ภาคี‘บางกลอย’ยื่นปลด
มีอคติ-หมิ่นชาติพันธุ์

ภาคีเซฟบางกลอยยื่น ‘บิ๊กป้อม’ ปลด ‘ประสาน หวังรัตนปราณี’ พ้นผู้ช่วยรมต. ระบุไร้วุฒิภาวะ-หมิ่นชาติพันธุ์เพิ่มความ ขัดแย้ง จี้ขอโทษวันนั่งฮ.ไปบางกลอยล่าง กล่าวหาปลูกกัญชา ‘ธรรมนัส’ แนะประสานเลิกยุ่ง อย่าทำงานเกินหน้าที่ 25 มี.ค.ถกกรรมการนัดแรก รมต.วราวุธ ชี้กุนซือรองนายกฯ ถอนตัวงานยังเดินหน้าต่อได้ วอนให้เวลาพิสูจน์สิทธิ์ที่ดิน นายกฯสั่งกรรมการเร่งช่วยชาวบ้าน มีปัญหาตรงไหนรายงานมาจะแก้ไขให้

จากกรณีนายประสาน หวังรัตนปราณี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศถอนตัวจากการแก้ปัญหาของชาวบางกลอย เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2564 โดยระบุให้เป็นเรื่องของคณะกรรมการชุดของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ที่นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง พร้อมแสดงความเสียใจที่คำพูดถูกตีความและเข้าใจผิดว่าเป็นการข่มขู่ ในการลงพื้นที่บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยชี้แจงว่า เป็นคนที่มีน้ำเสียงพูดจริงจัง และมีความตั้งใจจริง ที่จะเร่งแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวบางกลอยจึงได้ลงพื้นที่ไป ด้วยตนเองอย่างเร่งด่วน แม้ว่าการขึ้นเฮลิคอปเตอร์เข้าพื้นที่ใจแผ่นดินจะเสี่ยง เพราะพื้นที่หุบเขานี้เคยเกิด ฮ.ตก มาแล้ว 3 ลำ แต่อยากไปดูด้วยตาตนเองเพื่อให้เห็นแล้วจะได้แก้ปัญหาให้ถูกจุด ตามข่าวที่เสนอมานั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 มี.ค. กลุ่มภาคีเซฟบางกลอยจำนวนหนึ่งนัดรวมตัวกันหน้าหมู่บ้านทะลุฟ้าแยกพาณิชยการ เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ เพื่อไปยื่นหนังสือถึงพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ปลดนายประสานออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี และปลดออกจากคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม

นายธัชพงศ์ แกดำ หรือบอย ตัวแทน กลุ่มศูนย์ประสานงานเยาวชนเพื่อสังคมนิยมประชาธิปไตย หรือ YPD กล่าวว่า ทางรัฐบาลไม่มีความจริงใจที่จะให้ชาวบางกลอยกลับไปยังบางกลอย-ใจแผ่นดิน หลังจากที่ทางรัฐบาลได้ฉีกบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) ไปในครั้งแรก โดยการจับกุมชาวบางกลอย พอครั้งที่สอง หลังมีมติ จะพิจารณาภายใน 30 วัน ให้กลับไปก่อน แต่หลังส่งชาวบางกลอยขึ้นรถลับหลังนายกฯบอกห้ามขึ้นใจแผ่นดิน เรายังเคารพเอ็มโอยูใน 30 วัน คนที่มีปัญหามีวุฒิภาวะไม่เพียงพอใช้อำนาจไปข่มเหง ชาวบ้านหากไม่ปลดนายประสานออกจากคณะกรรมการบางกลอย เอ็มโอยูจะมีปัญหา

จากนั้นกลุ่มภาคีเซฟบางกลอยนำโดย นายธัชพงศ์ได้เดินทางไปยื่นหนังสือที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล และ เปิดคลิปที่นายประสานลงพื้นที่ไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. โดยมีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนออกมารับ พร้อมตัวแทนเซฟบางกลอยได้อ่านแถลงการณ์หนังสือดังกล่าวมีใจความโดยสรุปว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มี.ค.พ.ศ 2564 ได้ปรากฏภาพ เสียง และวีดิทัศน์ของนายประสาน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำพล.อ.ประวิตร รองนายกฯ ออกสู่สาธารณะและสื่อมวลชนต่างๆ ขณะเดินทางไปที่บ้านบางกลอยล่าง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี

ภาคีเซฟบางกลอย มีความกังวลใจอย่างยิ่งต่อท่าทีของนายประสานที่ปรากฏลักษณะของผู้มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ต่ำ ขาดทักษะการเป็นผู้นำ ไร้วิสัยทัศน์ในการมองปัญหาของชาวบ้านอย่างจริงใจ อีกทั้งแสดงออกถึงท่าทีการเหยียดเชื้อชาติและภาษา จึงขอเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประวิตร รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะทำงาน ดังนี้

1.ให้ปลด นายประสาน ออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี และปลดออกจากคณะทำงานในการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและทำตัวเป็นคู่ขัดแย้ง ใช้อคติที่มืดบอดบดบังการใช้เหตุผลและรับฟังอย่างเปิดใจในการแก้ไขปัญหา 2.นายประสานต้องกล่าวขอโทษต่อพี่น้องชาติพันธุ์กะเหรี่ยง บ้านบางกลอยอย่างเป็นทางการ จากกรณีการเหยียดหยามชาติพันธุ์และสร้างบาดแผลในจิตใจด้วยความรุนแรงทางกิริยาและวาจา ที่เดินหน้าผลิตซ้ำมายาคติกดทับ ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้มาแก้ไขปัญหา เรื่องราวเหล่านี้ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างยิ่ง และ3.ขอให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงนายประสาน ในข้อกล่าวหาต่างๆ เช่น การกล่าวหาว่าชาวบ้านปลูกกัญชา และตนได้ไปเห็นที่ใจแผ่นดิน โดยอ้างว่า มีการถ่ายภาพมาเป็นหลักฐาน แต่กลับไม่ยอมแสดงหลักฐานให้เป็นที่ประจักษ์ หรือพิกัดดังกล่าว และการกล่าวอ้างว่า “ชุมชนบางกลอย ส่วนใหญ่เกือบ 90% พอใจมาก มีเพียง 15-16 ครัวเรือน ที่อ้างว่าอยากจะกลับไปที่ใจแผ่นดิน” ขอให้นำหลักฐานมาชี้แจงด้วย รวมถึงจุดพิกัดที่บอกว่ามีสัตว์ป่าชุกชุมนั้น อยู่บริเวณไหน พิกัดใด สำรวจด้วยวิธีใด ดังนั้นการกล่าวหาของนายประสาน ถือเป็นข้อกล่าวหาร้ายแรงและไม่มีหลักฐานยืนยันแสดง ซึ่งหากข้อความที่กล่าวหาเป็นเรื่องเท็จ นายประสานต้องมีความผิดทางอาญา และต้องชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง หากรัฐบาลมีความจริงใจในการแก้ไขปัญหาและรับฟังความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนจริง ต้องไม่ให้บุคคลที่มีทัศนคติ และท่าทีเฉกเช่นนายประสานเข้ามาในพื้นที่การเจรจาและต้องให้ออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังตัวแทนรับหนังสือไปสักครู่หนึ่งก็ได้แจ้งลงมาให้ทางกลุ่มเซฟบางกลอยทราบว่า นายประสานได้ลาออกจากการเป็นคณะกรรมการแล้ว ทำให้ทางกลุ่มพอใจ และพากันกลับไปที่หมู่บ้านทะลุฟ้าต่อไป

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน รวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี กล่าวถึงความคืบหน้าแก้ปัญหาว่า คณะกรรมการจะประชุมนัดแรกวันที่ 25 มี.ค.นี้ ส่วนที่นายประสาน ลาออกก็ไม่เกี่ยว เพราะไม่ได้อยู่ในคณะกรรมการชุดนี้ และที่ลงไปดูในฐานะอะไร ไม่ทราบ เป็นเรื่องส่วนตัว แต่ได้คุยกับนายประสานแล้วว่าต้องหยุดเรื่องบางกลอย และให้เป็นหน้าที่คณะกรรมการที่นายกฯแต่งตั้ง

ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้านบางกลอยว่า ทส.เร่งทำเต็มที่ ทั้งการแก้ปัญหาเรื่องน้ำการเกษตร และเรื่องของที่ดินชาว บางกลอยล่าง

“การพิสูจน์สิทธิ์เข้าใจไม่ใช่ว่าต้องทำให้เสร็จภายใน 30 วัน ต้องมีการเริ่มต้นพิสูจน์ ประชาชนหลายร้อยถึงพันชีวิต การพิสูจน์ต้องย้อนกลับไปว่าเข้ามาอยู่ตั้งแต่เมื่อใด เป็นลูกเต้าเหล่าใคร เกรงว่า 30 วันจะไม่เสร็จ ส่วนจะใช้เวลาเท่าไหร่นั้นตนไม่สามารถตอบได้ เพราะบางประเด็นเป็นกฎหมายที่มาก่อน ทส. จึงต้องพิสูจน์กันไป” นายวราวุธกล่าว

เมื่อถามว่านายประสานถอนตัวจากคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกินรวมทั้งการพัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตของชาวกะเหรี่ยงในพื้นที่บ้านบางกลอย จะทำให้การแก้ปัญหาสะดุดหรือไม่ นายวราวุธกล่าวว่า เป็นเรื่องของตัวบุคคล แต่ในส่วนของคณะกรรมการนั้นยังทำงานกันได้ไม่มีปัญหา

ต่อมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีชาวบางกลอยว่า จะไม่จบได้อย่างไรเมื่อเขากลับไปกันหมดแล้ว ที่เหลืออยู่เย้วๆกันข้างทำเนียบ เป็นกลุ่มอื่นทั้งนั้น ซึ่งความมุ่งหมายคนละอย่างกัน ซึ่งเรื่องบางกลอย เป็นเรื่องจัดตัวแทนไปร่วมพูดคุยและเมื่อพูดคุยไปแล้วไม่ได้ข้อยุติก็ต้องมาให้คณะกรรมการร่วม กันพิจารณาในเรื่องการดูแลช่วยเหลือชาว บางกลอย แต่ทั้งนี้ต้องฟังความคิดเห็นของคนไทยที่เขามีปัญหาเรื่องที่ดินทำกินเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน