บุกล็อกจากป่าใจแผ่นดิน
สลด-ส่งเข้าเรือนจำทันที
ไร้ทนาย-ไม่ได้ยื่นประกัน
สอบเงียบ-ญาติก็ไม่ให้เจอ

22 ชาวกะเหรี่ยงบางกลอยถูกส่งเข้าเรือนจำแบบเร่งด่วนหลังจนท.อุทยานแก่งกระจานบุกล็อกลูกปู่ คออี้และชาวบ้านลงมาจากใจแผ่นดินแล้วให้ตร.ดำเนินคดีทันที ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุจนท.ข้ามขั้นตอนทางกฎหมาย ไม่ให้ญาติ หรือทนายร่วมฟังสอบสวน รวบรัดนำตัวไปขอ ศาลฝากขังช่วงค่ำ ทำให้ยื่นขอประกันตัวไม่ทัน ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ เสียเปรียบต่อสู้คดี ทำให้กะเหรี่ยงหวาดระแวงจนท.รัฐมากกว่าเดิม รองอธิบดีอุทยานฯแถลง อ้างพบพื้นที่ ถูกบุกรุกเพิ่ม ประชากรกะเหรี่ยงมีมากขึ้น หวั่นกระทบต้นน้ำเพชร จึงต้องจับกุมตัว ผู้ต้องหาตามหมายศาล

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 5 มี.ค. มูลนิธิพัฒนาภาคเหนือรายงานว่า ชาวบ้านบางกลอยล่าง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี และเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี 50 คน เดินทางมาปักหลักอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน หลังทราบข่าวการสนธิกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวชาวบ้านกว่า 10 คนที่บางกลอยบน-ใจแผ่นดิน หนึ่งในนั้นคือ นายหน่อแอะ มีมิ วัย 59 ปี บุตรชายของปู่คออี้ นายโคอิ มีมิ ขณะที่บริเวณร้านค้าสวัสดิการมีกลุ่มชาว อ.แก่งกระจานที่อาศัยทำกินอยู่ใกล้บ้านโป่งลึกบางกลอยออกมาชูป้ายคัดค้านการกลับไปป่าของชาวกะเหรี่ยง จึงเกิดปะทะกันครู่หนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานฯ และทหารจากค่าย ทับพระยาเสือพยายามไกล่เกลี่ยเพื่อความสงบ

ตัวแทนชาวบ้านรายหนึ่งเปิดเผยว่า ได้ยินว่า เขานำพี่น้องจากข้างบนลงมา เราก็อยากมาเห็น ว่าเขาจะทำยังไงกับชาวบ้าน พี่น้องลงมาแล้ว 10 กว่าคน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้เข้าไปข้างใน ติดป้ายไว้ว่าห้ามเข้า ฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมาย ส่วนข้อกังวลของชาวบ้านมี 2 ส่วน ได้แก่

1.กังวลว่าจะมีการดำเนินคดีตามพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2562 ซึ่งมีโทษหนักคือจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี ปรับ 4 แสน-2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และ 2.กังวลว่านายหน่อแอะ มีมิ จะฆ่าตัวตาย

“กังวลเรื่องพะตี่หน่อแอะด้วย เพราะเขาบอกว่าจะฆ่าตัวตายเลย ก็มีความกังวลมาก ไม่รู้พะตี่จะโดนคดีหรือเปล่า คือเขาเหมือนออกหมายจับหรือหมายเรียกไม่รู้ กลัวว่า พะตี่หน่อแอะจะเป็นผู้ต้องหา แล้วแกจะฆ่าตัวตาย” ตัวแทนชาวบ้านกล่าว

ตัวแทนชาวบ้านระบุต่อว่า ต้องยืนยันแนวทางตามบันทึกข้อตกลงเมื่อวันที่ 16 ก.พ. ที่ทำเนียบรัฐบาล และให้คณะทำงานแก้ไขปัญหาของชุมชนกะเหรี่ยงบางกลอย จ.เพชรบุรี ลงมาเป็นตัวกลางแก้ไขปัญหา

ต่อมา นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. กล่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำตัวชาวบางกลอย 10 คนลงมาจากใจแผ่นดินว่า เบื้องต้นได้รับรายงานแล้ว ทราบว่าทางจ.เพชรบุรีร่วมกับฝ่ายปกครอง โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนดำเนินการตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่เคยได้อ่านคำพิพากษาว่า ไม่ให้ขึ้นไปอยู่อาศัยทำกินบริเวณใจแผ่นดิน เจ้าหน้าที่จึงต้องปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งชาวบ้านก็ลงมาแต่โดยดี ไม่ได้เกิดความรุนแรงใดๆ โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักมนุษยธรรม ดูแลทุกคนอย่างเท่าเทียม

ด้านนายวราวุธ รมว.ทส. กล่าวว่า ทราบว่า ชาวบ้านลงมาเป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ยังไม่ได้รับ รายงานว่าลงมาจำนวนกี่คน แต่ชาวบ้านให้ความ ร่วมมือดี จนไม่น่าจะเหลืออยู่บนใจแผ่นดิน ทั้งนี้ตนได้กำชับให้ดูแลชาวบ้านให้ดี ได้มีการ ประสานทางผวจ.เพชรบุรี เจ้าหน้าที่สาธารณสุข หน่วยแพทย์ เพื่อตรวจเช็กร่างกายและเชื้อ โควิด-19 เพราะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากอยู่ใกล้ประเทศเพื่อนบ้านพอสมควร การข้ามแดนไปมาอาจมีโอกาสการติดเชื้อสูง ยืนยันว่าเราดูแลความเรียบร้อยให้กับพี่น้องประชาชน ไม่ได้มีการบังคับ หรือใช้ กำลังตามที่เป็นข่าว หรือตามที่หลายฝ่ายเป็นห่วง

“การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามคำสั่งศาล ซึ่งเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เราคงไม่ก้าวล่วง ยืนยันตั้งแต่วันแรกว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย แต่ได้เน้นย้ำว่าห้ามมีความรุนแรงเด็ดขาด เพราะก่อนหน้านั้นมีเหตุการณ์ที่พวกเราไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นจะไม่มีประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเด็ดขาด เนื่องจากมีหลายฝ่ายออกมาชี้แจงหรือแสดงความเป็นห่วง ซึ่งตนขอย้ำว่าไม่มีการใช้ความรุนแรงทั้งสิ้น อีกทั้งเจ้าหน้าที่เรามีกล้องติดตัวกันตลอดมีหลักฐานยืนยันได้” นายวราวุธกล่าว

เวลา 18.30 น. นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทส. แถลงว่า ภายหลังการรับนโยบาย จากนายวราวุธ รมว.ทส. ให้เร่งรัดการแก้ไขปัญหาพื้นที่บ้านโป่งลึก-บางกลอย และการใช้ประโยชน์ที่ดินใจแผ่นดินบางกลอยบน ถือเป็นพื้นที่ต้นน้ำเมืองเพชรมีความสำคัญ กับคนเพชรบุรีและคนทั้งประเทศ ซึ่งเราไม่ได้ทอดทิ้งใคร และจะเร่งรัดแก้ไขปัญหาให้พี่น้อง ประชาชน

นายประกิตกล่าวต่อว่า หากไม่ปฏิบัติการในวันนี้ก็คาดว่าจะมีการบุกรุกเพิ่มขึ้น เพราะจากเดิมในเดือนก.พ. มีประชากร 39 ราย ในวันนี้มีประชากร 85 ราย โดยมีผู้ที่อยู่ในหมายศาล 22 ราย และไม่ได้อยู่ในหมายศาล 65 ราย ในจำนวนนี้ต้องมาดูรายละเอียดว่า ขัดคำสั่งเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 20 ตาม พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 หรือไม่ ทั้งนี้ มีการเปรียบเทียบไปทั้งสิ้น 27 ราย ส่วนเด็ก 36 คน เราไม่ได้ดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ โรจน์บวรวิทยา ผกก.สภ.แก่งกระจาน กล่าวเสริมว่า มีพนักงานสอบสวน 19 นายที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ ภายหลังได้จับกุมผู้ต้องหาตามหมายศาลรวม 22 คน โดย 20 คนแรกจับกุมตัวขณะอยู่บนที่เกิดเหตุที่บุกรุกพื้นที่บางกลอยบน อีก 1 คนจับกุมจากชุดมวลชนที่หน้าอุทยานฯ และอีก 1 คนจับกุมโดยเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ซึ่งผู้ต้องหากำลังล่องแพมาจากแม่น้ำด้านบนมายังด้านล่าง เมื่อสอบสวนเสร็จทั้งหมด 22 คนแล้ว และระหว่างการสอบสวนมีทนาย ล่ามแปลภาษา เนื่องจากผู้ต้องหาเป็นกะเหรี่ยง ไม่เข้าใจ ภาษาไทย 100 เปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้ยื่นคำร้อง ขอฝากขังศาลเพชรบุรี ซึ่งทางศาลอนุญาตให้ฝากขังทั้ง 22 คน จึงนำตัวไปยังเรือนจำกลางเพชรบุรี ซึ่งเป็นเรือนจำกลางแห่งใหม่เขากลิ้ง เรียบร้อยแล้ว

ด้านทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นผู้ดูแลคดีของชาวกะเหรี่ยงบางกลอย ออกมาตั้งข้อสังเกตว่า การจับกุมตัวกะเหรี่ยง 22 คน นำตัวไปสอบสวนที่โรงพัก โดยไม่เปิดโอกาสให้ญาติหรือทนายเข้าพบ ทำให้ไม่ทราบว่ามีการทำเรื่องขอฝากขังเมื่อไหร่ กระทั่งช่วงค่ำมีการนำตัวไปขอฝากขังศาล ทำให้ยื่นขอประกันตัวไม่ทัน ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ และเป็นการทำให้ชาวกะเหรี่ยงเสียเปรียบในการต่อสู้คดี ส่งผลเสียในการเจรจาคดี ที่สำคัญทำให้กะเหรี่ยงหวาดระแวงในตัวเจ้าหน้าที่รัฐ

เวลา 19.30 น. น.ส.วราภรณ์ อุทัยรังษี ทนายความจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า สรุปแล้วมีชาวบ้านกะเหรี่ยงบางกลอย โดนควบคุมตัว 22 ราย โดยมี นายหน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้รวมอยู่ด้วย ทั้งนี้ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำชั่วคราวเขากลิ้ง โดยตีหลักทรัพย์ประกันคนละ 60,000 บาท ซึ่งขณะนี้ทีมทนายเตรียมประสาน ส.ส. และ นักวิชาการใช้ตำแหน่งยื่นประกันตัวชาวบ้านในเช้าวันที่ 6 มี.ค.

“อยากตั้งข้อสังเกตต่อคณะทำงานและทีมพนักงานสอบสวนในเรื่องนี้ที่พยายามกีดกันทีมทนายจากสมาคมนักกฎหมายสิทธิมนุษยชน ทั้งที่มีหนังสือจากชาวบ้านให้เข้ามาช่วย ในเรื่องนี้ โดยอ้างว่าได้จัดหาทนายความจากสภาทนายความเพชรบุรีให้ชาวบ้านแล้ว ทำให้ทีมทนายที่ชาวบ้านร้องขอไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งโดนกีดกัน ไม่ให้ทราบว่าชาวบ้านถูกแจ้งข้อหาอะไร” น.ส.วราภรณ์กล่าว

ใจแผ่นดิน – ชาวกะเหรี่ยงร้องขอทนายช่วยเหลือนายหน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้และชาวบ้าน 22 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่นำลงมาจากใจแผ่นดิน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี แล้วถูกดำเนินคดีต่อด้วยส่งศาลฝากขังเข้าเรือนจำทันที เมื่อวันที่ 5 มี.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน