ฝ่ายค้านจัด45มือเชือด
กกต.รับ23นายกอบจ.
แจ๊ด-วทยา-ปลัดแตเฮ

‘ตู่’ ยันไม่คิดปรับครม.หลังซักฟอก กำชับรัฐมนตรีช่วยกันชี้แจง มาด้วยกันไปด้วยกัน เคาะแล้วเปิดเขียง 16-19 ก.พ. ลงมติ 20 ก.พ. ฝ่ายค้านวางตัว 45 ขุนพลมือชำแหละ ยันกำหนดเวลาตายตัวไม่ได้ รัฐธรรมนูญให้สิทธิ์อภิปรายจนจบ ขู่ร้องศาลรัฐธรรมนูญถ้ารัฐบาลชิงปิด ปชป.ส่ง ‘พงศ์สินธุ์ เสนพงศ์’ น้องเทพไท ลงเลือกซ่อมเขต 3 นครศรีฯ ‘อู๊ดด้า’ ดักคอ พปชร. ถ้าเป็นแกนนำรัฐบาลจะไม่ส่งคนลงแข่งพรรคร่วม ‘ป้อม’ ไฟเขียว ‘อาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ’ อดีตผู้สมัคร ชิงเก้าอี้ ‘ณฐพร โตประยูร’ ยื่นยุบก้าวไกล กล่าวหาเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบประชาธิปไตย ‘พิธา’ ลั่นฟ้องกลับ กกต.รับรองผลเลือกตั้งนายกอบจ.เพิ่ม 23 ราย บ้านใหญ่คุณปลื้ม-สะสมทรัพย์ ได้เฮ บิ๊กแจ๊ด- ปลัดแต ด้วย

‘ตู่’ไม่คิดปรับครม.หลังซักฟอก

เวลา 13.30 น. วันที่ 2 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมครม. กรณีนายวารินทร์ บัววิรัตน์เลิศ โหรคมช.และส.ว.บางคน ระบุจะมีพิจารณาปรับครม.หลังญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านว่า “ไปถามท่านเองก็แล้วกัน ผมยังไม่มีความคิดในเรื่องนี้”

ทั้งนี้ นายวารินทร์ทำนายไว้เมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ถึงสถานการณ์การอภิปราย ไม่ไว้วางใจไว้ว่า รัฐบาลผ่านได้อยู่แล้ว แต่เหนื่อยหน่อย หลังจากนั้นจะมีการปรับ ครม.แน่นอน ไม่เกินเม.ย. เพราะการทำงานหลายกระทรวงยังไม่เข้าเป้า เหมือน พล.อ.ประยุทธ์ ทำงานอยู่คนเดียว

ครม.เคาะซักฟอก16-19ก.พ.

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า ในการประชุมครม. นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส เลขาธิการครม. เสนอเรื่องกรณีพรรคร่วม ฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล 10 คน และขั้นตอนบรรจุในระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามผลการประสานงานของวิปรัฐบาล โดยกำหนดวันและเวลาการอภิปรายในวันที่ 16-19 ก.พ. และให้ลงมติในวันที่ 20 ก.พ. โดยหลังจากนี้จะแจ้ง มติครม. กลับไปยังสภาต่อไป

ฝ่ายค้านวาง45ขุนพลมือชำแหละ

ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เนื้อหาการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนใหญ่ลงตัวแล้ว ประเด็นมีความสมบูรณ์ แต่ในส่วนข้อมูลยังต้องขัดเกลา รวมถึงโครงสร้าง การนำเสนอของแต่ละคนอยู่ในขั้นตอนการทำรายละเอียด ส่วนตัวบุคคลยังปรับเปลี่ยนเล็กน้อย คาดว่าสัปดาห์นี้จะลงตัว สัปดาห์หน้าแต่ละคนจะได้เตรียมตัวขั้นสุดท้าย เบื้องต้นพท.วางตัวผู้อภิปรายประมาณ 15 คน รวมกับผู้อภิปรายของพรรคฝ่ายค้านมีทั้งหมด 45 คน ซึ่งมีทั้งคนเก่า คนใหม่ และมีดาวเด่นแน่นอน

ขู่ร้องศาลรธน.-รัฐบาลขวางอภิปราย

ยอมรับว่ากังวลเรื่องเวลาการอภิปราย เพราะทุกครั้งก็มีปัญหา ครั้งนี้ก็เหมือนเวลา ยังไม่ตรงกันระหว่างอุปสงค์กับอุปทาน แต่เชื่อว่าหากพูดเหตุผลคุยกันคงจบลงได้ สบายใจอยู่อย่างหนึ่งคือไม่ใช่วันสุดท้ายของการปิดสมัยประชุมสภา หรือตรงกับวันสำคัญ ส่วนกรอบเวลาที่รัฐบาลกำหนดให้อภิปราย 4 วันนั้น ไม่สามารถยื่นคำขาดหรือกำหนดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ข้อบังคับการประชุมสภาและรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายอภิปรายจนจบ ถ้าไม่จบก็ปิดไม่ได้ ไม่เช่นนั้นเป็นการละเมิดสิทธิ์ หรือเรียกว่าขัดขวางการตรวจสอบ

การกำหนดเวลาไม่สามารถทำได้เพราะรัฐธรรมนูญระบุว่าให้อภิปรายจนเสร็จสิ้น คราวที่แล้วก็มีปัญหาอภิปรายยังไม่จบก็ให้ยุติ ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยก็ทำได้แต่เราไม่อยากมีปัญหา แต่ครั้งนี้หากปิดกั้นอีกอาจต้องทำเพื่อให้เกิดเป็นบรรทัดฐาน

ตู่ย้ำครม.มาด้วยกันไปด้วยกัน

รายงานข่าวจากทำเนียบเผยว่า เลขาธิการครม.รายงานให้ที่ประชุมครม.ทราบถึงญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ สำนักเลขาธิการครม.จึงแจ้งเลื่อนวันประชุมครม.จากอังคาร ที่ 16 ก.พ.มาเป็นวันจันทร์ที่ 15 ก.พ. ขณะที่นายกฯฝากรัฐมนตรีทุกคนช่วยกันชี้แจงในการ อภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยกล่าวย้ำตอนท้ายว่า “ขอฝากความหวัง มาด้วยกันไปด้วยกัน”

ช่วงหนึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ รายงานถึงกรณีมีกระแสข่าวว่า คดีบางคดี ที่เกี่ยวโยงกับโครงการรับจำนำข้าวขาดอายุความแล้ว ซึ่งในข้อเท็จจริงข่าวดังกล่าวไม่เป็น ความจริง ทั้งคดีที่เกี่ยวข้องกับนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ยังไม่มีคดีไหนขาดอายุความ บางคดีตัดสินไปแล้ว บางคดีมีการออกหมายยึดทรัพย์ไปแล้ว เช่น บ้านที่ซอยโยธินพัฒนา และบางคดีมีการขายทอดตลาดไปแล้ว ส่วนคดีอาญาก็ฟ้องไปหมดแล้ว

ขณะที่มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ว่าด้วยปรับเป็นพินัย ที่เกี่ยวกับการปรับทางปกครองนั้น นายกฯมอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายไปศึกษา ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 เนื่องจากที่ผ่านมามีกรณีที่ตนเองถูกฟ้องมาตรา 157 บ่อยครั้ง หรือแม้แต่บางกรณีเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นผู้ถูกฟ้องร้อง แต่นายกฯก็ยังถูกฟ้องร้องในเรื่องเดียวกันด้วย จึงขอให้ฝ่ายกฎหมาย ไปช่วยดู เพราะหากเจ้าหน้าที่รัฐทำผิดแล้ว นายกฯต้องผิดมาตราดังกล่าวด้วยหรือ

‘ณฐพร’เจ้าเก่า-ยื่นยุบก้าวไกล

ที่สำนักงานกกต. นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องให้กกต. พิจารณาวินิจฉัยกรณีพรรคก้าวไกล กระทำความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมือง จากการแสดงความเห็นทางการเมือง เข้าร่วมกับผู้ชุมนุม ประกันตัวผู้ต้องหาคดีชุมนุมทางการเมือง ถือเป็นการกระทำการหรือส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ใดกระทำการ อันเป็นการก่อกวนหรือคุกคามความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน รวมทั้งกรณียื่นร่างแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาฐานความผิดเกี่ยวกับการหมิ่นประมาททั้งหมด รวมถึงมาตรา 112 ร่างแก้ไขพ.ร.บ. การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 และร่างแก้ไขพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ตลอดจนการลงมติเห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมฉบับไอลอว์ ซึ่งการกระทำของพรรคก้าวไกลถือเป็นปฏิปักษ์ ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นความผิดตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 45 และมาตรา 92 (2) (3) จึงขอให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยและเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรค

การมายื่นวันนี้ มีหลักฐานชัดเจนไม่คลุม เครือ เอกสารหลักฐานต่างๆ ได้ขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเรื่องการโอนเงิน ก็มีหลักฐานว่าพวกชุมนุมได้เงินจากใคร ใครโอนเงินให้ ใครจ่ายเงินให้ จ่ายเงินที่ไหน พิสูจน์ให้สังคมเห็นว่าที่ยื่นไม่ได้กลั่นแกล้ง แต่มีหลักฐานเพียงพอ ไม่ได้โกรธแค้นส่วนตัว

‘พิธา’ลั่นฟ้องกลับแน่

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กกรณีนายณฐพร ร้องให้ยุบพรรคก้าวไกลว่า ได้ติดตามข่าวและได้อ่านเอกสารคำร้องที่นายณัฐพร ส่งให้กกต.แล้ว ไม่มีอะไรจะพูดมาก นอกจากคำว่าเลอะเทอะ และไร้สาระ นายณฐพร ชื่อคุ้นๆ เพราะเป็นหนึ่งในผู้เกี่ยวข้อง กับคดีฟอกเงินที่ดินคลองจั่นเกือบ 5 ร้อยล้านบาท เป็นผู้สนับสนุนระบอบสืบทอดอำนาจ คสช. และยังเป็นคนเดียวกับที่เคยยื่นให้ยุบพรรคอนาคตใหม่คดี ‘อิลลูมินาติ’ ด้วย ซึ่งคดีนั้นจบลงที่ศาลวินิจฉัยไม่ยุบพรรคอนาคตใหม่ เนื่องจากไม่ได้มีการล้มล้างการปกครองหรือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบอบการปกครองแต่อย่างใด

“คำร้องยุบพรรคที่คุณณฐพรเขียนมาวันนี้ ข้อเท็จจริงที่กล่าวอ้างมาก็ไม่มีส่วนไหนเลย ที่สนับสนุนสิ่งที่กล่าวหา อ่านทั้งหมดแล้วรู้สึกว่าไร้สาระยิ่งกว่าคดีอิลลูมินาติ เสียอีก ดังนั้น ผมและพรรคกำลังพิจารณาฟ้องร้องดำเนินคดีกับคุณณฐพร ในความผิดมาตรา 101 แห่งพ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ.2560 ในข้อหาที่ว่า “ผู้ใดแจ้งหรือกล่าวหาพรรคการเมือง หรือบุคคลใดว่ากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ต่อคณะกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยรู้อยู่ว่าเป็นความเท็จต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น”

เมื่อดูภาพรวมประกอบบริบทสถานการณ์แล้ว การยื่นคำร้องยุบพรรคก้าวไกลแบบนี้ คิดเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากความตั้งใจก่อกวนให้พวกเราเสียสมาธิในการทำงาน และเบี่ยงประเด็นกลบเกลื่อนความผิดพลาดในการบริหารงานของรัฐบาล ที่จะถูกแฉในการอภิปราย ไม่ไว้วางใจที่กำลังจะมีขึ้นใน 2 สัปดาห์ ข้างหน้านี้

เสรีรวมไทยส่งซ่อมนครฯ

รายงานข่าวแจ้งว่า ในการประชุม 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่ประชุมได้พูดคุยและสอบถามถึงการส่งผู้สมัครซ่อมส.ส.เขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีเพียงพรรคพรรคเสรีรวมไทย เท่านั้นที่จะส่งผู้สมัคร ขณะที่พรรคฝ่ายค้านอื่นๆ ไม่มีความประสงค์จะส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ ส.ส.ในเขตดังกล่าว

อู๊ดด้าดักคอพปชร.ส่งผู้สมัคร

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหากระทบกระทั่งระหว่าง พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กับปชป. เกี่ยวกับการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีธรรมราชว่า ไม่ขอให้ความเห็นเรื่องพรรคอื่น แต่ถ้าปชป.เป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล จะไม่ส่งผู้สมัคร แต่จะให้เจ้าของ ที่นั่งเดิมที่เป็นพรรคร่วมเป็นผู้ส่ง เราเคยเป็นแกนตั้งรัฐบาลมาหลายครั้งและปฏิบัติมาเช่นนี้ตลอด ส่วนเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้พรรคมีมติ ส่งผู้สมัครแล้วเพราะเป็นเจ้าของที่นั่งเดิม วันที่ 5 ก.พ.จะทราบชื่อผู้สมัครที่เป็นทางการ

นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตส.ส.นครศรีฯ ปชป. โพสต์เฟซบุ๊กถึงผลการประชุมสาขาเขต 3 นครศรีฯ ว่า ที่ประชุม ซึ่งมีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคใต้ เป็นประธาน นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ ประธานคณะกรรมการสรรหา นายสุรศักดิ์ วงศ์วนิช ประธานสาขาพรรค และสมาชิกจำนวน 200 คน เข้าร่วม มีมติเอกฉันท์รับรองให้ นายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ซึ่งแสดงเจตจำนงลงสมัครเพียงคนเดียว เป็นผู้สมัครเลือกตั้งซ่อมส.ส. เขต 3 จากนี้ นายชำนิจะนำรายชื่อเสนอต่อกก.บห. เพื่อมีมติเห็นชอบในวันที่ 5 ก.พ. ก่อนกกต.เปิดรับสมัครวันที่ 11-15 ก.พ.

ปชป.ส่งน้องเทพไทรักษาเก้าอี้

เวลา 16.00 น. ที่ทำการ ปชป. นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรค แถลงผลประชุมส.ส. ว่า ที่ประชุมรับทราบผลการรับฟังความคิดเห็น จากตัวแทนประจำเขต 3 จ.นครศรีฯ มีมติสนับสนุนให้นายพงศ์สินธุ์ ลงสมัครเลือกตั้งซ่อม โดยจะเสนอชื่อให้กก.บห. พิจารณาอนุมัติ วันที่ 5 ก.พ. ส่วนที่พปชร.เตรียมส่งผู้สมัครด้วยนั้นที่ประชุมไม่มีการพูดถึง แต่อยากบอกว่า ถ้าต้องชนก็ชน ปชป.พร้อมสู้ เพราะตามกฎหมายทุกพรรคมีสิทธิ์ส่งผู้สมัคร

“ผมขอย้ำว่าคำว่า มารยาททางการเมือง ไม่มีกำหนดไว้ในกฎหมายหรือข้อบังคับของพรรคต่างๆ รวมถึงพปชร.ด้วย ฉะนั้น ถ้าถามเรื่องมารยาทก็ควรให้พปชร. เป็นคนตอบ” นายราเมศกล่าว

ไม่เห็นด้วยตีความแก้รธน.

ส่วนการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายจุรินทร์ และนายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย ไม่ได้กังวลใจ และจัดเตรียมข้อมูลชี้แจงไว้ตามปกติ ที่ประชุมพรรคได้พูดคุยและเห็นว่าไม่จำเป็นต้องตั้งสมาชิกขึ้นมาประท้วง แต่ถ้ามีการอภิปรายผิดข้อบังคับการประชุม ส.ส. ก็ต้องลุกขึ้นติติงเพื่อให้อยู่ในกรอบ และยังไม่มี การพูดคุยว่าจำเป็นต้องตั้งทีมร่วมกับพปชร. หรือไม่ เพราะรัฐมนตรีอยู่คนละกระทรวง แต่เป็น หน้าที่ของนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ รองประธานวิปรัฐบาล จะเป็นผู้ประสานข้อมูล ที่เชื่อมโยงกัน

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติ ขอให้รัฐสภามีมติส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ให้วินิจฉัยเกี่ยวกับอำนาจและหน้าที่ของรัฐสภา ต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ของนายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้า พปชร. และนายสมชาย แสวงการ ส.ว. ซึ่งจะเข้าที่ประชุมร่วมรัฐสภา 9 ก.พ. พรรคยืนยันว่าการลงชื่อญัตติแก้ไข เพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนั้นชอบด้วยกฎหมาย ปชป. ยังยืนยันไม่เห็นด้วยที่จะส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในขณะนี้ แต่หลังเสร็จสิ้นกระบวนการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 2-3 ซึ่งมาตรา 256 ระบุชัดว่าสมาชิกรัฐสภาสามารถตรวจความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ โดยส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความได้อยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุผลใดต้องยื่นให้ศาลตีความในขณะนี้ เมื่อถามว่าหากที่ประชุมวิปรัฐบาลมีมติให้ส่งตีความ ปชป.จะเห็นอย่างไร นายราเมศกล่าวว่า พรรคยังคงยืนยันไม่เห็นด้วยและจะโหวตสวนมติ วิปรัฐบาล

ป้อมไม่คุยปชป.-ไม่บานปลาย

ที่ทำเนียบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพปชร. กล่าวถึงข่าว ส.ส.นครศรีฯ และ ส.ส.ภาคใต้ของพรรค จะนำนายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัคร ส.ส.นครศรีฯ ไปเปิดตัวที่พรรคและพาเข้าพบ พล.อ.ประวิตร ว่า สื่อรู้ได้อย่างไร ตนยังไม่เจอเขาเลย สื่อที่ไหนรายงาน และการ จะพิจารณาว่าจะส่งผู้สมัครหรือไม่ ต้องรอประชุม กก.บห. วันที่ 4 ก.พ.นี้

เมื่อถามว่าหัวหน้าปชป. ระบุหากเป็น แกนนำรัฐบาลจะให้เจ้าของพื้นที่เดิมส่งผู้สมัคร โดยไม่ส่งคนลงแข่ง พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เป็นเรื่องของเขา จะไปรู้ได้อย่างไร สื่อถามอย่างนี้จะตอบอย่างไรเพราะไม่ได้ถามเรื่องของตน และเรื่องนี้เป็นเรื่องประชาธิปไตย ขอย้ำว่าที่ผ่านมาผู้สมัครของเราแพ้ไม่กี่พันคะแนน ยืนยันเรื่องนี้จะไม่เป็นปัญหาบานปลาย กับปชป. มีแต่พวกสื่อที่จะพูดและถามให้เป็นปัญหา เพราะเขาก็ระบุว่าใครจะลงสมัครก็ได้ เมื่อถามว่าต้องคุยเรื่องส่งผู้สมัครกับนายจุรินทร์ หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า จะคุยอะไรก็พูด อยู่นี่ และคุยอยู่ทุกวันอยู่แล้ว ไม่ต้องตกลงอะไรกัน เมื่อถามย้ำว่าถ้าพปชร.หลีกทางไม่ส่ง ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม แล้วปชป.จะหลีกทางไม่ส่ง ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.หรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ผมไม่คิดจะส่งผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. ดังนั้นจะมาส่งในนามพรรคได้อย่างไร”

ไฟเขียว‘อาญาสิทธิ์’ลงชิง

เวลา 15.00 น. ที่ทำการ พปชร. นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ เลขาธิการพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานการประชุม เตรียมความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ระหว่างประชุม ส.ส.นครศรีฯ และส.ส.ใต้ พานายอาญาสิทธิ์ ศรีสุวรรณ อดีตผู้สมัครส.ส.นครศรีฯ และแคนดิเดตผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 3 นครศรีฯ มาเปิดตัว

นายอาญาสิทธิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาแสดง ความจำนงขอลงเลือกตั้งซ่อม เป็นไปตาม ขั้นตอน ก่อนที่กก.บห.จะประชุมคัดเลือก ตนพร้อมแข่งขันไม่ว่าจะเป็นปชป.หรือพรรคใดก็ตาม ส่วนตัวรู้จักนายเทพไท และน้องชายของนายเทพไทเป็นอย่างดี เพราะทำงาน ในพื้นที่ก็เจอกัน การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา ตนได้คะแนนห่างจากนายเทพไทไม่มาก ครั้งนี้จึงเชื่อมั่นว่าประชาชนจะไว้วางใจพปชร.

รายงานข่าวจากพปชร. เผยว่า หลังส.ส.ภาคใต้พานายอาญาสิทธิ์ เปิดตัวแสดงความจำนงลงเลือกตั้งซ่อมแล้ว ได้พาเข้าพบกับพล.อ.ประวิตร ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด พล.อ.ประวิตร พูดคุยกับนายอาญาสิทธิ์ พร้อมระบุว่าจะสนับสนุนให้ลงสมัครในนามพปชร. โดยตามขั้นตอนต้องแจ้งให้ที่ประชุมกรรมการสรรหาของพรรครับทราบ ก่อนนำเข้าที่ประชุมกก.บห.พิจารณาและมีมติเห็นชอบในวันที่ 4 ก.พ.นี้

อย่างไรก็ตาม วันที่ 3 ก.พ. เวลา 11.00 น. กลุ่มส.ส.นครศรีฯ และส.ส.ภาคใต้ จะแถลงข่าวเปิดตัวนายอาญาสิทธิ์ ที่รัฐสภา

ยันโหวตหนุนตีความแก้รธน.

นายวิรัชให้สัมภาษณ์หลังประชุมพรรค ถึงกรณีคณะกรรมการกฤษฎีกาส่งหนังสือ ถึงกมธ.พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขเพิ่มเติม เห็นควรทำเป็นรายมาตรา แต่หาก จะยกร่างทั้งฉบับควรทำประชามติก่อน ว่า เรื่องนี้อาจต้องส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่าการตั้งส.ส.ร. มาแก้ทั้งฉบับทำได้หรือไม่ ดังนั้นการประชุมวิป 3 ฝ่าย 8 ก.พ. และการประชุมร่วมรัฐสภา 9 ก.พ. พปชร.จะสนับสนุน ญัตติของนายไพบูลย์ เพื่อส่งเรื่องต่อให้ศาลวินิจฉัย เชื่อว่าจะมีส.ว.บางส่วนสนับสนุนด้วย ส่วนพรรคอื่นๆ อยู่ที่แต่ละพรรคมีมติจะฟรีโหวต

เมื่อถามว่าถูกมองว่ายื้อแก้รัฐธรรมนูญ นายวิรัชกล่าวว่า ไม่ได้ยื้อ เพราะเตรียมเข้าวาระ 2 วันที่ 24-25 ก.พ.นี้ และเตรียมขอเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เพื่อพิจารณาในวาระ 3 ช่วงมี.ค. ไว้แล้ว

3ก.พ.ถกวิป3ฝ่าย-กรอบซักฟอก

ส่วนกรอบเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายวิรัชกล่าวว่า ครม.ตอบกลับมาแล้วว่าพร้อมตั้งแต่ 16 ก.พ.เป็นต้นไป โดยวันที่ 3 ก.พ. นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา จะเรียกประชุมวิป 3 ฝ่ายประกอบด้วย วิปรัฐบาล วิปฝ่ายค้านและรัฐบาล เพื่อหารือกรอบเวลา เบื้องต้นให้เวลาอภิปราย 4 วันคือ 16-19 ก.พ. วันแรกเริ่มตั้งแต่เวลา 09.30-02.00 น. ส่วนวันสุดท้ายคือ 19 ก.พ. ต้องอภิปรายให้เสร็จก่อนเวลา 22.00 น. และนัดลงมติ 20 ก.พ. เวลา 10.30 น.

มั่นใจว่าการลงมติให้รัฐมนตรีทั้ง 10 คนจะไม่มีปัญหา เสียงจะปึ้ก

กกต.รับรองเพิ่ม-23นายกอบจ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมกกต.มีมติ ให้มีการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายกอบจ.เพิ่มอีก 23 จังหวัด ประกอบด้วย จ.กาญจนบุรี นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ, จ.ขอนแก่น นายพงษ์ศํกดิ์ ตั้งวานิชกพงษ์, จ.ฉะเชิงเทรา นายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์, จ.ชลบุรี นายวิทยา คุณปลื้ม, จ.ชัยภูมิ นายอร่าม โล่วีระ, จ.ตรัง นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ, จ.นครปฐม นายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์, จ.นครพนม น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ, จ.นครศรีธรรมราช นางกนกพร เดชเดโช, จ.นราธิวาส นายกูเซ็ง ยาวอะหะซัน, จ.บึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศรี, จ.บุรีรัมย์ นายภูษิต เล็กอุดากร

จ.ปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง, จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์, จ.พัทลุง นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร, จ.ภูเก็ต นายเรวัติ อารีรอบ, จ.มุกดาหาร พ.ต.ท.จิตต์ ศรีโยหะ มุกดาธนพงศ์, จ.ยะลา นายมุขตาร์ มะทา, จ.เลย นายธนาวุฒิ ทิมสุวรรณ, จ.สกลนคร นายชูพงศ์ คำจวง, จ.สงขลา นายไพเจน มากสุวรรณ์, จ.สุมทรสาคร นายอุดม ไกรวัฒนุสสรณ์, จ.สุราษฎร์ธานี นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว เป็นนายกอบจ.

กกต.เห็นว่าเรื่องร้องเรียนของบุคคลเหล่านี้ สำนักงานกกต.จังหวัดยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ เมื่อส่งมาถึงกกต.กลางก็มีขั้นตอนสืบสวนไต่สวน อีกทั้งเวลาที่เหลือจากที่กฎหมาย ให้รับรองผลใน 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง ไม่เพียงพอจะจัดเลือกตั้งใหม่หากวินิจฉัยว่าทุจริต จึงมีมติให้ประกาศรับรองผลไปก่อนและเร่งให้สอบสวนให้เสร็จโดยเร็ว เพื่อเสนอกกต.พิจารณา

เหลืออีก 24 จังหวัดที่ยังไม่รับรองผล ในจำนวนนี้ 11 จังหวัดกกต.สั่งให้ลงคะแนนบางหน่วยใหม่ โดยกกต.มีเวลาพิจารณาเรื่องร้องเรียนถึง 19 ก.พ. หากไม่เสร็จ ให้รับรองผล การเลือกตั้งไปก่อน ต่อมาหากเห็นว่ากระทำผิดจริงมีมติเพิกถอนสิทธิสั่งเลือกตั้งใหม่ จะเสนอให้ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษา

ครม.เห็นชอบปรับปรุงกม.ทำแท้ง

เมื่อวันที่ 2 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า สืบเนื่องจากสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาได้ผ่านร่างพ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่..) พ.ศ. …. เกี่ยวกับความผิดฐานทำให้แท้งลูก หรือ “กฎหมายทำแท้ง” แล้ว โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว มีข้อสังเกตเพิ่มเติม ทางสภาจึงเสนอครม. เพื่อพิจารณา ซึ่งวันนี้ ครม. ได้รับทราบข้อสังเกตและเห็นชอบให้ดำเนินการ มีสาระสำคัญดังนี้

1.เพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น 2.ให้แพทยสภาปรับปรุงข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหามาตรา 301 และมาตรา 305 โดยเร่งด่วน

3.ให้กระทรวงสาธารณสุขกำหนดมาตรการการบริการให้กับผู้หญิงที่มารับบริการ โดยให้ศูนย์บริการภาครัฐทุกแห่งจัดให้มีบริการปรึกษาทางเลือกและแก้ไขปัญหาการตั้งครรภ์ การยุติ การตั้งครรภ์อย่างทั่วถึง รวมทั้งจัดให้มีศูนย์บริการในโรงพยาบาลของรัฐอย่างน้อยจังหวัด ละ 1 แห่ง เพื่อแก้ปัญหาและพัฒนาสุขภาพอนามัยเจริญพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย และ 4.จัดสรรงบประมาณสนับสนุนช่วยเหลือดูแลผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมและกำหนดให้มีการติดตามประเมินผลการทำงานทุกปี โดยเสนอต่อกรรมการที่กระทรวงสาธารณสุขจัดตั้งขึ้น และกำหนดมาตรการควบคุมการจำหน่ายยาที่ผิดกฎหมายที่จะนำมาใช้ในการทำแท้งเองหรือการทำแท้งเถื่อน และดำเนินการกับหมอเถื่อนหรือคลินิกเถื่อนอย่างจริงจัง

จัดทัพซักฟอก – นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ประชุมจัดวางตัว 45 ขุนพล และเตรียมข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและรัฐมนตรี ที่รัฐสภา เมื่อวันที่ 2 ก.พ.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน