและดาราหนุ่มชื่อดังโพสต์คลิปแจ้งว่า ตนเองติดโควิด-19 พร้อมขอโทษเพื่อน และคนใกล้ชิด ที่เจอกันภายในระยะเวลา 14 วันที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด ดีเจมะตูม โพสต์ไทม์ไลน์ลงบนอินสตาแกรม พร้อมระบุว่า “ทางมะตูมไม่นิ่งนอนใจที่จะรับผิดชอบต่อส่วนรวม จึงขออนุญาตเปิดเผยไทม์ไลน์เบื้องต้น มะตูมได้แจ้งเพื่อนร่วมงานและทางทีมงานที่ได้ร่วมงานกันในวันที่มีความเสี่ยงแล้ว

“มะตูมเจอเพื่อนที่ติดเชื้อวันที่ 9 ม.ค.โดยไม่มีอาการใดๆ และทราบอีกทีวันที่ 18 ม.ค. เพื่อนมะตูมโทร.มาแจ้งว่าพบเชื้อ จึงรีบไปตรวจและแจ้งผลกับทุกคน มะตูมรู้สึกผิดและเสียใจมากที่นำความเสี่ยงมาให้ทุกคน จึงอยากขอโทษเพื่อนๆ ร่วมงาน และทุกคนที่มีส่วนในครั้งนี้ด้วยครับ”

สำหรับไทม์ไลน์ระบุว่า ไม่มีการแสดงอาการป่วยในระหว่างนี้เลย ได้แจ้งทุกคนที่มีการทำงานร่วมกัน และพบปะแล้ว แจ้งสถานที่ต่างๆ ที่เดินทางไป และทางร้านยืนยันจะทำความสะอาดร้านและให้พนักงานกักตัว 14 วัน

7 ม.ค. อยู่ที่พัก (คอนโดฯย่านลาดพร้าว) 20.00 น. เดินทางไปเซ็นทรัล ลาดพร้าวด้วยรถตู้ส่วนตัว(โซน เพาเวอร์บาย)

8 ม.ค. เวลา 07.50 น. จัดรายการวิทยุที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 16.00 น. เดินทางไปธุระที่โรงแรมบันยันทรี โดยรถส่วนตัว 18.00 น.เดินทางไปบิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า ลาดพร้าว พักอาศัยที่คอนโดฯย่านลาดพร้าว

9 ม.ค. 09.00 น. เดินทางไปโรงแรมบันยันทรี โดยรถส่วนตัว พักอาศัยที่โรงแรมบันยันทรี มีการขึ้นไปรับประทานอาหารเย็นที่ดาดฟ้า (ปฏิบัติตามกฎระเบียบทางรัฐทุกข้อ มีการวัดอุณหภูมิ เว้นระยะห่าง และสวมใส่แมสก์) มีเพื่อนๆ และคุณแม่แวะมาหาที่ร้านอาหาร และร่วมทานข้าว

10 ม.ค.17.00 น. เช็กเอาต์ จากโรงแรม บันยันทรี 19.00 น. ทานอาหารที่ร้าน Joha korean bar ย่านอารีย์

11-17 ม.ค. พักผ่อนอยู่ที่คอนโดฯ

18 ม.ค. 06.30 น. ถ่ายรายการโทรทัศน์ที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 12.00 น.ถ่ายรายการโทรทัศน์ที่ร้านกะทิบ้านอาหารไทยและขนม 17.00 น. ทานอาหารที่ร้านย่างเนยรัชดา (แมนชั่น 7)

เดินทางกลับที่พัก

19. ม.ค. 06.40 น. ถ่ายรายการโทรทัศน์ที่ตึกจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ 12.30 น. เดินทางไปทำงานที่เซ็นทรัล เอ็มบาสซี่ 17.00 น.เดินทางไปฟู้ดแลนด์ เดอะ สตรีท รัชดา 19.00 น. เพื่อนที่ไปร่วมรับประทานอาหาร วันที่ 9 ม.ค. โทร.มาแจ้งว่า ไปตรวจโควิด พบว่าติดเชื้อ 22.00 น. เดินทางไปตรวจโควิดที่ร.พ.กรุงเทพ ถนนเพชรบุรี

20 ม.ค. 18.20 น.ทางโรงพยาบาลโทร. มาแจ้งว่าพบเชื้อโควิด 20.00 น. เดินทางไปรักษาที่ร.พ.กรุงเทพ โดยรถของโรงพยาบาลมารับ

‘พีเค’โร่ตรวจโควิด-ใกล้ชิดมะตูม

วันเดียวกัน “ดีเจพีเค” ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร ซึ่งเป็นหนึ่งในคนที่ใกล้ชิดกับดีเจมะตูม โพสต์ไอจีระบุว่า “ไปตรวจโควิดที่โรงพยาบาล 2 รอบแล้ว ปรากฏว่าผ่าน 2 รอบ และขอส่งกำลังใจให้คนที่โดนแคนเซิลงาน”

ด้าน “หญิง-อภิสรา” ภรรยาของ แจ็ค เชิญยิ้ม โพสต์ไอจีว่า “กำลังขับรถไปถ่ายงาน โดนโทร.มายกเลิกงานกลางถนน เพราะเมื่อวานแจ็คไปถ่ายงานมากับพีเค”

เผยดีเจมะตูมติดเชื้อในงานเลี้ยง

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงว่า กรณีดีเจมะตูม มีการให้ไทม์ไลน์อย่างละเอียดมาก พบว่า จุดติดเชื้อคือการไปรับประทานอาหารงานเลี้ยงกับเพื่อนคนหนึ่งวันที่ 9 ม.ค. ซึ่งเพื่อนก็ติดเชื้อจากการไปสถานบันเทิงที่เคยเป็นข่าวไปแล้วที่ภาคเหนือ และทราบว่าเพื่อนที่ไปรับประทานอาหารด้วยติดเชื้อ จึงไปตรวจวันที่ 19 ม.ค. ดังนั้นวันที่รับเชื้อคือวันที่ 9 ม.ค. คนสัมผัสตั้งแต่วันที่ 7-8 ม.ค. จึงไม่เสี่ยง คนที่เสี่ยงมากคือวันที่ 11 ม.ค. ขึ้นไป เพราะระยะฟักตัวสั้นที่สุดคือ 2 วัน วันที่ 11 ม.ค.จึงเป็นวันเริ่มต้น และเสี่ยงสูงสุดคือวันที่ 17-19 ม.ค. อย่างไรก็ตามผู้ที่อยู่ในไทม์ไลน์และสงสัยสามารถปรึกษาแพทย์ใน ร.พ.ได้ และรับการตรวจ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับดีเจมะตูม อยู่ระหว่างการสอบสวนซึ่งต้องขอเวลา โดยผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือ ผู้ที่ถูกผู้ติดเชื้อไอหรือจามใส่ หรือผู้ที่พูดคุยใกล้ชิด 5 นาที และอยู่ร่วมในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท 15 นาทีขึ้นไป แต่ความเสี่ยงจะลดลงหากใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ดังนั้น ผู้ที่รู้ตัวเองว่าเข้าข่ายผู้สัมผัสเสี่ยงสูงต้องกักตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นที่บ้านหรือสถานที่ที่รัฐจัดให้ และต้องตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการอย่างน้อย 2 ครั้ง คือวันที่ 1 ของการเริ่มกักตัว และวันที่ 5-7

“ส่วนกรณีที่มีการจัดงานลงนามร่วม พัฒนาหลักสูตรอาหาร-ผลิตภัณฑ์จาก กัญชา กัญชง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เข้าร่วม ซึ่งมีอ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ ที่สัมผัสกับดีเจมะตูมเข้าร่วมด้วยนั้น อ.ยิ่งศักดิ์กักตัวเอง และตรวจแล็บ โดยทีมสถาบันบำราศนราดูรเก็บตัวอย่างตรวจเชื้อแล้ววันที่ 20 ม.ค. ผลเป็นลบ ดังนั้น วันที่ 20 ม.ค. ถือว่าไม่มีเชื้อ ไม่สามารถแพร่เชื้อให้ใครได้ ผู้ที่สัมผัสกับ อ.ยิ่งศักดิ์ช่วงก่อนวันที่ 20 ม.ค. ถือว่าไม่มีความเสี่ยง จึงยังปฏิบัติงานได้ตามปกติ ไม่ต้องกักตัว ท่านใดที่มีกิจกรรมเสี่ยง ไปสถานบันเทิงที่เคยประกาศชื่อหลายครั้งในเชียงใหม่ หรือบ่อนพนัน ถ้ายังไม่ตรวจขอให้ไปตรวจ นพ.โอภาสกล่าวและว่า ส่วนกรณีข่าวว่าพบผู้ติดเชื้อวัดสังฆทาน จ.นนทบุรี 300 คน เมื่อวันที่ 19 ม.ค. จริงๆ เป็นการตรวจเชิงรุก ของเจ้าหน้าที่ เป็นคนไทย 104 คน และต่างด้าว 51 คน กำลังรอผล ซึ่งส่วนใหญ่ออกมาว่าไม่ติดเชื้อ จึงขออย่าแชร์ต่อ เพราะไม่เป็นความจริง

ผู้ว่าฯ มหาชัยยังมีปอดอักเสบ

วันเดียวกัน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ว่า จากการประเมินในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ยังมีการอักเสบของปอด ยังต้องให้ยาปฏิชีวนะ ขณะนี้คิดว่าน่าจะคุมเชื้อได้ เพราะยังไม่พบการกระจายไปยังส่วนอื่น และให้ยาคลายกล้ามเนื้อและให้ยานอนหลับเพื่อลดการต้านการใช้เครื่องช่วยหายใจ อย่างไรก็ตาม จากการใช้ยาทำให้ลำไส้ช้า จึงมีการเติมอาหารทางเส้นเลือดด้วย ส่วนเรื่องอื่นปกติดี ทั้งชีพจร ความดันโลหิต ไม่ต้องให้ยาช่วยความดันหรือยากระตุ้นหัวใจ

ศ.นพ.ประสิทธิ์กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องติดตามต่อ คือปอดและการติดเชื้อ โดยหลังจากจัดการเชื้อในปอดแล้ว เนื้อปอดของผู้ว่าฯ สมุทรสาคร ยังเหลือพอที่จะทำงานได้เองโดยไม่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าท่านสามารถนอนหงายได้ ระดับออกซิเจนเป็นปกติ แต่เนื่องจากยังใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่เมื่อเริ่มมีอาการถอยการใช้เครื่องช่วยหายใจ ปรากฏว่ามีอาการเหนื่อย ออกซิเจนไม่เพียงพอ ก็ต้องกลับมาใส่ใหม่ จึงต้องประเมินว่าเนื้อปอดเหลือเท่าไร เพียงพอกับการหายใจเองหรือไม่ เพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

‘มหาชัย’ติดโควิดเพิ่ม 261

วันเดียวกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 261 ราย พบจากการตรวจค้นหาเชิงรุกรวม 212 ราย เป็นคนไทย 16 ราย และคนต่างด้าว 196 ราย และพบจากการตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาลอีก 49 ราย เป็นคนไทย 24 ราย และคนต่างด้าว 25 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 5,182 ราย เป็นคนไทย 1,085 ราย และคนต่างด้าว 4,097 ราย

ส่วนผู้ป่วยที่รักษาในโรงพยาบาล เป็นคนไทยที่อยู่ระหว่างการรักษา 148 ราย ต่างด้าว 213 ราย และผู้ที่อยู่ระหว่างสังเกตอาการ 1,528 รายซึ่งเป็นคนต่างด้าวทั้งหมด ผู้ที่รักษาหายจากโรงพยาบาลกับผู้ที่เฝ้าสังเกตอาการจนครบกำหนดแล้วไม่พบเชื้อ สามารถกลับบ้านได้ 3,292 ราย ผู้เสียชีวิตยังคงที่ 1 ราย

การค้นหาเชิงรุกทั้งหมด 4,898 ราย ผลการตรวจแล็บวันนี้ 4,087 ราย พบเชื้อ 212 ราย ยอดสะสมผู้พบเชื้อ 4,042 ราย

กาญจน์ป่วยอีก 2-ด.ช. 8 ขวบด้วย

ด้านสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี แจ้งว่า พบผู้ติดเชื้อโควิดอีก 2 ราย เป็นเด็กชายอายุ 8 ขวบ และอายุ 33 ปี

โดยไทม์ไลน์ของด.ช. 8 ขวบ วันที่ 9 ธ.ค.63 เรียนที่โรงเรียนในกทม.วันสุดท้าย วันที่ 10-19 ธ.ค.63 อาศัยอยู่บ้านกับพ่อแม่น้องสาว ซึ่งทำงานในกทม.วันที่ 20 ธ.ค.63 เดินทางพร้อมพ่อแม่และน้องสาว มาเยี่ยมและพักบ้านญาติที่ต.หนองโสน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี เนื่องจากที่ทำงานแม่ให้ทำงานแบบเวิร์ก ฟรอมโฮม วันที่ 21-25 ธ.ค.63 พักอยู่บ้านวันที่ 26-27 ธ.ค.63 ไปซื้อของที่ตลาดเลาขวัญ วันที่ 28-31 ธ.ค.63 พักอยู่บ้าน

วันที่ 1-3 ม.ค. 64 ออกไปซื้อของที่ตลาดสดเลาขวัญ วันที่ 4-14 ม.ค. พักอยู่บ้าน วันที่ 15 ม.ค. มารดาตรวจพบซากเชื้อ เวลา 21.30 น. แพทย์รับไว้รักษาตัวที่ร.พ.มะการักษ์ วันที่ 16 ม.ค. ผลตรวจของบิดาและมารดาไม่พบเชื้อ วันที่ 17 ม.ค. ผลตรวจหาเชื้อของผู้ป่วย กำกวม วันที่ 18 ม.ค. บิดา มารดา น้องสาว และผู้ป่วยตรวจพบมีภูมิคุ้มกันโรคติดเชื้อโควิด วันที่ 19 ม.ค. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อ

ส่วนผู้ติดเชื้อรายที่ 2 มีไทม์ไลน์ ดังนี้ 11-14 ม.ค. ปฏิบัติงานสอบสวนโรคใน จ.สมุทรสาคร วันที่ 15 ม.ค. เวลา 08.00 น. ผลตรวจพบเชื้อ 1 ราย วันที่ 15-19 ม.ค. กักตัวที่บ้านพัก วันที่ 20 ม.ค. เวลา 18.00 น.ตรวจหาเชื้อ และวันที่ 21 ม.ค. ผลตรวจพบเชื้อ เข้ารักษาที่ร.พ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี

ด้านนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าฯกาญจนบุรีโพสต์เฟซบุ๊กว่า “ได้รับรายงานจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด พบผู้ติดเชื้ออีก 2 ราย รายแรกเป็นเด็กมาจากกทม. มีเชื้ออ่อนๆ อยู่มะการักษ์ และรายที่ 2 จนท.สาธารณสุขของเราที่ไปช่วยงานที่ร.พ.สมุทรสาคร ขณะนี้อยู่ที่ร.พ.ท่าม่วง รวมผู้ติดเชื้อที่อยู่ในร.พ. 3 ราย”

ตรวจแม่สอด – เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และอาสาสมัครชุมชนตรวจค้นหาเชิงรุก 2 หมู่บ้าน ต.แม่ปะ อ.แม่สอด จ.ตาก มีแรงงานต่างชาติพักอาศัยเป็นจำนวนมาก หลังตรวจพบชาวเมียนมา 6 คนติดเชื้อโควิด ในจำนวนนี้มีทารก 4 เดือนด้วย เมื่อวันที่ 21 ม.ค.

ราชบุรีติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย

ด้านนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ รองผู้ว่าฯราชบุรี แถลงว่า พบผู้ป่วยติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย รวมยอดสะสมระลอกใหม่ 27 ราย โดยผู้ป่วยใหม่รายที่ 25 – 27 เป็นชาวอ.ปากท่อ ทำงานที่โรงงานในจ.สมุทรสาคร ไทม์ไลน์ส่วนใหญ่จะอยู่ที่บ้านพักและโรงงาน ใช้รถรับส่งของโรงงาน

ทีมสอบสวนโรคกักตัวและตรวจหาเชื้อกับผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ป่วยทั้งคนในครอบครัวและผู้ที่โดยสารรถรับส่งแล้ว จากนี้จะดูสถานการณ์ 3-4 วัน หากยังมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจะเพิ่มความเข้มข้นขึ้นแก่ผู้เดินทางไปทำงานข้างต้น นอกจากนี้ที่ประชุมแจ้งถึงการกำหนดเปิดเรียนวันที่ 1 ก.พ.นี้ ตามกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หรือสพฐ.

กทม.ปลดล็อก 13 กิจกรรม

วันเดียวกัน ที่ศาลาว่าการกทม. ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพ มหานคร แถลงผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพฯ ซึ่งมีพล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เป็นประธานการประชุมว่า ช่วงที่มีผู้ป่วยมาก ช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา และต้นปีที่มีผู้ป่วย 49 รายต่อวัน แต่ปัจจุบันกรุงเทพฯมีผู้ป่วย 10 รายต่อวัน เปรียบเทียบการแพร่ระบาดควบคุมเร็วกว่าเดิม โดยใช้เวลา 1 เดือน

คณะกรรมการหารือกับคณะแพทย์ อาจารย์โรงเรียนแพทย์ ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบมาตรการผ่อนปรน 13 สถานที่ โดยสถานที่ที่จะเปิดโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่ดครัด ดังนี้ 1. สถานที่เล่นตู้เกม มีมาตรการทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อย ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ ต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา

2.ร้านเกมและร้านอินเตอร์เน็ต ทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อยผู้ให้บริการ /ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา 3.สถานดูแลผู้สูงอายุ ลดเวลาในการทำกิจกรรมหลีกเลี่ยงการติดต่อสัมผัสกัน 4.สนามแข่งขันทุกประเภท ยกเว้น สนามมวย สนามม้า ห้ามมีผู้นั่งชมและปฏิบัติตามมาตรการ 5.สถานที่ให้บริการห้องจัดเลี้ยง สถานที่จัดเลี้ยง รวมถึงสถานที่อื่นใดที่มีลักษณะทำนองเดียวกัน โดยทานจาก Set Box เท่านั้น จำนวนไม่เกิน 300 คนดำเนินการตามมาตรการ จำนวนคนเกิน 300 คนต้องขออนุญาตจากสำนักอนามัย 6.สนามพระเครื่อง ศูนย์พระเครื่องควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการห้ามไม่ให้แออัด

7.สถานเสริมความงาม (ไม่ได้รับอนุญาตเป็นคลินิกเวชกรรม) สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังทำความสะอาดที่ต้องสัมผัสบ่อยผู้ให้บริการ / ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการ 8. สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนสไม่ให้มีเทรนเนอร์ / ผู้ฝึกสอน งดเว้นการอบตัวอบไอน้ำแบบรวม เว้นระยะห่างระหว่างเครื่องออกกำลังกายอย่างน้อย 2 เมตร 9.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพสปาและสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้าผู้ให้บริการ / ผู้ใช้บริการสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นสถานประกอบกิจการอาบน้ำ /อาบอบนวด

10.สนามฝึกซ้อมมวย โรงยิมหรือค่ายมวยเปิดได้เฉพาะเพื่อการฝึกซ้อมการชกลม โดยไม่มีคู่ชก การชกมวยแบบล่อเป้าห้ามจัดให้มีการแข่งขันและไม่มีผู้ชม 11.สนามที่เล่นโบว์ลิ่งสเกตหรือโรลเลอร์เบลดหรือการละเล่นอื่นๆ ในทำนองเดียวกัน ห้ามจัดให้มีการแข่งขันและห้ามมีผู้ชม 12.สถาบันลีลาศหรือสอนลีลาศ ห้ามจัดให้มีการประกวดแข่งขันและห้ามมีผู้ชม 13. โรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้ (ยิม) ห้ามไม่ให้มีการแข่งขันและห้ามมีผู้ชม

ทั้งนี้จะเริ่มให้เปิดกิจกรรมได้ ในเวลา 00.01 น. วันที่ 22 ม.ค.เป็นต้นไป

‘ผับ-บาร์-สนามมวย’ยังปิดต่อ

ส่วนสถานที่ที่ยังปิด ดังนี้ 1.สถานที่บริการผับบาร์ สถานบันเทิงและสถานประกอบการใดที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายสถานบริการ 2.สนามเด็กเล่นเครื่องเล่นสำหรับเด็กในตลาด ตลาดน้ำและตลาดนัด 3.สนามมวย 4.โต๊ะสนุ้กเกอร์บิลเลียด 5.สนามม้า 6.สนามชนไก่และสนามซ้อมชนไก่ 7.สนามชน โคสนามปลากัดหรือสนามแข่งขันอื่นในลักษณะทำนองเดียวกัน

8. สถานรับเลี้ยงเด็ก (ยกเว้นที่มีการรับตัวไว้พักค้างคืนเป็นปกติธุระ) 9.สถานประกอบกิจการอาบน้ำ 10. สถานประกอบกิจการอาบอบนวด 11.ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเด็กก่อนวัยเรียน 12.สวนน้ำสวนสนุก 13. อาคารสถานที่ของโรงเรียนสถาบันกวดวิชาและสถาบันศึกษาทุกประเภทฯ (ปฏิบัติตามประกาศของศบค.) ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดได้

อย.ไฟเขียววัคซีนแอสตร้าฯ

นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวว่า เมื่อ วันที่ 20 ม.ค. มีการลงนามขึ้นทะเบียนวัคซีน โควิด-19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ล็อตที่ผลิตในประเทศอิตาลี

หลังจากทางบริษัทส่งเอกสารเกือบ 10,000 หน้ามาขอขึ้นทะเบียนในไทย เพื่อใช้ฉีดภาวะฉุกเฉิน ตั้งแต่ 22 ธ.ค.63 โดยพิจารณาถึงเรื่องประสิทธิภาพ คุณภาพ และความปลอดภัยเป็นสำคัญ

ทั้งนี้วัคซีนดังกล่าวจะถึงไทยในเดือนก.พ. 50,000 โดส สำหรับใบอนุญาตการนำเข้า และทะเบียนวัคซีนมีระยะเวลา 1 ปี เมื่อวัคซีนถึงไทย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จะสุ่มตรวจวัคซีนว่ามีคุณภาพตามที่บริษัทกำหนดไว้หรือไม่ ก่อนนำไปใช้ฉีดให้กับประชาชน จากนั้นทางบริษัทจะทยอยส่งวัคซีนที่เหลืออีก 150,000 โดส ตามมาภายในเดือน มี.ค. – เม.ย.

นพ.ไพศาลกล่าวต่อว่า สำหรับการผลิตวัคซีนโควิด-19 แอสตร้าเซนเนก้าในไทยที่ร่วมกับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ นั้น จะขึ้นทะเบียนสถานที่ผลิตในไทย ซึ่งจะมีผลให้สามารถใช้ได้ในประเทศไทยทันที ในเดือนพ.ค.

ลูกจ้างประกันสังคมฮือขอ 7 พัน

เมื่อเวลา 11.00 น. นายชาลี ลอยสูง รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) พร้อมสมาชิกเดินทางมาที่กระทรวงการคลัง เพื่อยื่นหนังสือต่อนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ขอให้เร่งเยียวยาลูกจ้างซึ่งอยู่ในระบบประกันสังคมกว่า 11 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิดระลอกใหม่ของรัฐบาลเป็นกรณีเร่งด่วน โดยมีตัวแทนจากสำนักงานปลัดกระทรวงการคลังลงมารับมอบหนังสือ

นายชาลีกล่าวว่า ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 19 ม.ค.เห็นชอบมาตรการดูแลผู้ประกอบอาชีพอิสระ เกษตรกร ผู้มีรายได้น้อยกว่า 31 ล้านคน โดยให้เงินช่วยเหลือ รายละ 7,000 บาท ช่วง 2 เดือน แต่ไม่ครอบคลุมถึงแรงงานที่อยู่ในระบบประกันสังคมตามมาตรา 33 กว่า 11 ล้านคน และพนักงานรัฐวิสาหกิจ 4 ล้านคน ซึ่งได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน บางรายถูกลดชั่วโมงและวันทำงาน ทำให้รายได้ลด แต่หนี้สินไม่ลด ค่าครองชีพสูงขึ้นต่อเนื่อง

“ผู้มีประกันสังคมกลุ่มนี้ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเลย ทั้งๆ ที่จ่ายภาษีให้รัฐบาลทุกปี แต่พอมีปัญหารัฐบาลก็ไม่เคยช่วยเหลืออะไรเลย เพราะมองว่าเป็นผู้มีรายได้ประจำ และไม่ได้ตกงาน ขณะที่ กระทรวงแรงงาน รวมทั้ง สำนักงานประกันสังคม ก็ไม่มีมาตรการช่วยเหลือ นอกจากปรับลดเงินสมทบ และจ่ายคืนในกรณีที่ตกงานเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นธรรม จึงขอให้รัฐบาลและกระทรวงการคลังพิจารณาช่วยเหลือโดยเร่งด่วน 2 ข้อ คือ 1.กรณีลูกจ้างผู้ประกันตนตามาตรา 33 และพนักงานรัฐวิสาหกิจ ให้ได้รับเงินเยียวยาตามมาตรการของรัฐบาล เดือนละ 3,500 บาท เป็นเวลา 3 เดือนอย่างถ้วนหน้า และ 2.ขอให้รัฐบาลควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของประชาชน หรือจัดจำหน่ายสินค้าราคาถูกให้ประชาชนในช่วงโควิด-19 ระบาด” นายชาลีกล่าวและว่า หากข้อเรียกร้องไม่ได้รับการตอบรับจากกระทรวงการคลัง ก่อนจะเริ่มแจกเงินเยียวยาในมาตรการเราชนะ ตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ.นี้ คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย เตรียมตัวไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ทำเนียบรัฐบาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน