นายกฯไปให้กำลังใจ
ล็อตแรกส่งถึง32รพ.

ดีเดย์ฉีดวัคซีนโควิดวันนี้ 5 รมต.อาสาประเดิม เข็มแรกไม่ใช่นายกฯบิ๊กตู่ ขณะที่ปลัดสธ.หมอเกียรติภูมิเปิดใจพร้อมฉีดคนแรกร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวันนี้ ที่บำราศนราดูร ส่วนบิ๊กตู่หนีบอนุทินไปให้กำลังใจ ผอ.สำนักโฆษกแจงนายกฯวืดฉีดเข็มแรก เหตุแอสตราเซเนกาล็อตแรกแม้ผ่านการรับรองจากเกาหลีประเทศต้นสังกัดแล้ว ไทยตัดยอดมาได้แต่ไม่มีเอกสารรับรอง ด้านแอสตราฯแจง ร่วมกับสธ. เร่งตรวจคุณภาพวัคซีนภายใน 2 สัปดาห์ ส่งวัคซีนโควิดให้ 32 ร.พ. 13 จังหวัดแล้ว สธ.แจงนายกฯ เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องรับวัคซีนโควิด ทั้งสูงอายุ-เสี่ยงติดเชื้อจากการลงพื้นที่ วัคซีนซิโนแวค 20,040 โดส ถึงร.พ.สมุทรสาคร แล้ว พร้อมฉีดนำร่องกลุ่มแรก 159 คน 1 มี.ค.ทยอยฉีดให้บุคลากรแพทย์-กลุ่มเสี่ยง พ.ค.ถึงฉีดให้ประชาชน เทศบาล-ชาวมหาชัย ล้างตลาดกลางกุ้ง ทำบุญ เปิดตลาด 1 มี.ค.นี้ ศบค.แจงป่วยเพิ่มอีก 72 ยอดสะสม 25,881 ราย สธ.ชี้กทม.-จังหวัดปริมณฑลยังน่าห่วง

‘บิ๊กตู่’เลื่อนฉีดวัคซีน

เมื่อวันที่ 27 ก.พ. รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า หลังมีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เลื่อนการเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่สถาบันบำราศนราดูร จากเดิมวันที่ 28 ก.พ. ออกไปอย่างไม่มีกำหนดนั้น

เวลา 08.10 น. น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ผอ.สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) กล่าวว่า สาเหตุการเลื่อนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของนายกฯนั้น เกิดจากติดขัดปัญหาในเรื่องธุรการที่เป็นส่วนของเอกสาร เนื่องจากแอสตราเซเนกาล็อตแรกนี้ มาจากประเทศเกาหลี แม้จะผ่านการรับรองจากประเทศต้นสังกัดแล้วก็ตาม แต่เป็นการรับรองให้ทางเกาหลีเท่านั้น การที่ประเทศไทย ตัดยอดนำเข้ามาจึงยังไม่มีเอกสารรับรองเป็นทางการ จึงอยู่ระหว่างขั้นตอนทางธุรการการดำเนินการ ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนล็อตดังกล่าวออกไปก่อน ส่งผลให้พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีอายุเกิน 60 ปี ต้องเลื่อนฉีดวัคซีนเข็มปฐมฤกษ์ออกไป

ควง‘อนุทิน’ให้กำลังใจปลัดสธ.

น.ส.นัทรียากล่าวว่า ส่วนวัคซีนซิโนแวคที่นำเข้าจากจีนนั้น ผ่านการรับรองเป็นที่เรียบร้อยแล้วสามารถดำเนินการฉีดตามกำหนดได้ แต่หากขั้นตอนทางธุรการด้านเอกสารของแอสตราเซเนกา ผ่าน ขั้นตอนได้ทัน และผ่านขั้นตอนของวิทยา ศาสตร์การแพทย์ของไทยแล้ว คาดว่าจะฉีดได้ทันตามที่ประกาศไว้

ต่อมาเวลา 13.30 น. น.ส.นัทรียากล่าวว่า ทราบว่า ในวันที่ 28 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์จะเดินทางไปเป็นประธานและสักขีพยานในการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกที่สถาบันบำราศนราดูร ในเวลา 07.30 น. แต่ไม่ได้เป็นผู้รับวัคซีนตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) ร่วมพิธี ส่วนตัวไม่ทราบว่า นายอนุทินจะร่วมฉีดได้หรือไม่ เพียงแต่ทราบว่าปลัดสธ.จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิดครั้งนี้ด้วย

‘หมอเกียรติภูมิ’ประเดิมเข็มแรก

ด้านนายอนุทิน รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ยังมีตามกำหนดเดิมวันที่ 28 ก.พ. แต่เป็นการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ โดยมี นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.เป็นคนแรกที่จะฉีด ในเวลา 07.30 น. ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์และตนจะเดินทางไปให้กำลังใจด้วยที่สถาบันบำราศนราดูร จากนั้นเป็นการฉีดให้กับบุคลากรด่านหน้าที่ทำงานควบคุมป้องกันโรค รวมถึงคนที่เกี่ยวข้อง อย่าง อสม. จากนั้นตนจะเดินทางไปที่ จ.สมุทรสาคร เพื่อดูความพร้อมในพื้นที่การฉีดวัคซีน ส่วนกรณีนายกฯไม่ได้ฉีดวัคซีนโควิด-19 เนื่องจากเป็นดุลพินิจของแพทย์ และต้องรอการตรวจรับรองรุ่นการผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เนื่องจากแอสตราเซเนกา ผู้นำเข้ายังไม่ได้ยื่นเอกสารหรือตัวอย่างนำส่ง

“การฉีดวัคซีนของผมนั้น ขอให้เป็นดุลพินิจของแพทย์ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการลือขโมยซีนกับนายกฯ ไม่เป็นความจริง วัคซีนแต่ละชนิดมีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน โดยวัคซีนซิโนแวคฉีดให้กับคนที่มีอายุระหว่าง 18-59 ปี ส่วนแอสตราเซเนกาฉีดให้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ดังนั้น ไม่ใช่เรื่องใครฉีดก่อนฉีดหลัง การฉีดต้องคำนึงถึงความปลอดภัย จึงต้องให้แพทย์เป็นคนตัดสินใจ ส่วนหลังการรับวัคซีนในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์เกิดขึ้น เชื่อว่าผลลัพธ์ของวัคซีนจะเป็นคำตอบ และหลังการฉีดยังต้องรอดูผลด้วย” นายอนุทินกล่าว

ยันวัคซีนที่เหลือถึงตามกำหนด

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวผ่านไทยคู่ฟ้าพอดแคสต์เรื่องวัคซีนโควิด-19 ว่า เป็นข่าวดีที่ประเทศไทยได้รับวัคซีนล็อตแรกเร็วกว่ากำหนด เพื่อให้ทันต่อการระบาดของไทย ยืนยันว่าวัคซีนที่เหลือของแอสตราเซเนกาจะทยอยจัดส่งจากการผลิตของสยามไบโอไซน์ตามกำหนดการเดิมอย่างแน่นอน วัคซีนที่มาถึงประเทศไทยจะต้องผ่านการตรวจรับคุณภาพผ่านการรับรองรุ่นผลิตจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จึงจะสามารถกระจายวัคซีนไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายแรกได้

จากข้อมูลการศึกษาในปัจจุบัน รวมทั้งจากผอ.สถาบันวัคซีน ระบุตรงกันว่าแม้การฉีดวัคซีนจะเป็นการลดอาการรุนแรงของ ผู้ป่วยติดเชื้อ แต่ยังไม่มีข้อมูลสนับสนุนว่าวัคซีนป้องกันการติดเชื้อและลดแพร่กระจายของเชื้อได้ ดังนั้นประชาชนยังมีความจำเป็นจึงต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อไป

แอสตราฯแจงเหตุชะลอฉีด

รายงานข่าวจากแอสตราเซเนกา บริษัทวิทยาการชีวเภสัชภัณฑ์ที่มุ่งเน้นในการค้นพบ, พัฒนา และจำหน่ายยา เปิดเผยว่า แอสตราเซเนกาได้รักษาพันธสัญญาอย่างเต็มที่ในการสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลไทยที่จะยับยั้งโรคระบาดด้วยการเข้าถึงวัคซีน โควิด-19 ของแอสตราเซเนกาอย่างทันท่วงที โดยการขนส่งวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมาถึงประเทศไทยเมื่อวันพุธที่ 24 ก.พ. เป็นหนึ่งในวัคซีนชุดแรกในเอเชียแปซิฟิก ที่ลำเลียงมาก่อนกำหนดเดิมที่วางไว้ในไตรมาสที่ 2 สืบเนื่องจากภารกิจของรัฐบาลไทยที่ได้สนับสนุนการผลิตวัคซีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพันธกิจนี้จะส่งสัญญาณความเชื่อมั่นไปยังประชาชนชาวไทย ว่ากระบวนการต่อสู้กับโรคระบาดกำลังดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง

แอสตราฯระบุต่อว่า แม้ขณะนี้วัคซีนจะได้เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้ว แต่การนำออกใช้จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อวัคซีนผ่านกระบวน การยืนยันคุณภาพครบถ้วนทุกขั้นตอน วัคซีนของบริษัทแต่ละชุดผ่านการทดสอบมาตรฐานคุณภาพต่างๆ กว่า 60 ครั้ง ตลอดเส้นทางจากการผลิตถึงการฉีด นอกจากนั้น แอสตราเซเนกายังร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขของแต่ละประเทศ เพื่อตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าคุณภาพของวัคซีน ได้มาตรฐานที่วางไว้สำหรับประชาชนไทย การดำเนินการอย่างเคร่งครัดนี้มีไว้เพื่อตอกย้ำให้ทุกท่านที่ได้รับวัคซีนของเรามั่นใจว่าเป็นวัคซีนที่ได้มาตรฐานสูงสุดเช่นเดียวกับทุกผลิตภัณฑ์ของแอสตรา เซเนกา

ตามกำหนดการ วัคซีนของแอสตรา เซเนกาชุดนี้ จะผ่านขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพภายในสัปดาห์ ที่สองของเดือนมี.ค.นี้ โดยขณะนี้แอสตรา เซเนกากำลังทำงานร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข อย่างแข็งขันเพื่อประชาชนชาวไทย เพื่อให้นำวัคซีนออกใช้ได้ทันทีเมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ

ทั้งนี้ วัคซีนโควิด-19 ของแอสตราเซเนกา ผ่านการอนุมัติคำรับรองเงื่อนไขการขึ้นทะเบียนตำรับยา หรืออนุญาตใช้ในกรณีฉุกเฉินในกว่า 50 ประเทศ โดยองค์การอนามัยโลก

5 รมต.สมัครฉีดล็อตแรก

รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล แจ้งว่า พล.อ.ประยุทธ์มีดำริและให้สอบถามไปยังบรรดารัฐมนตรี ที่มีอายุในเกณฑ์สามารถรับวัคซิโนแวคได้ สมัครใจฉีดวัคซีนในวันที่ 28 ก.พ. ซึ่งมีผู้ตอบรับเบื้องต้นมาแล้ว อาทิ นายอนุทิน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ เป็นต้น แต่ไม่ชัดเจนว่าจะได้รับการฉีดหรือไม่

4 ร.พ.ฉีดพร้อมปลัดสธ.

ที่สถาบันบำราศนราดูร นพ.เกียรติภูมิ ปลัดสธ. ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางมาตรวจความพร้อมสถานที่จัดเตรียมสำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ในวันที่ 28 ก.พ.ว่า สถานที่ มีความพร้อมให้บริการ ภาพรวมการฉีดและสังเกตอาการจะใช้เวลาราว 30 นาที มีระบบการดูแลหลังการฉีด หากอาการรุนแรงสามารถส่งต่อได้ทันที ถือว่ามีความพร้อม ทั้งนี้ วัคซีน 2 แสนโดสจะส่งไป 13 จังหวัด ซึ่งวันนี้องค์การเภสัชกรรม จัดส่งวัคซีนให้กับโรงพยาบาล 4 แห่ง ได้แก่ ร.พ.สมุทรสาคร 12,520 โดส ร.พ.ชลบุรี 4,720 โดส ร.พ.พระนั่งเกล้า 3,000 โดส และสถาบันบำราศนราดูร 3,000 โดส จะสตาร์ตฉีดพร้อมกันวันที่ 28 ก.พ.นี้ ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ และผู้ที่ทำงานหน้าด่านมีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ ส่วนประชาชนจะพิจารณาในลำดับต่อไป สำหรับวัคซีนล็อตต่างๆ ที่จะทยอยเข้ามา เราก็จะทยอยฉีดตามหลักเกณฑ์ต่อไป

3 อธิบดีก็อาสาด้วย

ทั้งนี้ มีการตั้งกรรมการพิจารณาฉีดวัคซีนให้กับบุคคลสำคัญของประเทศ โดยมี นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน ซึ่งตนได้รับการพิจารณาแล้วว่าฉีดได้ เพราะเป็นบุคลากรการแพทย์ และมีการลงพื้นที่ต่างๆ ส่วนตัวก็พิจารณาตัดสินใจเองด้วย มั่นใจว่าวัคซีนนี้ปลอดภัย จึงจะรับการฉีดในวันที่ 28 ก.พ. นี้ในเวลา 07.30 น. พร้อมผู้บริหาร สธ. ที่เข้าหลักเกณฑ์ฉีดได้ เช่น นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และนพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ อย่างไรก็ตาม เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชนเพิ่มขึ้นก็จะชวนผู้บริหารท่านอื่นฉีดด้วย ส่วนนายอนุทินก็จะสอบถามเช่นกัน แต่จะฉีดหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตัวท่านตัดสินใจ ดังนั้นขอให้ประชาชนมั่นใจ ล่าสุดจากการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนของประชาชนเพิ่มขึ้นมากจากตอนแรกๆ ที่สำรวจพบว่าประชาชนต้องการฉีดแค่ 50% แต่จากการสำรวจล่าสุดต้องการฉีด 90%

สำหรับกรณีการรับวัคซีนของนายกรัฐมนตรี จะมีวัคซีนของบริษัทแอสตราเซเนกาที่เหมาะสม ตอนนี้ของอยู่ในโกดังของ DKSH แล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพ โดยบริษัทแอสตราเซนเนกา ประเทศอังกฤษ ก่อนจะนำมาฉีดให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมายและประชาชนกลุ่มผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คาดว่าสัปดาห์หน้าจะส่งมอบได้ เมื่อส่งมอบแล้ว ทางเราก็จะตรวจวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วย

วัคซีนพร้อม – ทีมแพทย์และพยาบาลโรงพยาบาลสมุทรสาคร รับมอบวัคซีนชิโนแวค 20,400 โดส นำเก็บในอุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส เตรียมฉีดให้กลุ่มตัวอย่าง 159 คน จากนั้นทยอยฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์ เมื่อวันที่ 27 ก.พ.

ส่งล็อตแรกไป 32 ร.พ.แล้ว

นพ.โอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าขณะนี้กระจายวัคซีนโควิด-19 ไป โรงพยาบาลกลุ่มเป้าหมาย 18 จังหวัด โดยเฉพาะ 13 จังหวัดแรกแล้ว ใน 32 โรงพยาบาลซึ่งทยอยไปวันนี้ บางจังหวัดตรวจรับกันแล้ว นพ.เกียรติภูมิ ปลัดสธ. ก็ตรวจความเรียบร้อยการฉีดวัคซีนวันที่ 28 ก.พ. ที่สถาบันบำราศนราดูร เบื้องต้นกระบวนการฉีดวัคซีนต่างๆ มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับการฉีดภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน เช่น ซิโนแวคยังไม่แนะนำอายุ 60 ปีขึ้นไป เราจึงยังไม่ฉีด นายกฯ ก็ลำบาก จะไม่ฉีดก็หาว่าไม่มั่นใจ กลัว ทั้งที่อยากฉีด หากฉีดก็หาว่าแย่งวัคซีนพี่น้องประชาชน

“หากพูดในแง่ประชาชนที่ถือว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง คือ บุคลากรการแพทย์ มีโรคประจำตัวเรื้อรัง อายุเกิน 60 ขึ้นไป เจ้าหน้าที่ทำงานสัมผัสติดเชื้อ นายกฯ ก็ไปตรวจเยี่ยมมีความเสี่ยง ตามเกณฑ์นายกฯ เป็นผู้สูงอายุ มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ ตามหลักเกณฑ์ก็ต้องฉีด ส่วนพื้นที่เสี่ยงคือสมุทรสาคร กทม. ปริมณฑล นายกฯ ก็อยู่ในพื้นที่ด้วย ตามเกณฑ์ต่างๆ ถือว่าต้องได้รับวัคซีน แต่ซิโนแวคเราไม่ให้ในผู้อายุเกิน 60 ปี ในทางการแพทย์ไม่แนะนำฉีดซิโนแวค แต่ถ้าแอสตราเซเนกาได้รับรองมาตรฐานแล้วก็อยู่ในเกณฑ์รับวัคซีนนี้ ส่วนนายอนุทิน รมว.สธ. อายุไม่ถึง 60 ปี แต่เป็นบุคลากรเจ้าหน้าที่มีโอกาสสัมผัสผู้ติดเชื้อ เพราะเยี่ยมจุดระบาด ลงพื้นที่พบประชาชน อยู่ในกลุ่มเป้าหมายต้องฉีด ก็ฉีดได้ทั้งสองตัว โดยหลักการเราฉีดโดยสมัครใจ ไปบังคับ ไม่ได้” นพ.โอภาสกล่าว

ส่วนคนต่างชาติ นพ.โอภาสกล่าวว่า เราถือว่าทุกคนในแผ่นดินไทยอยู่ในเกณฑ์ฉีด ส่วนจะรับวัคซีนอย่างไร สธ.โดยอนุกรรมการบริหารจัดการวัคซีนกำหนดแต่ละจังหวัดฉีดตัวเลขอย่างไรแล้ว แจ้งจังหวัดรับทราบแล้ว คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม. จะไปบริหารจัดการเอายอดวัคซีนที่ได้รับ กลุ่ม เป้าหมายโรคประจำตัว ประชาชน อาชีพเสี่ยงบุคลากรจำนวนเท่าไรถึงกำหนดแต่ละวันว่าจะมาฉีดเท่าไร ช่วงแรกกำหนดฉีดในสถานพยาบาลเท่านั้น มีเป้าหมายฉีด 10 ล้านโดสต่อเดือนก็เป็นไปได้ ถ้าสงสัยให้ติดต่อคณะกรรมการโรคติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) หรือโรงพยาบาล

ป่วยอีก 72 – ยอดรวม 2.58 หมื่น

วันเดียวกัน เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล covid-19 รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 72 ราย ป่วยสะสม 25,881 ราย หายป่วยแล้ว 25,022 ราย เสียชีวิตสะสม 83 ราย

สำหรับผู้ป่วยรายใหม่ 72 ราย พบเป็นติดเชื้อในประเทศ 63 ราย แยกเป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่จากระบบเฝ้าระวัง ในสมุทรสาคร 34 ราย ปทุมธานี 6 ราย กทม. 5 ราย ตาก 2 ราย นครปฐม 2 ราย และอยุธยา 1 ราย ส่วนการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก พบ 13 ราย แยกเป็น ปทุมธานี 8 ราย ตาก 2 ราย และสมุทรสาคร 3 ราย

เดือนนี้คลายล็อกมหาชัย

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค สธ. แถลงข่าวสถานการณ์ โควิด-19 ประจำวัน ว่า วันนี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 72 ราย แนวโน้มถือว่าลดลง สถานการณ์สอดคล้องกับที่ ศบค.ประกาศมาตรการผ่อนคลาย ประชาชนเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งมีการร้องเรียนว่าบางจุดมีการไปรวมตัวกันจำนวนมาก และใส่หน้ากากอนามัยน้อยลง ย้ำว่า แม้สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ไม่ได้กลับเข้าสู่ปกติ แม้จะมีความหวังเรื่องวัคซีน แต่การใส่หน้ากากยังเป็นสิ่งสำคัญ หากเห็นจุดใดรวมตัวจำนวนมากไม่ใส่หน้ากากก็แจ้งมายังสาธารณสุขได้ ความเสี่ยงการติดเชื้อคืออยู่ที่อากาศไม่ถ่ายเท หนาแน่น ไม่ใส่หน้ากาก ให้พยายามหลีกเลี่ยงไม่ไปอยู่ ทำให้ปลอดภัยมากขึ้น

“สมุทรสาคร ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันสถานการณ์เห็นว่าผู้ป่วยลดลงเป็นที่น่าพอใจ มาตรการคัดกรองเชิงรุก การควบคุมจำกัดการเดินทางผู้ติดเชื้อในโรงงานให้ประกอบอาชีพใช้ชีวิตในโรงงาน ไม่ปะปนในชุมชนเหมือนว่าจะได้ผล การติดเชื้อในชุมชนน้อยลง โรงงานยังมีการผลิต คนงานมีรายได้เลี้ยงดูตัวเอง เข้าใจว่า มี.ค.ก็จะเริ่มมีการผ่อนคลาย เพราะตัวเลขลดลง การตรวจในโรงงานและตรวจเลือดแนวโน้มดีขึ้นก็จะรายงานเป็นระยะต่อไป ทั้งนี้ อำเภอเมือง และมหาชัยมีการระบาดมากที่สุด แต่มีผู้หายแล้วจำนวนมาก สถานการณ์เหมือนดีขึ้น แต่ยังไม่กลับสู่ปกติ ยังคงควบคุมสูงสุดและเข้มงวดต่อไป จะผ่อนคลายมาตรการตามลำดับถ้ามีการฉีดวัคซีน” นพ.โอภาสกล่าว

กทม.-ปริมณฑลยังน่าห่วง

ส่วนปทุมธานีที่การระบาดในตลาด พรพัฒน์ การคัดกรองเชิงรุก ปรับปรุงสถานที่ตลาดทำให้เกิดความเชื่อมั่น ควบคุมสถานการณ์ได้ดี เร็วๆ นี้จะเปิดตลาดให้กลับไปใช้ชีวิต แต่มีการคัดกรองดูแลความสะอาด ถ่ายเทอากาศ คัดกรองคนเข้าออกเข้มงวดและเฝ้าระวังในชุมชน สถานการณ์ผ่อนคลายตามลำดับ ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ประเทศไทยไม่มี ผู้ติดเชื้อ มีแค่บางจุดแต่ควบคุมสถานการณ์ได้ดี ตอนนี้ยังให้ความสนใจสมุทรสาคร กทม. และปริมณฑลเป็นหลัก

ล้างตลาดกุ้ง -1 มี.ค.เปิดแผง

ที่ จ.สมุทรสาคร นายสุชาติ แหวนแก้ว ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครสมุทรสาคร นำรถน้ำดับเพลิง 2 คัน ฉีดพ่นคลอรีนพื้นที่ทั่วตลาดกลางกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยมี เจ้าหน้าที่ของเทศบาลและแรงงานข้ามชาติในพื้นที่ตลาดมาช่วยกันทำความสะอาดอีกครั้ง ที่จัดพิธีทำบุญในวันอาทิตย์ที่ 28 ก.พ. 2564 เวลา 07.30 น. และกลับมาเปิดค้าขายตามปกติตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. 2564

ภายหลังคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครมีคำสั่งห้ามซื้อ-ขายสินค้าสัตว์น้ำในตลาดกลางกุ้งตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2563 โดยทางเจ้าของแพกุ้ง-แพปลา และผู้ที่พักอาศัยในพื้นที่ได้ร่วมกันปรับปรุงตลาดกลางกุ้งตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครแล้ว จนกระทั่งล่าสุดคณะกรรมการโรคติดต่อเห็นว่า ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ สมควรมีคำสั่งให้ตลาดกลางกุ้งกลับมาค้าขายได้ตามปกติ แต่ก็จะต้องมีการตรวจประเมินอย่างต่อเนื่องเป็นระยะๆ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคคลภายนอกจังหวัดสมุทรสาคร ด้านความปลอดภัยของตลาด ทั้งในส่วนของตลาด และส่วนของที่พักอาศัย ตามมาตรฐานของสธ.เคร่งครัด

คุมประพฤติดีเจมะตูม 1 ปี

ด้านนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ เปิดเผยภายหลัง นายเตชินท์ พลอยเพชร หรือดีเจมะตูม เดินทางเข้าพบพนักงานคุมประพฤติ เพื่อรายงานตัวและรับทราบเงื่อนไขการคุมความประพฤติว่า พนักงานได้ปฐมนิเทศและแจงเงื่อนไขการคุมประพฤติ โดยจะต้องมารายงานตัวต่อพนักงาน 3 เดือนต่อครั้ง และห้ามทำกิจกรรมมั่วสุมในสถานที่แออัดภายในระยะเวลา 3 เดือน พร้อมทั้งมีแผนการแก้ไขฟื้นฟู ให้เข้ารับการอบรมและรับคำปรึกษาเพื่อสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และสร้างความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม ทั้งนี้ ดีเจมะตูมต้องปฏิบัติตนภายใต้เงื่อนไขการคุมความประพฤติอย่างเคร่งครัดจนกว่าครบกำหนดการคุมความประพฤติระยะเวลา 1 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน