จับหนุ่มปล้นแบงก์ห้างอ้างหนี้ท่วม-หาเงินใช้ – ผบช.น.นำบัญชาการจับโจรหนุ่มปล้นเงิน 6.1 แสน ธนาคารกรุงไทย สาขาห้างดังบางกะปิ จนมุมคาห้องพักซอยลาดพร้าว 140 พร้อมเงินสด 2 แสน สารภาพสิ้น เป็นเซลส์ขายนาฬิกาห้าง ย่านบางนา อ้างต้องหาเงินใช้หนี้จำนวนมาก โปะบัตรเครดิตแล้ว 5 หมื่น โอนให้พ่อแม่ 2.5 แสน ก่อนก่อเหตุวนเวียนดูลาดเลา หลายครั้ง เลือกธนาคารนี้เพราะไม่มีรปภ. คนไม่พลุกพล่าน หลังก่อเหตุนั่งแท็กซี่ ต่อรถเมล์ ดำเนินชีวิตปกติก่อนถูกจับ

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 27 ม.ค. ที่อพาร์ตเมนต์ในซอยลาดพร้าว 140 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผบช.น., พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น ผบก.น.4,พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.สส.บก.น.4 และ พ.ต.อ.รุ่งสกุล บุญกระพือ ผกก.สน.ลาดพร้าว ร่วมกันนำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมนายสุวิทย์ สิทธิแสน อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงเงินสด 610,000 บาท จากธนาคาร กลางห้างดังย่านบางกะปิ เหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมของกลางเงินสด 200,000 บาท ควบคุมตัวนายสุวิทย์ มาสอบปากคำที่ สน.ลาดพร้าว

ต่อมาเวลา 12.30 น. พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้น นายสุวิทย์ให้การรับสารภาพว่า เป็นเซลส์ขายนาฬิกาในห้างสรรพสินค้าย่านบางนา โดยอ้าง ที่ก่อเหตุไปเพราะต้องการนำเงินไปใช้หนี้จำนวนมาก โดยนำเงินไปใช้หนี้บัตรเครดิตแล้ว 50,000 บาท และมีหนี้สินอื่นๆ อีกมากมาย และเเงินบางส่วนไปเปิดบัญชีใหม่ รวมทั้งโอนเงินให้พ่อแม่ไปแล้วจำนวน 2.5 แสนบาท

นายสุวิทย์กล่าวว่า การก่อเหตุครั้งนี้ มีแรงบันดาลใจจากการดูภาพยนตร์แนวอาชญากรรมต่างประเทศทางอินเตอร์เน็ตและเคยมาดูลาดเลาก่อนจะลงมือก่อเหตุหลายครั้ง เนื่องจากมีห้องพักใกล้เคียง ที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร โดยบางวันเข้ามานั่งดูนานถึงครึ่งวัน ส่วนสาเหตุที่เลือกธนาคารสาขานี้ เพราะไม่มีรปภ.และคนไม่พลุกพล่าน ซึ่งระหว่างหลบหนีก็ได้เปลี่ยนหน้ากากอนามัยจากสีขาวเป็นสีดำ และนั่งรถแท็กซี่ก่อนต่อรถเมล์เพื่ออำพรางว่ายังใช้ชีวิตการทำงานตามปกติอยู่

ทั้งนี้ ระหว่างจับกุมเจ้าหน้าที่ตรวจพบตั๋วเดินทางกลับบ้านเกิดในจ.น่านด้วย ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบไม่พบประวัติอาชญากรรม จากนี้ต้องส่งตัวให้พนักงานสอบสวนเพื่อรวบรวมหลักฐาน โดยเบื้องต้น จะแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ อาวุธ ซึ่งในชั้นนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้ปืนปลอมในการก่อเหตุและได้โยนทิ้งไปแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน