คดีจ้างวานฆ่า
ฟอกเงินบ่อน

เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก‘หลงจู๊สมชาย’ พร้อมเครือข่ายคอตกถูกส่งตัวเข้าเรือนจำหลังกองปราบฯนำตัวฝากขังศาลอาญา คดีจ้างวานฆ่าจยย.รับจ้าง และฟอกเงินพนัน ตร.ระบุทรัพย์สินที่ถูกอายัดมีทั้งหมด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท เร่งตามยึดที่เหลืออีก 700 ล้าน พบถูกยักย้ายถ่ายเทไปแล้ว ส่วนคลิปเสียงหลักฐานระหว่างเจ้าพ่อกับตำรวจใหญ่ เป็นการสนทนาเรื่องอื่น ไม่เกี่ยวข้องกับคดี ด้าน ‘สันธนะ’ โผล่สังเกตการณ์ด้วย

จากกรณีกองปราบฯ บุกเข้าจับกุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ “หลงจู๊” อายุ 56 ปี เจ้าพ่อบ่อนพนันภาคตะวันออก ตามหมายจับคดีใช้จ้างวานฆ่า และนายธนา จุติกิติ์เดชา อายุ 26 ปี บุตรชาย ตามหมายจับคดีจัดให้มีการเล่นพนันและฟอกเงิน พร้อมกับพวกรวม 8 คนมาดำเนินคดี หลังจากสอบสวนแล้วพบว่านายสมชายมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีใช้จ้างวานคนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ที่เข้าไปแอบถ่ายรูปบ่อนพนันในเมืองพัทยามาร้องเรียน ทำให้นายสมชายสูญเสียผลประโยชน์ เบื้องต้นสอบปากคำผู้ต้องหาทั้งหมดยังคงให้การปฏิเสธตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. พร้อมพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.ได้ควบคุมตัวนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือ “หลงจู๊สมชาย” และพวกรวม 8 คน ไปขออำนาจศาลฝากขังที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก หลังถูกจับกุมในปฏิบัติการ “ยุทธการหนุมานดับบูรพา” เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากควบคุมตัวไว้สอบปากคำจนครบกำหนด 48 ชั่วโมงแล้ว

พ.ต.อ.เอนกกล่าวว่า ภายหลังการจับกุม พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาในหลายประเด็น โดยนายสมชายนั้นถูกดำเนินคดีข้อหาจ้างวานฆ่าวินจักรยานยนต์รับจ้างที่แอบถ่ายภาพในบ่อนการพนันไปเปิดเผยให้บุคคลภายนอก และข้อหาฟอกเงินจากการเปิดบ่อนการพนัน 2 แห่งในพื้นที่จ.ชลบุรี คือบ่อนนำชัยและบ่อนอรุโณทัย

ส่วนกรณีของนายธนา จุติกิติ์เดชา บุตรชายของนายสมชายและพวกรวม 7 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหาฟอกเงินจากการเปิดบ่อนการพนัน และข้อหาร่วมกันจัดให้มีการเล่นการพนัน ทั้งหมดยืนกรานให้การปฏิเสธ โดยพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านประกันตัว เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหาร่วมกันกระทำความผิดเป็นขบวนการ และเป็นผู้มีอิทธิพล หากได้รับการประกันตัวก็อาจไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานได้ รวมทั้งเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง เกรงว่าถ้าได้ประกันผู้ต้องหาอาจหลบหนีได้

พ.ต.อ.เอนกกล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ปรากฏว่ามีคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายสมชายกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่นั้นว่า พนักงานสอบสวนนำเอาหลักฐานคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวมาตรวจสอบแล้ว เบื้องต้นพบว่าเป็นการพูดคุยสนทนากันในเรื่องทั่วไป ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้แต่อย่างใด

ขณะเดียวกันมีญาติของนายสมชายและกลุ่มผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้อง ก็เตรียมไปยื่นหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวในชั้นศาล ต่างก็รอลุ้นกันว่าศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวหรือไม่ เนื่องจากครั้งก่อนนายสมชายถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหาจัดให้มีการเล่นการพนัน และต่อมาศาลอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวออกไปสู้คดี กระทั่งมาถูกจับกุมดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกครั้ง








Advertisement

สำหรับคดีดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการขอศาลอาญาออกหมายจับ 35 หมายจับ ผู้ต้องหา 22 คน ถูกจับได้แล้ว 8 คน ที่เหลือยังอยู่ระหว่างขยายผลติดตามตัว ส่วนทรัพย์สินที่จะต้องอายัดมีทั้งหมด 665 รายการ มูลค่ากว่า 1,500 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือปปง.เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินของเครือข่ายเป็นเงินสดและทรัพย์สินกว่า 700 ล้านบาทที่ถูกยักย้ายถ่ายเทไปแล้ว รวมทั้งรถยนต์อีกกว่า 500 คัน ส่วนใหญ่เป็นรถกระบะ ที่รถบางคันถูกนำมาใช้ในการขนย้ายตู้ม้าและความผิดอื่นๆ ด้วย

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกัน นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจชื่อดัง ได้เดินทางมาสังเกตการณ์ที่ศาลอาญาด้วย พร้อมกล่าวว่า ตนต้องการมาสังเกตการณ์ว่า ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คนหรือไม่โดยเฉพาะนายสมชายกับลูก หากคดีนี้ศาลอนุญาตให้ประกันตัว ตนเองก็จะยื่นขอประกันตัวนายโป้ โป้อานนท์ หรือ “เสี่ยโป้” บ้าง แต่เบื้องต้นพบว่ามีเพียงญาติของ ผู้ต้องหาหญิงคดีฟอกเงินเท่านั้นที่มายื่นขอประกันตัว ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ อีก 7 รายนั้นยังไม่มีญาติมาขอยื่นประกันแต่อย่างใด ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหลงจู๊สมชายน่าจะรู้ตัวว่า ถึงยื่นไปก็คงไม่ได้อย่างแน่นอน

ต่อมาวันเดียวกัน ศาลได้พิจารณาคดีที่นายสมชาย กับพวกรวม 4 สำนวน ตกเป็น ผู้ต้องหาในความผิดจ้างวานฆ่าฯ, จัดให้มีการเล่นพนัน และร่วมกันฟอกเงินนั้น นายสมชายเป็นผู้ต้องหาตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 390/2564 ความผิดจ้างวานฆ่าฯ และ 391/2564, 392/2564 ความผิดจัดให้มีการเล่นพนันและร่วมกันฟอกเงิน ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้ ส่วนนายธนา จุติกิติ์เดชา บุตรชาย ที่เป็นผู้ต้องหาตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 389/2564 ความผิดร่วมกันฟอกเงิน, 392/2564 ความผิดจัดให้มีการเล่นพนันและร่วมกันฟอกเงิน และผู้ต้องหาอื่นบางคนก็ไม่ได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวในชั้นนี้เช่นกัน มีเพียงผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.นภัสสร ปรุโปร่ง และผู้ต้องหาที่ 2 นายวราวุธ วรวุฒิปรีชาเวชช์ ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 389/2564 ความผิดฟอกเงิน กับผู้ต้องหาที่ 5 น.ส.ริตา ศิริม่วง, ผู้ต้องหาที่ 6 น.ส.อนัญญา กุนเทียน ตามคำร้องฝากขังหมายเลขดำ 392/2564 ความผิดฟอกเงิน ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดเพื่อขอปล่อยชั่วคราวในชั้นฝากขังนี้

ศาลพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหาและพฤติการณ์แห่งคดี ประกอบคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนแล้ว เห็นว่ากระทำความผิดเป็นเครือข่ายขบวนการ กระทบต่อศีลธรรมและความสงบสุขของสังคมส่วนรวม คดีมีอัตราโทษสูง พฤติการณ์แห่งคดีถือเป็น เรื่องร้ายแรง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาจะหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวให้ยกคำร้อง ด้านพ.ต.อ.เอนกเปิดเผยเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากพานายสมชายไปฝากขัง ผู้ต้องหาไม่ได้ยื่นเรื่องขอประกันตัว มีเพียงผู้ต้องหาบางรายเท่านั้นที่ยื่นขอประกันแต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันทุกคน ทำให้ผู้ต้องหาชายจะถูกนำตัวไปควบคุมที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วน ผู้ต้องหาหญิงก็จะส่งไปควบคุมที่ทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

นอนคุก – ตำรวจกองปราบฯ คุมนายสมชาย จุติกิติ์เดชา หรือหลงจู๊สมชาย พร้อมลูกชายและพวกรวม 8 คนไปฝากขังในคดีจ้างวานฆ่าวินจยย. โดยเจ้าตัวไม่ได้ยื่นขอประกันตัว ส่วนที่เหลือศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว จึงถูกส่งตัวเข้าเรือนจำทันที เมื่อวันที่ 27 มี.ค.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน