ฝุ่นเชียงใหม่ยังฟุ้ง มอง ไม่เห็นดอยสุเทพ ค่าฝุ่นยังเกินมาตรฐานกระทบต่อสุขภาพ นักวิเคราะห์อากาศชี้ถึง 14 มี.ค.จะเริ่มดีขึ้น มลพิษแม่ฮ่องสอนดีขึ้น อันดับอันตรายลดมาเหลือที่ 3 เป็นรองเชียงใหม่และเชียงราย

เมื่อวันที่ 12 มี.ค. กรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ พบว่าค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง เมื่อเวลา 09.00 น. ที่สถานี ต.ช้างเผือก อยู่ที่ 114 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก.-ลบ.ม.), สถานี ต.ศรีภูมิ 112 มคก.-ลบ.ม. และสถานี ต.สุเทพ อยู่ที่ 85 มคก.-ลบ.ม. จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 มคก.-ลบ.ม. ส่วนค่าดัชนีคุณภาพอากาศจากสถานี ต.ช้างเผือก, ต.ศรีภูมิ และ ต.สุเทพ อยู่ที่ 224, 222 และ 187 ตามลำดับ จากค่ามาตรฐานไม่เกิน 100 ซึ่งอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ พร้อมทั้งมีการแจ้งเตือนประชาชนให้งดออกทำกิจกรรมนอกอาคารและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละออง

ขณะที่เว็บไซต์ https://www.iqair.com ที่รายงานคุณภาพอากาศจากเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วโลก รายงานผลการตรวจคุณภาพอากาศเมื่อเวลา 12.00 น. พบว่าจ.เชียงใหม่มีค่ามลพิษอากาศสูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก โดยมีค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 213 US AQI และค่า PM 2.5 อยู่ที่ 162.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนอันดับ 2 เมืองเสินหยาง ประเทศจีน ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 191 US AQI และอันดับ 3 เมืองดากา ประเทศบังกลาเทศ ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ 182 US AQI

รายงานข่าวแจ้งว่า ในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ยังคงมีไฟไหม้ป่าเกิดขึ้นหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังกันเข้าดับไฟอย่างต่อเนื่องทั้งภาคพื้นที่ดินและทางอากาศ โดยไฟไหม้ป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง ซึ่งอยู่ในพื้นที่รอยต่ออุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ตั้งแต่เย็นวันที่ 11 มี.ค. ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว ขณะที่พื้นที่ อ.ดอยสะเก็ด เกิดไฟป่าโหมไหม้พื้นที่ 2 จุด จุดแรกบริเวณทิศตะวันตกดอยสันป่ากุ๊ก พื้นที่ป่าของอุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ บ้านป่าสักงาม หมู่ 1 ต.ลวงเหนือ และบริเวณดอยผักหวาน บ้านแม่ดอกแดง ต.เชิงดอย เจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าห้วยฮ่องไคร้-ขุนแม่กวง นำกำลังเจ้าหน้าที่กระจายกำลังเดินเท้าสกัดกั้นไฟป่าในวงจำกัด เบื้องต้นพบพื้นที่ป่าเสียหายไม่น้อยกว่า 50 ไร่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพตัวเมืองเชียงใหม่วันนี้ถูกปกคลุมหนาทึบด้วยฝุ่นควันทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นต่ำจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลได้เหมือนปกติ และมองด้วยตาเปล่าเห็นแต่เพียงควันสีขาวลอยทั่วไปในอากาศ พร้อมทั้งกลิ่นเหม็นไหม้

ที่ศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ปัญหาไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็กพีเอ็ม 2.5 จ.เชียงใหม่ ผศ.ดร.ชาคริต โชตอมรศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาหมอกควันภาคเหนือ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวถึงผลการวิเคราะห์คุณภาพอากาศและดัชนีทางอุตุนิยมวิทยาที่มีผลต่อคุณภาพอากาศจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงนี้ว่า ในเวลากลางคืน คืนนี้ และคืนถัดๆ ไปยังแย่ สำหรับวันที่ 14-15 มี.ค. 63 การระบายอากาศจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

“ดัชนีการระบายอากาศที่จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่ผ่านมาคาดว่าจะช่วยระบายฝุ่นควันพีเอ็ม 2.5 ให้มีระดับความเข้มข้นที่ลดลง อย่างไรก็ตาม ต้องมีการติดตามข้อมูลใหม่ที่อาจเข้ามาได้ อาทิ แหล่งกำเนิดฝุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นสร้างฝุ่นเพิ่มมาสะสมในพื้นที่เชียงใหม่ได้ สรุปสถานการณ์ฝุ่นควันในเชียงใหม่ช่วง 14-15 มี.ค.จะมีสภาพที่ดีขึ้น” ผศ.ดร.ชาคริตกล่าว

ผศ.ดร.ชาคริตกล่าวอีกว่า สำหรับทิศทางกระแสลมในช่วงนี้จะแปรปรวนไปตามช่วงเวลา โดยตั้งแต่ช่วงบ่ายจนถึงก่อนเที่ยงคืนทิศทางลมในช่วงที่ผ่านมาและในสองวันนี้จะเป็นลมในลักษณะที่พัดจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก และมีบางช่วงเวลาที่ไหลเคลื่อนที่เข้ามาในพื้นที่แอ่งเชียงใหม่ หากพิจารณาข้อมูลดาวเทียมถึงแหล่งกำเนิดจะพบว่าสัมพันธ์กัน โดยในช่วงสองวันที่ผ่านมาแหล่งกำเนิดลดน้อยลง ค่าคุณภาพอากาศก็ดีขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน ส่วนฝนในช่วงนี้ยังไม่พบตัวบ่งชี้ว่าจะเกิดฝนได้ แท่งฝนที่พบวันก่อนในโปรแกรมพยากรณ์ซึ่งพอติดตามมาอย่างต่อเนื่องก็พบว่าแท่งฝนได้หายไปแล้ว รวมถึงหากพิจารณาเรื่องของความชื้นประกอบคาดการณ์ได้ว่าการเกิดฝนในช่วงนี้ยังมีข้อจำกัดอยู่

นายอมรรักษ์ ชุมสาย ณ อยุธยา ผู้อำนวยการท่าอากาศยานเชียงใหม่ กล่าวถึงคุณภาพอากาศและทัศนวิสัยการมองเห็นที่ลดลงว่า สถานการณ์ดังกล่าวยังไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อการบิน โดยหอบังคับการบินแจ้งทัศนวิสัยการมองเห็นในเขตการบินอยู่ที่ระยะประมาณ 3,000-5,000 เมตร ซึ่งถือว่ายังไม่เข้าสู่สภาวะทัศนวิสัยต่ำที่จะมีผลต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน ทั้งนี้ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ได้ติดตั้งเครื่องพ่นละอองฝอยตลอดแนวหน้าอาคาร ผู้โดยสาร พร้อมทั้งนำรถดับเพลิงออกฉีดพ่นละอองน้ำภายในเขตการบิน และบริเวณหน้าอาคารผู้โดยสารวันละ 2 ครั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศ นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวด้วยการปลูกไม้ดอกไม้ประดับทั้งภายในอาคารผู้โดยสารและบริเวณโดยรอบเพื่อช่วยฟอกอากาศและกรองฝุ่นละออง

ที่ จ.แม่ฮ่องสอน นายกรัณย์พล แสงทอง ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อมด้วยชาวบ้านในเขตพื้นที่รอบๆ บริเวณทางขึ้นวัดพระธาตุดอยกองมู อ.เมือง โดยนำเครื่องเป่าลม พร้อมด้วยไม้กวาด ช่วยกันเกลี่ยเก็บใบไม้ ทำแนวกันไฟเพื่อป้องกันไฟป่าลุกลามเข้าพื้นที่วัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งในแต่ละปีจะประสบกับปัญหาไฟป่าลุกลามจนมองเห็นได้ทั่วทั้งเมือง

สำหรับสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่จ.แม่ฮ่องสอน ค่าฝุ่นละอองยังเกินค่ามาตรฐานที่กำหนดมาแล้วถึง 21 วัน เนื่องจากยังคงมีไฟป่าเกิดขึ้นหลายพื้นที่ ในช่วงเช้าของวันนี้ค่าฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 211 มคก./ลบ.ม. แต่วันนี้ค่าฝุ่นละอองในจ.แม่ฮ่องสอนลดลงมาเป็นอันดับที่ 3 ใน 17 จังหวัดภาคเหนือ รองจากจ.เชียงรายและเชียงใหม่

ที่จ.เชียงราย ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศยังคงอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยกรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย ตั้งอยู่ติดชายแดนไทย-เมียนมา พบค่าฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 สูงถึง 158 มคก./ลบ.ม. ซึ่งอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ ขณะที่ในเขต อ.เมืองเชียงราย วัดคุณภาพอากาศได้ในระดับ 72 มคก./ลบ.ม. ซึ่งสภาพอากาศดังกล่าวเกิดขึ้นติดต่อกันมานานมากกว่า 1-2 สัปดาห์แล้ว

ดับไฟป่า – จนท.ใช้เฮลิคอปเตอร์ขนน้ำไปดับไฟป่าในพื้นที่บ้านปางยาง ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ขณะที่ทั่วทั้งจังหวัดเกิดไฟป่ากระจายลุกลาม ส่งผลให้ค่ามลพิษพุ่งสูงที่สุดของโลก เมื่อวันที่ 12 มี.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน