เซฟโซน-กลับคืนสู่ปกติ
เร่งเอาผิดเคสปาร์ตี้ดีเจ
พบติดโควิดอีก2-เป็น26
ไอคอนสยามเจอป่วย7
ลุ้น‘ศบค.’ถกคลายล็อก

สธ.ห่วงโควิดเคสดีเจมะตูมบานหนัก หลังพบติดเชื้อเพิ่ม 2 ราย รวมเป็น 26 รายแล้ว ขณะที่กลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 166 คน พบไทม์ไลน์ไปทั่วทั้งร้านอาหาร โรงแรม แต่ละคนให้ข้อมูลไม่ตรงกัน จ่อแจ้งความเอาผิดทั้งหมด โรงแรมสถานที่จัดปาร์ตี้ด้วย ส่วนที่‘ไอคอนสยาม’เจอป่วย 7 ราย กลุ่มเสี่ยงอีก 200 จากการจัดงานสังสรรค์ ด้าน 61 จังหวัดเตรียมกลับคืนสู่ปกติ หลังปลอดเชื้อเกิน 7 วัน ถือว่าเป็นพื้นที่เซฟโซน มีความปลอดภัย ศบค.เผยโควิดไทยเพิ่ม 756 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชนสมุทรสาคร 724 ราย ตลาดนัดสายไหมพบแม่ค้าติดเชื้อ สั่งปิดตลาด 3 วัน ระดมฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ให้แม่ค้าไปตรวจด่วน ที่นนทบุรีพบป่วยโควิดอีก 1

ไทยติดเชื้อเพิ่มอีก 756

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 28 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 756 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 746 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังในร.พ.และการสอบสวนโรค 22 ราย ได้แก่ สมุทรสาคร 9 ราย, กทม. 8 ราย, สมุทรปราการ 3 ราย, นนทบุรี, พระนคร ศรีอยุธยา จังหวัดละ 1 ราย ค้นหาเชิงรุกในชุมชน 724 ราย ได้แก่สมุทรสาคร 724 ราย แบ่งเป็นแรงงานต่างด้าว 710 ราย และคนไทย 14 ราย และมาจากต่างประเทศ 10 ราย ได้แก่สหรัฐอเมริกา 5 ราย รัสเซีย 2 ราย โปรตุเกส อินโดนีเซีย และกาตาร์ ประเทศละ 1 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 16,221 ราย หายป่วยสะสม 11,287 ราย อยู่ระหว่างรักษา 4,858 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดเสียชีวิตสะสมคงที่ 76 ราย นับเฉพาะระลอกใหม่ติดเชื้อสะสม 11,984 ราย หายสะสม 7,347 ราย ยังรักษาอยู่ 4,621 ราย จำนวนนี้มีอาการหนัก 10 ราย โดย 7 รายอยู่ใน กทม.

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มกราฟยังเชิดหัวขึ้น เรายังต้องระวังอย่างกระชั้นชิด ยังวางใจไม่ได้ ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 101,433,090 ราย และเสียชีวิตสะสม 2,184,120 ราย

เผย 61 จว.ปลอดเชื้อ-กลับสู่ปกติ

ผู้ช่วยโฆษกศบค. กล่าวต่อว่า กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่ามีเที่ยวบินนำคนไทยกลับบ้านตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย. 2563 ถึง 27 ม.ค. 2564 จำนวน 120,730 คน ส่วนหนึ่งมาจากทางบกและทางน้ำด้วย เป็นคนไทย 1 แสนกว่าคน, ต่างชาติ 73,055 คน มีการกักตัวตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. 2563 ถึง 27 ม.ค. 2564 จำนวน 186,115 คน กลับบ้าน 171,624 คน ยังกักตัว 14,491 ราย เฉพาะโลคัล ควอรันทีน 418 แห่ง มีการกักตัวสะสมอีก 4 หมื่นกว่าคน

“หลายจังหวัดตัวเลขพบติดเชื้อประปราย เช่นระยองไม่มีผู้ป่วย แต่ตลอดสัปดาห์ยังมีบ้าง สมุทรปราการ 3 ราย จันทบุรีวันนี้ไม่มีแต่เมื่อวานยังมี นนทบุรีมีบ้างบางวัน ส่วนนครปฐม ตราด ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีการติดเชื้อรายวันแล้ว ส่วนตากขีดเป็นสีเขียวและปรับเป็นสีเหลือง ไม่มีผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง แต่ยังติดเหลืองไว้เพราะติดชายแดนเพื่อนบ้าน”

พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า โดยสรุปแผนที่ค่อนข้างกลายเป็นสีขาวเกือบทั้งหมด สัปดาห์นี้มีการติดเชื้อรวม 14 จังหวัด โดยจังหวัดที่ไม่มีติดเชื้อเลย (สีขาว) มี 14 จังหวัด ไม่มีติดเชื้อเกิน 7 วันติดต่อกัน (สีเขียว) มี 47 จังหวัด เพิ่มขึ้น 2 จังหวัด ซึ่งสีขาวและสีเขียว ถือว่าเป็นกลุ่มเซฟโซนมีมากถึง 61 จังหวัด จะนำเสนอศบค.ชุดใหญ่พิจารณาวันที่ 29 ม.ค. ถ้าไม่มีติดเชื้อต่อเนื่อง 7-14 วัน จะได้รับการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ มากกว่าพื้นที่ติด สีเหลือง สีส้ม สีแดง

เคสดีเจมะตูมติดโควิดอีก 2

พญ.อภิสมัยกล่าวถึงกรณีนายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูมว่า ข้อมูลวันที่ 27 ม.ค. มีการติดเชื้อแล้ว 24 ราย แต่ทราบอย่างไม่เป็นทางการว่ามีการติดเชื้อเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 26 ราย ยังไม่นับรวมกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงอีก 113 ราย และเสี่ยงต่ำ 53 ราย รวม 166 ราย ซึ่ง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อมีความกังวลกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและเสี่ยงต่ำที่มีการเดินทางไปในหลายพื้นที่ เช่น โรงแรมและร้านอาหาร แต่ละคนให้ข้อมูลไม่สอดคล้องกัน ทั้งที่ไปในสถานที่ใกล้กัน หรือบางคนปกปิดข้อมูล โดยกรมควบคุมโรครายงานว่า กรณีแบบนี้อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดออกไปและการป้องกันควบคุมอาจล่าช้าไม่ทันการณ์

“ดังนั้นกรมควบคุมโรคจึงทำหนังสือถึงผอ.สำนักอนามัย กทม.ว่าพฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 รวมถึงกฎหมายอื่นๆ 1.มีความผิดฐานขัดขวางหรือไม่อำนวยความสะดวกแก่ เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ตามมาตรา 55 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ มีโทษปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท รวมถึงอาจมีความผิดฐานแจ้งความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน อาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหายตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมายอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ ขณะที่สถานที่จัดงานเลี้ยงสังสรรค์อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามจัดกิจกรรม เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค และไม่จัดให้มีมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนด รวมทั้งบุคคลที่ร่วมงานเลี้ยง อาจเข้าข่ายฝ่าฝืนการห้ามทำกิจกรรมมั่วสุมในสถานที่แออัด ตามมาตรา 9 พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ติดเชื้ออีก 7 โยงไอคอนสยาม

พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ขณะที่เหตุการณ์ที่ใกล้เคียงคือที่ศูนย์การค้าไอคอนสยาม มีรายงานผู้สัมผัสเสี่ยง 12 ราย ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 7 รายซึ่งเกิดจากการรวมตัวสังสรรค์กัน ขณะนี้มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงที่จำเป็นต้องสอบสวนโรคและเฝ้าระวังต่อมากกว่า 200 ราย ซึ่งการนำเสนอดังกล่าวเพื่อให้เห็นไทม์ไลน์ที่ชัดเจนนำไปศึกษาและนำไปวางมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น ขอย้ำว่าการปกปิดข้อมูลนั้นถือเป็นความผิดทางกฎหมาย

