ฝากเตือนย้ำ-ระวังบาปกรรม
‘ลุงพล’เผยหารือทนายตั้มแล้ว
ถ้าถูกออกหมายก็พร้อมสู้คดี

‘บิ๊กปั๊ด’ เผย ผลจับเท็จคดีน้องชมพู่ สัปดาห์นี้สรุปแน่ ฝากถึงคนร้ายให้คิดบาปบุญ หนีได้ชั่วคราว เหนื่อยก็มาคุยกัน ว่าเหตุเกิดจากอะไร สภ.กกตูมสรุปคดีลุงพลครอบครองไม้หวงห้ามแล้ว จ่อออกหมายเรียกมารับข้อหา ขณะลุงพลมั่นใจ ทาบทามทนายรอสู้คดีแล้ว

จากกรณีน้องชมพู่ เด็กหญิงวัย 3 ขวบ เสียชีวิตอย่างปริศนาบนเขา ที่บ้านกกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร โดยตำรวจต่างระดมกำลังกันออกหาเบาะแสของคดี พร้อมเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและคนในครอบครัวมาเข้าเครื่องจับเท็จ เพื่อหาข้อเท็จจริงในคดี

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 21 ม.ค. พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กล่าวว่า สำหรับคดีน้องชมพู่ สัปดาห์นี้ทราบว่าจะสรุปการแปรผลจากเครื่องจับเท็จแล้วจะรายงานให้ทราบ ส่วนตัวมองว่าการออกหมายจับนั้นยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่ตนไม่ได้รู้อะไรดีไปกว่าชุดสืบสวนสอบสวนที่ทำงานอยู่ ใครลุ้นอยู่ก็ลุ้นต่อไป

“ฝากถึงคนร้ายว่าให้คิดถึงเรื่องบาปบุญ ท่านก็หนีได้ชั่วคราว หากเหนื่อยแล้วก็มานั่งจับเข่าคุยกันดีกว่าว่าเหตุเกิดจากอะไร”

วันเดียวกัน นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่าผู้เชี่ยวชาญของศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 1 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จะสรุปผลที่ได้จากการใช้เครื่องจับเท็จ แล้วส่งให้พนักงานสอบสวนในคดีน้องชมพู่ดำเนินคดีต่อไปนั้น หากพนักงานสอบสวนออกหมายจับตนเป็นผู้ต้องหาก็ได้เตรียมตัวต่อสู้คดีไว้แล้ว โดยจะขอให้นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้มเข้ามาเป็นทนายว่าความต่อสู้คดีให้ โดยก่อนหน้านี้ก็ได้เคยพูดคุยกับทนายตั้มเพื่อให้มาเป็นทนายความไว้แล้ว ซึ่งหากได้ทนายตั้มเข้ามาดูแลคดีอย่างใกล้ชิดก็จะช่วยสร้างความมั่นใจและรู้สึกอบอุ่นมากยิ่งขึ้น

ลุงพลยังกล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำไม้มะค่าแต้ไปเก็บรักษาไว้ พร้อมแจ้งข้อหาครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ..2484 ต่อสภ.กกตูม ว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ป่าไม้เคลื่อนย้ายไม้ออกไปจากศาลแม่ตะเคียนโสรภี ได้ดูเหตุการณ์จากช่องยูทูบอยู่ที่บ้านไม่ได้ออกมาดูด้านนอก หากการกระทำดังกล่าวที่เขากำลังกระทำกับตนอยู่ เมื่อทำไปแล้วทำให้ครอบครัวเขาสบายใจ ทำให้เขาสูงขึ้นไปอีก ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย ก็ขอให้สิ่งที่เขาปรารถนาประสบความสำเร็จ

นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า กรณีครอบครองไม้ต้องห้ามนั้น ลุงพลให้การปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่เข้าใจข้อกฎหมายและ ไม่ได้นำมาครอบครองเพื่อตนเอง แค่นำมาให้ชาวบ้านที่นับถือกราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเท่านั้น ส่วนที่ร้องเรียนเรื่องการทำงานของยูทูบเบอร์ว่ากีดกั้นทำการทำงานของผู้สื่อข่าวส่วนกลางนั้น ได้ทำความเข้าใจในเรื่องการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวส่วนกลางเรียบร้อยแล้ว ส่วนทางยูทูบเบอร์ก็สามารถติดตามถ่ายทอดสดได้ มีข้อจำกัดอะไรขอให้ทำงานไปตามปกติ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กกตูม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สอบสวนเจ้าหน้าที่ป่าไม้พร้อมทั้งรวบรวมวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องในสำนวนคดีเรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะสามารถออกหมายเรียกลุงพลมารับทราบข้อกล่าวหาได้ภายในเร็ววันหน้านี้

ทั้งนี้ นายวีระ ใสแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 (ขอนแก่น) ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ศูนย์ป่าไม้มุกดาหาร เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มห.2 (ดงหลวง) เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน สภ.กกตูม และฝ่ายปกครอง อ.ดงหลวง ร่วมกันนำไม้มะค่าแต้ ความยาว 3.25 เมตร ความกว้าง 140 ซ.ม. ซึ่งก่อนหน้านี้ลุงพลและชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นไม้ตะเคียนทอง ที่ได้ยึดไว้เป็นของกลางตามบัญชียึดทรัพย์ที่ 9/2564 เนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายไชย์พล ในข้อหาครอบครองไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ..2484 ต่อพนักงานสอบสวนสภ.กกตูม เป็นคดีอาญาที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา

โดยเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันยกท่อนไม้ ดังกล่าวจากบริเวณศาลแม่ตะเคียนโสรภี ข้างบ้านของลุงพล ขึ้นรถยนต์กระบะบรรทุก หมายเลขทะเบียน บฉ.9704 นำไปเก็บ รักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าไม้ที่ มห.2 (ดงหลวง) หลังจากก่อนหน้านี้ได้มอบหมายให้นายนิ่ม เงินนาม ผู้ใหญ่บ้าน ต.กกตูม เป็นผู้ดูแลรักษา โดยจะดำเนินการตามข้อกฎหมายด้วยการออกหมายเรียกลุงพลมารับทราบ ข้อกล่าวหาคดี พ.ร.บ.ป่าไม้

คดี‘ชมพู่’ – พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ฝากบอกถึงคนร้ายคดีน้องชมพู่ให้คิดถึงบาปบุญ หากหนีเหนื่อยแล้ว ให้มานั่งคุยกัน ขณะที่ ลุงพลเผยได้หารือทนายพร้อมต่อสู้คดีแล้ว เมื่อวันที่ 21 ม.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน