ประกาศ-ยอมสละชีวิต
ร้องศาล-ถูกจับแยกขัง
รวมกับนักโทษเด็ดขาด
‘รุ้ง’ร่ำไห้-แห่ให้กำลังใจ
‘โตโต้-ไผ่-ไมค์’ย้ายคุก
22 แกนนำและแนวร่วมราษฎร ขึ้นศาลตรวจพยานหลักฐานคดีปักหมุดสนามหลวง ‘เพนกวิน’ ประกาศ ‘อดข้าว’ประท้วง เรียกร้องสิทธิ์ประกันตัว ลั่นทรมานตัวเอง ยินดีเสียสละชีวิต ขณะที่ ‘รุ้ง’ หลั่งน้ำตา เพื่อนๆ ตะโกนให้กำลังใจ ศาลสั่งย้าย ‘โตโต้-ไผ่-ไมค์’ จากเรือนจำพิเศษธนบุรีไปเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์แจงเหตุย้ายเพนกวินไปแดน 5 นักโทษเด็ดขาด อ้างพื้นที่ในคุกค่อนข้างจำกัด ต้องบริหารจัดการสัดส่วนให้เหมาะสม
เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่ศาลอาญา ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง, นายอานนท์ นำภา, น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จาดนอก นายจตุภัทร์ หรือไผ่ บุญภัทรรักษา และนายไชยอมร หรือแอมมี่ แก้ววิบูลย์พันธ์ ในคดีที่ถูกฟ้องร่วมกับแกนนำและแนวร่วมกลุ่มราษฎรรวม 22 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบัน ร่วมกันมั่วสุมชุมนุมฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตรา 116 เเละข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกรณีการชุมนุมปักหมุดท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 19-20 ก.ย.2563
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายพริษฐ์มาถึงศาล นายพริษฐ์ตะโกนว่า “ผมฝากบอกเขาด้วยว่าถึงเขาจะขังผมได้ แต่เขาไม่อาจขังความจริงได้ ความจริงย่อมเป็นความจริงไม่ว่าจะอยู่ที่กรงขัง เครื่องทรมาน หรือหลักประหาร ความจริงย่อมเป็นความจริง” ส่วนรุ้ง น.ส.ปนัสยา ถึงกับ หลั่งน้ำตา เมื่อเพื่อนๆ ตะโกนให้กำลังใจ
ขณะที่นายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ กล่าวว่าศาลนัดพร้อมเพื่อตรวจหลักฐานคดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้อง น.ส.ปนัสยา กับพวกรวม 18 คน และรวมสำนวนกับแกนนำที่ถูกฟ้องไปแล้วก่อนหน้านี้ 4 คน รวมจำเลยที่จะต้องมาศาลวันนี้ 22 คน สำหรับการประกันตัวนั้น จะปรึกษาครอบครัว แกนนำอีกครั้ง และต้องให้แกนนำทุกคนตัดสินใจถึงแนวทางการต่อสู้คดีต่อไป
ต่อมานายชินวัตร หรือไบรท์ จันทร์กระจ่าง แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี หนึ่งในจำเลยที่เดินทางมาศาล เปิดเผยว่านายพริษฐ์ขออนุญาตแถลงต่อศาลถึงความอึดอัดในใจ แต่ศาลไม่อนุญาตให้พูดในที่เปิดเผย จากนั้นเจ้าหน้าที่มาควบคุมตัว จึงเกิดความวุ่นวายขึ้น นายพริษฐ์จึงประกาศความอึดอัดใจว่าเหตุใดศาลไม่ให้ประกันตัว ทั้งที่ยังไม่มีคำพิพากษา โดยเทียบเคียงกับคดีกปปส. ที่ตัดสินแล้วว่ามีความผิด แต่ได้ประกันตัว และไม่ต้องตัดผม พร้อมประกาศขออดข้าวประท้วงจนกว่าจะได้รับการประกันตัว
นายชินวัตรกล่าวต่อว่า ปรากฏว่าบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีเกิดความวุ่นวายขึ้น ก่อนเจ้าหน้าที่จะคุมตัวนายพริษฐ์และจำเลยคนอื่นๆ ลงไปห้องควบคุมตัวจำเลย ส่วนตนเองนั้นในช่วงบ่ายจะถูกไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล กรณีถ่ายรูปในห้องเวรชี้ และโพสต์เผยแพร่ร่วมกับน่ายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือครูใหญ่ รวมทั้งยังมีกรณี ละเมิดอำนาจศาลของนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง ที่ถ่ายรูปแอมมี่ผ่านหน้าจออีกด้วย
ขณะเดียวกัน ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้ย้ายนายปิยรัฐ หรือโตโต้ จงเทพ นายจตุภัทร์ หรือไผ่ และนายภาณุพงศ์ หรือไมค์ จากเรือนจำพิเศษธนบุรีมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ทั้งนี้ในท้ายคำสั่งศาลระบุว่าแตหากมีเหตุอันจำเป็นที่เกิดขึ้นใหม่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ย่อมมีอำนาจที่จะย้ายผู้ต้องขังได้ตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ต้องรายงานให้ศาลทราบโดยเร็ว อย่าให้เกิดการล่าช้าขึ้นอีก เพราะอาจทำให้คู่ความ หรือประชาชนที่ไม่รู้กฎหมายเข้าใจผิด และสับสนได้ว่ากรมราชทัณฑ์ไม่ปฏิบัติตามหมายศาลและกฎหมาย
Advertisement
นายกฤษฎางค์ ทนายความกล่าวเพิ่มเติมว่า ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ 3 จำเลย ย้ายที่ควบคุมตัวจากเรือนจำพิเศษธนบุรีไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตามที่ขอไว้ โดยมีคำสั่งทันทีภายในวันที่ 15 มี.ค.นี้ ส่วนบรรยากาศภายในห้องพิจารณาคดีนั้น นายพริษฐ์แสดงออกถึงความต้องการให้สังคมรับรู้ว่าศาลไม่ให้สิทธิ์ปล่อยชั่วคราว จะอดอาหารจนกว่าจะได้รับการปล่อยตัว และยอมเจ็บปวดเป็นอันตรายต่อร่างกายตนเอง การแสดงดังกล่าวของนายพริษฐ์จะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ขณะที่จำเลย คนอื่นๆ ก็หวังว่าจะได้ประกันตัว หวังว่าศาลจะเข้าใจ ซึ่งองค์คณะได้ชี้แจงว่าอำนาจของ การพิจารณาปล่อยชั่วคราว เป็นอำนาจของ ผู้บริหารศาลอาญา
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้นายพริษฐ์ยังแจกจดหมายให้แก่ผู้ที่มาให้กำลังใจ และฟังการพิจารณาที่ศาลอาญา โดยจดหมายระบุถึงการใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้เห็นต่าง และเรียกร้องสิทธิ์ประกันตัว พร้อมประกาศว่าไม่ว่าจะจับไปคุมขังให้เกิดความทุกข์ทรมานมากเพียงใด ความทุกข์ทรมานนั้นก็ไม่อาจทำลายความจริงได้ ข้าพเจ้าจึงยินดีที่จะรับความทุกข์ทรมาน และจะยังขอทรมานตนเองเพิ่มด้วย ดังนั้น นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าจะขออดอาหาร ประทังชีพด้วยน้ำ น้ำหวาน และนมเท่านั้น ไปจนกว่าจะคืนสิทธิประกันตัวสู้คดีให้กับข้าพเจ้า ให้กับ ผู้กล่าวหาคดีมาตรา 112 และให้กับผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองทุกคน หรือจนกว่าชีวิตของข้าพเจ้าจะหาไม่
“ข้าพเจ้าไม่ได้มีเจตนาจะปลิดชีวิตของตน แต่จะขอทรมานตนเอง เป็นข้อพิสูจน์ว่าความจริงไม่เกรงกลัวต่อความทุกข์ทรมานใดๆ หากข้าพเจ้าต้องสละชีวิตลง ข้าพเจ้าก็ยินดีสละ เพื่อวันหนึ่งประเทศของเราจะไม่มีกฎหมายมาตรา 112 ไม่มีใครต้องตกเป็นนักโทษทางการเมือง และ 3 ข้อเรียกร้องจะบรรลุเป็นจริง ประเทศไทยจะได้เป็นของคนไทยทุกคนอย่างเสมอภาคโดยสมบูรณ์” เพนกวินระบุในตอนท้ายจดหมาย
ด้านนายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวชี้แจงกรณีทนายความระบุถึงความไม่เหมาะสมในการแยกนายพริษฐ์ไปอยู่แดน 5 ซึ่งเป็นแดนนักโทษเด็ดขาด ทั้งที่ยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ว่าเนื่องจากทุกวันจะมีผู้ต้องขังเข้าใหม่หมุนเวียนตลอดเวลา และหากเป็นบุคคลที่เป็นคู่คดีกันก็ต้องแยกไปคนละแดน ตามหลักขั้นตอนปฏิบัติ ส่วนการนำไปอยู่ร่วมกับนักโทษเด็ดขาดนั้น เป็นเพราะพื้นที่เรือนจำค่อนข้างจำกัด ทางเรือนจำก็จะต้องบริหารจัดการสัดส่วนพื้นที่ที่เหมาะสมในการคุมขังนักโทษแต่ละประเภท
ต่อมาช่วงเย็น นายกฤษฎางค์ ทนายความกล่าวว่าศาลมีคำสั่งรวมคดีปักหมุดสนามหลวง และนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 29 มี.ค. ก่อนนัดสืบพยานตามกระบวนการพิจารณาต่อไป วันนี้มีจำเลยเพียง 2 คนไม่ได้เดินทางมา คือนายอรรถพล บัวพัฒน์ ส่วนจำเลยอีกคนแม่ป่วย นอกจากนี้นายพริษฐ์แถลงต่อศาลว่าถูกนำตัวไปฝากขังกับนักโทษเด็ดขาด ศาลรับเรื่องไว้ และจะประสานงานกับกรมราชทัณฑ์ต่อไป
ขณะที่นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่เพนกวินกล่าวว่า ตอนที่เพนกวินประกาศว่าจะอดอาหาร ตกใจมากเพราะกังวลเรื่องสุขภาพ อยู่แล้ว แต่ก็ได้เพียงหวังว่าเพนกวินจะอยู่ได้ และทำตามเจตนารมณ์ได้สำเร็จ ก่อนหน้านี้เพนกวินบอกแม่มาเสมอว่าจะเสียสละด้วยชีวิตของตัวเอง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการเสียสละที่เพนกวินเลือก เพนกวินพูดคุยกับแม่ว่าขณะที่อยู่ในเรือนจำไม่รู้ว่าจะต้องแสดงสัญลักษณ์การเรียกร้องอย่างไร จึงเลือกวิธีนี้เพราะเป็นหนึ่งในสันติวิธี
แม่เพนกวินกล่าวว่ายืนยันว่าจะขอยื่นประกันต่อไป เพราะสุดท้ายแล้วอยากให้เพนกวินออกมาใช้ชีวิตข้างนอก เพราะยังกังวลในเรื่องเรียนและสอบ เพราะเพนกวินยังอยู่ในสถานะนักศึกษา การอ่านหนังสือในเรือนจำถือว่าเป็นเรื่องยาก ไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่สะดวกแต่แม่ ก็จะเตรียมส่งหนังสือให้เรียนไว้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีหนังสือเกี่ยวกับการเมืองที่เพนกวินชื่นชอบ การที่เพนกวินได้อ่านหนังสือเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้จิตใจของ เขาสงบ