เช็กวงจรปิด-เอาผิดปาร์ตี้ดีเจมะตูม

ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน กทม.ว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง ส่วนกรณีไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อที่มีการปรับแก้ โดยรายที่ 647 อาชีพ นักร้อง นักแสดง เป็นข้อมูลคนละชุดกับที่ เจ้าหน้าที่สอบสวนโรค สำนักอนามัย กทม.ได้รับในช่วงแรก ซึ่งปัจจุบันกทม.อัพเดตข้อมูล ผู้ติดเชื้อรายดังกล่าวแล้ว หลังผู้ติดเชื้อให้สัมภาษณ์ทางทีวีเมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าอยู่บ้านจริงหรือไม่

ส่วนรายที่ 657 อาชีพผู้จัดการฝ่ายประชา สัมพันธ์ ที่ออกมาเปิดเผยไทม์ไลน์ในเวลาต่อมา กทม.ยืนยันว่ารายนี้ได้รับข้อมูลในช่วงแรก โดยกทม.ยึดตามใบสอบสวนจาก โรงพยาบาลต้นทาง และอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลไทม์ไลน์ว่าอยู่บ้านจริงหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 รายดังกล่าว หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่จริงเจ้าพนักงานควบคุมโรคจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับขั้นตอนการเปิดเผยไทม์ไลน์ของ กทม. เมื่อผู้ป่วยไปโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่จะสอบสวนซักถามโดยแพทย์ พยาบาลและบุคลากร ก่อนนำลงในใบสอบสวนโรค จากนั้นจะส่งให้กรมควบคุมโรคและสำนักอนามัย กทม. เมื่อได้รับข้อมูล สำนักอนามัยจะจัด เจ้าหน้าที่โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูล และสอบสวนเพิ่มเติมหลายครั้ง จากนั้นนำเข้าสู่คณะกรรมการกลั่นกรองที่ผู้ว่าฯกทม.ตั้งขึ้นมา โดยมีแพทย์และนักกฎหมาย เพื่อพิจารณาข้อกฎหมาย ที่อาจจะละเมิดสิทธิ์ได้ หรือส่วนไหนที่สามารถเผยแพร่ได้ ก่อนนำมาเผยแพร่ในไทม์ไลน์

“ยืนยันว่าการสอบสวนโรคของเจ้าหน้าที่ สำนักอนามัย กทม.จะโทร.ไปสอบถามเพียง 1 คนเท่านั้น และยึดข้อมูลจากใบสอบสวนโรคของแพทย์จากโรงพยาบาลต้นทางที่ผู้ติดเชื้อไปรักษาในช่วงแรก”

ส่วนข้อมูลผู้ติดเชื้อ 645 อาชีพเชฟร้านอาหารที่มีการปรับแก้ไทม์ไลน์ จากเดิมที่ ผู้ป่วยไม่ให้ข้อมูลช่วงวันที่ 17-18 ม.ค. จากนั้นเจ้าหน้าที่สอบสวนโรคเพิ่มเติมอีกครั้ง จึงได้รับแจ้งว่าอยู่บ้านทั้งวัน ในเขตภาษีเจริญ ซึ่งกทม.ตรวจสอบข้อเท็จจริงของไทม์ไลน์นี้ พบว่าเป็นจริง

ส่วนที่โรงแรมบันยันทรีปล่อยให้จัดปาร์ตี้ จะไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดของโรงแรม เพื่อหาข้อเท็จจริง และเอาผิดตามกฎหมาย กรณีปล่อยให้จัดปาร์ตี้จนมีการติดเชื้อ

ตร.เร่งสอบโยงเคสดีเจมะตูม

ส่วนกรณีของดีเจมะตูมที่ออกมาเปิดเผยว่าติดโควิด-19 และย้อนไทมไลน์ทำให้ทราบว่าไม่มีการกักตัว ยังฝ่าฝืนจัดปาร์ตี้ จนทำให้กลายเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์ มีผู้ติดเชื้อจากงาน 24 ราย มีการวิพากษ์วิจารณ์นั้น

รายงานข่าวแจ้งว่า พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ ผบก.น.5 สั่งให้พ.ต.อ.ชัยพันธุ์ เพ็ชรสดศิลป์ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ ประสานการปฏิบัติงานตรวจสอบร่วมกับเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ. ควบคุมโรคคือเจ้าหน้าที่เขตและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแล้วกรณีดังกล่าว เนื่องจากโรงแรมบันยันทรีอยู่ในพื้นที่สน.ทุ่งมหาเมฆ ซึ่งการดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องนั้น ต้องรอให้เจ้าพนักงานตามพ.ร.บ.ควบคุมโรค คือเจ้าหน้าที่กรุงเทพ มหานคร และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เข้าแจ้งความก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายได้

เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามความผิดกฎหมายที่เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่นคดีอาชญากรรม แต่กรณี ดังกล่าวเป็นเรื่องเกี่ยวกับพ.ร.บ.ควบคุมโรค ที่ต้องใช้องค์ความรู้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านหรือผู้มีอำนาจอย่างเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหา นคร หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่มีการสอบสวนโรคในการดำเนินการทางกฎหมาย หากไม่มีเจ้าพนักงานดังกล่าวเข้าแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถเอาผิดได้เนื่องจากไม่มีอำนาจดำเนินการดังกล่าวตามที่มีการโยนมาที่มีการกล่าวอ้างในโลกโซเชี่ยลมีเดียให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับผิดชอบ

พ.ต.อ.ชัยพันธุ์กล่าวว่า ตำรวจสน.ทุ่งมหา เมฆ ได้ประสานงานร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในการจัดชุดควบคุมโรคฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรคภายหลังทราบกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นแล้ว ส่วนกรณีการแจ้งความเอาผิดนั้น เบื้องต้นยังไม่มีเจ้าพนักงานแจ้งความดำเนินคดีตามพ.ร.บ.ควบคุมโรคแต่อย่างใด หากมีการแจ้งความดำเนินคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

สั่งกทม.เอาผิดปาร์ตี้ดีเจมะตูม

วันเดียวกัน ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 กลุ่มงานเลี้ยงวันเกิดของดีเจมะตูมอ้างให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่แล้ว แต่ไทม์ไลน์ที่เปิดเผยไม่ตรงกับที่ตนเองให้ว่า หากเป็นเช่นนั้น ขอให้ออกมาชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่บิดเบือนข้อมูลอย่างไร หากเจ้าหน้าที่บิดเบือนคำให้การก็มีความผิด แต่เจ้าหน้าที่จะทำความเดือดร้อนให้ตนเองทำไม เพราะวัตถุประสงค์การสอบสวนโรคก็เพื่อไม่ให้เชื้อโรคแพร่กระจาย มั่นใจว่าไม่มีเจตนาประสงค์ร้ายต่อผู้ให้ข้อมูล จึงควรให้ข้อมูลมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เป็นสิ่งที่ต้องทำตามกฎหมายว่าไปสัมผัสกับใคร ไปที่ไหนอย่างไร เมื่อวันที่ 27 ม.ค. ตนให้อธิบดีกรมควบคุมโรคออกหนังสือไปที่ กทม.ให้เร่งดำเนินการตามกฎหมายกำหนดเพื่อดูว่ามีความผิดอย่างไร ละเมิดประกาศของศบค.หรือไม่ ซึ่งมีหลายประเด็น ผู้ดำเนินการจะเป็นเจ้าพนักงานของ กทม. หากไม่เร่งดำเนินการก็จะผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อถามว่าการนำกฎหมายมาเอาผิด จะส่งผลให้ปกปิดข้อมูลมากขึ้นหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า เจ้าหน้าที่สอบสวนโรคมีวิธีการสอบสวน ปิดไม่ได้ เพราะหากพบว่าปกปิดข้อมูล จะเข้าข่ายความผิดเรื่องการไม่ให้ความร่วมมือสอบสวนโรค ก่อให้เกิดอันตรายกับประชาชนอื่น

“คนที่สอบสวนโรคไม่มีทางเอาข้อมูลไปใช้เพื่อความสนุกสนานของตัวเอง เขาทำตามหน้าที่ แต่จะสอบสวนให้ได้ข้อมูลมากที่สุด ป้องกันไม่ให้เชื้อกระจายวางกว้าง ทุกอย่างทำเพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือมากที่สุด ถ้าไม่อยากให้ไทม์ไลน์ ก็เคารพกฎหมาย ที่ต้องถูกสอบสวนก็เพราะไม่เคารพกฎหมาย” นายอนุทินกล่าวและว่า ส่วนกรณีโรงแรมบันยันทรีผิดหรือไม่ก็มีการให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เปิดบริการเกินเวลา 21.00 น. อนุญาตให้คนเข้ามาชุมนุมอย่างใกล้ชิดจำนวนมาก ภาพต่างๆ ที่ออกมาก็อธิบายพฤติกรรมได้อย่างดี

‘ณัฏฐพล’ย้ำพร้อมเปิดเรียน 1 ก.พ.

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดเรียนในวันที่ 1 ก.พ. หลังจากศธ.ประกาศปิดเรียนใน 28 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 4-31 ม.ค. เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ว่า การเตรียมเปิดเรียน ขอให้โรงเรียนคำนึงถึงมาตรการความปลอดภัย โดยจะต้องยึดมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนด ซึ่งทุกโรงเรียนมีความเข้าใจตรงกันแล้วว่าการเปิดเรียนในวันที่ 1 ก.พ. อาจจะมีบางโรงเรียนที่ไม่ได้อยู่ใน จ.สมุทรสาคร แต่มีครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน อาศัยอยู่ที่จ.สมุทรสาคร อาจจะต้องวางแนวทางการจัดการเรียนการสอนออนไลน์ หรือให้ใบงานและแบบฝึกหัดกับนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ซึ่งโรงเรียนสามารถปรับตัวและสร้างความยืดหยุ่นเพื่อจะรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

โรงเรียนกรุงบิ๊กคลีนนิ่งพร้อมเปิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกทม. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการล้างทำความสะอาดโรงเรียนในสังกัดกทม. พร้อมรับฟังแนวทางการจัดการเรียนการสอนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19

นางศิลปสวยกล่าวว่า วันนี้จัดกิจกรรม บิ๊กคลีนนิ่งโรงเรียนสังกัด กทม. 437 แห่ง หลังจากปิดการเรียนการสอนทุกแห่ง ขณะนี้มีประกาศให้เปิดโรงเรียน วันที่ 1 ก.พ.นี้ กทม.เตรียมความพร้อมรับนักเรียนเข้ามาเรียน พร้อมกับกำหนดแนวทางที่ชัดเจนให้โรงเรียนดำเนินการ สิ่งแรกคือการคัดกรองก่อนเข้าโรงเรียน เจลล้างมือ โดยเน้นย้ำการสวมหน้ากากในโรงเรียน 100% กรณีผู้ปกครองมาส่งจะมีการกำหนดพื้นที่ให้ และจะมีการตรวจสอบ วัดไข้ ส่วนเด็กนักเรียนจะเน้นให้เด็กสวมหน้ากาก หมั่นล้างมือ เว้นระยะห่าง

“สำหรับการเรียนการสอนในห้องเรียน ไม่เกิน 25 คน/ห้อง การใช้ห้องน้ำจะสลับกันตามความเหมาะสม โดยจะทำความสะอาดห้องน้ำเป็นช่วงๆ ตลอดเวลา รวมถึงงดกิจกรรมให้เด็กรวมตัว โดยคุณครูจะต้องสังเกตเด็กตั้งแต่รับเข้ามา และสอบถาม ผู้ปกครองเด็ก เป็นไข้หรือเคยไปในพื้นที่เสี่ยงมาหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้ข้อมูลตามความเป็นจริง ถ้าพบความเสี่ยงจะประสานศูนย์เอราวัณมาตรวจสอบเพื่อเข้าสู่ระบบการแพทย์ต่อไป กรณีเด็กที่มาจากพื้นที่เสี่ยงจะยังไม่ให้มาโรงเรียน ให้ใช้วิธีเรียนออนไลน์แทน ทั้งนี้กทม.เตรียมพร้อมทุกเรื่อง ยืนยันวันที่ 1 ก.พ.นี้พร้อมเปิดรับให้เด็กเข้ามาเรียนได้”

รุกตรวจพื้นที่สีเขียว‘บ้านแพ้ว’

เมื่อเวลา 10.00 น. ทีมศูนย์ปฏิบัติการแพทย์ทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ, ร.พ.ภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ และบุคลากรทางการแพทย์ ร.พ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ร่วมปฏิบัติการคัดกรองเชิงรุกในต.หนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีเป้าหมายคัดกรองแบบสว็อบ 200 ราย ที่โรงเรียนวัดหนองสองห้องฯ โดยมี พระสงฆ์ แม่ชี และประชาชนทั่วไปเดินทางมารับบริการตรวจหาเชื้อโควิดจำนวนมาก

การตรวจเพื่อคัดกรองหาเชื้อโควิด-19 ตามแผนปฏิบัติการเชิงรุกพื้นที่สีเขียวของ อ.บ้านแพ้วเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการระบาดของโรค เพื่อเสนอให้คณะกรรมการควบคุมโรคจ.สมุทรสาครปลดล็อกมาตรการเข้มบางมาตรการ ให้ประชาชนใน อ.บ้านแพ้วได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เช่น โรงเรียน ร้านค้า และการประกอบอาชีพ

แม่ค้าติดเชื้อ-ปิดตลาดสายไหม

แฟนเพจเฟซบุ๊ก ตลาดนัดสายไหม 49/1 โพสต์ข้อความระบุว่า ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลซีเจเอซ และทางเขตสายไหมว่าพบแม่ค้าในตลาดติดเชื้อโควิด-19

โดยตลาดนัดสายไหมแจ้งให้ผู้ค้าทำการเก็บของ พร้อมเคลียร์ของในแผงกลับบ้านทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัวและรับการรักษา พร้อมล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และปิดตลาด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 28-30 ม.ค. 2564 เพื่อทำความสะอาดใหญ่

แฟนเพจตลาด ยังระบุด้วยว่า ขอลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในช่วงนี้สังเกตอาการและเฝ้าระวังตนเองด้วย แต่ไม่ได้มีการระบุไทม์ไลน์ช่วงเวลา

สำหรับไทม์ไลน์ผู้ป่วยนั้น ทางแฟนเพจตลาดระบุเพียงสั้นๆ ว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ที่บ้าน ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านสายไหม เดินทางไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดวงศกร โดยเจ้าตัวให้คนใกล้ชิดลงไปซื้อของ และมาขายอยู่ที่ตลาดนัดสายไหม

จากการตรวจสอบคนใกล้ชิดผู้ป่วย ยังไม่พบเชื้อเป็นบวกแต่อย่างใด คาดว่าผู้ป่วยอาจติดเชื้อจากลูกค้าที่มาเดินซื้อของที่ตลาด

นนทบุรีติดเชื้ออีก 1-เสี่ยงสูง 6

สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี รายงานว่า พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่ม 1 ราย เป็นหญิงไทย อายุ 53 ปี พักอยู่อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เกิดอุบัติเหตุที่ข้อมือจึงเดินทางไป-กลับโรงพยาบาลเพื่อรักษาข้อมือ และต้องเฝ้าแม่ ที่โรงพยาบาล ถือเป็นรายที่ 278 ของจ.นนทบุรี

โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน รอผลตรวจหาเชื้อ ประกอบด้วยหลานที่อยู่บ้านเดียวกัน กักตัวที่สถานกักตัวจ.นนทบุรี รอผลตรวจหาเชื้อ และญาติ 5 คน รอผลตรวจหาเชื้อ ส่วนแหล่งติดเชื้ออยู่ระหว่างสอบสวน

โควิดรุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่

นพ.เฉวตสรร นามวาท รักษาราชการแทนผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวสถานการณ์โรคดควิด 19 ในไทยว่า สิ่งที่บ่งบอกความรุนแรงของโรคทางหนึ่ง คืออัตราป่วยตาย พบว่าโรคโควิด-19 อยู่ที่ 0.47% แบ่งเป็นระลอกแรก 1.42% และระลอกใหม่ 0.14% เมื่อเทียบกับโรคอื่นๆ ในไทย เช่นโรคคอตีบอยู่ที่ 22.03% โรคเมลิออยโดซิส 3.1% โรคไอกรน 1.84% โรคฉี่หนู 1.46% โรคไข้เลือดออก 0.12% และไข้หวัดใหญ่ 0.02% ถือว่าโรคโควิด-19 ยังมีความรุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ แต่เทียบเท่ากับโรคไข้เลือดออก แต่ต้องมีการติดตามต่อเนื่อง หากวินิจฉัยมากขึ้น พบผู้ป่วยติดเชื้อไม่มีอาการมากขึ้น อัตราป่วยตายจะลดลงอีกจนอาจใกล้เคียงกับไข้หวัดใหญ่

ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่มีวัคซีนป้องกันการติดเชื้อ 50-60% แต่ลดการเสียชีวิตได้สูง การให้วัคซีนโควิด-19 ก็หวังผลเช่นเดียวกัน ที่การป้องกันการติดเชื้ออาจไม่สูง แต่ป้องกันการเสียชีวิตได้สูง โดยผลการศึกษาวัคซีนโควิด 19 หลายชนิดก็ป้องกันการเสียชีวิตได้เกือบ 100% แต่เป็นการติดตามในระยะสั้น 3-4 เดือน การอนุมัติให้ใช้ในภาวะฉุกเฉินจึงต้องติดตามในระยะยาวเพื่อให้ตัวเลขชัดเจนมากยิ่งขึ้น

“ภาพรวมสถานการณ์จังหวัดส่วนใหญ่ไม่พบผู้ป่วยรายใหม่ มีความปลอดภัยในแง่ความเสียงระบาดน้อยลง เป็นพื้นที่เซฟโซน โดยจังหวัดที่ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่มากกว่า 7 วัน มี 47 จังหวัด ไม่มีการติดเชื้อรายใหม่เลยมี 14 จังหวัด ซึ่งจะเป็นข้อมูลในการนำเสนอ ศบค.วันที่ 29 ม.ค.ในเรื่องการผ่อนปรนมาตรการ แต่ยังต้องมีมาตรการเฝ้าระวังต่อเนื่อง สำหรับ กทม.ควบคุมการระบาดได้ดี แต่ยังมีบางกลุ่มก้อนที่พบผู้ป่วยประปรายต้องมีการติดตามต่อเนื่อง และต้องเฝ้าระวังบางพื้นที่ที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ต้องมีมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เข้มข้น โดยเฉพาะสถานประกอบการ ส่วนสมุทรสาครยังต้องปูพรมตรวจอย่างต่อเนื่อง” นพ.เฉวตสรรกล่าว

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับการ ปกปิดไทม์ไลน์ของผู้ติดเชื้อใน กทม. เจ้าพนักงานโรคติดต่อในพื้นที่สามารถตรวจสอบดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ที่ปกปิดข้อมูลตาม ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

‘บิ๊กตู่’ถกศบค.เล็กปลดล็อก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊ก เป็นภาพขณะ ประชุมศบค.ชุดเล็ก กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พร้อมข้อความระบุว่า วันนี้มีการประชุม ศบค. ชุดเล็กก่อนประชุมชุดใหญ่วันที่ 29 ม.ค. โดยประเด็นสำคัญในวันพรุ่งนี้คือพิจารณาการผ่อนคลายมาตรการ โควิด-19 เช่นการปรับพื้นที่ประกาศใช้มาตรการควบคุม และการผ่อนคลายกิจการหรือกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละระดับพื้นที่ ซึ่งจำเป็นต้องพิจารณาร่วมกันอย่างรอบคอบในทุกมิติ

“ผมตระหนักดีว่าทุกคนกำลังลำบาก สิ่งที่ผมพยายามทำคือสร้างสมดุลระหว่าง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือความเข้มงวดควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อป้องกันความเสียหายต่อชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจของประเทศที่จะยิ่งหนักหนาสาหัสในระยะยาว และเรื่องที่สองคือการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ให้พี่น้องประชาชนพอที่จะสามารถใช้ชีวิตประจำวัน และทำมาหากินกันได้ สิ่งสำคัญที่สุดที่จะช่วยยับยั้ง และควบคุมการแพร่ระบาด เพื่อให้เรากลับไปใช้ชีวิตที่เกือบจะปกติได้ในระดับหนึ่ง คือการที่ทุกคนมีวินัย และมีความรับผิดชอบต่อสังคม สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา หมั่นล้างมืออยู่เสมอ เว้นระยะห่างทางสังคม และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกัน” นายกฯ ระบุ

‘คนอ้วน’เฮได้ฉีดวัคซีนล็อตแรก

วันเดียวกัน นายอนุทินแถลงข่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติว่า แผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ยังเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนล็อตแรกจากแอสตราเซเนกา 5 หมื่นโดสที่จะนำเข้ามาจากอิตาลีในก.พ.นี้ ขึ้นอยู่กับเรื่องของการขนส่งด้วย เนื่องจากสหภาพยุโรป (อียู) มีการจำกัดการส่งออกวัคซีน จึงต้องดูว่าล็อตนี้ถูกรวมอยู่ด้วยหรือไม่ หากรวมก็ต้องให้บริษัทไปต่อสู้ให้ แต่ก็จะเข้ามาภายในก.พ.นี้ แต่ระบุไม่ได้ว่า เข็มแรกจะทันวันที่ 14 ก.พ.หรือไม่

ด้านนพ.โสภณ เมฆธน ประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด-19 กล่าวว่า คณะกรรมการ วัคซีนฯมีมติให้วัคซีนในกลุ่มเป้าหมาย ดังนี้ 1.บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าทั้งภาครัฐและเอกชน 2.ผู้มีโรคประจำตัว ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตเรื้อรังระยะสุดท้าย โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งที่ให้เคมีบำบัด รังสีรักษา หรือภูมิคุ้มกันบำบัด โรคเบาหวาน และเพิ่มโรคอ้วนที่มีดัชนีมวลกาย 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ที่เพิ่มกลุ่มคนอ้วนเพราะระยะหลังคนที่มีอาการรุนแรงในต่างประเทศ พบในคนอ้วนมากขึ้น ซึ่งโดยธรรมชาติคนอ้วนจะมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจ จึงถือเป็นกลุ่มเสี่ยงด้วย 3.ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และ 4.บุคลากรด่านหน้าอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมโรค อาทิ ตำรวจ ทหาร อสม. คนที่ทำงานในร.พ.

ตรวจเชิงรุก – ทีมแพทย์ทหารอากาศร่วมกับโรงพยาบาลบ้านแพ้ว ตรวจคัดกรองเชิงรุกหาเชื้อโควิดในกลุ่มพระสงฆ์ แม่ชี และประชาชนทั่วไป จำนวน 200 คน ที่โรงเรียน วัดหนองสองห้อง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 28 ม.ค.

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน