สุดยื้อชีวิตสาวพม่าต้านทัพถูกยิงหัว – วันที่ 19 ก.พ. เอเอฟพีและรอยเตอร์รายงานข่าวการเสียชีวิตของน.ส.เมียะ ตแวะ ตแวะ ข่าย สาวเมียนมาวัย 20 ปี ซึ่งถูกยิงเข้าที่ศีรษะด้วยกระสุนจริง ขณะเข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ก่อนถูกตำรวจสลายการชุมนุมในกรุงเนปยีดอว์ เมืองหลวง เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นับเป็นผู้ประท้วงที่เสียชีวิตรายแรกตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนและควบคุมตัวนางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งรัฐ เมื่อวันที่ 1 ก.พ.
สิ้นใจ – เจ้าหน้าที่ขนย้ายร่างน.ส.เมียะ ตแวะ ตแวะ ข่าย ถูกยิงกระสุนจริงขณะ เข้าร่วมประท้วงต่อต้านรัฐประหาร ออกจากโรงพยาบาล เมื่อ 19 ก.พ. (เอเอฟพี)
เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลยืนยันว่า น.ส.เมียะ ตแวะ ตแวะ ข่าย เสียชีวิตเมื่อ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นหลังเข้ารับการรักษาตั้งแต่ วันที่ 9 ก.พ. จากนี้คณะกรรมการแพทย์จะสอบสวนสาเหตุการ เสียชีวิตต่อไป
วันเดียวกัน รัฐบาลอังกฤษและแคนาดาแถลงเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรแกนนำนายพลเมียนมาต่อรัฐประหาร หลังจากที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ลงนามในคำสั่งบริหารเมื่อสัปดาห์ก่อนเพื่อคว่ำบาตรผู้นำทหารเมียนมาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการยึดอำนาจ พร้อมเรียกร้องให้นานาประเทศร่วมกันกดดันให้กองทัพเมียนมายุติรัฐประหารและกลับคืนสู่ระบอบประชาธิปไตย
สำหรับอังกฤษ นายโดมินิก ราอับ รัฐมนตรีต่างประเทศ แถลงว่า อังกฤษจะดำเนินการกับกองทัพเมียนมาต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนและผลักดันกระบวนการยุติธรรมเพื่อชาวเมียนมา สาระสำคัญคืออายัดบัญชีที่เกี่ยวข้องกับนายพลเมียนมาระดับสูง 3 นาย และห้ามเดินทางเข้าประเทศ ขณะที่แคนาดาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมาระดับสูง 9 นาย
ขณะเดียวกัน นายโทชิมิตสึ โมเตงิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น แถลงเห็นด้วยกับพันธมิตรควอด หรือกลุ่มแกนนำต้านจีนตามนโยบายอินโด-แปซิฟิก ได้แก่ สหรัฐ อินเดีย ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ซึ่ง ต่างประกาศชัดว่า ระบอบประชาธิปไตยในเมียนมาจำเป็นต้องได้รับการฟื้นคืนโดยเร็วที่สุด
