ไปม็อบราษฎร
ผิดพรก.ฉุกเฉิน
ยื่นฟ้องแล้ว 3 นักเรียนเลวต่อศาลเยาวชนฯ อัยการสำนักงานคดีเยาวชนฯเอาผิดข้อหาความผิดพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ร่วมปราศรัยที่เเยกราชประสงค์ ขณะที่ศาลก็ให้ทั้ง 3 ประกันไป โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์มาค้ำ พร้อมนัดสอบคำให้การในวันที่ 19 เม.ย. ด้าน‘แหวน’พยาบาลอาสา-พยานปากสำคัญในคดียิง 6 ศพในวัดปทุมฯ เฮ ศาลพิพากษายกฟ้องคดี 112 ที่‘วิจารณ์-ศรีวราห์’ร่วมกันกล่าวหา หลังต่อสู้มา 7 ปี ถูกขังคุกนานกว่า 3 ปี ชี้หลักฐานที่นำมาใช้ฟ้องตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้ เป็นข้อความทางไลน์ที่คัดลอกออกมาเป็นกระดาษเอสี่เพียงแผ่นเดียว
เมื่อวันที่ 28 ม.ค. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด พนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีเยาวชนและครอบครัวมีความเห็นสั่งฟ้อง “มิน”ลภน พัฒน์, “พลอย” เบญจมาภรณ์ กลุ่มนักเรียนเลว และ “ภูมิ”คณพศ กลุ่มนักเรียนไท ข้อหาฝ่าฝืนข้อกำหนดตามมาตรา 9 ประกอบมาตรา 11 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จากกรณีการเข้าร่วมการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2563 และส่งสำนวนฟ้องไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง
ที่สำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารหลักเมือง ชั้น 3 หน้าหับเผย ถนนพระบรมมหาราชวัง พนักงานอัยการสำนักงานคดีเยาวชนเเละครอบครัว 3 ได้นัดฟังคำสั่งในคดีที่คดีพนักงานสอบสวน สน.ลุมพินี นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องเยาวชน 3 คน ได้แก่ มิน อายุ 18 ปี (ขณะกระทำผิดอายุ 17 ปี), พลอย อายุ 16 ปี และภูมิ อายุ 16 ปี กลุ่มนักเรียนเลวและนักเรียนไท ในความผิดคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาตรา 9 จากการขึ้นปราศรัยการชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ต.ค.2563 บริเวณแยกราชประสงค์ จากก่อนหน้านี้ที่ได้มีการยื่นผัดฟ้องฝากขังต่อศาลเยาวชนตั้งเเต่วันที่ 24 ธ.ค.63
นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่าคดีนี้จะครบกำหนด ผลัดฟ้องฝากขังครั้งสุดท้ายในวันเดียวกันนี้ พนักงานอัยการสำนักงานคดีเยาวชน ได้พิจารณาสำนวนของพนักงานสอบสวนเเล้วมีความเห็นสั่งฟ้องเยาวชนทั้ง 3 ตามข้อหาที่พนักงานสอบสวนรวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นส่งมา เเละได้นัดนำตัวเยาวชนทั้ง 3 ฟ้องสู่ศาลเยาวชนในวันนี้ในช่วงบ่าย
ต่อมาที่ศาลเยาวชนเเละครอบครัวกลาง ถนนกำเเพง พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้อง เยาวชนทั้ง 3 ต่อศาลเยาวชน โดยศาลรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำ ยชอ34/2564
ต่อมาภายหลังจำเลยทั้ง 3 ยื่นขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้จำเลยที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดอายุยังน้อย พฤติ การณ์ที่จำเลยถูกฟ้องกระทำความผิดมามีอัตราโทษไม่ร้ายแรง ขณะนี้มีการแพร่ระบาดของสถานการณ์โรคระบาดโควิด หากนำจำเลยไปคุมขังอาจทำให้เป็นอันตรายได้ ประกอบกับจำเลยยังศึกษาเล่าเรียน ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน หากผิดสัญญาประกันปรับ 5 พันบาท เเละให้นัดสอบ คำให้การอีกครั้ง 19 เม.ย. เวลา 09.00 น.
ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถ.รัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนสน.ดุสิต นำตัวนายเอกชัย หงส์กังวาน, นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือ ฟรานซิส นักเคลื่อนไหวทางการเมือง, นาย สุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือตัน ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth), นายชนาธิป ชัยชะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ 5 ผู้ต้องหาพร้อมความเห็นสมควร สั่งฟ้อง ในความผิดฐานประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีฯ ตาม ป.อาญา ม.110 กับข้อหามั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวาย ม.215 และกีดขวางการจราจร กรณีชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จพระราชินีเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563
ภายหลังพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 10 ได้รับสำนวนพร้อมตัวผู้ต้องหา เเละนัดฟังคำสั่งในวันที่ 25 ก.พ.64
ขณะเดียวกันที่สำนักงานอัยการสูงสุด ทางพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้นำนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข เเกนนำกลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย เเละนายปฏิภาณ สาหร่ายแย้ม หรือหมอลำแบงค์ เเนวร่วมกลุ่มราษฎร ความเห็นสมควรสั่งฟ้องคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
นายสมยศกล่าวว่า วันนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงครามได้ประสานนัดหมายเเจ้งว่าจะนำส่งตัวพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องคดีต่อพนักงานอัยการ โดยคดีนี้มีผู้ต้องหาจำนวนมาก เเต่ทราบว่าพนักงานสอบสวนนัดตนกับนายปฏิภาณ หรือหมอลำแบงค์ โดยตนกับหมอลำเเบงค์โดนเเจ้งข้อหาตามความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 จากการขึ้นเวทีปราศรัยที่มหา วิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.63
ภายหลังรับสำนวนแล้ว พนักงานอัยการได้นัดฟังคำสั่งคดีนายสมยหศกับพวกในวันที่ 9 ก.พ. เวลา 10.00 น.
เมื่อเวลา 09.00 น. นางณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา พยานปากสำคัญในคดีทหารยิง 6 ศพในวัดปทุมวนาราม และสมาชิกกลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย เดินทางมายังศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อเข้ารับฟังคำตัดสินในคดีดำ อ.1092 ช/62 หมิ่นประมาท ดูหมิ่น อาฆาตมาดร้าย หลังพนักงานอัยการจังหวัดนนทบุรีเป็นโจทก์ยื่นฟ้องในคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นคดี ข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ฯ ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา ก่อนหน้านั้นศาลได้นัดสืบพยานไปเมื่อวันที่ 10 พ.ย.63
นางณัฏฐธิดากล่าวว่า วันนี้เดินทางมาฟังคำพิพากษาคดี ม.112 ที่ถูกจับเมื่อปี 2558 โดยคสช. ถูกจับขึ้นศาลทหาร จนกระทั่งปลายปี 2562 ถึงถูกย้ายมาศาลพลเรือน จำแนกมาที่ศาลอาญาจังหวัดนนทบุรี สาเหตุที่ถูกจับไปตนยังไม่ทราบว่าตนกระทำอะไร หลังถูกจับโทรศัพท์ถูกยึด ข้อมูลช่องทางโซเชี่ยลที่เป็นรหัสถูกบังคับให้แจ้งทหารทั้งหมด หลักฐานทุกอย่างที่นำมาฟ้องจนวันนี้ยังไม้รู้ว่าโดนเรื่องอะไร ถูกกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์และพระราชินี แต่ตนไม่เห็นข้อความนั้นในโทรศัพท์ตนมาก่อน ซึ่งเป็นข้อความเดียวที่เขานำมาฟ้องตนด้วยหลักฐานเพียงกระดาษเอสี่ใบเดียว
นางณัฏฐธิดากล่าวอีกว่าในวันที่ถูกอุ้มเข้าไปในค่ายทหาร ตนถูกกระทำอนาจารถูกลวนลาม เพื่อสอบเค้นเอาข้อมูลทุกอย่างที่มี มีการข่มขู่ถึงคนในครอบครัว ตนไม่ได้พบญาติและทนายความ ถ้าตายคือต้องตาย สิ่งที่เขาทำกับประชาชนคือสิ่งที่ไม่ชอบธรรม บังคับใช้กฎหมาย ครอบครัวและตัวเองเดือดร้อนมีผล กระทบมากหลังตนถูกฝากขังนาน 3 ปี 6 เดือน ไม่มีงานทำ จนมาถึงวันตัดสินคดีในวันนี้
สำหรับคดีนี้สืบเนื่องจากที่กองปราบปราม พันเอกวิจารณ์ จดแดง (ยศในขณะนั้น) หัวหน้าคณะทำงานด้านกฎหมาย คสช. และ พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมกุล (ยศในขณะนั้น) แจ้งความดำเนินคดีกับ นางณัฏฐธิดา ข้อหาหมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญา โดยกล่าวหาว่าวันที่ 8 มี.ค. 2558 นางณัฏฐธิดา นำข้อความที่มีผู้โพสต์ไว้ในแอพพลิเคชั่นไลน์ กลุ่มไทยภาคี มาโพสต์ต่อลงในอีกกลุ่ม
ยกฟ้อง112 – ‘รุ้ง’ ปนัสยา แกนนำน.ศ. แสดงความยินดีกับนางณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือพยาบาลแหวน พยานคดี 6 ศพวัดปทุมฯ ภายหลังศาลจังหวัดนนทบุรี ยกฟ้องคดี ม.112 ที่ถูกคสช.แจ้งจับเมื่อ 7 ปีก่อน
หลังจากเข้ารับฟังคำตัดสินในคดีดังกล่าวได้เพียง 15 นาที นางณัฏฐธิดาได้เดินกลับออกมาที่หน้าศาลจังหวัดนนทบุรี ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและดีใจ ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนๆ ที่เดินทางมาให้กำลังใจ รวมทั้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร ซึ่งเดินทางมาร่วมให้กำลังใจและแสดงความยินดี
นางณัฏฐธิดาเปิดเผยว่า ขณะที่เข้าไปฟังคำตัดสินของศาล เจ้าหน้าที่ศาลได้กักตนไว้คนเดียว ห้ามญาติเข้าและทนายความก็ยังมาไม่ถึง จากนั้นศาลได้อ่านคำตัดสิน ให้ยกฟ้องในคดีดังกล่าว โดยศาลให้เหตุผลว่า หลักฐานที่นำมาฟ้องของ พ.อ.วิจารณ์และพล.ต.ต.ศรีวราห์ เป็นหลักฐานที่ตรวจสอบที่มาที่ไปไม่ได้ เป็นข้อความทางไลน์ ที่คัดลอกออกมาเป็น กระดาษเอสี่เพียงแผ่นเดียว แต่ตนถูกบังคับ ทรมานต่างๆ ในศาลทหารขณะนั้นให้เซ็นรับกระดาษใบนี้ จนเป็นที่มาของการต่อสู้คดีถึง 7 ปี วันนี้ที่ศาลได้พิพากษาตัดสินคดีเป็นอันสิ้นสุดแล้ว ก็เหมือนได้คืนความเป็นธรรมให้กับตนแล้ว ศาลอ่านคำพิพากษาว่าหลักฐานขาดความน่าเชื่อถือ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ตรวจพิสูจน์หลักฐานและไม่สามารถยืนยันที่มาของหลักฐานได้ว่ามีที่มายังไง ไม่มีมูลเหตุของหลักฐานในโทรศัพท์มือถือ หลักฐานเอามาจากกลุ่มไลน์อื่นไม่สามารถนำมาฟ้องและสืบต่อได้ โดยทำออกมาเป็นกระดาษหนึ่งแผ่นที่มีตนอยู่ในกลุ่มนั้นและมีการคุยแช็ต พยานคนสำคัญที่อยู่ในกลุ่มไลน์ยืนยันว่าไม่รู้จักตนและยืนยันว่าตนไม่ได้เป็นคนพิมพ์ข้อความนั้น ถือเป็นการรอคอยอิสระนานถึง 7 ปี ตนรู้สึกดีใจมาก และทำให้ตนได้รับรู้ว่าขบวนการความยุติธรรมในประเทศไทยยังมีอยู่จริง ถึงแม้จะต้องใช้เวลาเป็นตัวพิสูจน์ความจริงก็ตาม
พยาบาลแหวนกล่าวอีกว่า สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ตนถูกจับเรื่องคดีก่อการร้าย และเป็นคดีที่ตนไม่รู้ว่ามันมาได้อย่างไร คดีเรื่องก่อการร้ายตนก็ไม่รู้เรื่อง แต่ที่ตนต้องรับ เพราะตนถูกจับปิดตา ถูกกระทำอนาจารตั้งแต่ถูกอุ้มค้นรถเข้าไปในค่ายทหาร ถูกจับหน้าอก ใช้อาวุธปืนกระแทกที่ท้ายทอย ข่มขู่ให้รับสารภาพและให้ไปสู้ในชั้นศาล ซึ่งใช้เวลา 7 ปีที่ถูกสังคมประณามว่าเป็นคนไม่ดี ซึ่งสังคมได้ตัดสินตนไปแล้ว แต่ศาลตัดสินใจคืนความเป็นธรรมให้ตนในวันนี้
พยาบาลแหวนกล่าวอีกว่า ฝากบอกถึง พล.ต.อ.ศรีวราห์ ด้วยว่าสิ่งที่ทำน่ารังเกียจมาก ภาษาราชการเขาพูดว่า คุณ คะ ครับ ผม เจ้านาย ไม่ใช่ กู มึง และสัตว์ต่างๆ หลังจากนี้จะดำเนินการต่อ เพราะการต่อสู้มันยังไม่จบ แนวทางต่อไปจะปรึกษาทนายความ เพื่อจะดำเนินการกับชุดจับกุมทั้งหมด ให้ทุกคนได้รับผลกระทบนี้กลับไป เพื่อให้เป็นบทเรียนกับชุดจับกุมว่าไม่ควรปฏิบัติชั่วกับประชาชน ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร เป็นลูก เป็นเมีย หรือลูกหลานใคร ไม่ควรทำอนาจารเขา ไม่ควรจับนม จับของลับเขา ไม่ควรไปละเมิดสิทธิ์เขา รวมถึงการใช้อำนาจข่มขู่บังคับให้ยอมรับในสิ่งที่กลุ่มตัวเองต้องการ
อัยการฟ้อง – 3 แกนนำกลุ่มนักเรียนเลว เข้าพบอัยการสำนักงานคดีเยาวชนและครอบครัว 3 ก่อนมีคำสั่งฟ้องคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จากกรณีชุมนุมแยกราชประสงค์ และส่งตัวไปศาลเยาวชนเเละครอบครัวกลาง ศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่มีหลักประกัน เมื่อวันที่ 28 ม.ค.
