ตร.ตั้งด่านสกัดไม่อยู่
ชู‘3นิ้ว’ขับไล่รัฐบาล
ขอนแก่นจัดคู่ขนาน
หลายจว.อีสานมาร่วม

ม็อบราษฎรจัดเต็มชุมนุมหน้ารัฐสภา เกียกกาย เรียกร้องรัฐบาลลาออก และปล่อยตัว 4 แกนนำ ผู้ชุมนุมหลายสายเดินทางเข้าร่วมตามนัดก่อนเริ่มชุมนุมในช่วงเย็น ชาวนนทบุรีเคลื่อนขบวนรถไปสมทบแม้เจอด่านขวาง แต่ไม่มีอะไรรุนแรง ขณะที่ขอนแก่นจัดชุมนุมคู่ขนาน ปักหลักค้างคืนที่ลานด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย รอผู้ชุมนุมจากหลายจว.ในภาคอีสานมาสมทบ ขณะที่ตร.เจรจาให้ยุติ อ้างพ.ร.บ.โรคติดต่อ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เรื่องโควิดระบาด แต่ผู้ชุมนุมยืนยันดำเนินการต่อ ก่อนเริ่มเดินขบวนและปะทะกับจนท.เล็กน้อย ขณะที่กลุ่มกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” จากโคราชเดินเท้าเข้ากรุงมาทำเนียบ มาถึงลำตะคอง โดยมีแม่‘เพนกวิน’ร่วมด้วย

ตั้งตู้คอนเทนเนอร์ขวาง

ความคืบหน้าสถานการณ์ชุมนุมของหลายกลุ่มภาคประชาชน เมื่อวันที่ 20 ก.พ. เวลา 04.00 น.วันเดียวกัน บริเวณท้องสนามหลวง เจ้าหน้าที่ได้นำตู้คอนเทนเนอร์และลวดหนามมาวางกั้นบริเวณประตูทางเข้า ฝั่งถนนหน้าพระธาตุ ตรงข้ามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยวางปิดเป็นแนวยาวผ่านกลางสนามหลวงไปจนถึงบริเวณหน้าศาลฎีกา ทำให้พื้นที่สนามหญ้าท้องสนามหลวงไม่สามารถใช้ได้ และช่วงเวลาเช้าบริเวณถนนราชดำเนิน ตรงหน้าศาลฎีกา เจ้าหน้าที่ปิดจราจรถนน ไม่ให้รถยนต์วิ่งสัญจรผ่านไปมาเช่นกัน ส่วนบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราช ดำเนินกลาง ยังไม่พบนำตู้คอนเทนเนอร์มาวางหรือปิดการจราจรแต่อย่างใด มีเพียงการจัดวางต้นไม้และล้อมรั้วเหล็กที่วงเวียนอนุสาวรีย์เท่านั้น โดยมีรถเครื่องขยายเสียง 1 คันจอดรอกลุ่มผู้ชุมนุม

นนทบุรีรวมตัวชนเผด็จการ

ที่จ.นนทบุรี ที่บริเวณท่าน้ำนนทบุรี นายชินวัตร หรือ ไบร์ท จันทร์กระจ่าง แกนนำคนรุ่นใหม่นนทบุรี นัดรวมตัวผู้ร่วมชุมนุมในกิจกรรม “เขาไม่ถอย เราไม่ทน แรลลี่นนท์ฯ ท้าชนเผด็จการ” เพื่อนำผู้ร่วมชุมนุมในส่วนของจังหวัดนนทบุรีมุ่งหน้าสมทบกับกลุ่มคณะราษฎรที่บริเวณสี่แยกบางโพ มีมวลชนเข้าร่วมประมาณ 30 คน พร้อมอุปกรณ์หม้อ ฝา กระทะอะลูมิเนียมเพื่อนำไปประกอบกิจกรรม

นายชินวัตรกล่าวว่า จุดมุ่งหมายของพวกเราคือการไปสมทบกับกลุ่มราษฎรเข้าร่วมชุมนุมที่บริเวณรัฐสภา จุดประสงค์อย่างแรกคือกดดันให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งและกดดันให้ปล่อยตัวเพื่อนเรา ส่วนพี่น้องราษฎรจากกรุงเทพฯ เขาก็จะอยู่ที่หน้ารัฐสภาเกียกกาย แต่ของเราจะอยู่ที่บริเวณแยกบางโพเพื่อที่จะคอยดูแลพี่น้องที่อยู่ด้านใน ที่ผ่านมาเราเดินทางกันด้วยเรือแต่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐสกัดกั้น ยึดเรือบังคับขู่เข็ญผู้ประกอบการต่างๆ ที่ให้พวกเราเช่าเรือ ครั้งนี้เราต้องการเดินทางทางบก หากเจ้าหน้าที่ของรัฐพยายามขัดขวาง เจอด่านที่ไหนเราชนเลย ไม่ถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรง หากเจ้าหน้าที่ขัดขวางจะจัดการชุมนุมค้างคืนที่ท่าน้ำนนท์

เคลื่อนขบวนไปเกียกกาย

ต่อมาในเวลา 13.00 น. นายชินวัตรนำขบวนกลุ่มคนรุ่นใหม่นนทบุรีขึ้นรถบรรทุกพร้อมเครื่องขยายเสียงเคลื่อนตัวผ่านมาทางถนนพิบูลสงคราม มีรถยนต์และจักรยานยนต์ผู้ร่วมชุมนุมติดตามมาจำนวนมาก เมื่อเคลื่อนมาถึงบริเวณหน้าปั๊มเชลล์ ถ.พิบูลสงคราม เจอกับด่านตรวจป้องกันปราบปรามอาชญา กรรมและกวดขันวินัยจราจรของสภ. เมือง นนทบุรี ซึ่งมีพ.ต.อ.วนัสชัย ยิ่งยงสมสวัสดิ์ ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.เมืองนนทบุรี รวม 100 นาย ตั้งด่านสกัดกั้นตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมาย โดยใช้รถสายตรวจ 2 คันขวางกั้นบล็อกการจราจรเพื่อตรวจค้นจนทำให้เกิดการกระทบกระทั่งด่าทอกัน แต่จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ ขบวนรถจึงเคลื่อนตัวต่อเพื่อไปร่วมชุมนุมสมทบกับกลุ่มคณะราษฎรที่บริเวณสี่แยกบางโพ

เริ่มชุมนุมหน้ารัฐสภา

เวลา 16.00 น. ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำกลุ่มราษฎร พร้อมกับตัวแทนอีก 3 คน เข้าไปเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้านใน พร้อมร้องขอไม่ให้สลายการชุมนุม เพราะจะไม่เคลื่อนพลไปที่ไหน การชุมนุมวันนี้จะไม่มีเวทีปราศรัย มีเพียงรถซาเล้งติดเครื่องขยายเสียงเท่านั้น ส่วนข่าวลือเรื่องแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมกับกลุ่มการ์ดวีโว่เตรียมนำระเบิดปิงปองประมาณ 40 ลูกมาใช้ก่อความวุ่นวายนั้นยืนยันไม่เป็นความจริง จะมีเพียงกิจกรรมการวาดรูประบายสี แสดงความคิดเห็นต่างๆ กลุ่มผู้ชุมนุมมีเพียงเสียงในการปราศรัยเท่านั้น ไม่มีอาวุธแน่นอน ทั้งนี้คาดว่าจะชุมนุมยุติไม่เกิน 21.30 น.

ขณะที่นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ พร้อมด้วยนายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ เดินทางเข้ามาในพื้นที่ พร้อมกับกลุ่มการ์ดของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมมาถึงที่หน้ารัฐสภาแล้ว ถนนด้านหน้าปิดทั้งหมด กลุ่มมวลชนได้นำรถเครื่องเสียงมาตั้งด้านหน้าถนนและขึ้นปราศรัย

โปรยอาหารสุนัขประชด

เวลา 19.00 น. บรรยากาศการชุมนุม #ม็อบ20กุมภา ที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย มวลชนพากันไปออที่หน้าประตูทางเข้า-ออก พร้อมชูป้ายข้อความต่างๆ และชูสัญลักษณ์ 3 นิ้วใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยซึ่งอยู่หลังประตูรั้วทางเข้า โดยมวลชนโปรยอาหารสุนัขและตั๋วช้างที่เป็น กระแสข่าวใส่เข้าไปในประตู ทั้งนี้มีการ์ด วีโว่ มาคอยควบคุมไม่ให้มวลชนก่อความวุ่นวาย นอกจากนี้ยังทำกิจกรรมเขียนสีชอล์กบนพื้นถนน และสกรีนลายเสื้อผ้าตั้งอยู่หน้าทางเข้าออก ซึ่งมวลชนต่างให้ความสนใจ มาร่วมทำกิจกรรมกันจำนวนมาก

ม็อบโคราชถึงลำตะคอง

ที่จ.นครราชสีมา กลุ่มราษฎร พร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มพีเพิลโก (PEOPLE GO) รวมกลุ่มภายใต้ชื่อกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” เดินเท้าจากลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 ก.พ. 2564 ไปที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อขับไล่รัฐบาลและให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คน รวมทั้งเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวกต้องลาออกจากรัฐบาล, ให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญแก้รัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอจากประชาชน โดยกำหนดเดินทางเป็นระยะทางกว่า 247 กิโลเมตร

ล่าสุดวันเดียวกันนี้ เป็นการเดินวันที่ห้า ขบวน “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” มาถึงบริเวณใต้สะพานมอเตอร์เวย์ ริมอ่างเก็บน้ำลำตะคอง ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีประชาชนเข้ามาร่วมเดินสมทบเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20 คน รวมผู้เดินขบวนวันนี้กว่า 70 คน ซึ่งในขบวนวันนี้ มีนางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ หรือแม่สุ แม่ของ‘เพนกวิน’พริษฐ์ ชิวารักษ์ 1 ใน 4 แกนนำคณะราษฎร ที่ถูกคุมขังในฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และมาตรา 116 กรณีร่วมชุมนุมที่ ม.ธรรมศาสตร์ และทำพิธีปักหมุดคณะราษฎรที่ท้องสนามหลวง

แม่ไผ่-กวิ้น – แม่นายจตุภัทร์ หรือไผ่ บุญภัทรรักษา กับแม่นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ ร่วมเดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน เรียกร้องปล่อยตัว 4 แกนนำราษฎร โดยขบวน เดินถึงเขต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 ก.พ.

แม่เพนกวินให้กำลังใจสู้

นางสุรีย์รัตน์กล่าวว่า การที่เพนกวินต่อสู้ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้เพื่ออนาคตของเขาและอนาคตของชาติ ในฐานะแม่อยากให้เขามีอนาคตที่ดีเหมือนผู้ปกครองคนอื่นๆ ดังนั้นจึงได้มาร่วมเดินขบวนกับกลุ่มราษฎร เพื่อส่งกำลังใจให้เขาสู้ต่อไปให้ถึงที่สุด ตั้งใจว่าจะเดินร่วมขบวนไปจนถึงทำเนียบรัฐบาลเลย ทั้งนี้อยากฝากถึงเพนกวินว่า เพนกวินคือหัวใจของแม่ การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ต้องห่วงแม่และน้อง ทุกคนสบายดี อย่าท้อแท้ เพราะมีคนที่คอยส่งกำลังใจให้อยู่เป็นจำนวนมาก

“อยากให้ลูกได้รับการประกันตัวออกมาต่อสู้ข้างนอก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจที่ได้ต่อสู้เพื่อความถูกต้อง และเพื่ออนาคตของชาติ รวมถึงขอเป็นกำลังใจให้แกนนำคณะราษฎรที่ถูกคุมขังอีก 3 คน ไม่ว่าจะเป็น ทนายอานนท์ นำภา, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และหมอลำแบงค์ นายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม ขอให้ทุกคนสู้ต่อไปเพื่อความเปลี่ยนแปลงประเทศชาติให้ดีขึ้น” นางสุรีย์รัตน์กล่าว

ขอนแก่นนัดชุมนุมใหญ่

ที่จ.ขอนแก่น กลุ่มผู้ชุมนุมประกอบด้วยกลุ่มขอนแก่นพอกันที, คณะราษฎรขอนแก่น และกลุ่มดาวดิน นำเต็นท์รถขยายเสียงและป้ายข้อความการชุมนุมมาติดตั้งบริเวณลานด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ริม ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น ตามกำหนดจัดกิจกรรมปักหลักค้างคืน#ปล่อยหมู่เฮา ที่นัดรวมตัวของกลุ่มผู้ชุมนุมจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางมาตรการรักษา ความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรง รวมทั้งการคุมเข้มตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด

ผู้ว่าฯฮึ่มหยุด-อ้าง‘โควิด’

นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ทำให้มาตรการต่างๆ ต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด เด็ดขาดและรัดกุม เนื่องจากผู้ชุมนุมนั้นเดินทางมาจากต่างจังหวัดและพื้นที่ต่างๆ จึงขอเน้นย้ำให้ผู้ที่จัดการชุมนุมหรือการจัดกิจกรรมใดๆ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด กำหนดจุดเข้า-ออก พร้อมทั้งการตรวจคัดกรองและตรวจวัดอุณหภูมิของผู้เข้าร่วมกิจกรรม กำหนดให้สวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา จัดพื้นที่ล้างมือและจุดบริการแอลกอฮอล์ ทำความสะอาดพื้นที่ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมหรือการชุมนุม หากการชุมนุมหรือการจัดกิจกรรมในวันนี้ไม่ปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ ต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขอนแก่นฮือ – กลุ่มมวลชนเครือข่ายต่างๆ กระทบกระทั่งกับตำรวจควบคุมฝูงชน ระหว่างชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยจัดคู่ขนานกับการชุมนุมหน้ารัฐสภา ยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องราษฎร และจี้ปล่อยตัว 4 แกนนำราษฎร เมื่อวันที่ 20 ก.พ.

ตร.เจรจายุติ-ไม่สำเร็จ

ต่อมาเมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.นพเก้า โสมนัส รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผก.สภ.เมืองขอนแก่น เข้าเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งประกอบด้วยแกนนำกลุ่มราษฎรโขง ชี มูล, แกนนำกลุ่มขอนแก่นพอกันที, แกนนำกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่นและแกนนำกลุ่มดาวดิน รวมทั้งภาคีเครือข่ายนักเรียน KKC เพื่อให้ยุติการชุมนุม ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินและพ.ร.บ. ควบคุมโรคติดต่อรวมทั้งการห้ามแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันในการชุมนุมครั้งนี้

พ.ต.อ.ปรีชากล่าวว่า การเข้าเจรจาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ย้ำเตือนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมได้รับทราบถึงสถานการณ์และเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น ที่ทุกคนต้องทำตามความในมาตรา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มุ่งระงับยับยั้งโควิด-19 อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก. พ.ศ. 2548 และมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงขอแจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมในครั้งนี้

แกนนำคุมเข้มแพร่ระบาด

ขณะที่นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ แกนนำกลุ่มคณะราษฎรขอนแก่น กล่าวว่า แม้การเจรจาของเจ้าหน้าที่กับกลุ่มแกนนำที่ขณะนี้มีการเจรจากันแล้ว 2 ครั้งแต่ทุกคนยังคงกำหนดจัดกิจกรรมการชุมนุมต่อไป ด้วยการควบคุมและป้องกันอย่างรัดกุมและ เข้มงวด โดยกิจกรรมในวันนี้จะดำเนินการต่อเนื่องต่อไป และพักค้างคืนกันที่นี่ไปจนถึงวันพรุ่งนี้ (21 ก.พ.) เพื่อเรียกร้อง 3 ข้อหลัก รวมทั้งให้ปล่อยแกนนำคณะราษฎรทั้ง 4 คนที่คุมขังอยู่ในเรือนจำ

“กลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้จะมาจากทุกจังหวัดในภาคอีสาน ไม่มาเพียงแค่ จ.มหาสารคาม เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 การชุมนุมวันนี้นั้นทุกคนมาด้วยใจมาเรียกร้องในสิ่งที่ถูกต้อง โดยจะเคลื่อนขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปตาม ถ.ศรีจันทร์ และหยุดอยู่ที่สวนเรืองแสง ภายในสวนสาธารณะประตูเมือง เพื่อจัดกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ จากนั้นจะกลับมา ปักหลักชุมนุมกันแบบค้างคืนต่อไป”นาย วชิรวิทย์ กล่าว

เริ่มเดินมีปะทะเล็กน้อย

ต่อมานายวชิรวิทย์ และนายภาณุพงษ์ ศรีธนาณุวัฒน์ หรือ ไนซ์ ร่วมอ่านแถลงการณ์และชี้แจงแนวทางการเคลื่อนไหวในวันนี้ ให้กับผู้ชุมนุมที่เดินทางมาจากจังหวัดต่างๆ ในภาคอีสานหลายร้อยคน ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน จาก ภ.จว.ขอนแก่น ตรึงกำลังโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ทันทีที่การอ่านแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมแล้วเสร็จ เริ่มจัดแถวเพื่อเดินขบวน

ระหว่างการเตรียมการเดินขบวนนั้นเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน กับการ์ดวีโว่ เล็กน้อย

นัดชุมนุม 22 ก.พ.ลานปรีดีฯ

เวลา 20.45 น. แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ออกแถลงการณ์หมุดหมายการสู้ครั้งต่อไป หลังการต่อสู้เริ่มขึ้น ณ ลานปรีดีฯ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 22 ก.พ. จวบจนครบ 1 ปี โดยยังยืนยัน 3 ข้อเรียกร้องเดิมทั้งให้พล.อ.ประยุทธ์ และครม.ทั้งหมดลาออก รวมทั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ จากนั้นแกนนำปราศรัยประกาศยุติการชุมนุม ในเวลา 20.53 น. มีผู้นำตั๋วช้างไปโปรยที่ประตูรั้วทางเข้า-ออกรัฐสภาอีกครั้ง พร้อมนำป้ายฟิวเจอร์บอร์ดที่เขียนข้อความต่างๆ นับหลายแผ่นมาวางปูเป็นทางยาว

ราษฎรคึก – ม็อบราษฎรแห่กันมาชุมนุมเนืองแน่นหน้ารัฐสภา แยกเกียกกาย กทม. จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เปิดเวทีปราศรัย อภิปรายนอกสภาไม่ไว้วางใจรัฐบาล บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก เมื่อวันที่ 20 ก.พ.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน