‘เนปยีดอว์’ส่อนองเลือด
ตู่ฮึ่มชุมนุมต้านเมี ยนมา

ส่อนองเลือด ตำรวจพม่าระดม ยิงกระสุนยางใส่ผู้ประท้วงหลาย พันคนที่ออกมา ชุมนุมต่อต้านรัฐประหารที่กรุงเนปยีดอว์ หลังกองทัพออกประกาศห้ามชุมนุมประท้วง ล่าสุดแพทย์ที่อยู่ในม็อบเผยมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 ราย ขณะที่นิวซีแลนด์เป็นชาติแรกของโลกที่ตัดการสื่อสาร เพื่อโดดเดี่ยวพม่า ‘บิ๊กตู่’ ไม่เห็นด้วยชุมนุมประท้วงหน้าสถานทูตพม่าในกรุงเทพฯ เตือนทุกฝ่ายอย่ายุยงปลุกปั่น

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ. ช่วงเวลาหัวค่ำ หลังกลุ่ม ผู้ชุมนุมเรียกร้องต่อต้านรัฐประหารในประเทศเมียนมาและกลุ่มวีโว่ยุติการทำกิจกรรม ที่บริเวณหน้าสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ถนนสาทร กทม. แล้วแยกย้ายกันไป หลังจากนั้นปรากฏว่าเกิดเหตุเสียงดังคล้ายระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณใกล้สถานีรถไฟฟ้าเซนต์หลุยส์ ถนนสาทร แต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด และตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พบเศษวัสดุคาดเป็นระเบิดแสวงเครื่องขนาดเล็กคล้ายระเบิดปิงปอง อานุภาพไม่ร้ายแรงถึงแก่ชีวิต เชื่อว่าผู้ไม่หวังดีต้องการสร้างสถานการณ์

โฆษก ตร. ยังกล่าวอีกว่า ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องไม่ให้มีการก่อเหตุร้าย กระทำผิดกฎหมาย หากพบสามารถแจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 รองผบก.น.6 กก.สส.บก.น.6 สน.ยานนาวา สน.ปทุมวัน แถลงการสืบสวนคดีความมั่นคงในพื้นที่ บก.น.6 โดยใช้เวลา 2 ชั่วโมงครึ่ง

พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า กรณีเสียงดังคล้ายระเบิด 2 ครั้งนั้น เบื้องต้นจากการตรวจสอบหลักฐานในที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นลูกบอลประทัด ไม่ใช่ระเบิดปิงปอง มีพลาสติกห่อหุ้ม ดินระเบิดแรงดันต่ำ ไม่พบสะเก็ดระเบิด และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุในครั้งนี้

ส่วนผู้ก่อเหตุนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่า ฝ่ายสืบสวนอยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบ แต่ช่วงเวลาเกิดเหตุ ไม่มีคนสัญชาติเมียนมาอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงคาดว่าจะเป็นคนไทย แต่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้ก่อเหตุเดิมที่บริเวณสามย่านหรือไม่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ แต่หลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุต่างกัน เพราะที่สามย่านมีสะเก็ดระเบิด แต่ก็สามารถดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุได้ ฐานทำให้เกิดเสียงดังอื้ออึง และทำให้ประชาชนตกใจกลัว ซึ่งมีความคืบหน้าจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดค่อนข้างมาก อย่างไรก็ตาม การรักษาความปลอดภัยสถานเอกอัครราชทูต เมียนมา ตำรวจนครบาลยังปฏิบัติตามปกติ แม้ว่าสถานการณ์ในเมียนมาจะตึงเครียดมากขึ้นก็ตาม

ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมครม. ถึงกรณีการชุมนุมของชาว เมียนมาหลายครั้งในไทย เพื่อต่อต้านการยึดอำนาจในเมียนมา รวมถึงคนไทยบางกลุ่มพยายามเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการชุมนุม มีความกังวลในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ว่า ตนไม่อยากให้มีการชุมนุมในเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องมีความระมัดระวังพอสมควร ขอฝากไว้ด้วยสำหรับคนบางกลุ่มที่พยายามจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว ยุยงปลุกปั่นอะไรทำนองนี้ ตนไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้โดยเด็ดขาด เพราะเป็นเรื่องของอาเซียนด้วยกัน คงไม่พูดอะไรไปมากกว่านี้ การหารือก็ต้องไปหาวิธีการว่าจะทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้








Advertisement

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า พลเอก มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการกองทัพสูงสุดของ เมียนมา และผู้นำรัฐประหาร แถลงสถานการณ์ในปัจจุบันของประเทศทางโทรทัศน์ในค่ำคืนนี้ ถือเป็นถ้อยคำพูดแรกระดับชาติของ พลเอกมิน อ่อง ไหล่ หลังยึดอำนาจรัฐบาลของ นางออง ซาน ซู จี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่การประท้วงต่อต้านรัฐประหารทั่วประเทศรุนแรงขึ้น

พลเอกมิน อ่อง ไหล่ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนให้ความสำคัญกับข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง ไม่ใช่ความรู้สึก รัฐบาลทหารจะให้ความสำคัญกับสันติภาพทั่วประเทศในข้อตกลง หยุดยิง จะสร้างโอกาสในการทำงาน และเปิดโรงงานอีกครั้ง แต่ไม่ได้กล่าวถึงการยึดอำนาจจากนางซู จี แต่อย่างใด

พลเอกมิน อ่อง ไหล่ กล่าวว่า รัฐบาลทหารแตกต่างจากรัฐบาลทหารก่อนหน้านี้ ทหารเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ การเลือกตั้งอย่างอิสระและเป็นธรรมเป็นสิ่งสำคัญในระบบประชาธิปไตย ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมายและความต้องการพื้นฐานของระบบประชาธิปไตย ไม่มีองค์กรไหนอยู่เหนือผลประโยชน์ของชาติ และจะจัดการเลือกตั้ง และส่งมอบอำนาจแก่พรรคการเมืองผู้ชนะการเลือกตั้ง

พลเอกมิน อ่อง ไหล่ ย้ำความผิดปกติของการเลือกตั้งเมื่อปีที่แล้วที่พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของนาง ซู จี ชนะอย่างถล่มทลายว่า คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้การระบาดของโควิด-19 เป็นข้ออ้าง และไม่ให้หาเสียงอย่างเป็นธรรม เจ้าหน้าที่การเลือกตั้งล้มเหลวในการทำหน้าที่ด้วยข้อแก้ตัวมากมาย จึงต้องปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้ง และเตรียมการป้องกันโควิด-19 ล่วงหน้า

“จะพูดคุยกับทุกประเทศ เชิญชวนต่างประเทศมาลงทุนในเมียนมา จะดำเนินการอนุมัติโครงการธุรกิจที่รอดำเนินการจากรัฐบาลก่อนหน้านี้ ขณะที่นโยบายต่างประเทศจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ส่วนการส่งกลับชาวบังกลาเทศจะดำเนินการต่อไปตามข้อตกลงทวิภาคี” ผู้นำรัฐประหารเมียนมาระบุ

ด้านสถานการณ์ในเมียนมา วันเดียวกัน บีบีซีรายงานว่า ประชาชนยังออกมาเคลื่อนไหวประท้วงตามท้องถนนต่อเนื่องเป็นวันที่สี่ตามเมืองต่างๆ รวมถึงกรุงเนปยีดอว์ นครย่างกุ้ง เมืองมัณฑะเลย์ เพื่อต่อต้านรัฐประหารและเรียกร้องให้ปล่อยตัวนางออง ซาน ซู จี และผู้นำอาวุโสของพรรคเอ็นแอลดี รวมถึงประธานาธิบดีวิน มินต์ ที่ถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ตำรวจเมียนมาเริ่มใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา และฉีดน้ำแรงดันสูงเพื่อสลายการชุมนุม หลังเริ่มมีการใช้มาตรการควบคุมในบางพื้นที่ของประเทศแล้ว แต่ผู้ชุมนุมไม่ยอมถอย และพากันตะโกน “หยุดเผด็จการทหาร” แม้ตำรวจยิงปืนขึ้นฟ้าตามด้วยยิงกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม

ก่อนหน้านี้ ทางการประกาศเคอร์ฟิวที่นครย่างกุ้ง และเมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสอง ห้ามประชาชนออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 20.00-04.00 น. และห้ามการชุมนุมเกิน 5 คน

เจ้าหน้าที่ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง กระสุนแก๊สน้ำตา และกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องให้กองทัพยุติการทำรัฐประหารเป็นวันที่สี่แล้ว มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน โดยกองทัพพม่าประกาศห้ามไม่ให้ชุมนุม และออกมาตรการเคอร์ฟิวช่วงกลางคืนในหลายจังหวัด ขณะที่พลเอกมิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการสูงสุดของกองทัพพม่ายืนยันว่าไม่มีบุคคลใดเหนือกฎหมาย

อย่างไรก็ตาม ผบ.สส.ของกองทัพพม่า ซึ่งแถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจไป ทั่วประเทศ ไม่ได้ใช้ถ้อยคำข่มขู่ไปยังผู้ชุมนุมโดยตรง แต่ย้ำว่าจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ทำผิดกฎหมาย

ด้านผู้ประท้วงยังคงเรียกร้องให้กองทัพพม่าปล่อยตัวนาง ออง ซาน ซู จี และผู้บริหารพรรคระดับสูงของพรรคสันนิบาตเพื่อ ประชาธิปไตย หรือเอ็นแอลดี ที่ถูกควบคุมตัวไปตั้งแต่การยึดอำนาจเมื่อ 4 วันก่อน

รายงานระบุว่า เหตุการณ์ชุมนุมที่กรุง เนปยีดอว์เริ่มขึ้น หลังตำรวจเริ่มใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงยิงใส่ผู้ชุมนุม แต่ผู้ชุมนุมพยายามต้านทานและไม่ยอมล่าถอย พร้อมตะโกนสวนกลับว่า “เลิกรัฐประหาร!” ต่อมาตำรวจบางนายเริ่มยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงระดมยิงกระสุนยางเข้าใส่ผู้ชุมนุม

หนึ่งในผู้ประท้วง ระบุว่า “พวกเค้ายิงปืนขึ้นฟ้าขู่ 2 ครั้ง จากนั้นจึงยิงกระสุนยางใส่พวกม็อบ” ขณะที่แพทย์ในพื้นที่กล่าวว่า ต้องดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บแล้วถึง 3 คน จากกระสุนยาง ตอนนี้ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลแล้ว

วันเดียวกัน ทางการนิวซีแลนด์ประกาศระงับการติดต่อสื่อสารระดับสูงทั้งหมดกับทางการพม่า และห้ามไม่ให้สมาชิกคณะรัฐประหารพม่าเดินทางเข้าประเทศ นับเป็นการดำเนินการโดดเดี่ยวพม่าครั้งแรกจากต่างชาติ

นางจาซินดา อาร์เดิร์น นายกรัฐมนตรีหญิงนิวซีแลนด์ กล่าวด้วยว่า นิวซีแลนด์มีโครงการให้ความช่วยเหลือพม่าทางการเงินระหว่างปี 2561-2564 มูลค่ากว่า 900 ล้านบาท

ต่อมา สหประชาชาติแถลงประณามการใช้กำลังของเจ้าหน้าที่เมียนมาต่อผู้ชุมนุมประท้วง หลังจากตำรวจเริ่มใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตายิงใส่ประชาชน นายโอลา อัลม์เกรน ผู้ประสานงานด้านสิทธิมนุษยชนในเมียนมา กล่าวว่า การใช้กองกำลังที่ไม่เหมาะสมต่อ ผู้ประท้วงเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน