บช.น.ลั่นเอาผิดรูดผู้ชุมนุม
ทั้งที่อนุสาวรีย์ปชต.-หน้าสภา
กทม.โวยรื้อต้นไม้เสียหาย5ล.

ตร.จ่อเอาผิดม็อบราษฎร ชุมนุมหน้ารัฐสภา เผยที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กทม.แจ้งความแล้ว รื้อสวนหย่อมทำเสียหาย 5 ล้าน อดีตอธิการบดี มธ.ยื่นขอประกันตัว4 แกนนำอีกรอบ ปะทะเดือดหน้า สภ.เมืองขอนแก่น ม็อบราษฎร โขง ชี มูล เคลื่อนพลขอพบผบช.ภ.4 เรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีกับแกนนำให้เวลา 5 วัน ขบวน “เดินทะลุฟ้า” เข้า อ.ปากช่องแล้ว

ปะทะ – ม็อบราษฎร ‘โขง ชี มูล’ ผลักดันกับตำรวจควบคุมฝูงชนที่ตั้งกำแพงขวางหน้าโรงพัก ขณะเดินขบวนไปยื่นหนังสือกับผบช.ภาค 4 เรียกร้องให้ยกเลิกข้อหา ม.112 และปล่อยตัว 4 แกนนำที่ถูกคุมขัง ที่หน้าสภ.เมืองขอนแก่น

ขอนแก่นชุมนุมเดือด

เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมประกอบด้วยกลุ่มขอนแก่นพอกันที, คณะราษฎรขอนแก่น และกลุ่มดาวดิน ชุมนุมจัดกิจกรรมปักหลักค้างคืน#ปล่อยหมู่เฮา บริเวณลานด้านหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ริม ถ.ศรีจันทร์ เขตเทศบาลนครขอนแก่น และเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พยายามเข้าเจรจาให้ยุติการชุมนุม ตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 จนเกิดกระทบกระทั่งกันตามที่เป็นข่าวไปแล้ว

เมื่อเวลา 00.00 น. วันที่ 21 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดขอนแก่นว่ากลุ่มผู้ชุมนุมในชื่อกลุ่มราษฎร โขง ชี มูล นำโดย นายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ , นายวชิรวิทย์ เทศศรีเมือง หรือ เซฟ และ นายภาณุพงษ์ ศรีธนาณุวัฒน์ หรือ ไนซ์ นำกลุ่ม ผู้ชุมนุมเดินจากสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น มายังหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อเรียกร้องให้มีการยกเลิกการดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 2 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีในพื้นที่รับผิดชอบของ สภ.เมืองขอนแก่น

โดยทันทีที่กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนพลมาถึงยังหน้า สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบจลาจลและควบคุมฝูงชน ได้ตั้งแนวโล่กำบังที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้าไปภายใน สภ.เมืองขอนแก่นได้ โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น นำเจ้าหน้าที่ออกมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยทางกลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันว่าจะขอพบกับ พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสภ ผบช.ภ. 4 เพื่อยืนหนังสือเรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีในมาตรา 112 กับแกนนำคณะราษฎรทั้ง 2 คน

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจและพยายามฝ่าแนวกำแพงโล่ของเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะเข้าไปภายใน สภ.เมืองขอนแก่น ทำให้เกิดการปะทะกันขึ้นแต่ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมได้ถอยมาตั้งหลักพร้อมทั้งนำอาหารสุนัขชนิดเม็ดมาโปรยใส่เจ้าหน้าที่ที่ตรึงกำลังอยู่ทางเข้า สภ.เมืองขอนแก่น และพยายามที่จะฝ่าเข้าไปอีกครั้งครั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้จับกุมกลุ่มผู้ชุมนุม 3 คนก่อนที่จะปล่อยตัวออกมา ผ่านไปประมาณเกือบ 2 ช.ม.ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็เข้ามาเจรจากับแกนนำอีกครั้ง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมถอยให้กลุ่มผู้ชุมนุมได้เข้ามาภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น แต่ต้องอยู่บริเวณด้านหน้าเท่านั้น

ให้เวลา 5 วันยกเลิกคดี 112

ต่อมาได้มีผู้แทน ผบช.ภ.4 เดินทางมารับหนังสือเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายอรรถพลได้ยื่นคำขาดขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยกเลิกการดำเนินคดีมาตรา 112 กับนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน และ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน 2 แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ถูกดำเนินคดีในพื้นที่ สภ.เมืองขอนแก่นก่อนหน้านี้ และห้ามดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามในวันนี้ที่ทางกลุ่มผู้ชุมนุมมีการจัดกิจกรรมขึ้น และขอทราบผลภายใน 5 วัน หากไม่ยกเลิกจะกลับมารวมตัวที่ สภ.เมืองขอนแก่นอีกครั้ง และหากพื้นที่ใดมีการแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมก็จะเดินทางไปชุมนุมที่ สภ.นั้นๆ ทันที

โดยที่ผู้แทน ผบช.ภ. 4 กล่าวกับผู้ชุมนุมว่า จะรับหนังสือไว้และจะส่งต่อให้กับ ผบช.ภ. 4 ได้พิจารณาและสั่งการตามขั้นตอนต่อไป ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะแยกย้ายและเดินทางกลับไปปักหลักชุมนุมต่อภายในสวนสาธารณะประตูเมือง ริม ถ.มิตรภาพ เขตเทศบาลนครขอนแก่น

ส่วนกลุ่มผู้ชุมนุมก็ได้มีการประกาศยุติการชุมนุมบริเวณสวนสาธารณะประตูเมืองขอนแก่น โดยจะมีกลุ่มแกนนำและกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนปักหลักค้างคือบริเวณดังกล่าว ทางแกนนำก็ได้ย้ำว่าภายใน 5 วัน ไม่มีการตอบรับจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะกลับมาชุมนุมอีกครั้งและยกระดับขึ้นกว่าครั้งที่ผ่านมา

‘เดินทะลุฟ้า’เข้าเมืองปากช่อง

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กลุ่มราษฎรพร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มพีเพิล โก รวมกลุ่มภายใต้ชื่อกิจกรรม “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” โดยเดินเท้าจากลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 ไปที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร เพื่อขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปกักขัง และเรียกร้อง 3 ข้อ คือ ให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาและพวกต้องลาออกจากรัฐบาล, ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญ ตามข้อเสนอจากประชาชน และให้ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ โดยมีกำหนดจะเดินทางเป็นระยะทางกว่า 247 กิโลเมตรนั้น

ล่าสุดวันนี้ซึ่งเป็นการเดินวันที่หกติดต่อกัน ขบวนเริ่มต้นเดินจากหน้าศูนย์การสุนัขทหาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง มาตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านใต้สะพานมอเตอร์เวย์ ก่อนจะนำขบวนตัดขึ้นสะพานต่างระดับไปใช้เส้นทางหมายเลข 2422 ถนนมิตรภาพสายเก่า ผ่านบ้านโนนป่าติ้ว ตำบลหนองสาหร่าย เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอำเภอปากช่อง โดยมีประชาชนที่ได้โอกาสช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เข้ามาร่วมเดินสมทบเพิ่มขึ้นอีก

ไม่ต้อนรับ – กลุ่มราษฎร “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” นั่งชู 3 นิ้ว ประท้วงหน้าวิทยาลัยเทคนิคปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่ไม่ยอมให้เข้าไปใช้ห้องน้ำ อ้างเป็นวันหยุดราชการ ทั้งที่ประสานงานมาก่อนหน้าแล้ว เมื่อวันที่ 21 ก.พ.

โวยถูกห้ามใช้ห้องน้ำ

ซึ่งเป้าหมายเดินทะลุฟ้าในวันนี้เป็นระยะทาง 15.3 กิโลเมตร โดยออกเดินที่กิโลเมตรที่ 80 เดินเท้า 4.5 กิโลเมตร ก่อนจะแวะพักจุดที่ 1 ที่บริเวณศาลารอรถหน้าวิทยาลัย การอาชีพปากช่อง ซึ่งที่จุดนี้ กลุ่มราษฎร และแนวร่วมฯ ได้ขอเข้าใช้ห้องน้ำภายในวิทยาลัยเทคนิคปากช่อง แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างทั่วถึง จึงถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้ห้องน้ำ ทางกลุ่มจึงค่อนข้างไม่พอใจเพราะมองว่าเป็นสถานที่สาธารณะ จึงพร้อมใจกันหยุดนั่งที่หน้าประตูทางเข้าวิทยาลัย ชู 3 นิ้วเรียกร้องให้เปิดประตูให้ผู้ร่วมเดินเท้าได้เข้าใช้ห้องน้ำ แต่ก็ไม่เป็นผล ทำให้ผู้ที่ติดตามการ Live ของกลุ่มราษฎรต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างดุเดือดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนที่ทางกลุ่มจะเดินเท้าต่อไปยังจุดพักที่ 2 ตามถนนมิตรภาพสายเก่า เป็นระยะทาง 3.6 กิโลเมตร

และแวะจุดพักที่ 2 บริเวณศาลารอรถ กองการสัตว์และเกษตรกรรม แล้วเดินต่ออีก 2.2 กิโลเมตร เพื่อไปพักกลางวัน ที่จุดพักที่ 3 วัดจันทึก และเดินเท้าต่อไปอีก 2.3 กิโลเมตร ก่อนจะแวะพักจุดพักที่ 4 บ.เพื่อนเกษตร อ.ปากช่อง และมีเป้าหมายเดินต่ออีก 2.7 กิโลเมตร ไปจุดสิ้นสุดในวันนี้ ที่สถานีตำรวจทางหลวง 1 อ.ปากช่อง หาบริเวณปักหลักกางเต็นท์ และจัดกิจกรรมพิเศษ ราษฎรWeekend สุดสัปดาห์ประชาชน Ep.5 สีดาทะลุฟ้า โดยเฟมินิสต์ปลดแอก และเพื่อนในช่วงค่ำ

ยื่นประกัน 4 แกนนำอีกครั้ง

วันเดียวกัน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า วันที่ 22 ก.พ. 64 เวลา 13.00 น. ที่ ศาลอาญา ศ.ดร.ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์ อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ตัวแทนกองทุนประกันตัวผู้ต้องหาคดีการเมือง และทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน จะไปยื่นประกันตัวนายอานนท์ นำภา, นายพริษฐ์ ชิวารักษ์, นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข และนายปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม โดยใช้เงินสดเป็นหลักประกันเป็นเงินจำนวน 400,000 บาทต่อคน และอาจารย์ทั้งสองท่านจะเป็นนายประกันให้แก่จำเลยทั้ง 4 คน การยื่นประกันตัวครั้งนี้ นับเป็นความพยายามครั้งที่ 3

ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ตั้งข้อสังเกตว่าการคุมขังในครั้งนี้เป็นการขังระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล ซึ่งไม่มีกำหนดระยะเวลา หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวในระหว่างพิจารณา ทั้ง 4 คน จะถูกคุมขังจนกว่าจะมีคำพิพากษา

ขณะเดียวกันเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้แชร์โพสต์ของเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ความว่า พรุ่งนี้ทราบข่าวว่าเพื่อนเรา 4 คน จะได้รับการประกันตัวอีกครั้ง

หากยังไม่ได้รับอิสรภาพ เราขอนัดเจอกันวันอังคาร 23 นี้ 16.00 น.เป็นต้นไป ณ เรือนจำพิเศษกรุงเทพ และเชิญชวนให้ทุกท่านร่วม “พับนก” ส่งเข้าไปยังภายในเรือนจำ เพื่อที่จะแสดงพลังอีกครั้ง เรียกร้องให้ปล่อยเพื่อนเรา เพราะ 2 สัปดาห์แล้ว ที่เพื่อนเรายังไร้สิ้นแห่งเสรีภาพ

จ่อเอาผิดชุมนุมหน้ารัฐสภา

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยว่า ภาพรวมการชุมนุมของกลุ่มธรรมศาสตร์และการชุมนุมที่บริเวณด้านหน้ารัฐสภา เกียกกาย และกลุ่มผู้ชุมนุม ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยไม่มีเหตุความวุ่นวาย อย่างไรก็ตามการชุมนุมก็ถือว่าเป็นการเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค จึงได้ให้ตำรวจ สน.บางโพ และสน.สำราญราษฎร์ รวบรวมหลักฐานและแจ้งความเอาผิดกับผู้ที่จัดให้มีการชุมนุม

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวต่อว่า สำหรับในช่วงบ่ายวันที่ 21 ก.พ. ที่มีการนัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคาดว่าเป็นกลุ่มอาชีวะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในการป้องกันเหตุร้าย และการกระทบกระทั่งกันของกลุ่มอาชีวะ อยากฝากถึงประชาชนให้หลีกเลี่ยงการสัญจรในบริเวณดังกล่าวด้วย

กทม.แจ้งสวนหย่อมเสียหาย 5 ล.

พล.ต.ต.ปิยะเปิดเผยถึงผลสรุปการปฏิบัติงานช่วงการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า พบกระทำความผิดหลายข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน , พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ , พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่มีการปิดถนน และ พ.ร.บ.ความสะอาด ที่มีการรื้อต้นไม้ในสวนหย่อมได้รับความเสียหาย ติดป้าย และพ่นสีในที่สาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิด

ส่วนความคืบหน้าคดีการชุมนุม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน. สำราญราษฎร์ เนื่องจากพบความเสียหายจากการรื้อสวนหย่อมประมาณ 5 ล้านบาท ตรวจสอบพบผู้กระทำความผิดแล้ว 9 คน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบอีก 12 คน

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุม วันนี้ประเมินไว้ว่า ผู้ชุมนุมจะจำนวนไม่มาก อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนในละแวกใกล้เคียง ควรระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมในวันนี้ที่อนุสาวรีย์ประชา ธิปไตย เพราะอาจเกิดเหตุกระทบกระทั่งของกลุ่มการ์ดอาชีวะที่มีความขัดแย้งกันมาก่อนหน้านี้ เหมือนกับเช่นเหตุการณ์ที่สามย่านมิตรทาวน์ และหน้าสถานทูตเมียนมา พร้อมกำชับ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1 และ พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คงมีการตั้งจุดตรวจค้นยานพาหนะ และบุคคลต้องสงสัย ทั้งนี้ บช.น. ยืนยันว่า มาตรการใช้กระสุนยาง ปืนตาข่าย เชือกรัด จะใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน