ทั้งคนเจ็บ
ผู้เสียชีวิต
บ้านถล่ม

‘ในหลวง’ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ รวมถึงรับผู้บาดเจ็บเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ด้วย ด้านกู้ภัยค้นหาทั้งคืน ศพนักดับเพลิงที่ยังติดอยู่ในซากอาคารหรูถล่ม จนเช้าถึงเคลื่อนย้ายศพออกมาได้ทั้งหมดแล้ว ส่วนครอบครัว-พร้อมเพื่อนนักผจญเพลิงแห่อาลัยรอรับศพแน่นโรงพยาบาล

ทรงห่วงใย – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์เชิญแจกันดอกไม้พระราชทาน มอบให้จนท.กู้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุบ้านถล่ม และพระราชทานพวงมาลาหลวงวางหน้าหีบศพผู้เสียชีวิตด้วย เมื่อ 4 เม.ย.

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 4 เม.ย. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พล.อ.ท.ภักดี แสง- ชูโต ผู้ช่วยราชเลขานุการในพระองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และเชิญพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพวงมาลาของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปวางหน้าหีบศพนายสมัญญา นิลธง นายอรรถพล ท้วมทอง และนายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ระงับเหตุเพลิงไหม้ อาคารถล่มในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 3 เม.ย. 2564 ณ วัดศาลาแดง เขตบางแค กรุงเทพมหานคร

ในโอกาสนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่นายวีรพล ทองศิริ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว ณ วัดศาลาแดง ด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 16.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิตรพัฒน์ ไกรฤกษ์ รองอธิบดีกรมราชเลขานุการในพระองค์ ไปในพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ และเชิญพวงมาลาหลวง พวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพวงมาลาของเจ้าคุณพระสินีนาฏ พิลาสกัลยาณี ไปวางหน้าหีบศพนายธนภพ ประไพ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ณ วัดนครอินทร์ อ.เมือง จ.นนทบุรี

วันเดียวกันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้พล.ต.ต.ชัยทัต บุญขำ รองอธิบดีกรมบังคับการสำนักพระราชวัง เชิญดอกไม้และตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบแก่ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยที่ได้รับบาดเจ็บที่เข้าพักรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลต่างๆ ได้แก่ นายอิทธิพล ประสงค์ทรัพย์ นายกฤษฎี สังข์นาง น.ส.จิรภัทร นนทฤทธิ์ น.ส. ฐิติรักษ์ ทิมแตง และนายสุรศักดิ์ เปลี่ยนกลัด ณ โรงพยาบาลหัวเฉียว โรงพยาบาลธนบุรี 2 และโรงพยาบาลวิชัยเวช หนองแขม

ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการศพแก่ผู้เสียชีวิตด้วย ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

ก่อนหน้านั้น เมื่อเวลา 01.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำอุปกรณ์ตัดถ่างโครงสร้างบ้านเกิดเหตุเพื่อนำซากปรักหักพังออก โดยบริเวณด้านข้างตัวอาคารพบศพนายสุทัศน์ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาสาดับเพลิงติดอยู่ใต้คานชั้น 2 ของตัวบ้าน และสามารถนำร่างออกมาได้เป็นรายแรก พร้อมกับนำธงชาติห่อร่างออกมาอย่างสมเกียรติด้วย

ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า เราสามารถเคลื่อนย้ายร่างของผู้เสียชีวิตออกมาได้อีกหนึ่งราย นับเป็นรายที่ 2 รวมกับรายแรกที่พบไปเมื่อตอนกลางวันที่ผ่านมา หากนับจากผู้ที่ติดในซากอาคารทั้ง 4 ราย ก็ถือเป็นรายแรก เชื่อว่าจะได้ร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 รายที่อยู่ใกล้กันและถัดไป ส่วนรายสุดท้ายที่น่าจะอยู่ตรงกลาง การค้นหานั้นจะมีเจ้าหน้าที่จากสภาวิศวกรรมสถานและเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้ามาดูแลเรื่องการขุดเจาะ

ร่ำไห้รับศพ – ญาติร่ำไห้กอดศพเจ้าหน้าที่อาสาดับเพลิงที่กู้ออกจากซากอาคารที่ถล่มจากเหตุเพลิงไหม้ ในหมู่บ้านกฤษดานคร 31 ถ.พุทธมณฑล สาย 3 เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ หลังระดมค้นหาทั้งคืนจนนำร่างออกมาได้ครบทั้ง 4 ราย เมื่อวันที่ 4 เม.ย.

ต่อมาเมื่อเวลา 06.30 น. เจ้าหน้าที่จึงสามารถนำร่างของนายอรรถพล ท่วมทอง อายุ 26 ปี และนายสมัชชา นิลธร อายุ 48 ปี อาสาสมัครกู้ภัยออกจากซากอาคารได้สำเร็จ โดยไปพบศพอยู่ที่บริเวณโซนบี ชั้นสอง ก่อนนำผู้เสียชีวิตทั้งหมดส่งไปยังแผนกนิติเวช ร.พ.ศิริราช ต่อไป ขณะเดียวกันก็มีญาติของอาสาทั้งคนที่มาเฝ้ารอการค้นหา เมื่อเห็นศพต่างก็ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ ต่อมาเมื่อเวลา 09.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำศพของนายเกียรติ แพทเตอร์สัน อายุ 35 ปี เลขานุการของเจ้าของบ้านหลังดังกล่าวออกมาเป็นรายสุดท้ายที่นำออกมาจากที่เกิดเหตุได้ ก่อนนำศพส่งไปยังแผนกนิติเวช ร.พ.ศิริราช เพื่อทำการชันสูตร

ด้านนายพรเลิศ เพ็ญพาส ผอ.เขตทวีวัฒนา กล่าวว่า เจ้าหน้าที่เขตได้ปิดกั้นพื้นที่เป็นเขตพื้นที่อันตราย พร้อมประสานงานกับทาง ผู้แทนเจ้าของบ้านว่าจะดำเนินการเรื่องรื้อถอนโดยเร็ว โดยทางตำรวจขอให้เหลือพื้นที่ชั้น 1 ไว้เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุเพลิงไหม้และอาคารถล่มครั้งนี้ เพราะชั้น 1 ถือเป็นจุดต้นเพลิง คาดว่าจะตรวจสอบเเล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า อย่างไรก็ตามทางตัวเเทนเจ้าของบ้านระบุว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับบ้านละเเวกใกล้เคียงที่ได้รับความเสียหายก็จะรับผิดชอบชดใช้ทั้งหมด

ส่วน พล.ต.ต.เอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผบก.น.7 กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทางพนักงานสอบสวนของสน.ธรรมศาลา ลงพื้นที่ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงที่ทางญาติๆ ของผู้เสียชีวิตกำลังจัดพิธีศพ ก็เลยยังไม่ขอรบกวน แต่หลังจากนั้นแล้วก็จะเริ่มสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุเพลิงไหม้และอาคารถล่มลงมาอีกครั้ง

วันเดียวกัน ที่บช.น. พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น. ฐานะโฆษกบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นพบมีผู้เสียชีวิต 5 คน รายแรกเป็นเลขาฯเจ้าของบ้าน 1 คน อีก 4 ราย เป็นอาสาสมัครกู้ภัย ส่วนผู้บาดเจ็บ 3 ราย ส่งรักษาอาการที่ร.พ.ศิริราช ส่วนเรื่องการตรวจสอบสภาพอาคารนั้น พนักงานสอบสวนสน.ธรรมศาลา ได้ประสานทางเขตทวีวัฒนาแล้ว แต่เนื่องจากติดวันหยุดจึงยังตรวจสอบไม่ได้ชัดเจนว่า อาคารดังกล่าวมีการยื่นขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ หากทำผิดกฎระเบียบก็จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

ที่ภาควิชานิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลศิริราช นางทิพา ทันปรีชา น.ส.พัตรพิมล ศรีไพร ซึ่งเป็นแม่และภรรยา เดินทางมารับศพนายธนภพ หรือต้น ประไพ อายุ 44 ปี รหัสเหนือ 33-00 อปพร.เทศบาลนครนนทบุรี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าโศกมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยและอาสาสมัครเตรียมความพร้อมจัดขบวนเพื่อนำศพนายธนภพไปทำพิธีที่วัดนครอินทร์ จ.นนทบุรี อย่างสมเกียรติ

นางทิพาเปิดเผยว่า ลูกชายเป็นคนมีจิตใจดีชอบช่วยเหลือสังคมและไม่เคยทอดทิ้งครอบครัว ทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยมมาก ทุกครั้งที่ลูกออกปฏิบัติทำหน้าที่ ตนคอยเตือนเสมอว่าให้ดูแลตัวเองมาโดยตลอด แต่ไม่นึกว่าจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับลูกของตนเองแบบนี้

ส่วนน.ส.พัตรพิมล ภรรยาของนายธนภพ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนร่วมงานโทร.มาปลุกสามีว่า มีเหตุเพลิงไหม้ให้รีบลุกออกไปทำหน้าที่ ก่อนจะออกจากบ้านสามียังบอกว่าจะกลับมาช่วง 07.00 น.เพราะมีนัดไปทำบุญด้วยกัน แต่สุดท้ายก็ไม่กลับมา ส่วนตัวแล้วสามีนั้นเป็นคนรักงานกู้ภัย ปกติสามีจะเป็นคนระวังตัว มีประสบการณ์การทำงานมา 25 ปี ไม่ทราบว่าเหตุใดครั้งนี้จึงเป็นแบบนี้ แต่ก็รู้สึกภูมิใจกับหน้าที่การงานของสามี

ด้านนายอรุพงษ์ แก้วกัญหา อาสาสมัครบรรเทาเหนือ เปิดเผยว่า ตนเป็นคู่หูของผู้ตาย ตามปกติตนต้องไปกับพี่ต้นด้วย แต่ว่าเมื่อวานพี่ต้นไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปด้วยตนจึงไม่ทราบ เมื่อรู้ข่าวไฟไหม้อาคารถล่มลงมาก็เลยตามไปทีหลัง หลังจากนั้นก็ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดอยู่ในซากอาคาร พอตนเห็นหมวกก็จำได้ในทันทีว่าคนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารคือคู่หูของตนก็เสียใจมาก เพราะผู้ตายคอยให้คำแนะนำและช่วยเหลืออาสาสมัครรุ่นน้องมาตลอด พร้อมเป็นจิตอาสาด้วยใจ เหตุที่เกิดขึ้นถือว่าผู้ตายทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว

จากนั้นเมื่อเวลา 13.55 น.วันเดียวกัน ญาติของนายสมัชชา หรือชล นิลธง อายุ 48 ปี นายสุทัศน์ หรือโอ เปลี่ยนกลัด อายุ 38 ปี นายอรรถพล หรือ ป๊อป ท้วมทอง อายุ 26 ปี ต่างเดินทางทยอยกันมารับศพตามลำดับ โดยมีขบวนของเจ้าหน้าที่ดับเพลิง-กู้ภัยและอาสาสมัคร รวมกันนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่วัดศาลาแดง แขวงบางไผ่ เขตบางแค กทม. ขณะที่ศพนายเกียรติ แพตเตอร์สัน นั้นทางครอบครัวผู้ตายยังไม่มาติดต่อขอรับศพแต่อย่างใด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน