อัศวินสั่งมีผลทันทีถึง19เมย.
ยอดป่วยกระฉูดอีก194ราย
สุพัฒนพงษ์โชว์ผลไม่ติดเชื้อ
‘ตู่’ว้ากไร้จิตสำนึก-โควิดลาม
สธ.ปรับระดับสีพื้นที่ใหม่คุมผับบาร์สถานบันเทิง งัดพื้นที่สีแดงควบคุมสูงสุด 5 จว. ทั้งกทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ นครปฐม ให้เปิดได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม ห้ามขาย-ดื่มเหล้า ส่วนพื้นที่สีส้ม ปรับเป็น 9 จว. กินดื่มในร้านได้ เล่นดนตรีสดได้ แต่งดเต้น ไม่เกิน 5 ทุ่ม สีเหลือง 10 จว.และเขียว 53 จว. ชงศบค.ชุดเล็กวันพุธนี้ บังคับใช้ 2 สัปดาห์ คลัสเตอร์ผับกรุงลามแล้ว 7 จังหวัด ในกทม.มีหนูน้อย 5 เดือนติดเชื้อด้วย ‘สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์’ รมว.พลังงานโชว์ผลตรวจเป็นลบไม่ติดเชื้อ หลังตกเป็นข่าวไปเที่ยวผับย่านทองหล่อ ผู้ว่าฯกทม.สั่งปิดผับ 196 แห่ง ใน 3 เขตกรุงจากคลัสเตอร์ผับทองหล่อ ศบค.เผยไทยป่วยโควิดเพิ่ม 194 ขณะที่ยอดป่วยเคสเรือนจำนราธิวาสยังพุ่งไม่หยุด 126 คนแล้ว กรมราชทัณฑ์ปีติ‘ในหลวง-พระราชินี’พระราชทานรถตรวจหาเชื้อโควิดให้ทางเรือนจำนราฯ ตรวจคัดกรองผู้ต้องขัง ‘สมเด็จเจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ’ พระราชทานเงิน 3 แสนช่วยเหลือเรือนจำ ในภาคใต้
ไทยติดเชื้อโควิดพุ่ง 194
เมื่อวันที่ 5 เม.ย. พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) แถลงสถานการณ์โรคโควิด-19 ประจำวัน ว่า สถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อรวม 131,908,089 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 534,856 ราย เสียชีวิต 2,865,917 ราย เพิ่มขึ้น 6,742 ราย อินเดียวันเดียวบวก 103,793 ราย ส่วนยุโรปยังน่าเป็นห่วง ฝรั่งเศสติดรายใหม่ 60,922 ราย ทวีปเอเชีย ฟิลิปปินส์รายใหม่ 11,028 ราย ญี่ปุ่นรายใหม่ 2 พันกว่าราย และอาจประกาศล็อกดาวน์ มาเลเซีย พม่า เรายังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดเพราะมีชายแดนติดกับบ้านเรา กัมพูชาและเวียดนามยังต้องจับตาเพราะมีรายงานต่อเนื่อง
สำหรับประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 194 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 182 ราย และเดินทางมาจากต่างประเทศ 12 ราย หายป่วยเพิ่ม 66 ราย ไม่มีเสียชีวิต ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 29,321 ราย หายป่วยแล้ว 27,840 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 1,386 ราย เสียชีวิตสะสม 95 ราย สำหรับการระบาดรอบใหม่ ติดเชื้อสะสม 25,084 ราย หายป่วย 23,663 ราย เสียชีวิตสะสม 35 ราย
โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่แบ่งเป็น 3 พื้นที่คือสมุทรสาคร 4 ราย กทม. 46 ราย ส่วนหนึ่งมาจากสถานบันเทิง และจังหวัดอื่นๆ รวม 132 ราย ส่วนหนึ่งอยู่ในเรือนจำนราธิวาส ทั้งนี้ทิศทางแนวโน้มถือว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
คลัสเตอร์ผับกรุงลามแล้ว 7จว.
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า ผู้ติดเชื้อมาจาก 1.ระบบเฝ้าระวังและบริการ 87 ราย ได้แก่ กทม. 45 ราย สมุทรปราการ 9 ราย ชลบุรี 7 ราย สุพรรณบุรี 7 ราย สมุทรสาคร 4 ราย นนทบุรี 4 ราย ประจวบคีรีขันธ์ 2 ราย ชัยภูมิ 2 ราย ชุมพร 2 ราย ตาก 1 ราย สมุทรสงคราม 1 ราย สระแก้ว 1 ราย นราธิวาส 1 ราย และปทุมธานี 1 ราย
2.การคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 95 ราย ได้แก่ นราธิวาส 93 รายในเรือนจำ กทม. 1 ราย และปทุมธานี 1 ราย และ 3.เดินทางจากต่างประเทศ 12 ราย ได้แก่ เอธิโอเปีย และบังกลาเทศ ประเทศละ 2 ราย เยเมน รัสเซีย บราซิล อินเดีย สหรัฐอเมริกา สวีเดน เยอรมนี และมาเลเซีย ประเทศละ 1 ราย
“กทม.การติดเชื้อยังเชื่อมโยงกับสถานบันเทิงและผับบาร์ รวมถึงหลายจังหวัด เช่น สมุทรปราการ 9 ราย ชลบุรี 7 ราย นนทบุรี 2 ใน 4 ราย สมุทรสงคราม สระแก้ว และปทุมธานี ที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ส่วนชุมพรมีประวัติเชื่อมโยงเที่ยวผับแถวรัชดา ด้านสุพรรณบุรีเบื้องต้นพบว่ากลับจากล่องแพกาญจนบุรี ชัยภูมิเป็นการสัมผัสติดเชื้อจากบุคลากรที่ทำงานสถานพยาบาล ส่วนนราธิวาสเกี่ยวกับการติดเชื้อในเรือนจำ” พญ.อภิสมัยกล่าวและว่า สิ่งที่ศบค.เน้นย้ำจับตาเป็นพิเศษคือกลุ่มจังหวัดที่เชื่อมโยงสถานบันเทิงกทม.และปริมณฑล ทั้ง กทม. ชลบุรี นนทบุรี สมุทรสงคราม สระแก้ว ปทุมธานี ถือว่ากลุ่มก้อนเดียวกัน ขณะที่ชุมพรก่อนหน้านี้แทบไม่มีรายงานก็ติดเชื้อจากผับ ในสัปดาห์นี้โดยรวมติดเชื้อ 19 จังหวัด จังหวัดไม่พบผู้ติดเชื้อเหลือ 9 จังหวัด โดยชุมพรถือว่ามีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่ไปเรียบร้อย
ผับทองหล่อติดเชื้อแล้ว 71
พญ.อภิสมัยกล่าวด้วยว่า การประชุมศบค.หารือเรื่องสถานบันเทิงใน กทม.และปริมณฑล ตัวเลขรายงานล่าสุด 3 เม.ย. มีผู้ติดเชื้อยืนยันคลัสเตอร์เดียวกัน 71 ราย โดยปทุมธานีย่านรังสิต 5 ราย แต่การสอบสวนติดตามสัมผัสเสี่ยงสูงเสี่ยงต่ำ ยังไม่ยุติ ตามอย่างต่อเนื่อง ปทุมธานีที่เชื่อมโยง น.ศ. 6 ราย บางใหญ่ นนทบุรี มีรายงานติดเชื้อ 8 ราย นครปฐมศาลายา รายงาน 7 ราย กทม.กระจายหลายจุด ทั้งทองหล่อ จตุจักร เอกมัย รัชดา บางย่านบางผับ พบ 21 ราย 3 ราย 8 ราย 5 ราย รวมทั้งการนำไปติดยังครอบครัวนักร้องนักดนตรีบวก 5 ราย ศบค.ติดตามคลัสเตอร์สถานบันเทิงไปจังหวัดอื่น เลย ชลบุรี ชุมพร สมุทรสงคราม และเชียงใหม่ พบว่าเชื่อมโยงทั้งหมดเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน นอกจากนี้การติดเชื้อจากผับบาร์ยังแพร่มาติดคนในครอบครัว โดยในกทม. พบเด็กอายุ 5 เดือน ติดเชื้อด้วย
ศบค.ชง 3 ระดับปิดผับบาร์
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ทางอธิบดีกรมควบคุมโรคจะเสนอที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุข (อีโอซี) กระทรวงสาธารณสุข สืบเนื่องจากมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินที่ให้อำนาจพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าตรวจและดูแลสถานที่ และสั่งปิดสถานบริการเป็นการชั่วคราวได้ โดยศบค.เข้าใจผู้ประกอบการที่ต้องทำมาหากิน แต่ต้องบริหารความเสี่ยงไม่ให้มีการแพร่ระบาดไปยังครอบครัวหรือชุมชน ซึ่งข้อสรุปของศบค.ชุดเล็ก จะนำเสนอมาตรการเป็น 3 ระดับ ระดับแรก หากสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ มีรายงานผู้ติดเชื้อเมื่อไหร่ สถานบริการนั้นจะต้องปิดทันที และระวังควบคุมโรคอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ระดับสอง หากพบสถานประกอบการใดมีผู้ติดเชื้อเป็นโซนในละแวกใกล้เคียงกัน จะมีการปิดทั้งโซน เช่นปิดทองหล่อทั้งโซน
ระดับสาม หากเกิดสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ ผู้ว่าฯพิจารณาแล้ว การแพร่ระบาดกระจายไปทั้งจังหวัด สามารถพิจารณาร่วมกับคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ปิดสถานประกอบการเหล่านี้ทั้งจังหวัดได้
คุกนราฯติดเชื้อ112-เสี่ยง 791
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ ไปถึงจ.นราธิวาสแล้ว เนื่องจากพบการติดเชื้อในเรือนจำนราธิวาส โดยตัวเลขเมื่อวันที่ 3 เม.ย. มีการตรวจไปแล้วทั้งสิ้น 214 ตัวอย่าง พบผู้ติดเชื้อ 112 ตัวอย่าง จำนวนนี้ เป็นนักโทษ 88 ราย เจ้าหน้าที่เรือนจำ 23 ราย พยาบาล 1 ราย และขณะนี้มีการสอบสวนโรคอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ 791 ราย
“จากการสอบสวนโรคคลัสเตอร์เรือนจำนราธิวาส พบว่าผู้ติดเชื้อรายแรกน่าจะเป็นพยาบาลที่พบว่ามีอาการตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. จากการสอบสวนโรคพบว่ามีประวัติเข้าไปดูแลนักโทษตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. ซึ่งการสอบสวนเพิ่มเติมพบว่านักโทษในแดนนั้นมีผู้ที่แสดงอาการป่วยทางเดินหายใจในวันที่ 25 มี.ค. จึงเข้าใจว่าพยาบาลคนดังกล่าวจะติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค. และตรวจพบเชื้อโควิด-19 วันที่ 29 มี.ค. อย่างไรก็ตาม มีนักโทษจำนวนหนึ่งเดินทางไปประชุมวิชาการที่ จ.สุราษฎร์ ธานี ทำให้จ.สุราษฎร์ธานีมีรายงานผู้ติดเชื้อในวันนี้ที่ถือว่าเป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน 6 ราย โดยจะมีการค้นหาเชิงรุกใน จ.สุราษฎร์ธานี และนราธิวาสอย่างต่อเนื่อง”
พระราชทาน – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ส่งรถพระราชทานวิเคราะห์ผลด่วนพิเศษ มาบริการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่เรือนจำนราธิวาส (หลังใหม่) อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 5 เม.ย.
ปีติพระราชทานรถตรวจโควิด
เมื่อเวลา 11.30 น. ที่กระทรวงยุติธรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อที่เรือนจำจ.นราธิวาส
นายสมศักดิ์กล่าวว่า ตน ประชาชนและข้าราชการซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่พระราชทานอุปกรณ์และรถตรวจโควิดพระราชทานไปยังเรือนจำจ.นราธิวาส ล่าสุดเดินทางไปถึงแล้ว
“ส่วนสถานการณ์ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อ ยอดรวม 126 คน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่อยู่ในจ.นราธิวาส เป็นข้าราชการ 25 คน เวลานี้อยู่ที่ร.พ.นราธิวาส ผู้ต้องขัง 95 คน ขณะนี้กักตัวไว้ที่แดน 2 จำนวน 88 คน แดน 6 จำนวน 3 คน แดนหญิง 1 คน และอีก 3 คน อยู่ร.พ.นราธิวาส ขณะเดียวกันยังมีอีกส่วนที่ออกไปร่วมกิจกรรมต้านภัยยาเสพติด 6 คนที่จ.สุราษฎร์ธานี โดยเป็นผู้ต้องขัง 5 คนเจ้าหน้าที่ 1 คน ตอนนี้รักษาที่ ร.พ.สุราษฎร์ธานี”
เจ้าฟ้าพัชรฯพระราชทาน 3 แสน
วันเดียวกัน กรมราชทัณฑ์เผยแพร่เอกสารข่าว ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่เรือนจำเขตภาคใต้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ทรงรับทราบถึงปัญหาและทรงมีพระประสงค์ที่ จะช่วยเหลือ จึงพระราชทานเงินจำนวน 300,000 บาท ภายใต้โครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ พร้อมด้วยแอลกอฮอล์เจล และหน้ากากอนามัย เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองเชิงรุก และดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน พื้นที่ภาคใต้ ณ วังศุโขทัย
‘บิ๊กตู่’จวกคนไร้จิตสำนึก
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องคอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ ชั้น 3 โรงแรมรามา การ์เด้นส์ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมมอบนโยบายสำคัญของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย ให้แก่ผู้ว่าฯ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ โดยช่วงหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า ที่ผ่านมาเราสามารถทำได้ดีและถือว่าดีมากในอันดับต้นของโลก ซึ่งเราต้องทำให้ดีมากขึ้นกว่านี้ ทั้งส่วนราชการ รัฐบาล และทุกคนที่ช่วยกันอย่างเต็มที่ ทุกอย่างต้องยอมรับว่ามีปัญหาบ้าง เนื่องจากเรามีประชากรจำนวนมาก มีทั้งเรื่องความแตกต่างทางความคิด การยับยั้งช่างใจ หรือความสนุกสนานอย่างเลยเถิด
“รัฐบาลคาดหวังว่าในช่วงสงกรานต์ทุกคนจะมีความสุข แต่มันก็เกิดขึ้นมาอีกจนได้เพราะนี่คือคน ต่อให้มีมาตรการอะไรออกมาก็ตาม แต่เมื่อคนไม่ปฏิบัติตาม ยังไม่มีจิตสำนึกในความรับผิดชอบร่วมกัน ก็จะเป็นแบบนี้นั่นแหละ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ช่วยเหลือดูแลโดยเฉพาะการติดตามการใช้กฎหมาย แต่ต้องยอมรับว่ามีการเล็ดลอดทุกอย่าง มีการฝ่าฝืนมาตรการต่างๆ ที่กำหนดขึ้นมา มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกหรือ ทุกอย่างจะต้องแก้ตรงนี้”
ขู่ปิดผับบาร์สกัดเชื้อลาม
นายกฯ กล่าวต่อว่า ตนไม่สบายใจเลยเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันและร่วมมือกันสร้างแรงศรัทธาให้กับประเทศและสร้างความปลอดภัย ต้องไม่มีความขัดแย้ง รัฐบาลได้ปรับตัวและเปลี่ยน แปลงแล้ว ทุกคนควรจะต้องปรับตัวและเปลี่ยนแปลงพร้อมกัน
ส่วนกระแสข่าวว่ามีรัฐมนตรีไปสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ซึ่งพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า “อ้าว! เป็นข่าวลือเหรอ เขาชี้แจงแล้วนี่” เมื่อถามย้ำว่าการชี้แจงยังไม่ชัดเจนว่าตกลงไปหรือไม่ไปสถานบันเทิงดังกล่าว พล.อ. ประยุทธ์กล่าวอย่างเซ็งๆ ว่า “แล้วยังไง แล้วจะให้ผมทำอะไร”
เมื่อผู้สื่อข่าวซักต่อว่า สังคมอยากทราบข้อเท็จจริงเพื่อทุกคนจะได้ป้องกันตัวเองถูกต้อง นายกฯ กล่าวว่า “ข้อเท็จจริงคือผมไม่ได้ไปกับเขา และเขาก็เรียกมาตรวจสอบอะไรกันอยู่ แล้วเขาก็ยืนยันว่าไม่มี แล้วผมจะฟังใคร ข่าวลือหรือฟังข่าวจริง แต่ทุกคนต้องระมัดระวังมากที่สุด ถ้าเขาเป็นโควิดก็รักษากันไป ถ้าเรามองก็มองเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่เขาก็ต้องระมัดระวังมากขึ้น ถ้าเขาทำนะ ผมก็ได้เตือนไปอย่างนั้น”
เมื่อถามว่าจะพิจารณาปิดผับหรือไม่ นายกฯ กล่าวโดยไม่หันหน้ามามองว่า “กำลังพิจารณาอยู่”
‘สุพัฒนพงษ์’ยันไม่ติดโควิด
จากกรณีมีรายงานข่าวบุคคลระดับรัฐมนตรีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงย่านทองหล่อเมื่อวันที่ 25 มี.ค. โดยพบว่าอยู่ในห้องเดียวกับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ขณะที่รัฐมนตรีที่ปรากฏชื่อต่างออกมาปฏิเสธ ล่าสุดนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯ และรมว.พลังงานซึ่งเป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่มีชื่อในข่าว โพสต์เฟซบุ๊ก โชว์เอกสารผลตรวจหาเชื้อ โควิด ซึ่งตรวจไม่พบสารพันธุกรรมไวรัส ตรวจโดยกลุ่มงานเทคนิคการแพทย์ฯ โรงพยาบาลอุดรธานี เมื่อวันที่ 4 เม.ย.
พร้อมโพสต์ข้อความว่า “ตอนผมอยู่ที่จ.บึงกาฬ และจ.อุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนให้พึ่งพาตัวเองได้ มีข่าวลือกันว่าผมคือรัฐมนตรีที่ติดโควิด-19 ผมไม่ได้กังวลกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะทราบดีว่าไม่เป็นความจริง แต่เพื่อความเชื่อมั่นของประชาชนในการปฏิบัติงานของรัฐบาล โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ และเพื่อความสบายใจของผู้ที่ทำงานกับผม มาพบ หรือมาประชุมร่วมกับผม ก่อนหน้านี้และหลังจากวันนี้ ผมกับคณะที่มาด้วยกันจึงไปตรวจหาเชื้อที่ร.พ.อุดรธานี ผลการตรวจออกมาแล้วคือไม่มีใครติดเชื้อโควิด-19 ขอบคุณทุกท่านที่เป็นห่วง”
ส.ส.ไปงานเลี้ยงทูตญี่ปุ่นไม่ติดเชื้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงานเลี้ยงที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมา มีส.ว.และส.ส.ไปร่วมงานเกือบ 10 คน ซึ่งเป็นกรรมการกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ญี่ปุ่น โดยส.ว.ประกอบด้วย นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา นายมณเฑียร บุญตัน นายสมชาย แสวงการ นายประมนต์ สุธีวงศ์ นายอนุศักดิ์ คงมาลัย นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล นางพิกุลแก้ว ไกรฤกษ์ ส่วนส.ส.มี 2 คนคือ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยหลังจากทราบข่าวเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นติดเชื้อโควิดแล้ว เจ้าหน้าที่รัฐสภาโทรศัพท์แจ้งให้ส.ส.และส.ว.ที่ไปร่วมงานมาตรวจหาเชื้อโควิดโดย เร่งด่วน ผลการตรวจเบื้องต้นไม่พบมีส.ว. และส.ส.ติดเชื้อโควิด
แบ่งวัคซีนฉีดกลุ่มผับทองหล่อ
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) กรุงเทพมหานคร ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดคลัสเตอร์ใหม่ย่านทองหล่อ ที่ประชุมเห็นควรปรับเปลี่ยนการให้บริการฉีดวัคซีน ดังนี้ 1.เจ้าหน้าที่สำนักงานเขตที่มีโอกาสสัมผัสเชื้อ 2,000 โดส 2.ประชาชนกลุ่มเสี่ยงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดย่านตลาดบางแคและพื้นที่ใกล้เคียง 2,000 โดส 3.ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในสถานที่ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นใหม่ 1,800 โดส และ 4.ใช้เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของคลัสเตอร์ย่านทองหล่อ 4,200 โดส หรือกลุ่มเสี่ยง 2,100 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ด้านหน้าในพื้นที่ 400 คน และผู้ที่มีความเสี่ยงจากการสอบสวนโรค 1,700 คน
สั่งปิด 196 ผับ 3 เขตกทม.
พล.ต.อ.อัศวินแถลงภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกทม. ว่า ที่ประชุมมีมติปิดสถานบันเทิงในพื้นที่กรุงเทพ จำนวน 3 เขต ประกอบด้วย เขตคลองเตย เขตวัฒนา และเขตบางแค เพื่อควบคุมโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 6-19 เม.ย.นี้ สำหรับพื้นที่อื่นหากพบมีการติดเชื้อที่ร้านจะสั่งปิดเป็นรายๆ ไป อย่างไรก็ตามให้ทุกเขตตรวจกวดขันสถานบันเทิงให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มข้น หากพบสถานบันเทิงใดย่อหย่อน ผอ.เขตมีคำสั่งปิดสถานบันเทิงนั้น 3 วัน หากไม่ปรับปรุงแก้ไขให้นำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ กทม. เพื่อประเมินอีกครั้ง
ด้านร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษก กทม. แถลงว่า การปิดสถานบันเทิงใน 3 เขต รวม 196 แห่ง แบ่งเป็นคลองเตย 75 แห่ง วัฒนา 81 แห่ง และ บางแค 40 แห่ง ทั้งนี้แนวทางดังกล่าวเป็นการล็อกโซน เนื่องจากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ล่าสุดตรวจกลุ่มเสี่ยง ในคลัสเตอร์ทองหล่อ รวม 3 วัน 1,177 ราย พบติดเชื้อ 118 ราย ไม่ติดเชื้อ 125 ราย รอผลอีก 934 ราย ส่วนเฉพาะเขตบางแค มีพบผู้ติดเชื้อแล้ว 27 ราย กทม.จึงต้องเร่ง ออกมาตรการก่อนที่มาตรการใหญ่ของศบค. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 7 เม.ย.นี้ กทม. จะนำมาปรับให้เป็นไปตามแนวเดียวกัน อีกครั้ง
ขณะที่วันที่ 6 เม.ย. สำนักอนามัย กทม. จะตั้งจุดบริการฉีดวัคซีนให้กลุ่มเสี่ยงสัมผัสเชื้อจากสถานบันเทิงที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 21 วัดธาตุทอง 300 คน เป็นเวลา 1 วัน หลังจากนั้นจะไปฉีดวัคซีนให้ที่ลานกีฬาแสงทิพย์ ซอยปรีดีพนมยงค์ 2 อีกวันละ 600 คน เป็นเวลา 3 วัน
นนท์ป่วยอีก 4 โยงผับทองหล่อ
ศูนย์ปฏิบัติการ COVID-19 จังหวัดนนทบุรี รายงานว่าพบผู้ป่วยยืนยัน 4 ราย ดังนี้ ชายไทย อายุ 30 ปี อยู่คอนโดฯย่านปากเกร็ด ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีอาชีพขายของออนไลน์ พักอาศัยอยู่กับเพื่อน 1 คน ประวัติเสี่ยง สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันของกทม. พนักงานเสิร์ฟร้านคริสตัล ทองหล่อ ชายไทย อายุ 26 ปี พักอาศัยอยู่ กับแฟน ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 318 ที่แฟลตตำรวจ สภ.บางใหญ่ รับราชการตำรวจ ที่สภ.บางใหญ่ มีเจ้าหน้าที่ 90 คน ตรวจโควิด-19 แล้วทุกคน ไม่พบการติดเชื้อโควิด-19
ชายไทย อายุ 51 ปี อาชีพเล่นหุ้น พักอาศัยอยู่กับบิดาและแม่บ้านชาวพม่า และชายไทย อายุ 37 ปี เป็นนักร้องโดยจะทำหลักๆ อยู่ 3 แห่ง ได้แก่ ร้านคริสตัลทองหล่อ ร้าน The pimp เหม่งจ๋าย ร้านเซอเบท เอกมัย
สุพรรณฯเจอเพิ่มอีก 3 ราย
นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล รองผวจ.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบคัดกรอง วันนี้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 ราย ยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวม 25 ราย โดยทั้ง 25 รายนี้เป็นการระบาดฯ กลุ่มก้อนจากการสัมผัสกับผู้ติดเชื้อผู้ป่วยจากนนทบุรี แล้วร่วมเดินทางไปเที่ยวลงแพ จ.กาญจนบุรี และไปงานวันเกิดสังสรรค์ โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย จากการติดเชื้อรอบแรก 9 ราย และขยายผล จากทีมสอบสวนโรคพบอีก 13 ราย และวันนี้พบอีก 3 ราย ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อจาก 9 รายแรก และขยายผลไปถึงยังผู้ที่พักอาศัยร่วมกัน ผู้สัมผัสใกล้ชิด ถือว่าควบคุมได้ ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงสูงได้กักตัวที่โรงแรมกีฬากว่า 30 ราย
ชลบุรีติดโควิดอีก 7
ด้านสำนักงานสาธารณสุข จ.ชลบุรี รายงานพบว่ามีผู้ติดเชื้อใหม่ 7 ราย ดังนี้ 1.เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในจ.สมุทรปราการ มาขอรักษาในชลบุรี 1 ราย 2.ผู้ติดเชื้อในกลุ่มก้อนของชาวญี่ปุ่นที่ไปร่วมงานสังสรรค์ใน กทม. 6 ราย โดยไปร่วมงาน กทม. 2 ราย และเป็นผู้สัมผัส 4 ราย ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น 5 ราย และไทย 1 ราย โดยค้นหาผู้สัมผัสและส่งตรวจหาเชื้อแล้ว 110 ราย ผลออกมาแล้ว 20 ราย ไม่พบเชื้อ 17 ราย และพบเชื้อ 3 ราย
ปทุมธานีป่วยโควิดอีก 2
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี รายงานพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิง อายุ 19 ปี และ ชาย อายุ 53 ปี โดยหญิง อายุ 19 ปี อยู่อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่าไปเที่ยวร้านอาหารหลายร้าน รวมทั้งไปเรียนหนังสือที่มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ไปตรวจคัดกรองโควิดแล้วก็ยังออกไปเที่ยวร้านอาหารต่ออีก กระทั่งพบว่าติดเชื้อ
ส่วนชาย อายุ 53 ปี อยู่อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ทำงานเป็นนักดนตรีที่ร้านคริสตัล ทองหล่อ เป็นประจำทุกวัน เวลา 21.00-23.00 น. หยุดวันอาทิตย์ เริ่มมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย. ก่อนตรวจพบติดเชื้อ
ลพบุรีป่วยโควิด-โยงผับทองหล่อ
ที่ห้องประชุมพระปรางค์สามยอด ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดลพบุรี นพ.ชนบท บัวหลวง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลพบุรี และนพ.วรวิทย์ สัมฤทธิ์ดี โฆษกศบค. จังหวัดลพบุรี ร่วมกันแถลงว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย เป็นเพศหญิง อายุ 27 ปี ทำงานอยู่ที่สถานบันเทิงย่านทองหล่อ กรุงเทพฯ พักอาศัยคอนโดมิเนียมย่านพระราม 9 ขณะนี้รักษาตัวในร.พ.โคกสำโรง
สธ.ปรับ5จว.เป็นสีแดงคุมผับบาร์
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการในภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า วันนี้ประเทศไทยติดเชื้อ 194 ราย โดยติดเชื้อในประเทศ 182 ราย มี 2 กลุ่มใหญ่ คือผู้ต้องขังเรือนจำนราธิวาส แต่ไม่เป็นปัญหา ใช้มาตรการบับเบิล แอนด์ซีล เหมือนโรงงานและห้องกักตัว ตม.บางเขน อีกกลุ่มคือการระบาดในสถานบันเทิง นักเที่ยว พนักงาน นักดนตรี พื้นที่กทม. ปริมณฑล และมีการเดินทางไปหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต ขอนแก่น มาตรการต้องเข้มมากขึ้น เพราะตอนนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ ดังนั้นคณะกรรมการด้านวิชาการ จึงประชุมเมื่อเช้าวันที่ 5 เม.ย. โดยมีมติ คือ1.ให้กรมควบคุมโรคกำหนดพื้นที่ ได้แก่พื้นที่ควบคุมสูงสุด พื้นที่ควบคุม พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด และพื้นที่เฝ้าระวัง หรือปรับระดับสีให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อดำเนินการได้ตรงสถานการณ์
2.ช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนกลับภูมิลำเนา ขอให้อสม.ในจังหวัดปลายทางติดตามผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง โดยเฉพาะสถานบันเทิงจาก กทม. และปริมณฑล เพื่อแนะนำไปตรวจหาเชื้อ 3.มอบกรมควบคุมโรควางแผนเฝ้าในกลุ่มเสี่ยง เน้นสถานบันเทิง ผับบาร์ โดยเฉพาะกทม.และปริมณฑล เบื้องต้นกทม.มีสถานบันเทิงพันกว่าแห่งจะมีการจัดระบบเฝ้าระวังสม่ำเสมอ
4.ให้ทุกจังหวัดเฝ้าระวังผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยง ให้อสม.เคาะประตูบ้าน 5.ร.พ.ทุกแห่งซักประวัติคนไข้ต้องสงสัย โดยเฉพาะการไปเที่ยวสถานบันเทิงเพื่อตรวจหาเชื้อได้ทัน 6.ให้สถาบันบำราศนราดูร และสถาบันป้องกันและควบคุมโรคเขตเมือง (สปคม.) เปิดบริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด บริการประชาชนที่สงสัยต้องการตรวจหาเชื้อโควิด และ7.ทุกจังหวัดพิจารณานำวัคซีนเพื่อการควบคุมโรคตามคำแนะนำคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กทม.
ปิดผับ 3 ทุ่ม-ห้ามขายเหล้า
ส่วนจังหวัดสีส้มพิจารณาจากที่มีผู้ติดเชื้อเดินทางไปจังหวัดนั้น เพราะฉะนั้น จากเกณฑ์ที่กำหนดจึงปรับระดับพื้นที่ดังนี้ 1.พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) มี 5 จังหวัด ได้แก่ กทม. ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ และนครปฐม มาตรการคือร้านอาหารเปิดไม่เกิน 21.00 น. นั่งรับประทานอาหารได้ งดดื่มสุรา ห้ามจำหน่ายจ่ายแจก สถานบันเทิงผับบาร์เปิดได้ 21.00 น. รับประทานอาหารได้ ห้ามจำหน่ายจ่ายแจกสุรา เนื่องจากสถานการณ์มีความ เสี่ยงอยู่ที่สถานบันเทิงและการดื่มสุราจึงต้องมีมาตรการเข้มงวด ส่วนศูนย์การค้าห้าง สรรพสินค้าเปิดตามปกติ แต่ดำเนินการแบบนิวนอร์มัล เช่น สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง สแกนวัดอุณหภูมิ ไทยชนะ ด้านสถานศึกษาเปิดได้ตามปกติหรือเรียนผสมผสาน สถานที่ออกกำลังกายเปิดได้ หรือแข่งขันได้แบบจำกัดผู้ชม
2.พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) มี 9 จังหวัด ได้แก่ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ชุมพร ตาก ราชบุรี ชลบุรี สุพรรณบุรี นราธิวาส และกาญจนบุรี มาตรการคือ ร้านอาหารนั่งกินดื่มในร้านได้ไม่เกิน 23.00 น. สถานบันเทิงดื่มสุราได้ไม่เกิน 23.00 น. เล่นดนตรีได้แต่งดเต้นรำ ศูนย์การค้า สถานศึกษา เปิดตามปกติ สถานออกกำลังกายเปิดได้ แข่งขันกีฬากำหนดผู้เข้าชม
3.พื้นที่เฝ้าระวังสูงสุด (สีเหลือง) มี 10 จังหวัด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา สระบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี ระนอง ระยอง สงขลา ยะลา และขอนแก่น มาตรการคือร้านอาหารกินดื่มในร้านได้ไม่เกิน 24.00 น. สถานบันเทิงเปิดได้ไม่เกิน 24.00 น. ดื่มสุราได้ เล่นดนตรีสดได้ งดเต้นรำ ศูนย์การ ค้า สถานศึกษา สถานออกกำลังกายเปิดตามปกติ
และ 4.พื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) คือ 53 จังหวัดที่เหลือ ทุกอย่างเปิดตามปกติตามกฎหมายที่ควบคุม
“มาตรการนี้จะเสนอศบค.ชุดเล็กต่อไป เพื่อบังคับตามกฎหมาย คาดว่าจะเสนอได้วันที่ 7 เม.ย. โดยไม่ต้องเข้าศบค.ชุดใหญ่ หรืออาจเข้าเพื่อรายงานให้ทราบ ซึ่งจะบังคับใช้ 2 สัปดาห์และจะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง”
