ฉีดแล้ว254 วัคซีนวันแรก

อนุทิน-4รมต.
ประเดิม-ฉลุย
กทม.เริ่มวันนี้
นายกฯรอมีค.

‘อนุทิน’ ผ่านฉลุย ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดเป็นคนแรกของไทย ตามด้วย 3 รมต. ปลัดกระทรวง อธิบดีควบคุมโรค ส่วน ‘บิ๊กตู่’ มาร่วมให้กำลังใจ ยังไม่ฉีดเพราะอายุเกิน 60 ปี ไม่เหมาะกับวัคซีนซิโนแวค รอฉีดของ ‘แอสตราเซเนกา’ กลางเดือนมี.ค. ขณะที่สมุทรสาคร รองผู้ว่าฯ นำทีมฉีด ทุกคนไม่มีอาการข้างเคียง สรุป วันแรกฉีดไปทั้งหมด 254 คน วันที่ 1 มี.ค. เริ่มฉีดที่กทม. ที่ปทุมฯ สั่งปิดโรงงานปกปิดข้อมูลแรงงานต่างชาติติดเชื้อ 26 คน

เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข มีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นครั้งแรกของไทย เป็นวัคซีนชนิดเชื้อตายจากบริษัทซิโนแวค ประเทศจีน โดยจะฉีดวัคซีนเข็มแรกให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข พร้อมด้วยนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ โดยมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มาร่วมให้กำลังใจ พร้อมกับเยี่ยมชมจุดให้บริการฉีดวัคซีน และทดสอบระบบร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับสาเหตุที่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้ฉีดนั้น เนื่องจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ของวัคซีนที่จะฉีดนั้นจะฉีดให้กับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18-59 ปีเท่านั้น ดังนั้น นายกฯ ต้องรอฉีดวัคซีนของบริษัท แอสตราเซเนกา จำกัด สำหรับผู้ที่มี อายุเกิน 60 ปี ซึ่งขณะนี้วัคซีนดังกล่าวยังติดปัญหาเทคนิคด้านธุรการและเอกสาร

ต่อมา นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ฉีดวัคซีน โควิดเข็มแรกให้นายอนุทิน ตามด้วยนายสาธิต นายอิทธิพล นางกนกวรรณ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นลำดับต่อไป

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ร่วมเฝ้าสังเกตอาการ ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน และกล่าวว่าขอบคุณ ผู้ที่สมัครใจเข้ารับการฉีดวัคซีน ขณะนี้ยังไม่มีอาการอะไรเกิดขึ้น ข้อห่วงใยคือให้เฝ้าระวัง 15-30 นาที เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีนอื่นๆ เป็นแนวทางที่ต่างประเทศดำเนินการมา โดยในวันที่ 1 มี.ค.วัคซีนจะไปถึงประชาชน ขอให้ประชาชนมั่นใจ วันนี้คือประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งในการฉีดวัคซีนเข็มแรกของยี่ห้อนี้ แต่วันที่จะเป็นประวัติศาสตร์สำคัญกว่านี้คือวันที่โควิดออกไปจากประเทศไทย และวันที่ประเทศไทยกลับคืนสู่ความสงบสุข มีเสถียรภาพ ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยต้องเป็นเช่นนั้น เรื่องนี้อย่าดราม่ากันต่อ พอแล้ว

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ เพิ่มเติมว่าสำหรับตนเมื่อถึงเวลาแพทย์แจ้ง ให้ฉีดก็พร้อมจะฉีด เพราะชินอยู่แล้วเรื่องฉีดยา เวลาไม่สบาย ทานยาไม่ทันใจก็ฉีดเอา ไม่เช่นนั้นจะทำงานไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นไข้ธรรมดา

ผู้สื่อข่าวถามว่าการที่นายกฯ ยังไม่ฉีดเป็นเพราะไม่สบายอยู่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกันเลย ถ้าไม่สบายก็ฉีดยา แก้ไข้ วันนี้ที่แพทย์ไม่ฉีดให้เพราะอะไร ไหนลองตอบมา ฟังไม่รู้เรื่องหรืออย่างไร ไปฟังแพทย์ชี้แจงเอาแล้วกัน ไม่อยากพูด

ต่อข้อถามว่าหลังจากวัคซีนเข้ามาประเทศไทยแล้วมีความหวังอย่างไร นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังให้โควิดหมดไปโดยเร็วและได้วัคซีนมาอย่างเพียงพอ หวังให้บ้านเมืองสงบ การเมืองมีเสถียรภาพ ถ้าไม่หวังกับตนแบบนี้แล้วใครจะหวัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนนายเฉลิมชัย ไม่ได้ฉีดวัคซีนตามที่ตั้งใจไว้ เนื่องจากมีภาวะความดันโลหิตขึ้นสูง 180/90 ถือว่ามีความเสี่ยง โดยนายเฉลิมชัยกล่าวว่าหมอแนะนำให้ฉีดครั้งหน้า สงสัยคงตื่นเต้น ปกติเป็นคนนอนดึกตีหนึ่ง-ตีสอง แล้ววันนี้ต้องตื่นตีห้า เลยทำให้ความดันขึ้นเล็กน้อย ก็ไม่รู้สึกผิดหวัง ที่มาวันนี้เพราะต้องการให้ทุกคนเห็นว่าเรามีความพร้อมและปลอดภัย

ขณะที่นายอนุทินให้สัมภาษณ์หลังฉีดวัคซีนว่า ถือว่าผ่านไปด้วยดี ฉีดไปได้หลายคน ขอให้คำยืนยันว่าวัคซีนทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรที่กระทรวงสาธารณสุขจัดมาให้ คนไทยมีความปลอดภัยและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิดได้

ต่อข้อถามว่านายกฯ จะฉีดยี่ห้อแอสตรา เซเนกาใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าถูกต้อง แต่ตอนนี้แอสตราเซเนกากำลังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบและจัดทำเอกสารให้ถูกต้อง ตรงนี้คือมาตรฐาน เรื่องวัคซีนจะบอกว่าให้เอามาฉีดก่อนแล้วค่อยจัดการเรื่องธุรการทีหลัง มันไม่ได้ ตอนนี้ผู้ผลิตยังทำเอกสารไม่ครบตามขั้นตอน เราก็ต้องรอเขา ที่แจ้งมาว่าประมาณ 8-10 วัน

“หากทุกอย่างเรียบร้อยก็จะเชิญนายกฯ มาฉีด ซึ่งไม่ได้เป็นความผิดพลาดของฝ่ายเรา แต่ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนของแอสตรา เซเนกาที่เขามีความต้องการจะจัดส่งมาให้ถึงเมืองไทยก่อน เพราะกลัวว่าถ้าให้เวลาผ่านไปเรื่อยๆ หากมีกฎเกณฑ์อะไรมาห้ามไม่ให้ออกนอกประเทศของเขาก็จะเกิดความวุ่นวาย ขณะนี้วัคซีนแอสตราเซเนกายังเป็นกรรมสิทธิ์ ของบริษัทแอสตราเซเนกาอยู่ ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของรัฐบาลไทย ไม่เหมือนซิโนแวคที่เป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐบาลไทยแล้ว เพราะเราเป็นผู้ซื้อและนำเข้า” รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขกล่าว

ส่วนนายสาธิตกล่าวภายหลังฉีดวัคซีนว่า จะรับเข็มต่อไปในวันที่ 22 มี.ค. ขณะนี้ยังไม่มีอาการข้างเคียงใดๆ อาจมีอาการตึงที่แขนเล็กน้อย แต่โดยหลักวิชาการต้องรอดูอาการ อีกพักนึง และตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.เป็นต้นไป จะให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นกลุ่มแรก ที่จะได้รับการฉีดวัคซีน ทุกคนลงทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว

ต่อข้อถามถึงความชัดเจนเรื่องวัคซีน แอสตราเซเนกาล็อตแรก นายสาธิตกล่าวว่า ล็อตแรกเข้ามาแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องเทคนิคนิดหน่อย เพราะการขึ้นทะเบียนและผ่านการรับรองต้องใช้เวลาเล็กน้อย ที่รับปากคือไม่เกิน วันที่ 15 มี.ค. มั่นใจว่าอายุการใช้งานของวัคซีนดังกล่าวที่นำมาจากเกาหลีใต้จะทันอย่างแน่นอนเพราะเก็บไว้ในอุณหภูมิที่ เหมาะสม อายุของวัคซีนมีระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้ นายกฯ จะได้ฉีดประมาณกลางเดือนมี.ค. เป็นวัคซีนของแอสตราเซเนกาที่ทดลองกับกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมากแล้ว โดยเป็นล็อตที่นำเข้ามาประเทศไทยแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังนายอนุทิน นายสาธิต นายอิทธิพล นางกนกวรรณ นพ.เกียรติภูมิ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขรับวัคซีนโควิดและสังเกตอาการเป็นเวลา 30 นาที ทุกคนมีอาการปกติ ไม่มีไข้ ไม่มีผื่นแต่อย่างใด แต่อาจมีอาการปวดแขนบริเวณที่ฉีดเท่านั้น โดยระหว่างรอสังเกตอาการ นายอนุทินไปนั่งให้กำลังใจแก่อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ที่เข้ารับวัคซีนด้วย

นพ.อภิชาต วชิรพันธ์ ผอ.สถาบันบำราศ นราดูร กล่าวว่า วันนี้วางแผนฉีดทั้งหมด 200 โดส แต่สถาบันบำราศฯ รองรับการฉีดได้ วันละ 600 โดส สำหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนวันที่ 28 ก.พ.จะได้รีบเข็มที่สองในวันที่ 22 มี.ค.

จากนั้นนายอนุทิน พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปตรวจความพร้อมฉีดวัคซีนเข็มแรกที่ ร.พ.สมุทรสาคร โดยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผวจ.สมุทรสาคร รักษาการ ผวจ.สมุทรสาคร รับวัคซีนเป็น คนแรกของ จ.สมุทรสาคร ตามด้วยผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชน บุคลากรทางการแพทย์ อสม. โดยวางแผนฉีดจำนวน 159 โดส

นายอนุทินกล่าวว่าเริ่มฉีดที่ จ.สมุทรสาคร ล็อตแรก 20,000 กว่าโดส จะทยอยฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อ จ.สมุทรสาคร ป้องกันการระบาดโดยวัคซีน เศรษฐกิจสังคมความเป็นปกติ จะกลับมาโดยเร็ว ส่วน ผวจ.สมุทรสาคร หายแล้ว เหลือแต่พักฟื้น

ส่วน นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) สมุทรสาคร กล่าวว่า จ.สมุทรสาครได้รับการจัดสรรวัคซีนโควิด ล็อตแรก 70,000 โดส จะฉีดให้ประชาชน และกลุ่มเป้าหมาย 35,000 คน คนละ 2 โดส ห่างกัน 3 สัปดาห์ เบื้องต้นจะฉีดในร.พ. 3 แห่ง คือ ร.พ.สมุทรสาคร ร.พ.กระทุ่มแบน และ ร.พ.บ้านแพ้ว วันแรก 500 คน จากนั้นจะขยับเป็นวันละ 1,000 คน และ 2,000 คน ตั้งเป้าฉีดให้เสร็จภายใน 1 เดือน

นพ.นเรศฤทธิ์กล่าวต่อว่าจากนั้นจะได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตถัดไป 60,000 โดส ในเดือนมี.ค. และ 100,000 โดส ในเดือนเม.ย. จะกระจายในประชาชนพื้นที่เสี่ยงขยายออกไปเรื่อยๆ โดยร่วมมือกับร.พ.เอกบนเพิ่ม 7 แห่ง รวมเป็น 10 แห่ง โดยเจ้าหน้าที่ จะประสานไปยังประชาชนในการให้ข้อมูล ลงทะเบียน และนัดหมายล่วงหน้าเพื่อมารับวัคซีน เนื่องจากการฉีดวัคซีนต้องใช้เวลา ในการสังเกตอาการ 30 นาที จึงให้มาฉีดพร้อมกันไม่ได้ ต้องวางระบบนัดในการฉีดเพื่อให้มีความสะดวก ไม่รอนาน และไม่สับสน

ขณะที่ นพ.โอภาส อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่าสำหรับการฉีดวัคซีนวันแรก สรุปยอดเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 28 ก.พ. สถาบันบำราศนราดูร ฉีดแล้ว 95 โดส 95 คน ร.พ.สมุทรสาคร ฉีดแล้ว 159 โดส 159 คน รวม 254 ราย 254 โดส ไม่มีรายใดพบผล ข้างเคียงรุนแรงหลังรับวัคซีน ทุกคนสบายดี

นพ.โอภาสกล่าวว่าส่วนวัคซีน 200,000 โดสแรก กระจาย 13 จังหวัด เมื่อวันที่ 27 ก.พ. กระจายไป 30,760 โดส ได้แก่ จ.นนทบุรี 6,000 โดส จ.สมุทรสาคร 20,040 โดส และจ.ชลบุรี 4,720 โดส จะเริ่มทดสอบระบบฉีดวันที่ 1 มี.ค. สำหรับวันที่ 28 ก.พ. กระจายวัคซีนไป จ.สมุทรสาคร 15,040 โดส เพราะเป็นจุดติดเชื้อมากที่สุด จ.ปทุมธานี 8,000 โดส จะเริ่มทดสอบระบบวันที่ 1 มี.ค. จ.สมุทรปราการ 6,000 โดส กทม. 33,600 โดส อ.แม่สอด จ.ตาก 5,000 โดส จ.นครปฐม 3,560 โดส จ.สมุทรสงคราม 2,000 โดส จ.ราชบุรี 2,520 โดส และจ.เชียงใหม่ 3,520 โดส จะเริ่มทดสอบวันที่ 1 มี.ค. เช่นกัน รวมวันที่ 27-28 ก.พ. กระจายสะสม 110,000 โดส

ก่อนหน้านี้ ที่ตลาดกลางกุ้ง ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายธีรพัฒน์ รองผวจ.สมุทรสาคร เป็นประธานพิธีทำบุญถวายภัตตาหารพระสงฆ์ 9 รูป เพื่อความเป็นสิริมงคล และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ผู้ประกอบการค้าขายในตลาดกลางกุ้ง โดยจะเปิดค้าขายอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 มี.ค.นี้

ที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและควบคุมโรค จ.ปทุมธานี ตั้งอยู่ที่ลานอเนกประสงค์ข้างห้างเทสโก้โลตัส สาขารังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ. ปทุมธานี พร้อมด้วย นพ.รังสรรค์ บุตรชา ผอ.ร.พ.ประชาธิปัตย์ เจ้าหน้าที่อบจ.ปทุมธานี และบุคลากรทางการแพทย์ ร่วมประชุมความคืบหน้าตรวจเชื้อโควิด จ.ปทุมธานี

นพ.รังสรรค์กล่าวว่าใกล้จะควบคุมได้ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ยังผู้ประกอบการบางรายปกปิดข้อมูลกับทีมแพทย์ เช่น ผู้ประกอบการแห่งหนึ่งมีโรงงานอยู่นอกโซนกักกัน ไม่ให้ความร่วมมือนำคนงานเข้ามาตรวจ เมื่อส่ง เจ้าหน้าที่เข้าไปสแกนพื้นที่และตรวจเชิงลึกแรงงานต่างชาติ 60 คน พบติดเชื้อ 26 คน ดังนั้นจึงเสนอ ผวจ.ปทุมธานี สั่งปิดกิจการไปก่อน คาดประมาณ 1 เดือนจะควบคุมได้ จึงขอผู้ประกอบการทั้งหลายให้ความร่วมมือเปิดเผยข้อมูลที่แท้จริง ไม่ปกปิด

ขณะเดียวกัน ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด 19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์ประจำวัน ว่า ประเทศไทยติดเชื้อรายใหม่ 70 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 62 ราย และมาจากต่างประเทศ 8 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม รักษาหาย 106 ราย ผู้ป่วยสะสม 25,951 ราย รักษาหาย 25,128 ราย เหลือรักษาอยู่ 740 ราย เสียชีวิตสะสม 83 ราย โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่จำแนกเป็นสมุทรสาคร 49 ราย สะสม 16,198 ราย และ 2.จังหวัดอื่นๆ 13 ราย ส่วน กทม.ไม่พบรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ และภาพรวมวันแรกของสัปดาห์นี้ติดเชื้อใน 4 จังหวัด จากสัปดาห์ก่อนติดเชื้อ 16 จังหวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการฉีดวัคซีนในกทม. จะเริ่มวันที่ 1 มี.ค. ที่ร.พ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน โดยผู้ที่จะเข้ารับวัคซีน นำโดยนางวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกทม. นายสุขสันต์ กิตติศุภกร ผอ.สำนักการแพทย์ นายศุภรัช สุวัฒนพิมพ์ ผอ.ร.พ.ผู้สูงอายุบางขุนเทียน นอกจากนี้ จะฉีดที่ร.พ.หลวงพ่อทวีศักดิ์ ชุตินธโร อุทิศ และร.พ.ราชพิพัฒน์ เป็นกลุ่มบุคลากรทางแพทย์ โดยกทม.จะได้รับวัคซีนล็อตแรก 66,000 โดส

เข็มแรก – พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เป็นสักขีพยาน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข เข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด รายแรกของไทย พร้อมรัฐมนตรีอีก 3 คน ที่บำราศนราดูร เมื่อวันที่ 28 ก.พ.