ชี้ละเมิดกฎสากล-จี้ลงโทษจนท.
ผบช.น.โต้ทำรุนแรง-แค่ผลักดัน
แจงไม่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง
ยันตร.เจ็บ29-ผู้ชุมนุมถูกจับ11
การ์ดแจ้งจับโดนกระบองทุบ

ฮือประณามเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงกับพยาบาลอาสา ระหว่างสลายม็อบราษฎรค่ำวันเสาร์ ชมรมแพทย์ชนบท-สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์ชี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนและกติการะหว่างประเทศ จี้นำเจ้าหน้าที่ที่ทำร้ายมาลงโทษ ขณะที่โลกโซเชี่ยลวิพากษ์วิจารณ์หนักหลังคลิปนาทีปราบม็อบว่อนเน็ต ผบช.น.โต้ไม่ใช้น้ำฉีด-แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง แจงแค่ตั้งแนวกั้นดันคนออก อีกทั้งไม่ใช่พยาบาลอาชีพ ส่วนเหตุการณ์ที่สน.นางเลิ้งแค่ยิงปืนขึ้นฟ้า เตรียมเรียก‘เฌอเอม’ให้ปากคำหลังโพสต์ถูกแก๊สน้ำตา เผยควบคุมตัวกลุ่มผู้ชุมนุม 11 คน ส่วนตำรวจเจ็บ 29 นาย กรรมการสมานฉันท์หาช่องคุยเจ้าหน้าที่ ตร.เรียกสอบม็อบหน้าสถานทูตพม่าและสามย่านมิตรทาวน์

ผบช.น.แถลงเหตุการณ์ชุมนุม

วันที่ 14 ก.พ. เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. แถลงสรุปสถานการณ์ชุมนุมที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และหน้าศาลฎีกา สนามหลวง เมื่อเวลา 15.00-21.30 น. วันที่ 13 ก.พ. โดย พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่าการชุมนุมทำกิจกรรมเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เริ่มเวลา 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดคัดกรองโดยรอบเพื่อตรวจค้นอาวุธสิ่งของที่อาจทำให้เกิดอันตรายกับผู้ชุมนุม พร้อมประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะว่าการชุมนุมในช่วงเวลานี้มีความผิดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คน ทำกิจกรรมต่อเนื่องและปิดเส้นทางจราจร โดยดำเนินกิจกรรมถึงเวลา 18.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุมชักชวนกันไปทำกิจกรรมที่ศาลหลักเมืองซึ่งบริเวณดังกล่าวมีสถานที่สำคัญ เช่น วัดพระแก้ว ศาลหลักเมือง ฯลฯ ตำรวจจำเป็นต้องตั้งแนวเพื่อกำหนดอาณาเขต เมื่อผู้ชุมนุมเดินทางถึงบริเวณดังกล่าวมีกลุ่มบุคคลในกลุ่มผู้ชุมนุมขว้างปาสิ่งของ ทั้งก้อนหิน ขวดน้ำ วัตถุที่ก่อให้เกิดระเบิดแรงดันต่ำ ฯลฯ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บทั้งสิ้น 23 นาย

ยันไม่ใช้น้ำ แก๊ส กระสุนยาง

พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่าต่อมาหลังผู้ชุมนุมบางส่วนประกาศให้ยุติชุมนุม มีกลุ่มบุคคลชุมนุมต่อและก่อความวุ่นวาย ขว้างปาสิ่งของ ทั้งหิน ขวด วัตถุระเบิด ใส่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งเตือนให้แยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะจำเป็นต้องเปิดเส้นทางการจราจรและรักษาความสงบเรียบร้อยให้เข้าสู่ภาวะปกติ กลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงชุมนุมต่อจนครบเวลา 30 นาที ตำรวจจึงต้องใช้กำลังผลักดันผู้ชุมนุมออก ยืนยันว่าไม่ได้ใช้น้ำฉีด ไม่ได้ใช้แก๊ส และไม่ได้ใช้กระสุนยาง

หลังการชุมนุมควบคุมตัวบุคคลได้ 11 ราย มี 3 ราย เมาสุรา จึงเปรียบเทียบปรับและปล่อยตัวไป อีก 8 ราย ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ, พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , ขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน, และร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน ในจำนวน 8 คนนี้ยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ ตชด.ภาค 1 สำหรับการทำกิจกรรมรื้อกระถางต้นไม้ ถือว่าผิด พ.ร.บ.โรคติดต่อ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เมื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลใครได้ก็ดำเนินคดี ส่วนเหตุการณ์หลังจากนั้นหากมีพยานหลักฐานพิสูจน์ทราบได้ว่าร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานก็ต้องแจ้งข้อหาเช่นกัน

ที่สน.นางเลิ้งยิงปืนขึ้นฟ้า

ส่วนกรณีเหตุการณ์กลุ่มการ์ดราษฎรถูกยิงบาดเจ็บ ผบช.น. กล่าวว่าได้รับรายงานเมื่อเวลา 21.00 น. ตำรวจ สน.นางเลิ้งรับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบริเวณร้านสะดวกซื้อ สะพานผ่านฟ้า เมื่อตำรวจเดินทางไปถึงพบกลุ่มการ์ดแจ้งว่าคนยิงอยู่ในร้าน ตำรวจจึงนำตัวไป สน.นางเลิ้ง แต่จากการตรวจสอบพยานบุคคล กล้องวงจรปิด และพยานหลักฐานอื่น ยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยิงปืน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบตัวคนยิงต่อไป ทั้งนี้เมื่อตำรวจนำบุคคลดังกล่าวมาที่ สน.นางเลิ้ง กลุ่มการ์ดเข้ามาล้อมโรงพักและพยายามจะชิงตัวบุคคลดังกล่าวไป ตำรวจเกรงว่าจะเกิดอันตรายจึงจำเป็นต้องยิงปืนขึ้นฟ้า ส่วนกรณีมีการแชร์ภาพชายสวมเสื้อขาวถือปืนยาวในรั้วโรงพักเป็นตำรวจฝ่ายสืบสวนทำในลักษณะยิงปืนขึ้นฟ้าเช่นกัน

แจงตั้งแนวกั้นดันคนออก

ผู้สื่อข่าวถามว่าในโซเชี่ยลมีเดียมีแฮชแท็ก “ตำรวจกระทืบหมอ” พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวว่าบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีอาชีพพยาบาล และยังอยู่ในกลุ่มที่ก่อความวุ่นวาย ตำรวจเลือกที่จะไม่ใช้น้ำ แก๊ส กระสุนยาง และประกาศแจ้งเตือนให้ระยะเวลาออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ หลังจากนั้นจำเป็นต้องเข้ารักษาความสงบ ต่อข้อถามว่าทางกลุ่มยืนยันว่าบุคคลดังกล่าวเป็นพยาบาลอาสา รวมทั้งสวมเสื้อกั๊กบอกสัญลักษณ์ทีมแพทย์อาสา พล.ต.ท.ภัคพงศ์ ชี้แจงว่าตนไม่ได้บอกว่าเขาไม่ได้ทำหน้าที่พยาบาล ตนบอกว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นเขาไม่ได้มีอาชีพเป็นพยาบาล ส่วนในการชุมนุมเขาอาจจะทำหน้าที่พยาบาลของกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้อันนี้ตนไม่ทราบ แต่บริเวณที่เขาอยู่ใกล้เคียงมีกลุ่มบุคคลที่ขว้างปาสิ่งของและใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุตรงนั้นทางตำรวจประกาศแจ้งเตือนหลายครั้งให้ผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ชุมนุม เนื่องจากมีแกนนำบางส่วนประกาศยุติการชุมนุมไปแล้ว ซึ่งเลยเวลาและเป็นกลุ่มที่สร้างความวุ่นวาย ทางตำรวจประกาศแจ้งเตือนขอร้องให้ออกจากพื้นที่เพราะจำเป็นต้องเปิดเส้นทางการจราจรและให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ แต่ปรากฏว่ากลุ่มผู้ชุมนุมยังคงขว้างปาทำร้ายเจ้าหน้าที่ จึงจำเป็นต้องตั้งแนวและผลักดันคนออกไป ทั้งนี้ตำรวจไม่ได้มีเจตนาแก้แค้น ตอบแทน หรือกลั่นแกล้ง ดำเนินการไปตามอำนาจหน้าที่ทุกครั้ง

จ่อเรียกเฌอเอมให้ปากคำ

ต่อข้อถามถึงกรณีที่เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ อดีตผู้เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ โพสต์ทวิตเตอร์ว่าถูกแก๊สน้ำตา ผบช.น.กล่าวว่ายืนยันว่าขณะนั้นตำรวจไม่ได้ใช้แก๊สน้ำตา เพราะก่อนจะใช้เราต้องแจ้งเตือน แม้สถานการณ์จะอยู่ในลักษณะพร้อมใช้แก๊สน้ำตาก็ตาม อาจต้องเชิญเฌอเอมมาให้ปากคำเพื่อเป็นประโยชน์ทางคดีว่าเขาเห็นใครใช้ หรือว่าใครมีข้อมูลหลักฐานส่งมาได้

วิจารณ์คลิปแพทย์อาสาโดนทำร้าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจากมีการเผยแพร่คลิปและภาพข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศถึงเหตุการณ์พยาบาลอาสาตกอยู่ในวงล้อมเจ้าหน้าที่ เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในโลกโซเชี่ยลถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่าทีมแพทย์อาสาเหล่านั้นเข้าช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือกลุ่มผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกข้าง พร้อมตั้งคำถามถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่

แพทย์ชนบทออกแถลงการณ์

วันเดียวกัน ชมรมแพทย์ชนบทออกแถลงการณ์ระบุว่าการปฏิบัติการช่วยเหลือ ปฐมพยาบาล รักษา รวมถึงการเคลื่อนย้าย ผู้ป่วยหรือผู้บาดเจ็บได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 2 ปี 1960 การรุมทำร้ายอาสาสมัครที่เข้ามาปฏิบัติดังกล่าวโดยไม่เลือกปฏิบัติว่าผู้บาดเจ็บเป็นฝ่ายใดถือเป็นการละเมิดกติการะหว่างประเทศ และเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ชมรมแพทย์ชนบทในฐานะที่เป็นหนึ่งในภาคีบุคลากรทางสุขภาพของประเทศไทยขอประณามการ กระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ตำรวจในคืนวันที่ 13 ก.พ. กรณีแพทย์อาสาที่เข้าดูแลผู้ชุมนุมกลุ่มคณะราษฎรถูกทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่จนบาดเจ็บ และขอเรียกร้องให้รัฐบาลออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิดโดยไม่เลือกปฏิบัติ ทั้งนี้ ชมรมแพทย์ชนบทไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงหรือการยั่วยุให้มีการใช้ความรุนแรงในพื้นที่การชุมนุม ไม่ว่าการกระทำนั้นมาจากฝ่ายใด

สหพันธ์นิสิตแพทย์ร่วมต้าน

ด้านสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ออกแถลงการณ์เรื่อง ขอเรียกร้องให้มีการดำเนินการสืบสวนอย่างโปร่งใส และทบทวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กรณีการใช้ความรุนแรงแก่อาสาสมัครบุคลากรทางการแพทย์และผู้ชุมนุม ระบุว่าการใช้ความรุนแรงนี้ไม่ได้เป็นเหตุการณ์แรกที่หน่วยหรือกลุ่มคนได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ภายใต้สถานการณ์การชุมนุม เป็นที่ทราบกันดีในหลักการสากลว่า หน่วยงานหรือกลุ่มคนที่ไม่ได้เพียงทำการรักษาพยาบาลผู้ชุมนุม หากแต่ยังสามารถช่วยเหลือประชาชนทั่วไป หรือกระทั่งตัวเจ้าหน้าที่ที่ต้องการความช่วยเหลือในสถานการณ์การชุมนุมที่รถพยาบาลและบริการสุขภาพจากภายนอกพื้นที่เข้าถึงได้ช้า กลุ่มอาสาสมัครทางการแพทย์เหล่านี้ถือว่าสำคัญมาก อาจเป็นผู้ช่วยชีวิตที่สำคัญ ตามหลักการของการดูแลผู้ป่วยฉุกเฉินนอกโรงพยาบาล การกระทำต่อบุคลากรทางการแพทย์เช่นนี้จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ ขอเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจควบคุมฝูงชนในฐานะผู้รับผิดชอบ ดำเนินการสืบสวนและชี้แจงเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าวแก่สาธารณชนอย่างโปร่งใส นำไปสู่การลงโทษผู้กระทำผิด และทบทวนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่

แนวร่วมมธ.ยันม็อบไร้รุนแรง

ด้านเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการ ชุมนุมโพสต์แถลงการณ์จากราษฎรถึงเหตุการณ์วันที่ 13 ก.พ. ว่า “ราษฎรขอยืนยันในหลักการของปฏิบัติการไร้ความรุนแรง ซึ่งได้ประกาศ ณ ที่ชุมนุมว่า มวลชนสามารถตอบโต้หากมีการใช้ความรุนแรงจากภาครัฐได้ ซึ่งได้แก่วิธีการอื่นใดอันไม่ก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงในทางกายภาพต่อปัจเจกบุคคล ราษฎรยืนยันในหลักการและแนวทางของปฏิบัติการไร้ความรุนแรง และยืนยันว่าเจ้าหน้าที่รัฐไม่มีสิทธิใช้ความรุนแรงกับผู้ที่ใช้เสรีภาพในการชุมนุมตามรัฐธรรมนูญ และการจับกุมอย่างไม่เลือกหน้าเป็นการละเมิดทั้งกฎหมายไทยและกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ถึงที่สุดพวกเราขอยืนยันว่า พวกเราจะยังคงยืนหยัดที่จะสู้จนกว่าจะไม่มีประชาชนคนใดถูกจับโดยไม่เป็นธรรม พวกเราจะสู้ต่อไปจนกว่าประชาชนในประเทศนี้จะมีความเสมอภาคเป็นธรรม” แถลงการณ์ระบุ

เผยชื่อกลุ่มราษฎรถูกจับ-ตร.เจ็บ

วันเดียวกัน มีการเปิดเผยรายชื่อกลุ่มราษฎรที่ถูกจับกุมทั้ง 11 คน คือ นายธนิสร เชิดรัมย์ นายพรพรหม คงตระกูล นายทองนพเก้า ใจไทย นายธนเดช วรรณโพธิ์กลาง นายอดิศักดิ์ ผาลา นายปุรพล วงศ์เจียก นายชัยณรงค์ สมพลกรัง นายปัฏกรณ์ จาภรณ์ นายณัฎนันท์ ตรีอริยสิน นายจิตกร แจ๊คโคบี จูเนียร์ และน.ส.ธนพร จิรมาศสุนทร โดยเจ้าหน้าที่นำตัวส่ง ตชด.ภ.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.คลองห้า ตั้งด่านตรวจโดยไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไป

ด้านในตชด.ภ.1 ทั้งนี้ไม่มีกลุ่มมวลชนมาเยี่ยมให้กำลังใจ ผู้ถูกจับกุมจะถูกควบคุมไว้ที่ตชด.ภ.1 อีก 1 วัน ก่อนนำตัวไปส่งศาลเพื่อดำเนินคดี

บิ๊กปั๊ดเยี่ยมตร.บาดเจ็บ

เวลา 15.00 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. พล.ต.ต. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษก ตร. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง ตรวจเยี่ยมและมอบขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจที่บาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่เหตุความวุ่นวายในการชุมนุมทางการเมือง เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ทั้งนี้มีข้าราชการตำรวจบาดเจ็บรวมทั้งสิ้น 29 นาย พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ 22 นาย และกลับไปรักษาตัวที่บ้านอีก 7 นาย

กก.สมานฉันท์หาช่องคุยจนท.

นพ.วันชัย วัฒนทรัพย์ กรรมการสมานฉันท์ กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรและแนวร่วมเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ว่า เชื่อว่าทุกฝ่ายพยายามทำอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายหรือความรุนแรง ในเหตุการณ์ชุมนุมใดๆ สิ่งที่ตนกลัวคือการก่อความรุนแรงโดยมือที่สาม ขอให้ระวัง ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอตำรวจทำร้ายผู้ชุมนุมที่ทำหน้าที่พยาบาลอาสานั้น ตนมองว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ทราบชัดว่าใครทำอะไร ดังนั้นไม่ควรเติมเชื้อไฟลงไปในสถานการณ์ ต่อข้อถามว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำม็อบ เพราะมองว่ารัฐใช้กฎหมายกลั่นแกล้ง นพ.วันชัยกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ต้องทำความเข้าใจเรื่องดังกล่าว กรรมการสมานฉันท์เตรียมหาช่องทางพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้จะคุยกับนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาช่องทางพูดคุย การทำงานของกรรมการไม่ใช่การชี้ถูกชี้ผิด

ล้อมรั้วสน. – สน.นางเลิ้งนำรั้วลวดหนามล้อมโรงพัก หลังเกิดชุลมุนระหว่างเจ้าหน้าที่กับม็อบเมื่อค่ำวันที่ 13 ก.พ. ขณะที่การ์ดวัย 23 ปี (ภาพเล็ก) เข้าแจ้งดำเนินคดีบุคคลคล้ายเจ้าหน้าที่ใช้กระบองตีจนบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 14 ก.พ.

การ์ดราษฎรแจ้งความถูกทำร้าย

วันเดียวกัน ที่สน.นางเลิ้ง นายภวัต หิรัณย์ภณ หรือเจ๊ป๊อกกี้ พานายบอล (ไม่เปิดเผยชื่อจริงและนามสกุล) อายุ 23 ปี สมาชิกกลุ่มการ์ดราษฎร ซึ่งอ้างว่าถูกบุคคลแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ใช้กระบองตีเข้าที่ช่องท้องจนบาดเจ็บ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณหน้า สน.นางเลิ้ง เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา นายภวัตกล่าวว่าพานายบอลมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อลงบันทึกประจำวันให้ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานและทำหนังสือส่งตัวผู้บาดเจ็บไปตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่าถูกทำร้ายร่างกายจริงและหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

ราษฎรมูเตลูทำบุญอนุสรณ์สถาน

วันเดียวกัน กลุ่มราษฎรมูเตลูจัดกิจกรรมรฦกคุณคนดีมีค่าแห่งประชาธิปไตย ครั้งที่ 2 บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา เพื่อทำบุญรำลึกถึงวีรชนเดือนตุลาคม 2516 และ 2519 เดิมประชาสัมพันธ์ว่าจะเดินขบวนไปห่มผ้าแดงกลางนครที่วัดสระเกศ แต่เนื่องจากทางวัดทำความสะอาดตามมาตรการป้องกันโรคระบาดโควิด – 19 จึงปรับรูปแบบกิจกรรมเหลือเพียงการทำบุญและห่มผ้าแดงที่อนุสรณ์สถานฯ

พม่าในไทย – นักศึกษาเมียนมาในประเทศไทยกว่า 300 คน รวมตัวที่ด้านหน้าสำนักงานสหประชาชาติ ถนนราชดำเนิน กรุงเทพฯ เรียกร้องผ่านยูเอ็น ให้รัฐบาลทหารเมียนมาปล่อยนางออง ซาน ซู จี และรีบคืนประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 14 ก.พ.

เรียกสอบม็อบหน้าสถานทูตพม่า

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหาเพิ่มเติมในการชุมนุม 2 เหตุการณ์ ดังนี้ 1.กรณีการชุมนุมหน้าสถานทูตเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้มาพบในวันที่ 19 ก.พ. 2564 เวลา 10.00 น. ที่สน.ยานนาวา จำนวน 12 คน และ 2.กรณีการชุมนุมที่สามย่านมิตรทาวน์ เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2564 ออกหมายเรียกผู้ต้องหามาพบในวันที่ 18 ก.พ. 2564 เวลา 10.00 น. ที่ สน.ปทุมวัน จำนวน 3 คน

ฉาวโลก – สำนักข่าวรอยเตอร์แพร่ภาพพยาบาลอาสาแน่นิ่งบนพื้นถนนในวงล้อมตำรวจ ระหว่างสลายม็อบหน้าศาลฎีกา เมื่อค่ำวันที่ 13 ก.พ. ขณะที่แพทย์ชนบทและสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์แถลงประณามการกระทำรุนแรงของเจ้าหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน