บางกลอยจี้ขอโทษ-กล่าวหาปลูกกัญชา

ผช.รมต.อ้างบินสำรวจ
ใส่ร้าย‘เผาป่า-ล่าสัตว์’

‘บางกลอย’ จี้รัฐบาลขอโทษ ถูก ‘ผู้ช่วยรมต.’ กล่าวหา อ้างขึ้น ฮ.บินสำรวจป่าแก่งกระจานแล้วเห็นปลูกกัญชา อีกทั้งยังล่าสัตว์ป่าด้วย ชาวบ้านชี้ช่วงนี้เป็นหน้าแล้ง เป็นไปไม่ได้ที่จะปลูกอะไร ให้สัมภาษณ์ใส่ร้าย บิดเบือน สร้างความขัดแย้ง สุดท้ายปัญหากะเหรี่ยงบางกลอยก็ไม่ได้รับการแก้ไข รัฐบาลตั้งคณะกรรมการ หรือคนที่ลงพื้นที่มีอคติทางชาติพันธุ์มาตั้งแต่ต้น แล้วจะแก้ปัญหาได้ยังไง

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าในฐานะที่เป็นรองประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (พีมูฟ) และกะเหรี่ยงบางกลอย จากการลงพื้นที่เมื่อวันที่ 18 มี.ค. นั่งเฮลิคอปเตอร์สำรวจพื้นที่ใจแผ่นดิน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี พบว่าเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์มาก มีสัตว์ป่าชุกชุม เป็นแหล่งต้นน้ำ พื้นที่ป่าแก่งกระจานด้านบนถูกเผาป่ากว่า 100 ไร่ และปลูกกัญชา เราบันทึกภาพไว้ เพื่อจะได้ยืนยันว่าทางการไม่ได้ลงไปสร้างภาพ

ผู้ช่วยรมต.กล่าวต่อว่าจากการพูดคุยเรื่องกับชุมชนบางกลอย ส่วนใหญ่เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ พอใจมาก มีเพียง 15-16 ครัวเรือน ที่อ้างว่าอยากกลับไปที่ใจแผ่นดิน ก็เลยต้องถามตรงๆ ว่าจะไปอยู่ที่ใจแผ่นดินได้อย่างไร ในเมื่อเป็นพื้นที่ป่าสมบูรณ์ทั้งหมด หลังการประชุมได้มอบให้ทุกส่วนราชการในพื้นที่เข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิด ขุดบ่อน้ำบาดาลเพื่อเตรียมพร้อมที่ทำกิน บางคนมีอยู่แล้ว 1 ไร่ แต่ก็บอกไม่ได้ พอคนอื่นมี 7 ไร่ ก็อยากจะมีบ้าง อีกทั้งยังทราบว่ามีการล่าสัตว์ป่า และกลับออกมาทางใจแผ่นดิน จากนั้นล่องแพแม่น้ำมาที่อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อนำไปขาย ขอเวลานิดเดียวให้ได้หลักฐานแล้วจะแถลงให้ทราบ

ด้านนายอภิสิทธิ์ เจริญสุข ตัวแทนชาวบ้านบางกลอย กล่าวว่าสิ่งที่นายประสานพูดเป็นเพียงแค่ข้ออ้าง เนื่องจากเมื่อชาวบ้านขอดูภาพกัญชา นายประสานก็ไม่ให้ดู ชาวบ้านขอขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปดูด้วยก็ปฏิเสธ อีกทั้งในความเป็นจริงช่วงนี้อยู่ในหน้าแล้ง ชาวบ้านยังไม่กล้าปลูกอะไรในไร่เลย ฉะนั้นคงเป็นไป ไม่ได้ที่จะปลูกกัญชา การให้สัมภาษณ์จึงเหมือนเป็นการใส่ร้ายชาวบ้าน

นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนข้ออ้างที่ไม่อยากให้ชาวบ้านกลับขึ้นไปอยู่บนใจแผ่นดิน จึงพยายามยกข้อกล่าวหาสารพัดขึ้นมา ทั้งที่เขายังไม่ได้ลงไปดูพื้นที่เลย เขาอยู่บนเฮลิคอปเตอร์แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเห็นสัตว์ป่า อยากถามว่าที่ล่าสัตว์นั้น ล่าในจุดไหน รู้พิกัดหรือไม่ การให้สัมภาษณ์ลักษณะเช่นนี้เหมือนต้องการสร้างความขัดแย้ง แล้วปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวกะเหรี่ยงก็จะไม่ได้รับการแก้ไข เหมือนที่ผ่านมา เพราะคณะกรรมการ หรือตัวแทนของรัฐบาลไม่เข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวบ้าน คนที่ตั้งมา คนที่มาลงพื้นที่มีอคติทางชาติพันธุ์ตั้งแต่ต้นแล้ว แล้วจะแก้ปัญหาได้ยังไง

“พวกเราเพียงแค่ต้องการดำเนินวิถีชีวิตเหมือนที่ปู่ย่า ตายาย เรารักษามาตั้งแต่อดีต เรามีจารีตประเพณี เรามีความรู้เรื่องไร่หมุนเวียน ซึ่งเป็นการทำการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์ และยืนยันว่าเราอยากรักษามันไว้ สิ่งเหล่านี้กำลังถูกคนของรัฐบิดเบือนและใส่ร้ายพวกเรา ยืนยันว่าถ้าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไข พี่น้องของเราก็จะกลับไปชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมที่ทำเนียบรัฐบาลแน่นอน เราไม่มีใครเป็นแกนนำ แต่ทุกคนต้องสู้ เพราะถ้าไม่สู้ วิถีชีวิต และประเพณีของเราจะสูญหายไป” ชาวบ้านบางกลอยกล่าว

ขณะที่ภาคีเซฟบางกลอยแถลงว่า นายประสานไม่มีลักษณะของการเป็นนักเจรจาที่ดี ไม่ยึดความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้ง สร้างความขัดแย้งและความขุ่นเคืองใจให้ชาวบ้านมากกว่าจะรับฟังเพื่อนำไปสู่ทางออกของปัญหา ฉะนั้นขอเรียกร้องไปยังรัฐบาลว่าหากต้องลงพื้นที่เพื่อพูดคุยกับชาวบ้าน ไม่ควรให้นายประสานอยู่ในกลไกการแก้ไขปัญหาอีก เนื่องจากทำตัวเป็นคู่ขัดแย้ง

“ขอเรียกร้องให้รัฐบาลแสดงความรับ ผิดชอบ โดยชี้แจงกรณีดังกล่าว รวมถึงขออภัยชาวกะเหรี่ยงบ้านบางกลอยอย่างเป็นทางการ จากกรณีเหยียดหยามชาติพันธุ์ และสร้างบาดแผลในจิตใจด้วยความรุนแรงทางกิริยาและวาจา ที่เดินหน้าผลิตซ้ำมายาคติกดทับ ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มาแก้ไขปัญหา เรื่องราวเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง” ภาคีเซฟบางกลอยระบุ

ค่ำวันเดียวกัน นายประสานให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่าจากการขึ้นบินเฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสอบพื้นที่จริง เมื่อบินลงไปในระดับต่ำ เห็นสภาพความเป็นจริงแต่ไม่รู้ว่าใครปลูกกัญชา ถามชาวบ้านว่าพอจะทราบหรือไม่ว่าใครปลูก ชาวบ้านก็ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้อง ไม่ใช่ว่าเราไปกล่าวหาว่าชาวบ้านเป็นคนปลูก ไม่ใช่ ส่วนที่ระบุว่าตนเหยียดหยามชาติพันธุ์นั้นก็ไม่มี ไม่เคยเหยียดหยามใดๆ ทั้งสิ้น