เคลื่อนไป
ทำเนียบฯ
ตร.ระดม
กำลัง‘คฝ.’
ประกบติด
‘เดินทะลุฟ้า วี.2’ นัดชุมนุมอนุสาวรีย์ ปชต.บ่ายวันนี้ รวมพลเดินไปค้างแรมที่ทำเนียบ ด้านบช.น.เตรียมกองร้อยควบคุมฝูงชนประกบใกล้ชิด พร้อมเฝ้าระวังเขตหวงห้ามต่างๆ ฝ่ายสืบสวนเร่งตามตัวเพื่อนสาวแอมมี่หลังศาลออกหมายจับ เชื่อยังพักอยู่ในกรุง ‘ไผ่-รุ้ง-เพนกวิน-โตโต้’ วืดประกันอีก ศาลระบุยังไม่มีเหตุผลให้เปลี่ยนแปลงคำสั่ง หลังอาจารย์ธรรมศาสตร์-มหิดลพร้อมทนายความร่วมกันขอยื่นปล่อยตัวชั่วคราวระหว่างดำเนินคดี ด้าน ‘ทนายด่าง’ ห่วงเพนกวินถูกย้ายไปคุมขังแดน 5 ร่วมกับนักโทษเด็ดขาด เผยนักศึกษามธ.โดนอีกอื้อข้อหามาตรา 112 บางคนโดนอีกโรงพักตามมาแจ้งเพิ่มในข้อหาเดียวกัน
บช.น.เร่งตามจับเพื่อนสาวแอมมี่
เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีเผาป้ายและเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำคลองเปรมว่ามีความคืบหน้าไปมาก พนักงานสอบสวนสน.ประชาชื่น ได้นำพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดไปขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ เยาวชนอายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสาวของนาย ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือแอมมี่ ที่ถ่ายคลิปเหตุการณ์ด้วยกล้องโทรศัพท์มือถือจากบริเวณทางเท้าริมถนนงามวงศ์วานหน้าเรือนจำคลองเปรมช่วงที่แอมมี่กำลังก่อเหตุ ทําลายทรัพย์สินราชการ ในข้อหา ร่วมกันวางเพลิงทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
“หลังจากมีการออกหมายจับไปแล้ว ชุดสืบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาลอยู่ระหว่างการเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งจากข้อมูลของชุดสืบสวนพบว่ามีพฤติการณ์หลบหนีหลายครั้ง แต่เชื่อว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากการตรวจสอบล่าสุดกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองบริเวณด่านตรวจต่างๆ ยังไม่มีบุคคลดังกล่าวออกนอกประเทศ แต่หากมีการเดินทางออกตามชายแดนธรรมชาติก็ต้องดำเนินคดีเพิ่มเติมในข้อหาหลบหนีออกนอกเมือง” รองผบช.น. กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า นอกจากนี้ยังได้ออกหมายเรียกชายอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้ที่ร่วมกับแอมมี่ในการทำลายทรัพย์สินของทางราชการ โดยผู้ต้องหารายดังกล่าวได้เดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงสอบสวนในหลายประเด็นเพิ่มเติม และได้แจ้งข้อหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาทั้งสองคนก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว
อ้างมีกลุ่มเตรียมใช้ความรุนแรง
รายงานข่าวแจ้งว่าผู้ต้องหาอีก 1 รายที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหารายสุดท้าย เดินทางไปในรถคันเดียวกับแอมมี่ เพื่อนสาว และคนขับรถ และเมื่อถึงจุดเกิดเหตุบริเวณหน้าเรือนจำคลองเปรม ได้ร่วมกับแอมมี่ทำลายทรัพย์สินของทางราชการบริเวณป้ายของเรือนจำ ก่อนที่จะหลบหนีไป สำหรับคนขับรถคันดังกล่าวเบื้องต้นตำรวจได้กันไว้เป็นพยานในคดี
พล.ต.ต.ปิยะยังเปิดเผยถึงการจัดกำลังรับมือม็อบเดินทะลุฟ้าในวันที่ 13 มี.ค.ว่า เบื้องต้นได้มีการจัดเตรียมกำลังกองร้อยควบคุมฝูงชนไว้ดูแลการชุมนุมตั้งแต่จุดที่เริ่มมีการรวมตัวไปจนถึงบริเวณทำเนียบรัฐบาลแล้ว และพร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงมีการนำอุปกรณ์พิเศษที่ใช้ในการควบคุมฝูงชนในระดับสากลมาใช้ หากพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีการใช้ความรุนแรงหรือละเมิดต่อกฎหมายก็จะเข้าไปดำเนินการควบคุมตัวทันที โดยซึ่งตำรวจมีพื้นที่ที่ต้องดูแลเฝ้าระวังเป็นพิเศษทั้งเขตพระราชฐานและบริเวณทำเนียบรัฐบาล
“ส่วนที่เจ้าหน้าที่จะมีการปิดกั้นพื้นที่บริเวณทำเนียบรัฐบาลหรือสถานที่อื่นๆ ด้วยตู้คอนเทนเนอร์ หรือสิ่งป้องกันอื่นๆ เหมือนกับการชุมนุมครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ จะประเมินจากการข่าวและสถานการณ์การชุมนุมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม จากการข่าวพบว่ากลุ่มผู้ชุมนุมในวันที่ 13 มี.ค. มีกลุ่มผู้ใช้ความรุนแรงที่เกิดเหตุในการชุมนุมหลายครั้งที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มแดงก้าวหน้า 63, กลุ่มอาชีวะ, และกลุ่มการ์ดวีโว่ ซึ่งอาจใช้อาวุธหรือวัตถุก่อกวน ซึ่งชุดสืบสวนได้จับตากลุ่มดังกล่าวเป็นพิเศษ หากพบว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็จะดำเนินการบันทึกภาพและพยานหลักฐานต่างๆ หรือหากสถานการณ์ในขณะนั้นชุดควบคุมฝูงชนหรือชุดจับกุมสามารถดำเนินการได้ก็จะเข้าไปควบคุมตัวและระงับเหตุทันที เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเดือดร้อนหรืออันตราย” รองผบช.น. กล่าว
บิ๊กตู่ไม่สนม็อบเดินทะลุฟ้า วี.2
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีวันที่ 13 มี.ค. ผู้ชุมนุมจัดกิจกรรมเดินทะลุฟ้าครั้งที่ 2 เดินจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยไปยังทำเนียบรัฐบาลว่าจะทะลุอะไรก็ไปเถอะ แต่อย่าทำผิดกฎหมาย อย่าทำทุกอย่างให้แย่ไปกว่าเดิมเท่านั้นเอง ต้องเห็นใจประชาชนส่วนใหญ่ วันนี้นอกจากกฎหมายแล้ว มาตรการทางสังคมจะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย และยังมีคนที่เดือดร้อนอีกเยอะแยะ ฉะนั้นท่านต้องให้ความสำคัญกับสังคมด้วย จะต้องไม่ไปละเมิดสิทธิ์ผู้อื่นเขา ทั้งการใช้รถ ใช้ถนน และการจราจรต่างๆ ประชาธิปไตยต้องมีกฎหมาย และกฎหมายไม่ได้มีไว้เล่นงานใคร เว้นแต่ว่าใครต้องการที่จะละเมิดกฎหมายก็เห็นๆ อยู่ ก็ไปว่ากันมา เราก็ต้องคุ้มครองเขาในกรอบที่มีอยู่ตามกฎหมายเหมือนกับคดีอื่นๆ ทุกคดี
น.ศ.ธรรมศาสตร์โดน 112 อื้อ
วันเดียวกัน นายณัฐชนน ไพโรจน์ หนึ่งในแกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นายพรหมศร วีระธรรมจารี นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ ได้เดินทางมาที่ สภ.คลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อเข้ารับทราบข้อหาตามหมายเรียกของพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชนจำนวน 2 กองร้อยและ เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบตั้งจุดตรวจและคอยดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบพื้นที่พร้อมมีการค้นกระเป๋าสัมภาระของผู้ที่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน
นายณัฐชนน เปิดเผยว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง หลังจากถูกดำเนินคดีในมาตรา 112 ซึ่งตนไม่มีความกังวลในเรื่องใด เราจะต้องมาดูว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ถูกที่ควรหรือไม่ เพราะตอนนี้คดีทางการเมือง หลายคดีถูกแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหลายคดี รวมทั้งคดีที่ รุ้ง ไผ่ ไมค์ โดนจับเข้าเรือนจำไปก่อนหน้านี้ มีการเรียกผู้ต้องหาทุกคนเข้ามาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมคือ มาตรา 112, 116 หลายคนเพิ่งเห็นในสำนวนว่าสำนวนมีความผิดไม่ชัดเจน
นายณัฐชนนเปิดเผยว่าวันนี้จะมีผู้ที่ถูกหมายเรียกเกือบ 10 คนซึ่งจะทยอยเดินทางมาพบพนักงานสอบสวน ประกอบด้วย 1.น.ส.เบนจา อะปัญ 2.นายชลธิศ โชติสวัสดิ์ 3.นายพรหมศร วีระธรรมจารี 4.นายณัฐชนน ไพโรจน์ 5.นายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ซึ่งถูกหมายในครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ “นิว สิริชัย” นักศึกษาธรรมศาสตร์ ถูกจับกุมแล้วถูกดำเนินคดีในความผิด ม.112 และมีการนำตัวมาที่ สภ.คลองหลวง รวมถึงวันที่ เดฟ ชยพล เดินทางรับทราบข้อกล่าวหาคดี 112 ที่ สภ.คลองหลวง ในตอนเช้า
ตร.อีกโรงพักตามมาแจ้งข้อหา
ต่อมานายพรหมศรได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง จนพนักงานสอบสวนทำการสอบสวนจนแล้วเสร็จ จึงออกมาให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากตนเองมารับทราบข้อกล่าวหา ม.112 ของ สภ.คลองหลวง แล้วยังถูกพนักงานสอบสวน สภ.ธัญบุรี เดินทางมาแจ้งข้อกล่าวหา ม.112 เพิ่มเติม เนื่องจากวันที่มีการเดินทางไปรับตัว นิว-หรือ นายสิริชัย นาถึง ที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี โดยตำรวจ สภ.ธัญบุรีได้เดินทางมาแจ้งข้อหาเลย และในวันนี้ตนเองพร้อมกลุ่มเพื่อนได้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ปล่อยตัวชั่วคราวทั้งหมด ในส่วนของตนเองพนักงานสอบสวนจะนัดหมายมาเข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้งในวันที่ 17 มี.ค. สภ.ธัญบุรี
นอกจากนี้ยังมี 1 คนคือนายณวรรษ เลี้ยงวัฒนา ที่ยังไม่เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน แต่ได้ติดต่อขอเลื่อนนัดไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ทนายยื่นประกัน‘โตโต้’อีก
วันเดียวกัน นายนรเศรษฐ์ นาหนองตูม ทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ทนายความของนายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ อายุ 31 ปี แกนนำกลุ่ม Wevo ที่ถูกยื่นฝากขังเมื่อวันที่ 8 มี.ค. อันเนื่องจากกรณีถูกจับกุมเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ลานจอดรถเมเจอร์ รัชโยธิน เเละต่อเนื่องเหตุการณ์ปะทะกันที่รถควบคุมผู้ต้องหาที่ สน.พหลโยธิน
นายนรเศรษฐกล่าวว่า วันนี้เดินทางมายื่นประกันตัวนายปิยรัฐอีกรอบ ด้วยเงินสด 100,000 บาท พร้อมยื่นคำร้องประกอบอธิบายเหตุผลในการขอประกันตัวโดยละเอียดให้เห็นว่าโตโต้ไม่ได้กระทำความผิดตามกฎหมายและไม่มีพฤติการณ์ร้ายแรงตามที่ตำรวจกล่าวหา
อจ.ยื่นประกันไผ่-รุ้ง-เพนกวิน
ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมกลุ่มอาจารย์จากคณะรัฐศาสตร์, คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ และอาจารย์จาก ม.มหิดล เดินทางมาศาลเพื่อยื่นประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ไม่ได้รับการประกันตัวคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร ซึ่งเพนกวินและรุ้งมีสถานะเป็นนักศึกษา ป.ตรี ม.ธรรมศาสตร์ ส่วนไผ่มีสถานะเป็นนักศึกษา ป.โท ม.มหิดล
นายกฤษฎางค์กล่าวว่า เนื่องจากการยื่นขอประกันตัวครั้งล่าสุด ศาลเขียนเหตุผลเรื่องความจำเป็นเกี่ยวกับการเรียนยังไม่ถึงกับเป็นเหตุที่จำเป็น ทางญาติพี่น้อง พ่อแม่ เลยขอความกรุณาอาจารย์ผู้สอน ผู้บริหาร มาช่วยยื่นประกัน โดยใช้วงเงินประกันคนละ 5 แสนบาท เฉพาะ 3 คนนี้ เพราะอยู่ในช่วงการสอบ อยากให้ศาลพิจารณาอนาคตของเด็ก ไม่ว่าจะถูกดำเนินคดีอย่างไร เมื่อยังไม่ตัดสินต้องให้โอกาสเขาไปศึกษาเล่าเรียนก่อน เรื่องคดีความก็ว่ากันไป ถ้าไม่ให้ประกันก็เป็นการตัดอนาคตของเด็ก
ผู้สื่อข่าวถามถึงการวางแนวทางหากศาลไม่ให้ประกันตัว เรื่องการศึกษาจะเดินต่ออย่างไร นายกฤษฎางค์กล่าวว่า ถ้าตัวไม่ได้ออกก็คงจบ เพราะไผ่ช่วงนั้นที่ติดคุกที่ขอนแก่น เราขอให้เข้าไปสอบก็ไม่ได้รับความร่วมมือ
ห่วง‘พริษฐ์’ถูกย้ายขังแดน5
ด้าน ผศ.ดร.จันทนี เจริญศรี คณบดีคณะสังคมวิทยาฯ ม.ธรรมศาสตร์ ในฐานะอาจารย์ผู้สอนรุ้ง กล่าวว่า รุ้งเป็นนักศึกษาหลักสูตรวิจัยทางสังคมของคณะ สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สอบ ซึ่งไม่มีสอบเพราะเรียนออนไลน์ นักศึกษาจะต้องส่งงานวิชาวิจัยต้องค้นคว้า ใช้ห้องสมุดเก็บข้อมูล วิตกกังวลอยู่ที่นักศึกษาถูกคุมขัง ในกระบวนการยุติธรรมมีการประกันตัว เราก็มาทำตามกระบวนการ เป็นสิทธิผู้ต้องขัง คดียังไม่ตัดสิน เราทำตามหน้าที่ของเราที่เป็นทั้งผู้บริหารและอาจารย์ก็มาดูแลนักศึกษา รุ้งก็มีส่วนร่วมอภิปรายในชั้นเรียน
นายกฤษฎางค์ ทนายความ เปิดเผยด้วยว่า ในส่วนของเพนกวิน เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ในการไต่สวนกรณีแยกเรือนจำ เจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ก็มาด้วย ตนทราบจากทนายที่ไปเยี่ยมว่า ปัจจุบันมีการแยกเพนกวินไปอยู่แดน 5 ซึ่งเป็นแดนของนักโทษเด็ดขาด ทั้งที่กรณีเพนกวินยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ รัฐธรรมนูญระบุจะปฏิบัติเหมือนเป็นผู้กระทำผิดไม่ได้ ถ้าขังไว้กับคนที่มีคดียังไม่ได้พิสูจน์ความผิดพอจะรับได้ แม้จะไม่ถูก แต่ไม่ควรแยกแดนไปอยู่แดนนักโทษเด็ดขาด ซึ่งผิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ผิดต่อหลักกฎหมาย ไม่เข้าใจว่าราชทัณฑ์กำลังทำอะไรอยู่ ตนฝากผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ที่ส่งตัวแทนมาเมื่อวานขอคำตอบ จนเย็นก็ไม่มีคำตอบ
ศาลไม่อนุญาตให้ประกันทั้ง4คน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีกลุ่มอาจารย์และทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ยื่นประกันตัว นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง และนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร ที่ไม่ได้รับการประกันตัวหลังยื่นฟ้องคดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร กับมีการยื่นประกันตัว นายปิยรัฐ จงเทพ หรือโตโต้ แกนนำกลุ่ม Wevo คดีอั้งยี่ ที่ไม่ได้รับการประกันตัวชั้นฝากขัง ในช่วงเช้าวันนี้นั้น
ล่าสุดปรากฏผลการขอประกันตัวทั้ง 4 คน ศาลมีคำสั่งในทำนองเดียวกันว่า “คดียังไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมให้ยกคำร้อง” ดังนั้น ทั้ง 4 คนจึงถูกคุมขังในเรือนจำต่อไป
ภาคนักเรียนซัดรัฐอยุติธรรม
ที่เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุม นำโดย น.ส.วรรณวลี ธรรมสัตยา หรือตี้ พะเยา เพื่องเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก แก้ไขรัฐธรรมนูญ และยกเลิกกฎหมายอาญา มาตรา 112
เวลา 17.25 น. นายอาเล็ก โชคร่มพฤกษ์ ศิลปิน นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย กีตาร์ร้องเพลง “เราจะทำตามสัญญา” ฉบับดัดแปลง และเพลงเนื้อหาต่อต้านเผด็จการ สร้างความครึกครื้นให้ผู้ชุมนุม บางส่วนได้เคาะหม้อตามจังหวะดนตรี
เวลา 18.20 น. นายพีรพล ระเวกโสม หรือฟิวส์ ประธานภาคีนักเรียนแห่งประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งว่า รัฐบาลมีเงินจากภาษีก็ควรนำมาแก้ไขปัญหาปัจจัยพื้นฐานได้ อย่างอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยก็มีคนไร้บ้านจำนวนมาก เขาไม่มีบ้าน รัฐบาลไม่สนใจ แต่รัฐบาลเอาพื้นที่เกือบหมื่นล้านไร่ เอาไปให้บริษัทต่างชาติ ด้วยความโง่
“รัฐบาลไม่สามารถยอมรับความจริงได้ เพื่อนเราออกมาเรียกร้องสิทธิ เสรีภาพ เมื่อรับความจริงไม่ได้จึงใช้สิ่งที่ทำประจำ คือการใช้กฎหมายยัด เหมือนเพื่อนเราที่อยู่ในเรือนจำ ไม่ควรมีใครต้องติดคุกเพียงออกมาพูดความจริง ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ แล้วโดนจับ ปิดหู ปิดตา แบบนี้เขาเรียกว่าเผด็จการ ไม่ใช่ประชาธิปไตย” นายพีรพลระบุ และว่าเราออกมาแบบสันติวิธี ทำไมต้องสูญเสีย ทำไมที่ไปปิดสนามบิน สถานที่ราชการ ทำไมไม่สูญเสีย ขนาดแกนนำ กปปส.ยังเข้าไปเรือนจำ 2 วันแล้วออกมา แบบนี้ยุติธรรมหรือไม่ หรือเราต้องไปพังป้าย สตช. เป้านกหวีดลงถนนหรือไม่ เราถึงจะได้ประกันตัวบ้าง
นายพีรพลกล่าวว่า ขอบคุณที่ออกมาสู้เพื่ออนาคตของตัวเองทุกวันนี้ เรามีหลายสิ่งที่จะพูด จะบอก แต่ยังไม่ถึงเวลาจะพูด ไม่ว่าคุณอายุเท่าไหร่ ถ้าเรามาสู้ร่วมกันแล้ว เราคือเพื่อนกัน คือครอบครัวเดียวกัน ด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ขอย้ำอีกครั้ง การต่อสู้ของเราไม่มีคำว่าจำนวนคนมากหรือน้อย มีแต่จะออกมาสู้หรือไม่
ไม่ได้ประกัน – กลุ่มอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์-มหิดล และศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เดินทางไปยื่นประกันตัว เพนกวิน-พริษฐ์, รุ้ง-ปนัสยา และไผ่-ดาวดิน แกนนำกลุ่มราษฎร และโตโต้-ปิยรัฐ แกนนำกลุ่มวีโว่ กลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นนักศึกษา แต่ศาลยกคำร้อง ที่ศาลอาญา เมื่อวันที่ 12 มี.ค.
