ภท.-ปชป.รีบยัน
ไม่ถอนตัวรัฐบาล
อู๊ดด้าจวกวันชัย

นายกฯ เตรียมนำรายชื่อรมต.ใหม่ทูลเกล้าฯ บอก ปรับแล้วไม่ดี วันหน้าปรับ ใหม่ได้ไม่ขัดข้องแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หรือรายมาตรา ลั่นถ้ากลัวสืบทอดอำนาจ ก็แก้ให้ได้แล้วกัน ‘อนุทิน’ กั๊ก ภูมิใจไทยจับมือปชป.แก้ไข โต้ครหาหนุนทหาร อ้างดัน ‘ประยุทธ์’ นั่งนายกฯ เพราะมาถูกต้องตามขั้นตอน ประสานเสียง ‘จุรินทร์’ ยันไม่ถอนตัวจากรัฐบาล ปชป.ตอบโต้ ‘วันชัย’ ถามตอนโหวตวาระ 3 ไปอยู่ไหน จี้ ‘ศรีสุวรรณ’ ยื่นเอาผิด 208 ส.ส.-ส.ว.ผ่านร่างแก้ไข ต้องร้องเอาผิด ‘ไพบูลย์’ กับ 474 สมาชิกรัฐสภาที่หนุนให้โหวต วาระ 3 ด้วย ส.ว.ชี้ร่างพ.ร.บ.ประชามติ ระเบิด เวลารัฐบาล

ตู่เล็งทูลเกล้าฯโผครม.

วันที่ 22 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าการทูลเกล้าฯ รายชื่อรัฐมนตรีใหม่หลังการปรับครม.ว่า “เร็วๆ นี้ กำลังจะทำขึ้นไป ขอร้องอย่าให้เป็นเรื่องทุกเรื่องเลย มันเป็นเรื่องของการทำงาน ถ้าไม่ดีก็ปรับใหม่วันหน้า อะไรจะเกิดขึ้นก็ยังไม่รู้ ทำให้บ้านเมืองมันสงบก่อนแล้วกัน” เมื่อถามว่าปรับเฉพาะตำแหน่งที่ว่างอยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ก็ตำแหน่งที่ว่าง ก็ทำให้แล้ว อย่าให้มันยุ่งนักเลย”

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนประจำทำเนียบที่มอบการ์ดอวยพรวันคล้ายเกิดย้อนหลังอายุครบ 67 ปี ซึ่งเป็นการ์ดเพลงแฮปปี้เบิร์ธเดย์ โดยนายกฯกล่าวว่า “ขอบคุณในคำอวยพร ขอบคุณเพลงไพเราะภายในการ์ด ที่มอบให้ ผมขอสัญญากับพวกท่านทุกคน ผมจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เราต้องแก้ปัญหาของประเทศให้ได้โดยเร็วที่สุดในทุกๆ เรื่องและทุกมิติ

ช่วงท้ายของการให้สัมภาษณ์ พล.อ.ประยุทธ์ ยกการ์ดของสื่อมวลชนที่มอบให้ พร้อม ร้องเพลงคลอว่าแฮปปี้เบิร์ธเดย์ทูมี พร้อมกล่าวว่า “ให้การ์ดดีๆ มา ก็ขอให้ทำดีกับ ผมบ้าง”

ท้าแก้รธน.ให้ได้แล้วกัน

พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงแนวทางการแก้ไข รัฐธรรมนูญรายมาตรา ว่า ก็ว่ากันไป ตนไม่ได้ มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว บอกแล้วว่ารัฐบาลก็เสนอ แนวทางในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วส่วนว่าจะแก้ไขทั้งฉบับหรือแก้เฉพาะหลายมาตรา ตนเองไม่ขัดข้องถ้าทำได้ ก็ต้องไปดูที่กฎหมาย ดูว่ารัฐบาลโน้นเขียนไว้อย่างไร ก็แค่นั้น

“ผมไม่จำเป็นต้องไปสั่งใคร ทุกคนต่างก็มี ความคิด ความคิดดีๆ ก็มี ความคิดไม่ดีก็มี ถ้าระแวงว่าผมจะสืบทอดอำนาจก็ไปแก้มา จะเลือกผม หรือไม่เลือกผมก็ไม่ได้ขัดข้อง ไม่เลือกก็ได้ ก็ไปแก้มา แก้ให้ได้ก็แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

อนุทินกั๊กแก้รายมาตรา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนของ ภท.ต่อการแก้รัฐธรรมนูญหลังวาระ 3 ถูกคว่ำ ว่า ได้แสดงจุดยืนไปแล้วคือทำตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ หากต้องทำประชามติก็พร้อมทำตาม และเจตนารมณ์การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแต่ทำให้ถูกต้องตาม กระบวนการ หากต้องทำประชามติเราก็ทำ แม้ไม่อยากทำก็ตาม เพราะคำสั่งของศาลรัฐธรรมนูญมีผลผูกพันทุกองค์กร ขอย้ำว่าภท. ไม่มีปัญหาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือแก้ไข มาตราที่ดูแล้วจะไม่เป็นประชาธิปไตย

ส่วนที่ระบุจะคุยกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะแก้ไขรายมาตราคืบหน้าอย่างไรนั้น เดี๋ยวไปว่ากัน ต้องไปดูเหตุผลและวิธีการว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ มีส.ส.ที่ดูแลเรื่องนี้อยู่ เมื่อถามย้ำว่า ภท.จะร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราร่วมกับปชป. และพรรคชาติไทยพัฒนาหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ต้องหารือกัน อะไรที่หารือและเป็นประโยชน์ไปด้วยกันได้ก็ไป อย่าผิดกฎหมาย อย่าผิดขั้นตอน อย่าผิดคำสั่งหรือคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ หลักการมีแค่นี้

การ์ดวันเกิด – พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรมว.กลาโหม โชว์การ์ดอวยพรวันเกิดครบ 67 ปี ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลจัดทำให้ ระหว่างให้สัมภาษณ์และแถลงข่าวที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 22 มี.ค.

ปัดถอนตัวจากรัฐบาล

เมื่อถามว่าภายหลังออกมาพูดเรื่องไดโนเสาร์ ได้เห็นปฏิกิริยาของ ส.ว.หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไดโนเสาร์คือสิ่งที่ไม่ใช่คน แต่เป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ ในเรื่องที่มาของนายกฯ คนที่มาจากการเลือกตั้งจากประชาชนอย่างพวกผม การเลือกนายกฯ ควรมาจากการ เลือกตั้งของส.ส. แต่เมื่อมีบทเฉพาะกาลเรา ก็ต้องยอมรับ ซึ่งมีเวลา 5 ปี เดี๋ยวก็หมด รออีกแป๊บเดียว ถ้าเทียบตอนนี้และทำไปเรื่อยๆ ก็พอๆ กัน และขอพูดอีกครั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มาเป็นนายกฯ เพราะเสียงยกมือของส.ส.ขาด และส.ว.มาทำให้ท่านเป็นนายกฯ ไม่ใช่ เสียงของสภามีถึง 253 เสียง เกินกึ่งหนึ่งและเป็นสิ่งที่พรรคพูดมาตลอดว่านายกฯต้องมาจากเสียงข้างมากของสภา ซึ่งต้องมาจากสภาล่างก่อน ตนก็ทำตามทุกอย่าง วันนี้ ก็ยังมีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าเราสนับสนุนคนที่มา จากทหาร ไม่ใช่เลย ท่านมาจากกระบวนการทุกอย่างถูกต้อง เมื่อถามว่ามีส.ว.บางคน เดือดร้อนกับคำว่าไดโนเสาร์ นายอนุทินหัวเราะก่อนตอบว่า ต่างคนต่างอยู่ไม่ดีกว่าหรือ เพราะทุกคนทำประโยชน์ให้แก่บ้านเมืองได้หมด

เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรต่อแรงกดดันที่ ต้องการให้ภท. ปชป.ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีแรงกดดันอะไร และไม่รู้สึกอะไรเลย ทำตามหน้าที่ทำตามกฎหมาย และทำตามในสิ่งที่ควรจะเป็น

ปชป.โต้วันชัย-ตอนโหวตไปไหน

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้า ปชป. รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวกรณีนายวันชัย สอนศิริ ส.ว. วิจารณ์ปชป.เรื่องแก้รัฐธรรมนูญว่า ปชป.ยืนหยัดชัดเจนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตลอด และทำหน้าที่จนวินาทีสุดท้ายด้วยการโหวตรับ วาระ 3 นายวันชัยต่างหากที่ต้องตอบคำถามว่า อยู่ที่ไหนขณะที่มีการโหวต เพราะเคยบอกไว้ว่า จะสนับสนุนการแก้รัฐธรรมนูญ

ส่วนประเด็นการร่วมรัฐบาล นายวันชัย รู้ดีว่าถ้ารัฐบาลพังหรือยุบสภาขณะนี้ การแก้รัฐธรรมนูญก็จะพังตามลงไปด้วย และต้อง นำไปสู่การเลือกตั้งโดยใช้กติกาเดิม เท่ากับนายวันชัยสามารถรักษาอำนาจการโหวตเลือกนายกฯได้อีก การเมืองก็จะย้อนกลับมาที่เดิม ผลลือกตั้งอาจเป็นเบี้ยหัวแตกเหมือนเดิม และจะกลับไปสู่จุดที่เรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญอีก ที่ ปชป.สนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ เพราะอยากเห็นการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาทางการเมือง เดินหน้าไปได้ด้วยกัน ไม่เช่นนั้นความขัดแย้งแตกแยกก็จะกลายเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจที่เรากำลังเผชิญอยู่ต่อไป

ที่สำคัญอีกเรื่องคือความพยายามกล่าวหาว่า ปชป.จะจับมือบางพรรคแก้มาตรา 112 ก็ไม่เป็นความจริง และขอเรียนว่า ปชป.ไม่เอาด้วยกับการแก้กฎหมายมาตรา 112 โดยเด็ดขาด ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญจะผ่านได้ต้องอาศัยเสียง ส.ว.ไม่น้อยกว่า 84 เสียง ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่ลำพังแต่เสียง ส.ส.

แขวะกาฝากประชาธิปไตย

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกปชป. กล่าวว่า ปชป.ทำอย่างเต็มที่จนนาทีสุดท้าย เริ่มต้นทำเป็นพรรคแรกตั้งแต่ประกาศเป็นนโยบาย ยื่นญัตติตั้งกมธ.วิสามัญศึกษาแนวทาง ยื่นญัตติให้แก้ไข มาตรา 256 และให้มี ส.ส.ร.แต่มีการตีสองหน้าดึงไว้ด้วยการเสนอตั้ง กมธ.ก่อนรับหลักการวาระ 1 พรรคก็ไม่เห็นด้วย ต่อมามี ส.ว.และ ส.ส.ยื่นร่างแก้ไขที่ตัวเองลงนามให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความพรรคก็ไม่เห็นด้วย ตอนลงมติวาระ 3 มีกลุ่มคนที่ต้องการให้ร่างตกไป พรรคก็เห็นว่า คำวินิจฉัยไม่ชัดเจนต้องให้ตีความ เมื่อมีการเสนอโหวตวาระ 3 พรรคก็เห็นด้วย คือความจริงใจ ตรงไปตรงมา ไม่ได้ตีสองหน้า

“ส.ว.มีความจริงใจแค่ไหนเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกคนทราบดี ไม่ทราบว่าใครโยนขี้ ให้ ส.ว. แต่ไม่น่าจะมีใครกล้าเอามือไปจับขี้ แค่อยู่กับที่มีกลิ่นก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้” นายราเมศกล่าวและว่า ที่บอกว่าเป็นไดโนเสาร์ กลายพันธุ์คงไม่ใช่ปชป. จะด่าพรรคอื่นก็ด่าไป แต่อย่าเหมารวมกับ ปชป. ประชาธิปไตยยังไป ไม่ถึงไหนเพราะมีคนหลายประเภทในเส้นทาง การเมือง บางคนก็เป็นนักประชาธิปไตยตัวจริง บางคนก็เป็นแค่กาฝาก นายวันชัยอย่ากังวล ปชป.เป็นได้ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาล ไม่ต้องเกาะอำนาจใดๆ อย่าโจมตีโดยไร้ซึ่งความจริงเลย หมดยุคละครน้ำเน่าแล้ว

จี้ร้องเอาผิด‘ไพบูลย์’

นายราเมศกล่าวกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้ดำเนินคดีกับ ส.ส. และ ส.ว.ที่ลงมติรับร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญวาระ 3 ว่า พรรคไม่ได้กังวลใจ ยืนยันการทำหน้าที่ของสมาชิกรัฐสภาเป็นไปตามเอกสิทธิ์แห่งรัฐธรรมนูญและข้อบังคับ สมาชิกรัฐสภาที่ลงมติไม่มีการกระทำใดที่จะเป็นความผิด ทุกคนเคารพคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ

หากนายศรีสุวรรณคิดว่าผิด ก็น่าจะร้อง นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้เสนอญัตติให้โหวตวาระ 3 ด้วย และคนที่ลงมติให้เดินหน้าโหวตวาระ 3 ด้วย ซึ่งมีสมาชิกรัฐสภาที่โหวตให้เดินหน้าวาระสามทั้งสิ้น 474 คน รวมถึงการโหวตวาระ 3 ยังมีสมาชิกรัฐสภา 94 คน โหวตงดออกเสียงด้วย เพราะตามข้อบังคับการประชุม การลงมติมี 3 กรณี เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยและงดออกเสียง คนที่งดออกเสียงก็คือผู้ใช้สิทธิในการโหวตเช่นกัน

ร้องปปช.สอบสส.-สว.ผ่านวาระ 3

วันเดียวกัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องถึง ป.ป.ช.ให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณี ส.ส. และ ส.ว. 208 คน ให้ความเห็นชอบ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ทั้งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ต้องทำประชามติก่อน แต่ 17 มี.ค. ที่ผ่านมา ที่ประชุมร่วมของรัฐสภามีการลงมติ มีเสียงเห็นชอบให้แก้ไข 208 เสียง ไม่เห็นชอบ 4 เสียง งดออกเสียง 94 เสียง ไม่ประสงค์ ลงคะแนน 136 เสียง ผู้ที่เห็นชอบน่าจะขัดหรือแย้งต่อคำวินิจฉัยที่ 4/2564 ลงวันที่ 11 มี.ค.64 จึงยื่น ป.ป.ช.ให้ไต่สวนว่าการกระทำของ ส.ส. 206 คน และ ส.ว. 2 คน อาจเข้าข่าย ทุจริตต่อหน้าที่ หรือจงใจปฏิบัติหน้าที่ หรือใช้ อำนาจขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือกฎหมาย หรือฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรม อย่างร้ายแรงหรือไม่ หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติฯ ขอให้เสนอเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อวินิจฉัยลงโทษ ตามครรลองของกฎหมายต่อไป

นอกจากนั้น มีสมาชิกรัฐสภาที่เป็นพรรค การเมืองไม่น้อยกว่า 8 พรรค ให้ความเห็นชอบ วาระ 3 ด้วย อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.ป. พรรคการเมือง 2560 ม.92(2) มีโทษถึงขั้นอาจถูกยุบพรรคได้ จึงขอให้ ป.ป.ช.พิจารณาไต่สวนและมีความเห็นในเรื่องดังกล่าว

‘ชวน’ไม่ชี้‘ไพบูลย์’ทำผิดกม.

ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นเรื่องร้อง ส.ส.ที่โหวตลงมติเห็นด้วยกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ว่า ก็ว่าไปตามกระบวนการของกฎหมาย หากร้องใครผู้นั้นก็ต้องเตรียมตัวชี้แจงหรือ แก้ข้อกล่าวหา เมื่อถามว่าที่ลงมติวาระ 3 กระบวนการถูกต้องตามกฎหมาย นายชวนกล่าวว่า เป็นการเสนอของสมาชิกรัฐสภา โดยนายไพบูลย์เสนอให้ลงมติขณะกำลังพิจารณาค้างอยู่ว่าจะลงมติหรือไม่ลงมติ โดยเสนอญัตติขึ้นมาใหม่เพื่อล้มญัตติเดิม และที่ประชุมมีมติให้ลงมติ ดังนั้น การลงมติทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการกฎหมายและข้อบังคับ เมื่อถามว่าแสดงว่าจะผิดตั้งแต่ที่นายไพบูลย์เสนอญัตติ นายชวนกล่าวว่า ไปดูเอาเองแล้วกัน

ส่วนกรณีนายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษา ระบุ ส.ส.ที่เข้าร่วมการชุมนุม 20 มี.ค. ผิดกฎหมายและประมวลจริยธรรมนั้น คาดว่าจะมีผู้ร้องเรียนเข้ามา ส่วนผลจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอตนไม่อาจวินิจฉัยแทนได้ ต้องมีผู้ร้องเข้ามาถึงจะตรวจสอบได้

เป็นไปได้เปิดวิสามัญ 7-8 เม.ย.

ส่วนการคาดการณ์จะเปิดประชุมรัฐสภาสมัยวิสามัญวันที่ 7-8 เม.ย.เพื่อพิจารณา ร่างพ.ร.บ.ประชามติต่อนั้น นายชวนกล่าวว่า มีความเป็นไปได้ เท่าที่พูดคุยกับหลายฝ่ายและหารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา รองประธานรัฐสภา เวลาที่เหมาะสมคือ 7-8 เม.ย. ได้หารือกับผู้นำฝ่ายค้าน และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เรียบร้อยแล้ว ปัญหาอยู่ที่ กมธ.ต้องพิจารณาเรื่องที่ค้างอยู่ ให้เสร็จเพื่อบรรจุในวันเปิดประชุม โดยนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ส.ว. ในฐานะประธานกมธ. จะประชุมกมธ.วันที่ 1 เม.ย.นี้ และจะให้เสร็จ ดังนั้นคิดว่าวันที่ 7-8 เม.ย. ทางสมาชิกรัฐสภาสามารถเตรียมตัวเข้าร่วมประชุมได้

การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประชามติ 2 วัน ก็เสร็จแล้ว วันแรกคงจะพิจารณาแล้วเสร็จ วันที่สองก็จะพิจารณาร่างพ.ร.บ.ยาเสพติดต่อ ทั้งหมดน่าจะจบช่วงเปิดประชุมสมัยวิสามัญ ส่วนการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราตอนนี้ ยังไม่มีใครเสนอเข้ามา น่าจะกำลังคิดกันอยู่ ต้องรอเปิดประชุมสมัยวิสามัญก่อน

ชี้กม.ประชามติชนวนระเบิด

นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. โฆษก กมธ.พิจารณา ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ รัฐสภา กล่าวว่า กมธ.นัดประชุม 1- 2 เม.ย. เพื่อพิจารณาเนื้อหาตามที่มอบให้กฤษฎีกาปรับเนื้อหา ตามที่รัฐสภาเห็นชอบแก้ไขมาตรา 9 ตามที่ กมธ.เสียงข้างน้อยที่มี นายชูศักดิ์ ศิรินิล รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เสนอแก้เพิ่มเติมสิทธิ์ประชาชนและรัฐสภา ขอทำประชามติได้ จากเนื้อหาเดิมให้สิทธิ์เฉพาะฝ่ายบริหารและประชามติในการแก้รัฐธรรมนูญเท่านั้น กรณีต้องแก้ไขเป็นปัญหากระทบกับมาตราอื่นๆ และมีผลกระทบต่อรัฐบาล ดังนั้น สิ่งที่กฤษฎีกาพิจารณา คือ การหามาตรการถ่วงดุลประเด็นที่รัฐสภาหรือภาคประชาชนเสนอให้รัฐบาลทำประชามติ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีทำประชามติบ่อยครั้ง หรือผูกมัดรัฐบาลฝ่ายเดียว

หาก พ.ร.บ.ประชามติผ่านจะมีผลกระทบต่อรัฐบาล แต่หากไม่ให้ผ่านตามที่มีคนระบุว่าอาจถูกคว่ำวาระ 3 นั้นก็จะเป็นปัญหากับรัฐบาลเช่นกัน เพราะเป็นกฎหมายที่เสนอ โดยรัฐบาลและเป็นกฎหมายปฏิรูปที่สำคัญ หากถูกคว่ำโดยรัฐสภา อาจทำให้รัฐบาล ต้องยุบสภาหรือลาออกได้ เหมือนกรณี ยุครัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ต้องยุบสภาเพราะร่างกฎหมายลิขสิทธิ์ไม่ผ่านสภา ร่างกฎหมายประชามติเป็นชนวนระเบิดของรัฐบาล เช่นเดียวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ยื่นสอบส.ส.ชูป้ายผู้ต้องหา 112

เวลา 13.10 น. ที่รัฐสภา นายนพคุณ ทองถิ่น แกนนำร่วมศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยื่นหนังสือถึงประธานสภา ผ่านนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภา ขอให้ตรวจสอบจรรยาบรรณส.ส.ที่มีต่อสถาบัน พระมหากษัตริย์

โดยนายนพคุณกล่าวว่า เนื่องจากวันที่ 17 มี.ค. มีการประชุมร่วมรัฐสภา ขณะที่มีการอภิปราย ส.ส.บางคนนำรูปผู้ต้องหา มาตรา 112 ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำ พร้อมป้ายใจความว่าปล่อยเพื่อนเรา ขึ้นมาชูและเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง แสดงออกถึงการอาจอยู่เบื้องหลังหรือยุยงปลุกปั่นกลุ่มนักศึกษา ที่ชุมนุม กลุ่มศปปส.เคยนำหนังสือเช่นนี้ มายื่นต่อนายชวนแล้วครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่เห็นบทลงโทษ มาวันนี้อยากทราบอำนาจและขอบเขตของประธานสภาว่าจะมีบทลงโทษส.ส.อย่างไร

พท.ไม่มั่นใจรัฐบาลจะแก้รธน.

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน เตรียมคุยส.ว. และพท.เรื่องแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา และไม่แตะมาตรา 256 ว่า ต้องดูว่านายไพบูลย์ มาในฐานะอะไร สมาชิก คนหนึ่งหรือมาในนาม พปชร. วันนี้เราพร้อมพูดคุยกับทุกฝ่าย เพราะหลักการของ พท. ต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้ตรงกับความต้องการ ของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด

ที่ผ่านมานายไพบูลย์มีท่าทีเหมือนไม่อยากแก้รัฐธรรมนูญ ตอนที่ฝ่ายค้านเสนอแก้ รายมาตราก็คว่ำ แก้ทั้งฉบับก็คว่ำ แล้วตอนนี้มาเสนอแก้รายมาตราอีก วันนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นตรงกันว่าต้องแก้รัฐธรรมนูญอยู่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลไปคุยกันให้จบก่อน รวมทั้ง ส.ว.ด้วย วันนี้ถ้าจะคุยก็ต้องแสดงความจริงใจซึ่งกันและกัน เราพร้อมแก้อยู่แล้ว ทั้งนี้ พท.เตรียมเปิดตัวคาราวานลงพื้นที่ 4 ภาค พบปะประชาชนวันที่ 29-30 มี.ค. จะเริ่มเคลื่อนไปที่จ.เชียงใหม่เป็นที่แรก จะเคลื่อนลักษณะจังหวัดต่อจังหวัดที่อยู่ใกล้ๆ กัน เพื่อขยายฐานสมาชิกพรรค และมีวงเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นประชาชน ซึ่งอาจมีทั้งเรื่องรัฐธรรมนูญ ปัญหาในพื้นที่ รวมถึงเรื่องปากท้อง

จี้ยุบสภาหลังทำแท้งรธน.

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้า พท. กล่าวการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายเร่งด่วน ข้อ 12 ที่รัฐบาลแถลงต่อรัฐสภา แต่รัฐบาลวางแผนกับเครือข่ายสืบทอดอำนาจทำแท้งรัฐธรรมนูญ หากเป็นรัฐบาลระบอบประชาธิปไตยในสภาวะปกติ กรณีมีกฎหมายสำคัญที่รัฐบาลเสนอไม่ผ่านสภา เช่น ร่างพ.ร.บ. งบประมาณฯ ซึ่งเป็นกฎหมายสำคัญ ถ้าสภาลงมติไม่ผ่าน รัฐบาลต้องรับผิดชอบโดยการลาออกหรือยุบสภาทันที

ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมีความสำคัญ ยิ่งกว่ากฎหมายอื่น เพราะเป็นกฎหมายสำคัญของประเทศ เมื่อรัฐบาลนำร่างเข้าสู่สภาแล้วร่างกฎหมายมีอันตกไป รัฐบาลจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ต้องลาออกหรือยุบสภาทันที หลังรัฐธรรมนูญถูกคว่ำ ทำให้เกิดสภาพการเมืองวิปริต รัฐบาลวิปลาส ประชาชน วิปโยค ก่อนวงจรอุบาทว์จะสร้างความเสียหาย มากไปกว่านี้ รัฐบาลต้องลาออกหรือยุบสภาแสดงความรับผิดชอบปมทำแท้งรัฐธรรมนูญ

แนวโน้ม‘ไอติม’สังกัดก้าวไกล

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกระแสข่าว นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม จะเข้าร่วมกับพรรค ก้าวไกลว่า หลังนายพริษฐ์ลาออกจากสมาชิก ปชป. และกลุ่มนิวเดม ได้ร่วมทำกิจกรรมกับก้าวไกล เพราะมีแนวทางอุดมการณ์หลายอย่างหลายตรงกัน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งนายพริษฐ์ตั้งกลุ่มรัฐธรรมนูญก้าวหน้า และร่วมกับ 4 กลุ่มการเมือง ทั้งกลุ่มไอลอว์ คณะก้าวหน้าและพรรคก้าวไกล ตั้งกลุ่มรี-โซลูชั่น เพื่อรณรงค์การแก้ไข เท่าที่ทราบขณะนี้ นายพริษฐ์ ยังไม่ได้ ตัดสินใจจะสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลหรือไม่ แต่มีแนวโน้ม ซึ่งพรรคกำลังขับเคลื่อน แคมเปญเพื่อเปิดรับสมัครว่าที่ผู้สมัครส.ส. นอกจากนี้พรรคเปิดรับอาสาสมัครที่ต้องการจะมาช่วยงานพรรค โดยนายพริษฐ์เป็นหนึ่งในอาสาสมัครเข้ามาช่วยงาน

ด้านนายพริษฐ์โพสต์เฟซบุ๊กว่า ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับพรรคก้าวไกลจริง เนื่องจากมีจุดยืนและอุดมการณ์ทางการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม คล้ายกัน ที่ผ่านมาได้ร่วมงานกันในกิจกรรมต่างๆ เช่น การรณรงค์การแก้ไขรัฐธรรมนูญ การแลกเปลี่ยนความเห็นเรื่องนโยบายที่พรรคเชิญคนนอกร่วมวงคุย ล่าสุดคือไปบรรยายเรื่องการวิเคราะห์นโยบาย งานหลักของตนคือการบริหารสตาร์ตอัพด้านการศึกษา ส่วนบทบาททางการเมืองในฐานะผู้สมัคร ยังคงเป็นเป้าหมายในอนาคต ถึงวันนั้นจะแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน