รมต.ชี้ฝุ่นเพื่อนบ้าน-กระทบไทย – เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) น.ส.พิมพิกา ศรีสวัสดิ์ รองโฆษกศูนย์แก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) แถลงรายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ ปริมาณ PM 2.5 ในประเทศ พบเกินค่ามาตรฐานในจังหวัดเชียงราย น่าน แม่ฮ่องสอน พะเยา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก ตาก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ สระบุรี สกลนคร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ อุบลราชธานี นครราชสีมา และบุรีรัมย์ (ค่ามาตรฐานไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ในภาคเหนือ ตรวจวัดได้ 34-166 มคก./ลบ.ม. มีค่าฝุ่นละอองในพื้นที่สูงเกินเกณฑ์มาตรฐานรวม 19 พื้นที่ และอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ 2 พื้นที่ ตรวจวัดค่าได้สูงสุดที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ค่าฝุ่น 166 มคก./ลบ.ม. ค่าฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากจุดความร้อนลดลงต่อเนื่องหลายวัน ประกอบกับมีฝนตกและลมแรงบางพื้นที่
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรวจวัดได้ 38-82 มคก./ลบ.ม. ภาคกลางและภาคตะวันตก ตรวจวัดได้ 14-51 มคก./ลบ.ม. ภาคตะวันออก ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ตรวจวัดได้ 10-32 มคก./ลบ.ม. ภาคใต้ ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดีมากเช่นกัน ตรวจวัดได้ 12-36 มคก./ลบ.ม. ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรุงเทพมหานคร ภาพรวมอยู่ในเกณฑ์ดี ตรวจวัดได้ 18-44 มคก./ลบ.ม.
น.ส.พิมพิการะบุว่า ข้อแนะนำสำหรับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ในช่วง 2-3 วันต่อจากนี้ พื้นที่ภาคเหนือยังต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายความเร็วลมต่ำ ลมตะวันตกเฉียงใต้มีแนวโน้มพัดฝุ่นละอองจากนอกพื้นที่มาสะสม เพิ่มเติม และเริ่มพบแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของจุดความร้อนเล็กน้อย จึงอาจส่งผลให้ฝุ่นละอองเพิ่มสูงขึ้นได้
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือว่า ช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา พบว่าจุดความร้อนในประเทศไทยลดลงมาก ในส่วนที่ประชาชนเชียงใหม่ได้รับผลกระทบเรื่องหมอกควันหนักมาก นอกจากไฟป่าที่เกิดขึ้นในไทยแล้ว ยังมีปัจจัยจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งพบจุดความร้อนประมาณ 5-6 พันจุด มากกว่าไทยเป็นสิบเท่า เมื่อทิศทางลมพัดเข้ามาในไทย จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ค่าฝุ่นพีเอ็ม 2.5 เกินค่ามาตรฐานในหลายพื้นที่ แต่กระทรวงทรัพยากรฯ ย้ำผ่านเลขาธิการอาเซียนทำหนังสือไปยังรัฐบาลของแต่ละประเทศแล้ว
